PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ปุ่ม Od นี่ใช้ยังไงครับแล้วใช้ตอนไหน



prajakwit
07-03-2009, 23:12
พอดีเพิ่งรับรถ triton plus 4d auto มาวันพฤหัสครับ ตอนขับออกจากศูนย์เพื่อกลับโคราช (บ้านอยู่โคราชแต่มาออกกรุงเทพครับ) สังเกตที่หน้าปัดจะมีคำว่า OD/OFF ติดอยูตลอด ผมก็เข้าใจว่ามันไม่ทำงาน ก็เลยปล่อยไปตามนั้นขับมาโคราชสังเกตว่าทำไมรอบสูงมากตลอด วิ่ง 100 รอบ3000แนะ เปลืองน้ำมันมาก พอกลับมาถึงเอาคู่มือมานั่งอ่านเขาบอกให้กด OD ไว้เพื่อให้เกียร์ทำงานปกติ เลยลองกดดูสัญลักษณ์ OD/OFF หายไป รอบรถเบาขึ้นเยอะเลยวิ่ง 140 ยังรอบแค่ 2000 รอบเอง ผมเลยงงว่างๆเราต้องกดให้ไฟมันไม่แสดงใช่ไหมครับ แล้วหลักการทำงานมันคือยังครับ ควรใช้จังหวะไหน แล้วทำไมศูนย์เขากดค้างมาให้ตอนมอบรถอะ

Nuk_Black-Triton
08-03-2009, 00:00
OD ย่อมาจาก OverDrive แล้ว Over Drive คืออะไร

อธิบายบ้านๆ ว่าถ้าเทียบกับเกียร์ธรรมดา มันก็เหมือนเกียร์ 5 หรือ 6 ในรถบางรุ่น

แต่ถ้านับจังหวะเกียร์ออโต้ คือเกียร์สุดท้าย นั่นก็คือ เกียร์ 4 ของรถเรานั่นเอง

มีไว้ทำไม มีไว้ดังนี้ครับ (OD off)

1.ไว้ให้รอบสูงขึ้น อัตราทดสูง เพื่อทำ เอนจิ้นเบรค เช่นตอนลงเขาด้วยความเร็ว

2.ไว้เรียกอัตราเร่งแซง เช่นการแซงในที่คับขัน ต้องการอัตราเร่งสูงเป็นพิเศษ

ในการขับปกติ ไฟต้องไม่ขึ้น ก็คือ OD On จะใช้เกียร์เดินหน้าครบทุกเกียร์

ประหยัดน้ำมัน การสึกหรอน้อย รอบเครื่องยนต์ไม่สูงมาก

และปุ่มนี้ จะมีผลการทำงานเมื่อคันเกียร์อยู่ในตำแหน่ง D เท่านั้น

ถ้าเอาแบบเกียร์ธรรมดา ก็เทียบได้ดังนี้

1. เกียร์ L คือ เกียร์ 1เท่านั้น ไว้ขึ้นลงทางชัน หรือต้องการกำลังฉุดลากสูงสุด

2. เกียร์ 2 คือ เกียร์ เดินหน้า 1 และ 2 ไว้ใช้กับการจราจร ไหลๆไปเรื่อย เร่งได้ดังใจ

3. เกียร์ D (Od off) คือเกียร์ 1-2-3 และล๊อกอัพคลัตช์
4. เกียร์ D คือ เกียร์ 1-4 พร้อมล๊อกอัพคลัตช์ ขับได้ในทุกสภาวะครับ

Nuk_Black-Triton
08-03-2009, 00:07
ส่วนที่ศูนย์ กดค้างมาทำไม

1.ตอนทำความสะอาดรถ เจ้าหน้าที่ อาจไปโดนปุ่ม

2.เซลล์ ไม่แนะนำการใช้งานปล่อยให้ลูกค้างง

จริงๆแล้ว ต้อง เปิดตลอด

แนะนำเพิ่มเติม

1.เวลาจอดรถริมถนน หรือติดไฟแดง อย่าเข้าเกียร์ P อุบัติเหตุเกิดได้ทุกเมื่อ

ให้เข้า เกียร์ N แล้วดึงเบรคมือดีกว่าครับ

2.เกียร์ถอยหลัง R มีระบบป้องกันเข้าเกียร์ผิด แต่ก็ควรกดปุ่มล๊อกเกียร์ในตำแหน่งที่ต้องกด

เท่านั้น อย่ากดค้างเป็นนิสัย

3.เวลาเข้าเกียร์ จะมีเสียงเหมือนไฟช๊อต เป็นอาการปกติ ทั้งเกียร์เดินหน้าและถอยหลัง

4.ล๊อกอัพคลัตช์ จะทำงานก็เมื่อ น้ำมันเกียร์ ร้อนได้ที่แล้วเท่านั้น ฉะนั้น

ช่วงเครื่องเย็น และน้ำมันเกียร์ ยังไม่ถึงอุณหภูมิใช้งาน ไม่ควรขับเกิน 90 ครับ

รอจนน้ำมันร้อนได้ที่ก่อน จึงเหยียบได้ปกติครับ

mckyparty
08-03-2009, 00:21
ผมขอคำแนะนำปุ่มกดเวลาจะเปลี่ยนเกียร์หน่อยครับ

ผมลองเล่นๆ เลื่อนจาก N >> D ไม่ต้องกด สามารถเลื่อนได้
จาก N >> R ต้องกดก่อนครับ

เราจำเป็นต้องกดก่อนที่เราจะเข้าเกียร์ในทุกๆตำแหน่งรึเปล่า

dsign
08-03-2009, 00:27
...ตามน้านุ๊กว่าคับ เด๋วจะโดนว่าเดาสุ่มอีก 555555555555 ... :kapook-17198-9597::kapook-17198-9597::kapook-17198-9597:

coppy42
08-03-2009, 00:34
อัดโธ่ มีดง มีเดา อารายงะน้าหนุ่ม :D อันนี้ของจริง คริคริ...:yenyo-104:ดอยๆๆ..

triton1122
08-03-2009, 02:25
ตามที่ท่านnuk_black-triton อธิบายมานั่นถูกต้องหมดแล้วนะครับ...ดังนั้น O/Dควรจะ ON ไว้ตลอดนะครับ...ยกเว้นเฉพาะการขับขี่ที่ท่าน nuk บอกนะครับส่วนเวลาจะเร่งแซงก็เพียงกดคลิ๊กดาวน์(ย้ำกด)ที่คันเร่งลงไปเท่านั้นรถก็จะเพิ่มความเร็วให้แรงแซงได้แล้วนะครับ..และเรื่องที่ว่าทำไมเวลาเข้าเกียร์ R จะต้องกดปุ่มด้านข้างก่อนถึงจะเข้าเกียร์ R ได้..อันนั้นเข้าทำมาเพื่อความปลอดภัยในการที่เราอาจจะไปโดนเกียร์ Rเข้าโดยไม่ได้ระวังหรือลืมเข้าเกียร์ผิดในขณะที่รถวิ่งไปข้างหน้านะครับ..ส่วนเกียร์ตำแหน่งอื่นไม่ต้องกดปุ่มก็เข้าได้แล้วครับ..:kapook-17201-6012:

keng
08-03-2009, 06:03
เคยได้ยินมาว่าขับในเมืองความเร็วไม่เกิน60
ใช้ Od offเพื่อให้เกียร์1-3เปลี่ยนไปมาโดยไม่ต้องใช้ถึงเกียร์4ในขณะรอบต่ำ
หากความเร็วเกินจากนี้ก็ Od on ครับ ไม่รู้ว่าฟังมาผิดหรือเปล่า

mckyparty
08-03-2009, 08:57
สรุปว่าเวลาผลักเกียร์จาก N >> D ผมไม่ต้องกดปุ่มปลดล็อคได้ใช่มั้ยครับ
ไม่พังแน่นะครับ หรือกดไว้ ทุกจังหวะกันเหนียวดีครับ

coppy42
08-03-2009, 09:12
ใช่ครับน้า mcky ปุ่มล็อคคันเกียร์นะบางครั้งเป็นตัวป้องกันเด็กครับ..
สรุป D กลับไป N หรือ N มาที่ Dไปต้องกดปุ่มตัวบนครับ
แต่ควรระวังเวลาขึ้นรถแล้วก้มเก็บของฝั่งผู้โดยสารไปโดนเกียร์เข้าเองเลยละ งานเข้ามาหลายรายแล้ว อันนี้น่ากลัวกว่านะครับ:kapook-17194-2887:

mckyparty
08-03-2009, 19:44
ขอบคุณครับ

Nuk_Black-Triton
08-03-2009, 23:15
มาดึกหน่อยครับ

ปุ่มกดเกียร์นั้น ทำไว้เพื่อป้องกันการเข้าเกียร์ผิดโดยไม่ตั้งใจ

ถามว่า ควรกดทุกครั้งมั้ย ตอบว่า ไม่ครับ ต้องกดเฉพาะเกียร์ที่ป้องกันไว้เท่านั้น เช่น

เกียร์จอด P เป็นเกียร์ที่ล๊อกล้อขับเคลื่อนไม่ให้ไปไหน ใช้เฉพาะเวลาจอดรถในที่ปลอดภัย
เท่านั้นครับ ตำแหน่งนี้ ต้องกดปุ่มล๊อกทุกครั้ง เพราะ เป็นเกียร์ที่ก่อให้เกิดอันตรายได้
และห้ามใช้เกียร์นี้ แทนเบรคมือ ต้องเข้าเบรคมือก่อน จึงเข้าเกียร์จอด
ในรถที่ตั้ง Etacts มาแล้ว สามารถปลดล๊อกประตูได้ด้วยเกียร์นี้

เกียร์ถอย R คือเกียร์ถอยหลังเป็นตำแหน่งที่ต้องกดปุ่มเช่นกัน ถ้าปลดจากเกียร์จอด เกียร์ว่าง
หรือเกียร์ขับเคลื่อน ต้องกด เพราะเป็นการสวนทางการขับขี่ ทำให้เกิดการเข้าเกียร์ผิดได้
แต่จากเกียร์ถอยจะไปเกียร์ว่างหรือเกียร์ขับเคลื่อน ไม่จำเป็นต้องกดปุ่มล๊อกแต่อย่างใด

เกียร์ว่าง N เป็นเกียร์ที่ไม่ส่งกำลังไปเฟืองท้าย และการขับขี่ปกติ คือเกียร์ที่รอ เพื่อการขับเคลื่อน ดังนั้น การขับรถ ต้องเดินหน้าเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้น เมื่อเข้าเกียร์ ขับเคลื่อน
ไม่จำเป็นต้องกดปุ่มล๊อกแต่อย่างใด ยกเว้นเกียร์ถอยและเกียร์จอด ตำแหน่งนี้ ต้องกดปุ่มล๊อกก่อนเสมอครับ

เกียร์ขับเคลื่อน D เป็นเกียร์ปกติในการขับขี่ ตำแหน่งนี้สามารถเข้าเกียร์ว่างได้ และเข้าเกียร์
2ได้ โดยที่ไม่ต้องกดปุ่มล๊อก ครับ เพราะเป็นการปรับเปลี่ยนเกียร์ในภาวะการขับขี่ปกติ

เกียร์ขับเคลื่อน 2 ตำแหน่งนี้ ใช้สับได้ระหว่าง เกียร์ D ได้เพื่อเพิ่มอัตราเร่งแซงสูงสุด
โดยไม่ต้องกดคันเร่งเพื่อคิกดาวน์ ไว้กรอ รอ เวลากระชั้นชิดเพื่อแซงในที่คับขัน
และใช้ในการชลอความเร็วรถได้ เวลาต้องการเอนจิ้นเบรคมากๆ เช่นลงทางชันพอควร

เกียร์ขับเคลื่อน อัตราทดสูง L เป็นเกียร์อันตราย ต้องกดปุ่มล๊อก เมื่อต้องการเปลี่ยนจากเกียร์ 2 ลงมา เพื่อเรียก เอนจิ้นเบรคสูงสุด ไว้ลงทางชันและลื่น และขึ้นทางชันมาก
แรงบิดเกียร์นี้ สูงมาก แต่ควบคุมได้ง่าย ส่วนการปลดจากเกียร์ L ไปตำแหน่งขับเคลื่อนอื่น
ไม่ต้องกดปุ่มล๊อกครับ

Nuk_Black-Triton
08-03-2009, 23:17
เรียงตามผังเกียร์นะครับ

P to R ต้องกดปุ่มล๊อก

R to N ไม่ต้องกดปุ่มล๊อก

N to D ไม่ต้องกดปุ่มล๊อก

D to 2 ไม่ต้องกดปุ่มล๊อก

2 to L ต้องกดปุ่มล๊อก


กลับกันมั่ง

L to 2 ไม่ต้องกดปุ่มล๊อก

2 to D ไม่ต้องกดปุ่มล๊อก

D to N ไม่ต้องกดปุ่มล๊อก

N to R ต้องกดปุ่มล๊อก

R to P ต้องกดปุ่มล๊อก

mckyparty
08-03-2009, 23:20
เยี่ยมไปเลย

Nuk_Black-Triton
08-03-2009, 23:28
อย่าลืมนะครับ สำหรับท่านมือใหม่ๆทั้งหลาย

คันเกียร์ออโต้ไทรทัน การขยับเกียร์ เรียนตามตรงว่า ไม่ค่อยกระชับ และหนักเอาการ

ถ้าคุณ กดปุ่มจนเป็นนิสัย โอกาสที่จะเข้าเกียร์ผิด มีสูงนะครับ

คราวนี้ มาดูอะไรๆฉลาดๆในเกียร์เรามั่ง

1.เกียร์ออโต้ไทรทัน ตั้งแต่ 140 ม้าขึ้นไป ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ครับ
สามารถเรียนรู้การขับขี่ของเราได้โดยอัตโนมัติครับ

2.การเรียกคิกดาวน์ เพียงแค่กดคันเร่งสุดแล้วยก สามารถกรอรอบได้เหมือนกัน โดยที่
เกียร์จะ Hold อยู่ก่อนที่จะยกคันเร่งเพื่อให้ระบบเปลี่ยนเกียร์ต่อไป

3.อัตราความเร็วสูงสุดของแต่ละเกียร์

3.1 เกียร์ L ความเร็วสูงสุด ประมาณ 55 กม.ชม.

3.2 เกียร์ 2 ความเร็วสูงสุด ประมาณ 110 กม.ชม.

3.3 เกียร์ D Od Off ความเร็วสูงสุด 150 กม.ชม.

3.4 เกียร์ D ความเร็วสูงสุด ตามใจท่าน

ส่วนระบบป้องกันเกียร์ นั้น มีอยู่ว่า

ถ้าคุณขับมาเร็วระดับ 180 แล้วดึงลง เกียร์ 2 ระบบจะป้องกัน ไม่ให้เครื่องหมุนรอบจัดเกินไป

โดยที่ เมื่อความเร็วลดลงเหลือ 150 เกียร์จะลงมา ตำแน่ง 3 เอง โดยอัตโนมัติ

และเมื่อความเร็ว ถึง 110 เกียร์จึงลดมาตำแหน่ง 2 เพื่อกันเกียร์พังครับ

ถ้า L ล่ะ ดึงลงมาได้เลย ไม่มีผลจนกว่า ความเร็ว จะลดลงน้อยกว่า 48 จึงลงมาเกียร์ 1 ครับ

ถ้ารถขับเคลื่อนอยู่ เผลอไปเข้าเกียร์ R เกียร์จะไม่เข้าให้จนกว่า ความเร็วจะน้อยกว่า 5 กม.ชม. ครับ

ส่วน OD Off On นั้น ตามความเห็นท่านที่แจ้งมาก็ถูกครับ

แต่ถ้าคุณใช้ไทรทัน ที่มากกว่า 140 ม้า เกียร์จะมีกล่องคุม ความแรงอยู่ที่การขับขี่ของคุณครับ เพราะเกียร์มันจะเรียนรู้ครับ

prajakwit
08-03-2009, 23:44
ขอบคุณค้าบ เล่นเอาสะงงเลย วิ่ง 100 รอบปาไป3000 อิอิอิ

prajakwit
08-03-2009, 23:45
แล้วสมมติว่ารถเราเสีย เราเข้าเกียร์ N แล้วให้เขาลากได้ไหมครับ

mckyparty
09-03-2009, 00:02
ผมหาลิ้งค์ เทคนิควิธีขับเกียร์ออโต้ไม่เจอ รู้สึกคุณ nuk เขียนรึเปล่าครับ
เคยอ่านแล้วไม่ได้ add เก็บไว้
ใครเจอรบกวนด้วยครับ

natmunin
09-03-2009, 07:55
มีวิธีขับเกียร์ Manual ที่ถูกวิธีมั้ย เพราะหัดขับเอง ไม่แน่ใจว่ามันถูกวิธีหรือเปล่า

myjoefiend
09-03-2009, 08:25
ขอบคุณครับ แวะมาได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย อิอิ

Nuk_Black-Triton
09-03-2009, 12:15
แล้วสมมติว่ารถเราเสีย เราเข้าเกียร์ N แล้วให้เขาลากได้ไหมครับ

ที่จริงแล้ว ไม่ควรทำ แต่ถ้าระยะทางไม่มาก

สักไม่เกิน 50 โล ก็พอไหว ขั้นตอนมีดังนี้

1.เข้าเกียร์ N เท่านั้น

2.เติมน้ำมันเกียร์เพิ่มขึ้นไปอีก ลิตรโดยประมาณ

3.ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ใหม่ด้วย หลังซ่อมเสร็จ

น้ำมันเกียร์ต้องเติมเพิ่ม เนื่องจาก เมื่อรถถูกลาก ความร้อนในเรือนเกียร์

จะเพิ่มขึ้นสูงมาก ป้องกันระบบภายในเสียหาย

ทางที่ดี ไม่ยุ่งยาก หารถลาก ชัวร์กว่าครับ :i41:

Nuk_Black-Triton
09-03-2009, 12:18
มีวิธีขับเกียร์ Manual ที่ถูกวิธีมั้ย เพราะหัดขับเอง ไม่แน่ใจว่ามันถูกวิธีหรือเปล่า

1.เหยียบคลัตช์สุด แล้วเข้าเกียร์

2.ควรออกตัวด้วย เกียร์ 1 เท่านั้น

3.ไม่เลี้ยงคลัตช์ ทุกกรณี

4.เปลี่ยนเกียร์ ให้เหมาะสมในรอบกำลัง (รถเรา 2000-4000 รตน)

5.ไม่เหยียบคลัตช์พร้อมกับเบรค เพื่อชลอรถ

6.เปลี่ยนเกียร์รอบต่ำเกินไป รถไม่มีกำลัง เทอร์โบแล๊ก เปลืองน้ำมัน

:kapook-17351-2909:

natmunin
09-03-2009, 12:49
ขอบคุณมั่กๆ จ้า

pom9098
09-03-2009, 13:03
...ตามน้านุ๊กว่าคับ เด๋วจะโดนว่าเดาสุ่มอีก 555555555555 ... :kapook-17198-9597::kapook-17198-9597::kapook-17198-9597:


เอ่อ...ดีแล้ว ..ตาหนุ่ม...อย่าพูดมาก เดี๋ยวโดน... สุ่มเดาๆๆๆ... เอ้ย.. เดาสุ่ม ๆๆๆ อีก :kapook-17196-7812::kapook-17198-9597::kapook-17196-7812:

coppy42
09-03-2009, 13:03
ขอเสริมให้นิ๊ดนึงครับ สมมุติว่าเวลาเราเข้าปั้มแล้วดับเครื่องเติมน้ำมัน หรือทำภารกิจอย่างอื่น แล้วไฟหมดสตาร์ดไม่ติดเด็กปั้มใหม่ๆมักจะบอกว่าเกียร์ออโตเข็นไม่ได้ เข็นได้ครับเข็นเป็น10กิโลก็ได้แต่จะกระชากให้ติดเหมือนเกียร์ Manual ไม่ได้ ต้องจั้มไฟอย่างเดียวครับ ยังงัยเกียร์ A/Tควรมีสายจั้มแบตทุกคัน (สำหรับมือใหม่นะครับใครเก่งแล้วไม่ว่ากันนะ ผมเดาใจใครไม่ถูกด้วย ก๊ากๆน้าหนุ่มอะก็)

Nuk_Black-Triton
09-03-2009, 13:16
ขอบคุณครับ รถผมมีติดรถไว้เลย กันพลาด

ไม่มียางเดียว คือ ยางอะไหล่ งิงิ สุ่มๆๆๆๆๆๆๆ

teark
09-03-2009, 13:40
เก็บข้อมูล ขอบคุณครับ

FiZx
09-03-2009, 13:53
สุดยอดครับ ได้ความรู้เยอะเลย ปกติที่บ้านใช้แต่เกียร์ธรรมดา กำลังจะออก ออโต้ ผบใ ที่บ้านกังวลใจมากครับ กลัวเข้าเกียร์ถอยหลังแล้วกระพุ่ง (ที่จริงผมว่าเสียดายlสว่นต่าง 40000:kapook-17199-4683: มากกว่า นี่ถ้าออกธรรมดา ผบ. บอกว่าได้ขอบ 20 เลยนะ แต่สุดท้ายก็เลือก ออโต้ครับ)

น้า ๆ ชว่ยบอกเทคนิคการขับถอยหลังบ้างครับ

ปล.อยู่โคราชเหมือน จขกท.เลย กะว่าไปออกที่กรุงเทพเหมือนกัน โฉมเก่า 4D plus auto สีดำ คันสุดท้าย เซลบอกมา

Nuk_Black-Triton
09-03-2009, 17:02
การขับถอยหลัง รถไทรทัน ไม่ต้องกลัวพุ่งครับ

ช้ากว่าที่คิดเยอะด้วย เพราะคันเร่งไฟฟ้านั่นเอง

การเข้าเกียร์ ก็ให้รถหยุดนิ่งก่อน แล้วเข้าเกียร์ อย่าลืมกดปุ่มล๊อกด้วย

ไม่งั้นเข้าไม่ได้ ใช้ความระวังมากๆ เพราะท้ายสูงถอยยากครับ

:kapook-17350-3383:

Devill
11-03-2009, 07:57
การเข้าเกียร์ Auto ทุกครั้งต้องเหยียบเบรคครับ ไม่ว่าจะ D หรือ R แล้วเราค่อย ๆ ปล่อยเบรคเพื่อให้รถค่อย ๆ เคลื่อนที่ ถ้ายังไม่ได้ความเร็วที่ต้องการก็เปลี่ยนมาเหยียบคันเร่งแทนครับ ถ้าปล่อยเบรคแล้วเหยียบคัยเร่งอย่างเร็วรถจะพุ่งครับอันตรายไม่แนะนำครับ
ของผมเจอกับรถ civic ตัวปัจจุบันเค้ามีระบบ safety คือถ้าไม่เหยียบเบรคจะไม่สามารถปลดล็อคและเลื่อนคันเกียร์ไปมาได้ ต้องเข้า 0 ช่างบอกว่าระบบไฟฟ้าของเบรค ไม่ไปสั่งงานการเข้าเกียร์ คือเหยียบแล้วไฟเบรคด้านหลังไม่ติด ไม่แน่ใจว่าระบบเกียร์ของ Plus นี้จะทำงานร่วมกับเบรคหรือเปล่า

Nuk_Black-Triton
21-03-2009, 15:54
การเข้าเกียร์ Auto ทุกครั้งต้องเหยียบเบรคครับ ไม่ว่าจะ D หรือ R แล้วเราค่อย ๆ ปล่อยเบรคเพื่อให้รถค่อย ๆ เคลื่อนที่ ถ้ายังไม่ได้ความเร็วที่ต้องการก็เปลี่ยนมาเหยียบคันเร่งแทนครับ ถ้าปล่อยเบรคแล้วเหยียบคัยเร่งอย่างเร็วรถจะพุ่งครับอันตรายไม่แนะนำครับ
ของผมเจอกับรถ civic ตัวปัจจุบันเค้ามีระบบ safety คือถ้าไม่เหยียบเบรคจะไม่สามารถปลดล็อคและเลื่อนคันเกียร์ไปมาได้ ต้องเข้า 0 ช่างบอกว่าระบบไฟฟ้าของเบรค ไม่ไปสั่งงานการเข้าเกียร์ คือเหยียบแล้วไฟเบรคด้านหลังไม่ติด ไม่แน่ใจว่าระบบเกียร์ของ Plus นี้จะทำงานร่วมกับเบรคหรือเปล่า

ไม่มีระบบนี้ ในรถมิตซูแบบตลาดๆ เลยครับ

ปกติ สวิทช์ไฟเบรค จะมีตัวไปปลดล๊อกเกียร์ P ในรถรุ่นที่มีระบบป้องกัน

แต่รถไทรทัน มีแค่ระบบป้องกันเกียร์พัง ไม่มีระบบความปลอดภัยในเรื่องนี้


ผมเคยขับรถมินิ คูเปอร์ อยู่เกียร์ N ถ้าไม่เหยียบเบรคก่อน ไม่สามารถ เข้าเกียร์

D ได้ครับ (ราคามันผิดกัน)