winter69
11-05-2009, 21:36
สวัสดีครับพี่ ๆ ชาวไทรทัน
ผมเป็นแฟนของมิตซู เพราะใช้มา 3 คันแล้วครับ ตั้งแต่ อีคาร์ ไทรทัน(ตัวเดิมรุ่นแรก) และตามด้วย New lancer และตอนนี้ตัดสินใจเปลี่ยนอีกแล้วครับ ตัดสินใจว่าจะถอย ไทรทัน plus เบนซิน ครับ เพื่อเอามาลุย
ตอนนี้เกิดปัญหาครับ เมื่อต้นเดือนได้ตัดสินใจจองรถแล้วครับ เพราะ
1. โปรโมชั่นเป็นที่น่าพอใจ เพราะได้ของแถมตามที่ต้องการ
2. ดอกเบี้ย ก็โอเคครับ เพราะไม่ทันโปรโมชั่นเดือนที่แล้ว (0%) เรารับได้ที่ 2 กว่า ๆ ก็ยังโอเค
3. ค่าผ่อนต่องวด เป็นที่น่าพอใจ 8400 บาทต่อเดือน
4. พ่ออยากได้ไปลุยครับ
หลังจากนั้น ผมก็เอารถคันเดิม lancer ไปเทิร์นครับ โดยเซลล์รับอาสาจัดการให้และวางเงินมัดจำไปห้าหมื่น เพื่อศูนย์จะเอาไปตกแต่งอุปกรณ์ครับ
และนัดแนะให้ finance มาทำเรื่องครับ ปรากฏว่าพอเจอกับ finance (งานเริ่มเข้าครับ) ทาง finance บอกว่าดอกเบี้ยต้อง 3.5% ครับ ผ่อนต่อเดือนก็ 9717 บาท จากที่ตกลงกับเซลล์ 8400 บาท (ดอกเบี้ย 2.75%) ส่วนต่าง 1300 บาท(คิดกันกลม ๆ นะครับ) 60 เดือน ก็เกือบ ๆ 80000 บาท
เอาล่ะครับ งานเข้าของแท้ เพราะ finance ก็ไม่ยอมครับ เซลล์ก็บอกครับว่าดูไม่ผิด คราวนี้ผมไม่รู้ละครับว่าผิดที่ใคร แต่มันโดนผู้บริโภคเต็ม ๆ ผมก็เลยให้โอกาสเซลล์ครับ ให้ลองหา finance อื่นที่ดอกเบี้ยใกล้เคียง (ยังใจดีครับ) ผ่านไปก็หลายวันอยู่เพราะตรงกับวันหยุด ทางเราเดือดร้อนเพราะไม่มีรถใช้ก็ยังพอทนได้อยู่ครับ
มาวันนี้ ทางเซลล์บอกว่าหาไม่ได้ครับยังไงต้อง 3.45% (ผมต้องเสียเพิ่ม 80,000 ไงครับ) ผมก็ยังเคารพในความรับผิดชอบของเซลล์ครับ ให้เค้าไปปรึกษาผู้ใหญ่ว่าจะรับผิดชอบกันยังไง เพราะผมตัดสินใจซื้อเพราะถูกใจในเงื่อนไขทุกอย่างตามที่ตกลงกันตอนแรก ทางเซลล์ให้เราไปคุยกับผู้จัดการศูนย์ครับ ผมก็โทรไปคุย ทางผู้จัดการรับฟังครับ บอกว่าจะคุยในที่ประชุม และคุยกับเซลล์ก่อนครับ ผมก็รอๆๆๆ จนแฟนผมเริ่มรอไม่ไหวครับ เธอก็โทรหาท่านผู้จัดการอีกครั้งครับ ว่าจะช่วยยังไงได้บ้าง เงิน 80000 บาทนะครับ ไม่ใช่ 10-20 บาท เราก็ใจดีจนน่าตกใจครับ บอกว่างั้นขอของแถมเพิ่มเป็นที่ปิดหลังกระบะเพิ่มล่ะกัน แต่ท่านผู้จัดการบอกว่า แพงไป เราก็บอกว่า งั้นเราไม่เอาเบาะหนังละกัน ให้เพิ่มอีกนิดให้เรา โดยเปลี่ยนเป็นที่ปิดหลังกระบะแทน (ยังใจดีครับ )
เพราะเราบอกว่าตอนนี้เหมือนกับมัดมือชกให้เราซื้อของโดยไม่ใช่ความผิดเราสักนิด แถมรถก็ขายแล้ว เงินก็มัดจำแล้ว เค้าบอกว่าไงรู้ไหมครับ ประมาณว่าแล้วคุณรีบขายทำไม ถ้าเป็นผมผมยังไม่ขาย (เซลล์คุณแนะว่ารถกำลังมาแล้ว) อะ อะ อ้าว..แล้วของแถมก็ให้เยอะแล้ว (ทราบแล้วครับไม่งั้นไม่จองหรอกครับ) แต่เราต้องการความกรุณา ในความผิดของเขานะครับ .. เริ่มปวดหัวครับ
เราก็บอกว่าเราขอแค่นี้ ต่างฝ่ายก็ win win กันทั้งคู่ พยายามไม่คิดอะไรว่าเอาน่า จ่ายเพิ่มต่อเดือนสักหน่อย(รึเปล่า) ก็เอาน่า
แล้วเราก็ให้เค้าไปตัดสินใจกัน เพราะเค้าคือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ และขอคำตอบให้เราด้วยว่าโอเคไหม เรารอจนเลิกงานแล้วครับยังไม่มีใครโทรมา จนแฟนผมรอไม่ไหวแล้วครับ เธอโทรหาท่านผู้จัดการครับ เค้ารับสาย บอกว่า เดี๋ยวเซลล์โทรหาคุณเอง แฟนผมก็งงสิครับ อ้าวก็โทรมาแล้วจะบอกเลยไม่ได้เหรอ เค้าก็บอกได้คำเดียวว่า เดี๋ยวเซลล์โทรหาคุณเอง (เหมือนไม่สนใจ ครับ) เค้าไม่ยอมคุยกะแฟนผมครับ แฟนผมก็กดหาเซลล์ครับ เซลล์รับและบอกว่า ท่านผู้จัดการอยู่ในสายรอสักครู่ อะ อะ อ้าว (มาตอนนี้เราก็ยังไม่โวยวายนะครับ แต่เริ่มร้อน) ทีกับเราไม่คุย อ่ะไม่เป็นไร
เซลล์ก็บอกแฟนผม ว่าให้กลับถึงบ้านมาหาผมก่อน แล้วค่อยคุยกัน ประมาณว่าแฟนผม ไม่รู้เรื่อง จ่ายเพิ่มแค่นิดหน่อย ยังไม่โอเคเหรอ (นิดหน่อยเหรอครับ 80000) แฟนผมก็ต้องอธิบายครับ ว่านิดหน่อยอะไรกัน..(พูดจาแบบสุภาพ)
เงื่อนไขที่ตกลง 8400 x 60 งวด
เงื่อนไขปัจจุบัน 9700 x 60 งวด ส่วนต่างเกือบ 80000 คับ
แฟนผมเริ่มปวดใจครับ เธอก็เลยบอกว่าแล้วถ้า ไม่เอา (ใกล้หมดความอดทนแล้วครับ เพราะเธอค่อนข้างเกรงใจเซลล์เหมือนผม แต่หมดความอดทนกับความรับผิดชอบของท่านผู้จัดการ) แล้วเราต้องจ่ายอะไรเพิ่มบ้าง ห้าหมื่นที่มัดจำไปได้คืนหมดไหม เพราะเราต้องตัดสินใจแล้วครับว่าทำยังไง ทางเซลล์บอกว่าได้คืนครับ(ถ้าไม่ได้ก็เป็นเรื่องอีกครับ) แต่ต้องสิบห้าวัน เราก็ยังโอเค
แล้วแฟนผมยังไม่ทันถึงบ้านเลยครับ คุณเซลล์โทรมาบอกว่า ค่างวดที่คิดกันตอนแรก .. เค้าคำนวนผิดครับ พี่ ๆ แล้วตอนนี้พี่ ๆ ว่าผมควรทำยังไงครับ????
ผมเป็นแฟนของมิตซู เพราะใช้มา 3 คันแล้วครับ ตั้งแต่ อีคาร์ ไทรทัน(ตัวเดิมรุ่นแรก) และตามด้วย New lancer และตอนนี้ตัดสินใจเปลี่ยนอีกแล้วครับ ตัดสินใจว่าจะถอย ไทรทัน plus เบนซิน ครับ เพื่อเอามาลุย
ตอนนี้เกิดปัญหาครับ เมื่อต้นเดือนได้ตัดสินใจจองรถแล้วครับ เพราะ
1. โปรโมชั่นเป็นที่น่าพอใจ เพราะได้ของแถมตามที่ต้องการ
2. ดอกเบี้ย ก็โอเคครับ เพราะไม่ทันโปรโมชั่นเดือนที่แล้ว (0%) เรารับได้ที่ 2 กว่า ๆ ก็ยังโอเค
3. ค่าผ่อนต่องวด เป็นที่น่าพอใจ 8400 บาทต่อเดือน
4. พ่ออยากได้ไปลุยครับ
หลังจากนั้น ผมก็เอารถคันเดิม lancer ไปเทิร์นครับ โดยเซลล์รับอาสาจัดการให้และวางเงินมัดจำไปห้าหมื่น เพื่อศูนย์จะเอาไปตกแต่งอุปกรณ์ครับ
และนัดแนะให้ finance มาทำเรื่องครับ ปรากฏว่าพอเจอกับ finance (งานเริ่มเข้าครับ) ทาง finance บอกว่าดอกเบี้ยต้อง 3.5% ครับ ผ่อนต่อเดือนก็ 9717 บาท จากที่ตกลงกับเซลล์ 8400 บาท (ดอกเบี้ย 2.75%) ส่วนต่าง 1300 บาท(คิดกันกลม ๆ นะครับ) 60 เดือน ก็เกือบ ๆ 80000 บาท
เอาล่ะครับ งานเข้าของแท้ เพราะ finance ก็ไม่ยอมครับ เซลล์ก็บอกครับว่าดูไม่ผิด คราวนี้ผมไม่รู้ละครับว่าผิดที่ใคร แต่มันโดนผู้บริโภคเต็ม ๆ ผมก็เลยให้โอกาสเซลล์ครับ ให้ลองหา finance อื่นที่ดอกเบี้ยใกล้เคียง (ยังใจดีครับ) ผ่านไปก็หลายวันอยู่เพราะตรงกับวันหยุด ทางเราเดือดร้อนเพราะไม่มีรถใช้ก็ยังพอทนได้อยู่ครับ
มาวันนี้ ทางเซลล์บอกว่าหาไม่ได้ครับยังไงต้อง 3.45% (ผมต้องเสียเพิ่ม 80,000 ไงครับ) ผมก็ยังเคารพในความรับผิดชอบของเซลล์ครับ ให้เค้าไปปรึกษาผู้ใหญ่ว่าจะรับผิดชอบกันยังไง เพราะผมตัดสินใจซื้อเพราะถูกใจในเงื่อนไขทุกอย่างตามที่ตกลงกันตอนแรก ทางเซลล์ให้เราไปคุยกับผู้จัดการศูนย์ครับ ผมก็โทรไปคุย ทางผู้จัดการรับฟังครับ บอกว่าจะคุยในที่ประชุม และคุยกับเซลล์ก่อนครับ ผมก็รอๆๆๆ จนแฟนผมเริ่มรอไม่ไหวครับ เธอก็โทรหาท่านผู้จัดการอีกครั้งครับ ว่าจะช่วยยังไงได้บ้าง เงิน 80000 บาทนะครับ ไม่ใช่ 10-20 บาท เราก็ใจดีจนน่าตกใจครับ บอกว่างั้นขอของแถมเพิ่มเป็นที่ปิดหลังกระบะเพิ่มล่ะกัน แต่ท่านผู้จัดการบอกว่า แพงไป เราก็บอกว่า งั้นเราไม่เอาเบาะหนังละกัน ให้เพิ่มอีกนิดให้เรา โดยเปลี่ยนเป็นที่ปิดหลังกระบะแทน (ยังใจดีครับ )
เพราะเราบอกว่าตอนนี้เหมือนกับมัดมือชกให้เราซื้อของโดยไม่ใช่ความผิดเราสักนิด แถมรถก็ขายแล้ว เงินก็มัดจำแล้ว เค้าบอกว่าไงรู้ไหมครับ ประมาณว่าแล้วคุณรีบขายทำไม ถ้าเป็นผมผมยังไม่ขาย (เซลล์คุณแนะว่ารถกำลังมาแล้ว) อะ อะ อ้าว..แล้วของแถมก็ให้เยอะแล้ว (ทราบแล้วครับไม่งั้นไม่จองหรอกครับ) แต่เราต้องการความกรุณา ในความผิดของเขานะครับ .. เริ่มปวดหัวครับ
เราก็บอกว่าเราขอแค่นี้ ต่างฝ่ายก็ win win กันทั้งคู่ พยายามไม่คิดอะไรว่าเอาน่า จ่ายเพิ่มต่อเดือนสักหน่อย(รึเปล่า) ก็เอาน่า
แล้วเราก็ให้เค้าไปตัดสินใจกัน เพราะเค้าคือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ และขอคำตอบให้เราด้วยว่าโอเคไหม เรารอจนเลิกงานแล้วครับยังไม่มีใครโทรมา จนแฟนผมรอไม่ไหวแล้วครับ เธอโทรหาท่านผู้จัดการครับ เค้ารับสาย บอกว่า เดี๋ยวเซลล์โทรหาคุณเอง แฟนผมก็งงสิครับ อ้าวก็โทรมาแล้วจะบอกเลยไม่ได้เหรอ เค้าก็บอกได้คำเดียวว่า เดี๋ยวเซลล์โทรหาคุณเอง (เหมือนไม่สนใจ ครับ) เค้าไม่ยอมคุยกะแฟนผมครับ แฟนผมก็กดหาเซลล์ครับ เซลล์รับและบอกว่า ท่านผู้จัดการอยู่ในสายรอสักครู่ อะ อะ อ้าว (มาตอนนี้เราก็ยังไม่โวยวายนะครับ แต่เริ่มร้อน) ทีกับเราไม่คุย อ่ะไม่เป็นไร
เซลล์ก็บอกแฟนผม ว่าให้กลับถึงบ้านมาหาผมก่อน แล้วค่อยคุยกัน ประมาณว่าแฟนผม ไม่รู้เรื่อง จ่ายเพิ่มแค่นิดหน่อย ยังไม่โอเคเหรอ (นิดหน่อยเหรอครับ 80000) แฟนผมก็ต้องอธิบายครับ ว่านิดหน่อยอะไรกัน..(พูดจาแบบสุภาพ)
เงื่อนไขที่ตกลง 8400 x 60 งวด
เงื่อนไขปัจจุบัน 9700 x 60 งวด ส่วนต่างเกือบ 80000 คับ
แฟนผมเริ่มปวดใจครับ เธอก็เลยบอกว่าแล้วถ้า ไม่เอา (ใกล้หมดความอดทนแล้วครับ เพราะเธอค่อนข้างเกรงใจเซลล์เหมือนผม แต่หมดความอดทนกับความรับผิดชอบของท่านผู้จัดการ) แล้วเราต้องจ่ายอะไรเพิ่มบ้าง ห้าหมื่นที่มัดจำไปได้คืนหมดไหม เพราะเราต้องตัดสินใจแล้วครับว่าทำยังไง ทางเซลล์บอกว่าได้คืนครับ(ถ้าไม่ได้ก็เป็นเรื่องอีกครับ) แต่ต้องสิบห้าวัน เราก็ยังโอเค
แล้วแฟนผมยังไม่ทันถึงบ้านเลยครับ คุณเซลล์โทรมาบอกว่า ค่างวดที่คิดกันตอนแรก .. เค้าคำนวนผิดครับ พี่ ๆ แล้วตอนนี้พี่ ๆ ว่าผมควรทำยังไงครับ????