แสดงเวอร์ชันเต็ม : ทำท้ายรางกับรถไม่พ่วง
WE ARE TRITON
06-07-2009, 12:36
เห็นกล่องดันรางหลายสำนักเริ่มนิยมทำท้ายรางกัน เลยสงสัยว่ามีใครเอารถไม่พ่วงกล่องไปทำท้ายรางกันบ้างครับ ให้ผลเป็นยังไงกัน แรงกว่าเดิมหรือป่าว
:smiley-transport003
ขอแก้ไขคำถามเพื่อรอผู้รู้มาตอบใหม่ครับ
คือเคยทราบมาว่าเสริมชิม หรือรองแหวนท้ายรางจะทำให้แรงดันน้ำมันในรางคอมมอนเรลถูกระบายออกให้ช้าลง และทำให้มีแรงดันในรางสูงขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะทำกันในรถที่พ่วงกล่องเพิ่มแรงดันรางน้ำมัน
ถ้ามาทำการเสริมชิมในรถที่ยังไม่มีกาีรพ่วงกล่อง จะให้ผลเป็นอย่างไรบ้าง เพราะอาจจะได้ไม่ต้องไปเสียตังค์ซื้อกล่องมาพ่วง
WE ARE TRITON
08-07-2009, 13:00
ขอเป็นกรณีศึกษาเพิ่มเติมนะครับ
Nuk_Black-Triton
08-07-2009, 14:30
น้าต่อ น้าเต้ย น้าบี้ และอีกหลายๆท่านมาตอบหน่อยคร้าบบบ
ข้อนี้ ผมไม่รู้ รถผมเดิมๆครับ
weerasin.08
08-07-2009, 14:34
มารอคำตอบครับ น้า
เต้ยTRITON
08-07-2009, 15:18
การปรับเสริมแผ่นชิมท้ายรางเป็นการไปแก้ไขวาล์วจำกัดแรงดันให้มากกว่ามาตราฐานครับ
เช่นเดิม มีแรงดันในค่าสูงสุดที่ 180 Mpa ซึ่งถ้ามีการเสริมเข้าไปก้จะทำให้สปริงกดวาล์วแข็งขึ้นทำให้แรงดันตัดสูงขึ้นไปอีกอาจจะไปถึง 200 Mpa ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่ออายุการใช้งานของปั๊มและหัวฉีดต้องรับแรงดันที่สูงขึ้นครับ
โดยเฉพาะถ้ารถบ้านเดิมๆแรงดันในรางจ่ายไม่ได้มีการด็อปลงอยู่แล้วยิ่งไปเสริมก็เท่ากับไปเพิ่มแรงดันให้สูงขึ้นอีก
แต่ถ้าเป็นรถที่ทำหัวฉีด โดยวิธีการพ่วงกล่องขยายเวลาการฉีดออกไปหรือเปลี่ยนขนาดรูที่หัวฉีดให้อัตราไหลมากขึ้นก็จะส่งผลให้แรงดันในรางจ่ายด็อปลงเขาจึงไปเสริมแผ่นชิมท้ายรางเพิ่มเพื่อชดเชยแรงดันขึ้นมาจะมากหรือน้อยก็ต้องมีการวัดค่าแรงดันเก็บข้อมูลการปรับให้อยู่ในค่าที่เหมาะสมเพื่อความสมบูรณ์ในการทำงานครับ
ส่วนกล่องปรับเพิ่มแรงดันรางจ่าย จะเป็นการปรับเพิ่มแรงดันทุกช่วงตั้งแต่หลังรอบเดินเบาขึ้นมาให้ค่ามากกว่าปกติ แต่ไม่มากไปกว่าค่าสูงสุดครับ แต่ถ้าปรับเสริมชิมท้ายรางมันจะไปเพิ่มแรงดันสูงสุดให้มากกว่าเดิมแน่นอนครับ
ผลเสียก็ควันเป็นลำๆมีการสึกหรอที่มากกว่าเดิมๆแน่ครับ แต่ข้อดีคืออัตราเร่งที่ดีและรุนแรงสามารถส่งน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพียงพอต่อการขยายอัตราการไหลที่หัวฉีดครับ
chanchung
08-07-2009, 15:49
การปรับเสริมแผ่นชิมท้ายรางเป็นการไปแก้ไขวาล์วจำกัดแรงดันให้มากกว่ามาตราฐานครับ
เช่นเดิม มีแรงดันในค่าสูงสุดที่ 180 Mpa ซึ่งถ้ามีการเสริมเข้าไปก้จะทำให้สปริงกดวาล์วแข็งขึ้นทำให้แรงดันตัดสูงขึ้นไปอีกอาจจะไปถึง 200 Mpa ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่ออายุการใช้งานของปั๊มและหัวฉีดต้องรับแรงดันที่สูงขึ้นครับ
โดยเฉพาะถ้ารถบ้านเดิมๆแรงดันในรางจ่ายไม่ได้มีการด็อปลงอยู่แล้วยิ่งไปเสริมก็เท่ากับไปเพิ่มแรงดันให้สูงขึ้นอีก
แต่ถ้าเป็นรถที่ทำหัวฉีด โดยวิธีการพ่วงกล่องขยายเวลาการฉีดออกไปหรือเปลี่ยนขนาดรูที่หัวฉีดให้อัตราไหลมากขึ้นก็จะส่งผลให้แรงดันในรางจ่ายด็อปลงเขาจึงไปเสริมแผ่นชิมท้ายรางเพิ่มเพื่อชดเชยแรงดันขึ้นมาจะมากหรือน้อยก็ต้องมีการวัดค่าแรงดันเก็บข้อมูลการปรับให้อยู่ในค่าที่เหมาะสมเพื่อความสมบูรณ์ในการทำงานครับ
ส่วนกล่องปรับเพิ่มแรงดันรางจ่าย จะเป็นการปรับเพิ่มแรงดันทุกช่วงตั้งแต่หลังรอบเดินเบาขึ้นมาให้ค่ามากกว่าปกติ แต่ไม่มากไปกว่าค่าสูงสุดครับ แต่ถ้าปรับเสริมชิมท้ายรางมันจะไปเพิ่มแรงดันสูงสุดให้มากกว่าเดิมแน่นอนครับ
ผลเสียก็ควันเป็นลำๆมีการสึกหรอที่มากกว่าเดิมๆแน่ครับ แต่ข้อดีคืออัตราเร่งที่ดีและรุนแรงสามารถส่งน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพียงพอต่อการขยายอัตราการไหลที่หัวฉีดครับ
กระจ่างแล้วครับ
ขอบคุณครับ
Nuk_Black-Triton
08-07-2009, 15:52
ขอบคุณครับ น้าเต้ย
ประมาณว่า ถ้ายกหัวฉีด ก็น่าเสริมอยู่ใช่มั้ยครับ
แต่การดันราง จะเพิ่มแรงดันในช่วงทุกรอบเครื่องยนต์
ถ้าเห็นผลแน่ๆ ก็จะเป็นการดันรอบต้นให้จัดขึ้น จากแรงดันที่มากขึ้น
พอหลัง 2000 รอบ ไปแล้ว ซึ่งเป็นแรงดันสูงสุด มันก็จะไม่เพิ่มแล้ว
ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ การเสริมท้ายรางก็เป็นการ เพิ่มแรงดันในช่วงหลัง
2000 รอบไปอีกใช่หรือไม่ ถ้าใช่ รถก็จะมีอัตราเร่งที่ดี พร้อมกับเสียงเขก
รวมถึงการกระตุกด้วยใช่หรือไม่ เมื่อขับความเร็วคงที่
และเป็นการสร้างภาระของชุดปรับแรงดัน ให้ฉีดหนักมากขึ้น
ประมาณนี้หรือเปล่าครับ
ส่วนการยกหัวฉีด ก็จะเป็นการยืดเวลาการฉีดจ่ายน้ำมันให้นานขึ้น
ให้เครื่องยนต์เอาไปใช้ได้อย่างเหลือเฟือ เมื่อฉีดนาน แรงดันในรางมัน
ก็จะน้อยลง ทำให้ค่าแรงดันอาจไม่ถึงเป้าหมาย ปั๊มก็ต้องสร้างแรงดันเพิ่ม
เพื่อให้แรงดันได้ตามมาตรฐาน เหมือนแท๊งค์น้ำ ที่เราเปิดน้ำแรงๆ น้ำอาจ
หมดถังได้ การเสริมชริมท้ายราง ก็เหมือนกับการทำให้แรงดันคงที่พอที่จะ
ให้ไอ้เจ้าตัวยกหัวฉีด มันดูดไปใช้อย่างสบายๆ หรือเปล่าครับ
งงครับ ผมโง่มากเลย เรื่องนี้ครับ ยังงงง ไม่หายจ้า
weerasin.08
08-07-2009, 16:34
:doraemon8:สงสัยนานแล้วครับว่าทำงานอย่างไรขอบคุณมากครับทุให้ความรู้
เต้ยTRITON
08-07-2009, 19:11
ใช่อย่างที่น้านุ๊กเข้าใจแหละครับเมื่อเปิดให้หัวฉีดมันนานกว่ามาตราฐานแรงดันในรางจ่ายมันก็ตกมันจึงจำเป็นต้องหาวิธีสร้างแรงดันขึ้นมาชดเชยเพื่อความสมบูรณ์ของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงครับจะได้วิ่งได้เนียนๆไม่มีกระตุ๊กๆครับ แต่วิธีการปรับเพิ่มแรงดันขึ้นมาชดเชยนี่สำคัญมากครับต้องมีการเก็บข้อมูลก่อนหลังไว้ด้วยครับไม่ใช่นึกอยากจะทำก็ทำไปมั่ว ไม่ดีต่อระบบปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงและหัวฉีดครับ
WE ARE TRITON
08-07-2009, 21:30
สรุปว่าการทำท้ายรางเหมาะกับกล่องยกหัวฉีด มากกว่ากล่องเพิ่มแรงดันได้มั้ยครับ
และการใส่กล่องเพิ่มแรงดันก็มีผลในช่วงที่แรงดัน ยังไม่ถึงช่วงแรงดันสูงสุด
ขอถามเพิ่มเติมครับว่าหลังจากผ่านจุดที่แรงดันสูงสุดแล้ว ปั้มยังคงจ่ายให้แรงดันคงที่หรือว่าลดลงครับ และจุดที่จ่ายแรงดันสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณรอบที่เท่าไรครับ
Nuk_Black-Triton
09-07-2009, 12:21
แรงดันสูงสุดเมื่อสุดแล้ว จะจ่ายคงที่ครับ
hararuya
09-02-2010, 11:56
เข้ามาอ่านแล้วได้ความรู้มากครับ
ขอบคุนนะคับพี่ๆ..
MEAW_SAN
09-02-2010, 12:14
อืมได้ข้อมูลเยอะเลยครับน้าๆ
Nuk_Black-Triton
09-02-2010, 12:53
แวะมาขุดและสรุปครับ กับการใช้งานจริง สำหรับน้องใหม่หัดแรงครับ
1.การไม่ทำท้ายราง กับรถพ่วงกล่อง มันจะดันได้ไม่เกินมาตรฐานเดิมจากโรงงาน คือ 180 Mpa
2.การไม่ทำท้ายราง จะสามารถเพิ่มแรงดันช่วงต้นได้นิดหน่อย แทบไม่เห็นผล พอถึงช่วงดันสูงสุด จะเพิ่มแรงอีกไม่ได้เพราะ มีการจำกัดแรงดันด้วย ท้ายรางนั่นเอง
3.การทำท้ายรางแล้ว สามารถ เพิ่มแรงดันได้จากกล่องพ่วงได้อีกประมาณ 3-5 เท่า กับรถบ้านๆ
คำว่า "เท่า" คือจากกล่องจูนนะครับ คิดเป็นเปอร์เซนต์การเพิ่มได้อีกประมาณ 40% จากแรงดันเดิมๆ
เมื่อเทียบกับของเดิม ระดับ 150-160 Mpa ครับ
เมื่อการดันราง ทำให้ภาระชุดปั๊มสร้างแรงดัน ทำงานหนักขึ้น แรงบิดของเครื่องยนต์มากขึ้น
ชุดระบบส่งกำลัง จะลาโลก ในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าหลงระเริงไปกับความแรงที่ได้รับมา
นับเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากกว่า การยกหัวฉีดแบบเบาๆ แต่คุ้มกับเงินที่เสียไปได้อย่างแน่นอน
การลงกล่องเพิ่มแรงดัน ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ต้องทำท้ายรางด้วย เสมอครับ
การทำคือการรองชิม ให้ได้ความหนา เพิ่มความแข็งของสปริงมากขึ้น ทำให้แรงดันสูงสุดมากขึ้น (หลอกเซนเซอร์)
การทำอีกวิธี คือการอุดท้ายราง เมื่ออุปกรณ์ (กล่องพ่วง) ปล่อยแรงดันมากเกินไป ระบบหัวฉีด หรือชุดปั๊ม
อาจเสียหายร้ายแรงได้ แต่มั่นใจได้ว่า ไฟไม่โชว์ เครื่องไม่ดับแน่นอน
การรองชิม เมื่อมีแรงดันที่มากเกินเหตุ เซนเซอร์ยังรับรู้อาการได้ว่าไม่ปลอดภัย สั่งกล่องหลัก ดรอปแรงดัน
เพื่อรักษาอุปกรณ์ได้ เหมาะกับรถบ้านๆ มากกว่า การอุด เหมาะกับรถแข่งมากกว่า เลือกเอาครับ ว่ารถท่านเป็นแบบใด
ให้เป็นข้อมูลไว้ศึกษาครับ เพื่อการตัดสินใจของคุณเอง
walkingspeed
09-02-2010, 17:09
ขยันจริงๆนะ น้านุ๊ก
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับน้า.
อย่างนี้ Pro 3.2 + ยกหัวฉีดเป็นอย่างไรบ้างครับน้านุ๊ก...
ผมเข้าใจแบบนี้นะครับ ถ้าผิดขออภัย แรงดันที่สูงสุด อยู่ที่รางร่วม คือ 180 Psi
ถ้าเรารองแหวนเสริมท้ายราง เป็นการเพิ่มปริมาตรของน้ำมันให้มากขึ้น แรงดันเท่าเดิม
รางร่วมเหมือนกับเป็นถังพักสำรองก่อนจ่ายออกไป ทั้งนี้เพื่อทำให้แรงดันน้ำมันที่ฉีดออกไปมีค่าคงที่มากที่สุด
โดยปั๊มยังคงสร้างแรงดันมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปั๊มไปใช้ไป
ถ้าเป็นดังนั้น
การรองท้ายรางไม่มีผลดันใด ถ้าไม่ได้หลอกแรงดันน้ำมัน ถึงแม้ว่าปริมาณน้ำมันในถังพักจะมีมาก
แต่แรงดันยังคงเท่าเดิมคือ 180 Psi ปริมาตรน้ำมันที่เพิ่มก็ไม่ได้ใช้งานครับ
แต่ถ้าลงโปรแกรม 3200 การฉีดน้ำมันเพิ่มขึ้น อาจจะมีผลบ้าง แต่เราก็ยังไม่ทราบอยู่ดี
ว่าปริมาตรน้ำมันในรางร่วมเขาได้ออกแบบเผื่อไว้ มากกว่าปริมาณการฉีดต่อครั้ง เท่าไร
และที่ผมเคยทดสอบวัดค่าแรงดันคอมมอนเรล ค่าสูงสุด ไม่คงที่ครับ ขึ้นสูงสุดก็ค่อย ๆ ลด เหมือนกับแรงดันบูสท์นั่นแหละ
จะเพิ่มขึ้นตามคันเร่ง เมื่อต้องการเรียกอัตราเร่งครับ จากเท้าเรานั่นเอง
taye triton plus4
09-02-2010, 18:18
ของผม อุดท้ายรางเลยครับ แต่ใส่ดันราง ปลดลผ๊อคบูสและขาเร่งไฟฟ้าแล้วครับ ทำท้ายรางก้อทำตามท่านกูรูนุ๊กบอกครับ อต่เค้าให้ไปรองแต่ผมอุดเลย :i37:
Nuk_Black-Triton
09-02-2010, 18:29
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับน้า.
อย่างนี้ Pro 3.2 + ยกหัวฉีดเป็นอย่างไรบ้างครับน้านุ๊ก...
เทียบเงินที่จ่ายไปไม่คุ้มครับ
เพราะมันซ้อนกันอยู่ จะเห็นความสามารถของตัวยกหัวฉีดน้อยลงอย่างมาก
ถ้าเข้าใจ ก็ได้ครับ แต่ได้นิดเดียว กับรถหัวฉีดเดิมครับ:kapook-17351-2909:
Nuk_Black-Triton
09-02-2010, 18:32
ผมเข้าใจแบบนี้นะครับ ถ้าผิดขออภัย แรงดันที่สูงสุด อยู่ที่รางร่วม คือ 180 Psi
ถ้าเรารองแหวนเสริมท้ายราง เป็นการเพิ่มปริมาตรของน้ำมันให้มากขึ้น แรงดันเท่าเดิม
รางร่วมเหมือนกับเป็นถังพักสำรองก่อนจ่ายออกไป ทั้งนี้เพื่อทำให้แรงดันน้ำมันที่ฉีดออกไปมีค่าคงที่มากที่สุด
โดยปั๊มยังคงสร้างแรงดันมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปั๊มไปใช้ไป
ถ้าเป็นดังนั้น
การรองท้ายรางไม่มีผลดันใด ถ้าไม่ได้หลอกแรงดันน้ำมัน ถึงแม้ว่าปริมาณน้ำมันในถังพักจะมีมาก
แต่แรงดันยังคงเท่าเดิมคือ 180 Psi ปริมาตรน้ำมันที่เพิ่มก็ไม่ได้ใช้งานครับ
แต่ถ้าลงโปรแกรม 3200 การฉีดน้ำมันเพิ่มขึ้น อาจจะมีผลบ้าง แต่เราก็ยังไม่ทราบอยู่ดี
ว่าปริมาตรน้ำมันในรางร่วมเขาได้ออกแบบเผื่อไว้ มากกว่าปริมาณการฉีดต่อครั้ง เท่าไร
และที่ผมเคยทดสอบวัดค่าแรงดันคอมมอนเรล ค่าสูงสุด ไม่คงที่ครับ ขึ้นสูงสุดก็ค่อย ๆ ลด เหมือนกับแรงดันบูสท์นั่นแหละ
จะเพิ่มขึ้นตามคันเร่ง เมื่อต้องการเรียกอัตราเร่งครับ จากเท้าเรานั่นเอง
แชร์ข้อมูลครับ การทำท้ายราง คือการไปเปลี่ยนค่าสปริงจำกัดแรงดันให้มันแข็งขึ้นอีก
แต่ปั๊มปกติสร้างแรงดันประมาณ 150 เองครับน้า ไม่ได้ไปถึง 180 ครับ
ถ้าไม่ได้เพิ่มกล่องหลอกแรงดัน ก็ไม่มีผลอะไร ส่วนเรื่องปริมาณที่มากขึ้น เป็นผลพลอยได้ครับ
รถที่ไม่พ่วงกล่อง ทำท้ายรางไปอาจจะได้0.5หรือ1ม้าครับผม
Nuk_Black-Triton
09-02-2010, 18:34
รถที่ไม่พ่วงกล่อง ทำท้ายรางไปอาจจะได้0.5หรือ1ม้าครับผม
ตัวนึงก็เอานะ ซะงั้นไป :kapook-17202-3451:
ตัวนึงก็เอานะ ซะงั้นไป :kapook-17202-3451:
1 ม้า ก็มีราคานะคับน้า
อ้าว คนละเรื่องกัน:kapook-17200-2055:
เทียบเงินที่จ่ายไปไม่คุ้มครับ
เพราะมันซ้อนกันอยู่ จะเห็นความสามารถของตัวยกหัวฉีดน้อยลงอย่างมาก
ถ้าเข้าใจ ก็ได้ครับ แต่ได้นิดเดียว กับรถหัวฉีดเดิมครับ:kapook-17351-2909:
===================
ขอบคุณครับน้า.
ตัวนึงก็เอานะ ซะงั้นไป :kapook-17202-3451:
ทุกแรงม้ามีค่าครับ เพราะแรงแล้วดี อิอิ:i37::i37:
มาเก็บข้อมูลคร๊าบบบบบบบบบบ
chaiyasit
01-12-2010, 06:58
ขุดมาดู..
MEAW_SAN
01-12-2010, 08:27
มีประโยชน์มากเลยครับพี่ชัย
teevasabi
01-12-2010, 09:25
แวะมาขุดและสรุปครับ กับการใช้งานจริง สำหรับน้องใหม่หัดแรงครับ
1.การไม่ทำท้ายราง กับรถพ่วงกล่อง มันจะดันได้ไม่เกินมาตรฐานเดิมจากโรงงาน คือ 180 Mpa
2.การไม่ทำท้ายราง จะสามารถเพิ่มแรงดันช่วงต้นได้นิดหน่อย แทบไม่เห็นผล พอถึงช่วงดันสูงสุด จะเพิ่มแรงอีกไม่ได้เพราะ มีการจำกัดแรงดันด้วย ท้ายรางนั่นเอง
3.การทำท้ายรางแล้ว สามารถ เพิ่มแรงดันได้จากกล่องพ่วงได้อีกประมาณ 3-5 เท่า กับรถบ้านๆ
คำว่า "เท่า" คือจากกล่องจูนนะครับ คิดเป็นเปอร์เซนต์การเพิ่มได้อีกประมาณ 40% จากแรงดันเดิมๆ
เมื่อเทียบกับของเดิม ระดับ 150-160 Mpa ครับ
เมื่อการดันราง ทำให้ภาระชุดปั๊มสร้างแรงดัน ทำงานหนักขึ้น แรงบิดของเครื่องยนต์มากขึ้น
ชุดระบบส่งกำลัง จะลาโลก ในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าหลงระเริงไปกับความแรงที่ได้รับมา
นับเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากกว่า การยกหัวฉีดแบบเบาๆ แต่คุ้มกับเงินที่เสียไปได้อย่างแน่นอน
การลงกล่องเพิ่มแรงดัน ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ต้องทำท้ายรางด้วย เสมอครับ
การทำคือการรองชิม ให้ได้ความหนา เพิ่มความแข็งของสปริงมากขึ้น ทำให้แรงดันสูงสุดมากขึ้น (หลอกเซนเซอร์)
การทำอีกวิธี คือการอุดท้ายราง เมื่ออุปกรณ์ (กล่องพ่วง) ปล่อยแรงดันมากเกินไป ระบบหัวฉีด หรือชุดปั๊ม
อาจเสียหายร้ายแรงได้ แต่มั่นใจได้ว่า ไฟไม่โชว์ เครื่องไม่ดับแน่นอน
การรองชิม เมื่อมีแรงดันที่มากเกินเหตุ เซนเซอร์ยังรับรู้อาการได้ว่าไม่ปลอดภัย สั่งกล่องหลัก ดรอปแรงดัน
เพื่อรักษาอุปกรณ์ได้ เหมาะกับรถบ้านๆ มากกว่า การอุด เหมาะกับรถแข่งมากกว่า เลือกเอาครับ ว่ารถท่านเป็นแบบใด
ให้เป็นข้อมูลไว้ศึกษาครับ เพื่อการตัดสินใจของคุณเอง
รถบ้านครับน้า:yenta4-emoticon-002
ซดน้ำมันมากกว่าเดิมมั้ยอะ
warpdynamics
16-12-2010, 09:32
กล่องอัจฉริยะ WARP Dynamic ปรับจูน โดยใช้ผัง VE เมือนกล่องรถแข่ง
- ปรับจูนด้วย PC/NoteBook ผ่าน port USB
- ปรับแรงดันการจ่ายเชื้อเพลิงตาม รอบ/โหลด ของเครื่องยนต์
- ปรับการ Boost ของ Turbo ตาม รอบ/ตำแหน่งคันเร่ง
- ปรับความไวคันเร่งได้ตามความพอใจ
- ตั้ง Program Profile ได้ 3 โปรแกรม ขณะขับขี่
- มีโปรแกรม overide function โดยไม่ต้องถอดกล่อง/ใช้ปลั้กอุด เวลาเข้าศูนย์
- มีโปรแกรม เลียนการทำงานของกล่องรถเดิม ทำให้ไฟ Engine ไม่แสดงทำให้ปรับจูนได้เต็มพิกัด
- มีโปรแกรม DataLogger เพื่อบันทำการทำงานของเครื่องยนต์ย้อนหลัง เพื่อนำค่ามาวิเคราะห์และนำมาปรบจูนให้แรง/เนียนขึ้น
- ใช้กับรถรุนใหม่ ที่เป็นระบบท้ายรางไฟฟ้าได้
- มี ไฟ LED/เสียงเตือน/แสดงสถาณะ ตั้งการเตือนได้เอง
- มี CAN bus port / OBD-II port สำหรับ ต่อเชื่อมกับอุปกรณภายนอก
- สามารถเสียบเพิ่ม แผงหน้าจอควบคุม (WARP Guage Panel) เป็นหน้าจอสี Graphic พร้อมปุ่ม set ค่า แบบสัมผัส (Capacitive Touch Sensing)
- มีโปรแกรมที่ ทำการทดสอบแล้วให้เลือก Load/download ตามรุ่นรถยี่ห้อต่างๆ ตามระดับความแรงต่างๆ สามารถ Save File เดิมไว้ก่อนปรับจูน ไม่ต้องกลังจูนเละ
- มี Function ให้เลือกในโปรแกรม อีกหลายอย่างทั้งแบบ basic/advance เพื่อการขับขี่/ขับแข่ง
- แผงวงจร ใช้อุปกรณ์ surface mount technology
- อุปกรณ์ ใช้ Automotive Grade
- CPU ความเร็วสูง RISC technology
- การประเมินผล DSP ทั้ง close/open loop ระบบ PID tropology
- เกรด มาตรฐานส่งออก
สนใจ หรือต้องการเป็นตัวแทนจำหน่าย
ติดต่อ อ.ณะ T. 08 76725637
email: warpdyn@hotmail.com
http://www.warpdynamic.com
ขับเคลื่อนระบบโดย vBulletin™ Version 4.2.5 Copyright © 2024 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.