แสดงเวอร์ชันเต็ม : ขอความเห็นพี่น้องครับ "ความอดทนคือไร"ต้องทำงัยครับ
taye triton plus4
05-12-2009, 15:02
เบื่อๆ เลยอยากถามพี่น้องครับว่า ความอดทน คือไร ทำไงบ้างถึงเรียกว่าอดทน อดกลั้นครับ ช่วยอนุเคราะห์ให้ความกระจ่างผมทีครับ...นึกว่าเอาบุญนะพี่น้องนะ:kapook-17351-2909::21-7::i42::21-7:
navyhawk
05-12-2009, 16:02
อือ...
ความอดทน คือ การเพิ่มระดับความพอใจของฝ่ายตรงข้าม..
ต้องทำงัย ..ก็...เอาลิ้นดันเพดาน แล้วแว๊บไปคิดเรื่องอื่น ๆบ้าง...อย่าเกร็ง..
:kapook-17201-6012: :i42:
taye triton plus4
05-12-2009, 16:14
ขอบคุณครับน้า:1182438340::21-7:
webmaster
05-12-2009, 16:24
ความอดทนอดกลั้น นิยาม ความอดทน คือการกระทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ สม่ำเสมอเป็นระยะเวลานาน โดยไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคทั้งปวง ความอดกลั้น คือ การรู้จักข่มใจในเวลาที่เผชิญกับเหตุการณ์ที่เย้ายวนทุกรูปแบบ อันจะทำให้ไม่เกิดความเสียหายหรือถลำลึกลงไปในความชั่วร้าย หรือความทุจริตทั้งปวง ความเข้มแข็ง ความบึกบึน ความหนักแน่นของจิตใจที่สามารถยืนหยัดต่อสู้การกระทบกระทั้งของสภาพการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่แสดงอาการหวั่นไหวใด ๆ
ตัวอย่าง- ไม่แสดงอาการเจ็บป่วย หรือทุรนทุรายต่อความเจ็บป่วย หรือต่อ ความลำบาก ตรากตรำ
- อดทนต่อความยากลำบาก ต่อคำเย้ยหยัน คำดูหมิ่น และคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่นโดยไม่แสดงปฏิบัติโต้ตอบใด ๆ
- มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่ท้อแท้ ไม่ว่าจะตกอยู่ในสภาพการณ์หรือเหตุการณ์ใด ๆ
webmaster
05-12-2009, 16:26
"ขันตีปะระมัง ตะโปตีติกขา" "ความอดทน คือความอดกลั้น เป็นความเพียรเครื่องเผากิเลส อย่างยอดเยี่ยม
ความอดทนของร่างกาย คือ ความอดทน ความอดกลั้น ของร่างกาย ต่อความยากลำบาก เพื่อให้งานหรือสิ่งที่ทำบรรลุผล
ความอดทนทางใจ คือ ความอดทนต่อสภาวะที่มากระทบต่อจิตใจ ก่อให้เกิดความเศร้าหมอง ความทุกข์ระทมใจ ซึ่งผมเห็นว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นจุดเปราะบางที่จะต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ
การขาดความอดทนทางด้านจิตใจ ใจจะสั่งกายให้ทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ ไม่ว่าจะรัก โลภ โกรธ หลง ต่าง ๆ นานา แต่หากเราไม่เป็นไปตามที่ใจเราต้องการ สามารถเอาชนะใจได้ ไม่ทำในสิ่งที่ผิด ถือว่ามีความอดทนทางด้านจิตใจที่น่ายกย่องยิ่งนัก
ผมหยิบเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะเพื่อจะบอกว่า ความอดทนทางใจ มีขีดจำกัด หากถึงจุดที่เกินจะทน นี่คือจุดที่อันตราย ที่จะสั่งให้คนเราทำอะไรก็ได้ในสิ่งที่เราไม่คาดคิด
เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้ระเบิดเวลาตัวนี้ ปะทุขึ้นเลยครับ ทางแก้ก็คือ การเดินทางสายกลาง พบกันครึ่งทาง หันหน้าคุยกัน ตกลงจะเอาอย่างไร และสุดท้ายก็ทำตามข้อสัญญานั้น ๆ ก็จะทำให้สังคมอยู่กันอย่างสงบสุขครับ และเกิดความพอใจทั้งสองฝ่าย เลิกทำตามใจตัวเองซะทีเถิดครับ
จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน ห้ำหั่น ชิงดีชิงเด่น ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน แล้วจุดสิ้นสุดของปัญหามันจะอยู่ตรงไหน
หรือเพื่ออยากจะเป็นผู้ชนะ ไม่มีใครชนะครับ มีแต่ผู้แพ้ คือ.....
การพ่ายแพ้ต่อ "ขันตีปะระมัง ตะโปตีติกขา" คือ ความอดทน คือความอดกลั้น ซึ่งเป็นเครื่องเผากิเลส อย่างยอดเยี่ยม นั่นเอง
webmaster
05-12-2009, 16:27
คุณค่าของความอดทน
ท่านขุนน้อย (http://www.thaitritonclub.com/news/category/12)10 มีนาคม 2552 - 00:00
มีภาษิตเก่าๆ ประโยคหนึ่ง...ซึ่งไม่ได้มีการระบุเอาไว้แน่ชัด ว่าใครเป็นคนเอ่ย ใครเป็นคนคิด ขึ้นมาเป็นรายแรก อีกทั้งยังฟังดูทื่อๆ ง่ายๆ ถ้าหากไม่เก็บมาคิด มาพิจารณา ให้ถ่องแท้ ก็อาจจะผ่านหู ผ่านตา ไปเฉยๆ เพราะภาษิตนิรนามที่ว่านั้น เอ่ยเอาไว้สั้นๆ แต่เพียงว่า... สิ่งใดที่ยังแก้ไขไม่ได้...สิ่งนั้นต้องอดทน
-------------------------------------------
แต่จะด้วยภาษิตบทนี้...หรือจะด้วยภาษิตบทไหนๆ ก็แล้วแต่ ภายใต้บรรยากาศบ้านเมืองในยามนี้ การที่ท่านนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ปรารภเอาไว้ในคำสัมภาษณ์ช่วงหนึ่ง เมื่อวันวานที่ผ่านมา...ว่า "ขณะนี้สภาพบ้านเมือง ทุกคนต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหา ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง รัฐบาลจะไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้ง แต่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะได้รับคำแนะนำจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาตั้งแต่แรกว่า ทำงานในสภาวะแบบนี้ ต้องอดทน อดกลั้น จะยึดแนวทางนี้ต่อไป คือ อดทน อดกลั้น กับทุกๆ ฝ่ายที่เห็นแตกต่าง แต่จะไม่ยอมรับให้ใครทำผิดกฎหมาย..." อันนี้...คงต้องยอมรับว่าเป็นอะไรที่ทั้งเก๋ ทั้งน่ารัก น่าชื่นชมยกย่องอยู่ไม่น้อย...
----------------------------------------------
เพราะว่าไปแล้ว...ปัญหาของประเทศไทยในยามนี้ หรืออาจจะของโลกทั้งโลกอีกด้วยก็ว่าได้ หลายต่อหลายปัญหา มันมักจะออกไปในแนว ปัญหาที่ ยังแก้ไขไม่ได้ ยังต้องอาศัย จังหวะ เวลา หรือองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายเยอะแยะ พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากยังไม่ถึงพร้อมด้วยเหตุปัจจัยของสภาพตัวปัญหา ตลอดไปจนถึงสิ่งที่จะมาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ยังไงๆ มันก็คงแก้ไม่ได้ หรือแก้ไม่หมด และภายใต้สภาพเช่นนี้ ผู้ซึ่งมีหน้าที่ มีความรับผิดชอบโดยตรงต่อปัญหานั้นๆ เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องเรียนรู้ ยึดมั่น อยู่ในสิ่งที่เรียกๆ กันว่า ความ อดทน อดกลั้น อย่างถึงที่สุด...
--------------------------------------------------
เอาง่ายๆ...แค่ ปัญหาเศรษฐกิจ ที่กำลังกดดัน คุกคาม โลกทั้งโลกอยู่ ณ เวลานี้ อันที่จริงก็พอเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ต่อให้พระนารายณ์อวตารลงมาหมาดๆ ยังไงๆ ก็คงต้องอ้วกแตกกันเห็นๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่ได้รับความชื่นชมจากโลกทั้งโลกอย่างรัฐบาล โอบามา หรือรัฐบาลไหนต่อไหนก็เถอะ ไล่ตั้งแต่อเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ตลอดไปจนถึงสิงคโปร์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ เดี้ยง ไปด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะเดี้ยงมาก เดี้ยงน้อย ไปตามเหตุปัจจัยที่กระบวนการทุนนิยมทั้งระบบ ได้สร้างสม ดึงดูด ให้โลกทั้งโลกต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง พัวพัน กันมานานนับเป็นศตวรรษๆ....
-----------------------------------------------------
จะมีแต่ผู้ซึ่ง...นอกจากจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา แต่กลับถนัดในการสร้างปัญหาให้กับผู้อื่นเท่านั้น ที่สามารถคุยโว โอ้อวด ชนิดแมงโม้บินว่อนข้ามโลกมาจากอเมริกาใต้ โดยไม่จำเป็นจะต้อง รับผิดชอบ ใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้...คงไม่ถึงกับต้องไปเสียเวลา นำเอาคำพูด คำจา เหล่านี้มาคิดให้รกสมอง ในเมื่อผู้คนจำนวนหนึ่งในสังคมยังมองเห็น กงจักร เป็น ดอกบัว ยังมองเห็น ผิด เป็น ถูก เห็น อกุศลกรรม เป็น กุศลกรรม อันถือเป็นเรื่องปกติ...ที่จะต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัยของสังคมนั้นๆ ภายใต้ภาวะเช่นนี้ สิ่งที่เรียกว่า ความอดทน นั่นแหละ ที่พอจะนำมาใช้บรรเทา เบาบาง ไม่ให้สภาพปัญหามันลุกลาม เกินเลย ไปกว่านี้...
--------------------------------------------------
หรือถ้าจะพูดให้ชัดๆ ยิ่งไปกว่านั้น...หลายต่อหลายปัญหาในขณะนี้ มันคงไม่สามารถอาศัยเพียงแค่ สมอง ล้วนๆ ในการแก้ หรือการบรรเทา เบาบาง สภาพปัญหา ให้ลดน้อยถอยลงไปได้เท่านั้น แต่จำเป็นจะต้องอาศัยสิ่งที่เรียกกันว่า ใจ เข้ามามีส่วนอยู่ไม่น้อย ใจ อันยึดมั่นอยู่ในความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นพื้นฐานเบื้องต้น อีกทั้งยังต้องเสริมเพิ่มเติมด้วย คุณธรรม ขันติธรรม ให้มากๆ เข้าไว้ เพราะภายใต้สภาวะที่ ปัญหา มันยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือ ยังแก้ไม่ได้ ย่อมเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครต่อใคร จะต้องแห่ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ กล่าวหา โจมตี เสนอแนะ กันในชนิดหูแตก หูดับ เอาง่ายๆ...
-----------------------------------------------
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...สำหรับ สังคมไทย อันเป็นสังคมที่อาจถือได้ว่า มีนักวิพากษ์ วิจารณ์ นักกล่าวหา นักซุบซิบนินทา ฯลฯ มากที่สุดในโลกก็ว่าได้ หรือเป็นสังคมที่บรรดาพวกนักวิชาการบางรายเรียกขานเอาไว้ด้วยภาษาหะรูหะราว่าเป็น สังคมทอนกำลัง มันจึงยิ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดายิ่งขึ้นไปอีก ที่จะต้องมีการหยิบเอาปัญหาซึ่งยังไม่ได้แก้ หรือปัญหาที่ยังต้องอาศัยระยะเวลา และองค์ประกอบอื่นๆ ในการแก้ไขอีกมากมายเยอะแยะ มาใช้ในการกล่าวหา โจมตี ซึ่งกันและกัน...ไม่ต่างอะไรไปจาก ไก่ที่จิกตีกันอยู่ในเข่ง อะไรประมาณนั้น...
---------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เรียกว่า ใจ...ในบางครั้ง-บางครา มันจึงมีความสำคัญกว่า สมอง ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า เพราะมันสามารถนำเอามาใช้ปกป้อง คุ้มครอง ต้านรับกับแรงกดดันจาก ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ หรือยังไม่ถึงพร้อมซึ่งเหตุปัจจัย ในอันที่จะลงมือแก้ไขกันแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชนิดรวดเดียวจบ และเอาเข้าจริงๆ แล้ว...ถ้าหากจะว่ากันตามแบบฉบับของนักรบประเภทเหยียบหิมะไร้รอย ที่สามารถเหาะขึ้นไปทำศึกกันบนก้อนเมฆ ก็ด้วยสิ่งที่เรียกว่า ใจ นี่แหละ ที่มักจะถูกนำมาใช้เป็นตัว ชี้ขาด ตัดสิน ชัยชนะและความพ่ายแพ้ในขั้นตอนสุดท้าย ไม่ว่าระหว่างใครต่อใคร จะเป็นกลุ่ม เป็นฝ่าย หรือเป็นตัวบุคคลก็ตาม...พูดง่ายๆ ว่า ต่อให้ฉลาดแสนฉลาด เก่งแสนเก่ง ขนาดไหน??? แต่ถ้าหาก ใจ ไม่นิ่ง ไม่ซื่อสัตย์ ไม่มีคุณธรรม ขันติธรรม แถมยังเล็กในระดับอวัยวะเพศมดซะอีกต่างหาก...ยังไงๆ ก็มีแต่แพ้กับแพ้เท่านั้น...ไม่งั้นคงไม่เผ่นไป ทำใจ อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่คิดจะกลับมาแสดงให้เห็นถึง ความอดทน อดกลั้น ความกล้าหาญ กล้าเสียสละใดๆ เอาเลยแม้แต่นิด...
---------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก ท่านรพินทรนาถ ฐากูร... "หากบังเอิญได้ดอกไม้...ตูข้าก็จะเก็บไว้ในดวงใจ แต่หากเป็นขวากหนาม ข้าก็จะอดทนกับมัน..."
-----------------------------------------------------
NAMELESS
05-12-2009, 17:13
:doraemon8::doraemon8::doraemon8:
taye triton plus4
05-12-2009, 18:49
คุณค่าของความอดทน
ท่านขุนน้อย (http://www.thaitritonclub.com/news/category/12)10 มีนาคม 2552 - 00:00
มีภาษิตเก่าๆ ประโยคหนึ่ง...ซึ่งไม่ได้มีการระบุเอาไว้แน่ชัด ว่าใครเป็นคนเอ่ย ใครเป็นคนคิด ขึ้นมาเป็นรายแรก อีกทั้งยังฟังดูทื่อๆ ง่ายๆ ถ้าหากไม่เก็บมาคิด มาพิจารณา ให้ถ่องแท้ ก็อาจจะผ่านหู ผ่านตา ไปเฉยๆ เพราะภาษิตนิรนามที่ว่านั้น เอ่ยเอาไว้สั้นๆ แต่เพียงว่า... สิ่งใดที่ยังแก้ไขไม่ได้...สิ่งนั้นต้องอดทน
-------------------------------------------
แต่จะด้วยภาษิตบทนี้...หรือจะด้วยภาษิตบทไหนๆ ก็แล้วแต่ ภายใต้บรรยากาศบ้านเมืองในยามนี้ การที่ท่านนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ปรารภเอาไว้ในคำสัมภาษณ์ช่วงหนึ่ง เมื่อวันวานที่ผ่านมา...ว่า "ขณะนี้สภาพบ้านเมือง ทุกคนต้องมาร่วมกันแก้ไขปัญหา ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง รัฐบาลจะไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาความขัดแย้ง แต่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะได้รับคำแนะนำจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาตั้งแต่แรกว่า ทำงานในสภาวะแบบนี้ ต้องอดทน อดกลั้น จะยึดแนวทางนี้ต่อไป คือ อดทน อดกลั้น กับทุกๆ ฝ่ายที่เห็นแตกต่าง แต่จะไม่ยอมรับให้ใครทำผิดกฎหมาย..." อันนี้...คงต้องยอมรับว่าเป็นอะไรที่ทั้งเก๋ ทั้งน่ารัก น่าชื่นชมยกย่องอยู่ไม่น้อย...
----------------------------------------------
เพราะว่าไปแล้ว...ปัญหาของประเทศไทยในยามนี้ หรืออาจจะของโลกทั้งโลกอีกด้วยก็ว่าได้ หลายต่อหลายปัญหา มันมักจะออกไปในแนว ปัญหาที่ ยังแก้ไขไม่ได้ ยังต้องอาศัย จังหวะ เวลา หรือองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายเยอะแยะ พูดง่ายๆ ว่า...ถ้าหากยังไม่ถึงพร้อมด้วยเหตุปัจจัยของสภาพตัวปัญหา ตลอดไปจนถึงสิ่งที่จะมาใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ยังไงๆ มันก็คงแก้ไม่ได้ หรือแก้ไม่หมด และภายใต้สภาพเช่นนี้ ผู้ซึ่งมีหน้าที่ มีความรับผิดชอบโดยตรงต่อปัญหานั้นๆ เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องเรียนรู้ ยึดมั่น อยู่ในสิ่งที่เรียกๆ กันว่า ความ อดทน อดกลั้น อย่างถึงที่สุด...
--------------------------------------------------
เอาง่ายๆ...แค่ ปัญหาเศรษฐกิจ ที่กำลังกดดัน คุกคาม โลกทั้งโลกอยู่ ณ เวลานี้ อันที่จริงก็พอเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า ต่อให้พระนารายณ์อวตารลงมาหมาดๆ ยังไงๆ ก็คงต้องอ้วกแตกกันเห็นๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่ได้รับความชื่นชมจากโลกทั้งโลกอย่างรัฐบาล โอบามา หรือรัฐบาลไหนต่อไหนก็เถอะ ไล่ตั้งแต่อเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ตลอดไปจนถึงสิงคโปร์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ เดี้ยง ไปด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะเดี้ยงมาก เดี้ยงน้อย ไปตามเหตุปัจจัยที่กระบวนการทุนนิยมทั้งระบบ ได้สร้างสม ดึงดูด ให้โลกทั้งโลกต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง พัวพัน กันมานานนับเป็นศตวรรษๆ....
-----------------------------------------------------
จะมีแต่ผู้ซึ่ง...นอกจากจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา แต่กลับถนัดในการสร้างปัญหาให้กับผู้อื่นเท่านั้น ที่สามารถคุยโว โอ้อวด ชนิดแมงโม้บินว่อนข้ามโลกมาจากอเมริกาใต้ โดยไม่จำเป็นจะต้อง รับผิดชอบ ใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้...คงไม่ถึงกับต้องไปเสียเวลา นำเอาคำพูด คำจา เหล่านี้มาคิดให้รกสมอง ในเมื่อผู้คนจำนวนหนึ่งในสังคมยังมองเห็น กงจักร เป็น ดอกบัว ยังมองเห็น ผิด เป็น ถูก เห็น อกุศลกรรม เป็น กุศลกรรม อันถือเป็นเรื่องปกติ...ที่จะต้องเป็นไปตามเหตุปัจจัยของสังคมนั้นๆ ภายใต้ภาวะเช่นนี้ สิ่งที่เรียกว่า ความอดทน นั่นแหละ ที่พอจะนำมาใช้บรรเทา เบาบาง ไม่ให้สภาพปัญหามันลุกลาม เกินเลย ไปกว่านี้...
--------------------------------------------------
หรือถ้าจะพูดให้ชัดๆ ยิ่งไปกว่านั้น...หลายต่อหลายปัญหาในขณะนี้ มันคงไม่สามารถอาศัยเพียงแค่ สมอง ล้วนๆ ในการแก้ หรือการบรรเทา เบาบาง สภาพปัญหา ให้ลดน้อยถอยลงไปได้เท่านั้น แต่จำเป็นจะต้องอาศัยสิ่งที่เรียกกันว่า ใจ เข้ามามีส่วนอยู่ไม่น้อย ใจ อันยึดมั่นอยู่ในความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นพื้นฐานเบื้องต้น อีกทั้งยังต้องเสริมเพิ่มเติมด้วย คุณธรรม ขันติธรรม ให้มากๆ เข้าไว้ เพราะภายใต้สภาวะที่ ปัญหา มันยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือ ยังแก้ไม่ได้ ย่อมเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครต่อใคร จะต้องแห่ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ กล่าวหา โจมตี เสนอแนะ กันในชนิดหูแตก หูดับ เอาง่ายๆ...
-----------------------------------------------
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...สำหรับ สังคมไทย อันเป็นสังคมที่อาจถือได้ว่า มีนักวิพากษ์ วิจารณ์ นักกล่าวหา นักซุบซิบนินทา ฯลฯ มากที่สุดในโลกก็ว่าได้ หรือเป็นสังคมที่บรรดาพวกนักวิชาการบางรายเรียกขานเอาไว้ด้วยภาษาหะรูหะราว่าเป็น สังคมทอนกำลัง มันจึงยิ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดายิ่งขึ้นไปอีก ที่จะต้องมีการหยิบเอาปัญหาซึ่งยังไม่ได้แก้ หรือปัญหาที่ยังต้องอาศัยระยะเวลา และองค์ประกอบอื่นๆ ในการแก้ไขอีกมากมายเยอะแยะ มาใช้ในการกล่าวหา โจมตี ซึ่งกันและกัน...ไม่ต่างอะไรไปจาก ไก่ที่จิกตีกันอยู่ในเข่ง อะไรประมาณนั้น...
---------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เรียกว่า ใจ...ในบางครั้ง-บางครา มันจึงมีความสำคัญกว่า สมอง ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า เพราะมันสามารถนำเอามาใช้ปกป้อง คุ้มครอง ต้านรับกับแรงกดดันจาก ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ หรือยังไม่ถึงพร้อมซึ่งเหตุปัจจัย ในอันที่จะลงมือแก้ไขกันแบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ชนิดรวดเดียวจบ และเอาเข้าจริงๆ แล้ว...ถ้าหากจะว่ากันตามแบบฉบับของนักรบประเภทเหยียบหิมะไร้รอย ที่สามารถเหาะขึ้นไปทำศึกกันบนก้อนเมฆ ก็ด้วยสิ่งที่เรียกว่า ใจ นี่แหละ ที่มักจะถูกนำมาใช้เป็นตัว ชี้ขาด ตัดสิน ชัยชนะและความพ่ายแพ้ในขั้นตอนสุดท้าย ไม่ว่าระหว่างใครต่อใคร จะเป็นกลุ่ม เป็นฝ่าย หรือเป็นตัวบุคคลก็ตาม...พูดง่ายๆ ว่า ต่อให้ฉลาดแสนฉลาด เก่งแสนเก่ง ขนาดไหน??? แต่ถ้าหาก ใจ ไม่นิ่ง ไม่ซื่อสัตย์ ไม่มีคุณธรรม ขันติธรรม แถมยังเล็กในระดับอวัยวะเพศมดซะอีกต่างหาก...ยังไงๆ ก็มีแต่แพ้กับแพ้เท่านั้น...ไม่งั้นคงไม่เผ่นไป ทำใจ อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่คิดจะกลับมาแสดงให้เห็นถึง ความอดทน อดกลั้น ความกล้าหาญ กล้าเสียสละใดๆ เอาเลยแม้แต่นิด...
---------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก ท่านรพินทรนาถ ฐากูร... "หากบังเอิญได้ดอกไม้...ตูข้าก็จะเก็บไว้ในดวงใจ แต่หากเป็นขวากหนาม ข้าก็จะอดทนกับมัน..."
-----------------------------------------------------
ขอบคุณน้าหยามมากครับ:21-7:
sirawitr
05-12-2009, 19:52
อดทนนะพอได้
แต่ทนอดหนะไม่ไหว
เกี่ยวกันป่าวเนี่ยน้าต่าย:1182438340:
ใจเย็นๆครับ..น้าต่าย...ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว...ส่งใจไปช่วยครับ..
แม่ลูกสาว
08-12-2009, 16:16
:i40:
joetriton
08-12-2009, 18:23
น้าต่ายไม่สบายใจเหรอครับน้าใจเย็นๆลุ่มๆครับ
...อุปสรรค และ ปัญหา มีไว้เพื่อทดสอบความอดทนของมนุษย์ครับ...
ผมว่าโลกนี้ มีปัญหาครับ ...เพราะเกิดจากความไม่มีปัญญา(มยุรา) ของคนบางคนครับ คริๆๆๆๆ:22emoticon-cartoon-เอาจริงๆล๊ะ555+
...แต่เป็นกำลังใจให้น้าต่ายเสมอครับ
... อะไรปล่อยวางได้ก็ปล่อยครับ
..........เรารู้ว่าวัตถุสิ่งนั้น คือ ขี้ เราจะเอานิ้วไปจิ้มมันทำไมครับ...
:1182438340::1182438340::1182438340:
...
จะอดทนแบกรับไว้ทำไม
ยิ่งเราอดทน ยิ่งเราเอามาคิดมาก มันก็ยิ่งเป็นทุกข์
ปล่อยวาง ละเลย เมินเฉย ก็ สบายใจ แค่นั้น
ระหว่างคำว่า "ช่างมัน" กับคำว่า "เอาวะ" มันห่างกันแค่ชั่ววูบ แต่ผลที่ออกมามันต่างกันมากมาย
:kapook-17350-3383::kapook-17350-3383:
myjoefiend
08-12-2009, 19:08
ความอดทนคือสมาธิครับ ตราบใดยังมีสมาธิ ก็ต้องรู้ว่าอะไรจะต้องอดต้องทน สาธุ
สำหรับผู้ชายอายุ 27 ปี อย่างผมนะ คิดอยู่เสมอว่า สติๆๆๆๆๆๆๆๆ
ยอมให้เค้าด่าว่าควาย ดีกว่าไปยิงเขาตายและติดคุก(ครอบครัวจะอยู่อย่างไร)
อดทน ...สมาธิ....ปัญญา
สำหรับผู้ชายอายุ 27 ปี อย่างผมนะ คิดอยู่เสมอว่า สติๆๆๆๆๆๆๆๆ
ยอมให้เค้าด่าว่าควาย ดีกว่าไปยิงเขาตายและติดคุก(ครอบครัวจะอยู่อย่างไร)
อดทน ...สมาธิ....ปัญญา
ตามน้าวุฒิ บอกเลยครับ
ผมเจอบ่อยๆๆ รอดคุกมาได้เพราะคิดแบบนี้
Jui-Pearl_White
09-12-2009, 00:37
เราจะอดทนในสิ่งที่คนอื่นทนได้ยาก เราจะอดกลั้นในสิ่งที่คนอื่นกลั้นได้ยาก
เป็นบุคลิกของชายชาติทหารครับ
ตามน้าวุฒิ บอกเลยครับ
ผมเจอบ่อยๆๆ รอดคุกมาได้เพราะคิดแบบนี้
เพิ่งอายุ 27 เหรอพี่วุฒิ5555555555555555555
โอย....อ่านของ webmaster ตาลายไปหมด..แสดงว่าผมไม่มีความอดทนแน่นอน
NAMELESS
09-12-2009, 09:49
โอย....อ่านของ webmaster ตาลายไปหมด..แสดงว่าผมไม่มีความอดทนแน่นอน:kapook-17198-9597::kapook-17198-9597::kapook-17198-9597:
อด // ไม่ยอมรับซึ่งสิ่งที่มายั่วยุอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้ขัดข้อง ขุ่นเคือง โกรธ หรือยินดี พอใจ ดีใจจนเกินไป
ทน // เมื่อมีสิ่งที่มายั่วยุอารมณ์ข้างต้นแล้ว ย่อมระงับ กาย วาจา ใจ ไว้ได้ มิให้คิดหรือกระทำซึ่งความเสียหาย อันเกิดจากความไม่พอใจ หรือความพอใจ
อดทน อดกลั้น มักใช้คู่กัน ความหมายคล้ายกัน
....สาธุ.....
taye triton plus4
09-12-2009, 14:18
อดทนนะพอได้
แต่ทนอดหนะไม่ไหว
เกี่ยวกันป่าวเนี่ยน้าต่าย:1182438340:
ขอบคุณครับ
taye triton plus4
09-12-2009, 14:19
มาให้กำลังใจครับ
ขอบคุณพี่จ่าครับ
taye triton plus4
09-12-2009, 14:19
ใจเย็นๆครับ..น้าต่าย...ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว...ส่งใจไปช่วยครับ..
ขอบคุณน้าสิงห์ครับ
taye triton plus4
09-12-2009, 14:20
อือ...
ความอดทน คือ การเพิ่มระดับความพอใจของฝ่ายตรงข้าม..
ต้องทำงัย ..ก็...เอาลิ้นดันเพดาน แล้วแว๊บไปคิดเรื่องอื่น ๆบ้าง...อย่าเกร็ง..
:kapook-17201-6012: :i42:
ขอบพระคุณครับ
taye triton plus4
09-12-2009, 14:21
น้าต่ายไม่สบายใจเหรอครับน้าใจเย็นๆลุ่มๆครับ
...อุปสรรค และ ปัญหา มีไว้เพื่อทดสอบความอดทนของมนุษย์ครับ...
ผมว่าโลกนี้ มีปัญหาครับ ...เพราะเกิดจากความไม่มีปัญญา(มยุรา) ของคนบางคนครับ คริๆๆๆๆ:22emoticon-cartoon-เอาจริงๆล๊ะ555+
...แต่เป็นกำลังใจให้น้าต่ายเสมอครับ
... อะไรปล่อยวางได้ก็ปล่อยครับ
..........เรารู้ว่าวัตถุสิ่งนั้น คือ ขี้ เราจะเอานิ้วไปจิ้มมันทำไมครับ...
:1182438340::1182438340::1182438340:
... ขอขอบพระคุณน้าโจ้ กะ ซ้อปุยมากมายครับ
taye triton plus4
09-12-2009, 14:21
จะอดทนแบกรับไว้ทำไม
ยิ่งเราอดทน ยิ่งเราเอามาคิดมาก มันก็ยิ่งเป็นทุกข์
ปล่อยวาง ละเลย เมินเฉย ก็ สบายใจ แค่นั้น
ระหว่างคำว่า "ช่างมัน" กับคำว่า "เอาวะ" มันห่างกันแค่ชั่ววูบ แต่ผลที่ออกมามันต่างกันมากมาย
:kapook-17350-3383::kapook-17350-3383:
ขอบคุณน้าเชดครับ
taye triton plus4
09-12-2009, 14:22
ความอดทนคือสมาธิครับ ตราบใดยังมีสมาธิ ก็ต้องรู้ว่าอะไรจะต้องอดต้องทน สาธุ
ครับนา้าโจ้ขอบคุณ๕รับพร้อมปฏิบัติครับ
taye triton plus4
09-12-2009, 14:23
สำหรับผู้ชายอายุ 27 ปี อย่างผมนะ คิดอยู่เสมอว่า สติๆๆๆๆๆๆๆๆ
ยอมให้เค้าด่าว่าควาย ดีกว่าไปยิงเขาตายและติดคุก(ครอบครัวจะอยู่อย่างไร)
อดทน ...สมาธิ....ปัญญา
ขอบพระคุณน้าวุฒิรัตน์ครับคิดถึงนะครับ รักนะจุ๊บๆๆๆ
taye triton plus4
09-12-2009, 14:24
เราจะอดทนในสิ่งที่คนอื่นทนได้ยาก เราจะอดกลั้นในสิ่งที่คนอื่นกลั้นได้ยาก
เป็นบุคลิกของชายชาติทหารครับ
ขอบคุณครับน้าครับ
taye triton plus4
09-12-2009, 14:29
อด // ไม่ยอมรับซึ่งสิ่งที่มายั่วยุอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ให้ขัดข้อง ขุ่นเคือง โกรธ หรือยินดี พอใจ ดีใจจนเกินไป
ทน // เมื่อมีสิ่งที่มายั่วยุอารมณ์ข้างต้นแล้ว ย่อมระงับ กาย วาจา ใจ ไว้ได้ มิให้คิดหรือกระทำซึ่งความเสียหาย อันเกิดจากความไม่พอใจ หรือความพอใจ
อดทน อดกลั้น มักใช้คู่กัน ความหมายคล้ายกัน
....สาธุ.....
ขอบพระคุณน้าจักรมากครับ
คือจริงๆแล้วกระทู้นี้ที่ตั้งถามก้อไม่มีไรหรอกครับ เพียงอยากจะทราบความคิดเห็นของแต่ละท่านเพื่อเอามาเป็นวิจารณญานในการตัดสินใจและดำเนินชีวิตครับ เบื่อๆครับ เจอแต่ปัญหาแบบไร้สาระจนน่ารำคาญ บางทีอยู่เฉยก้อยังไม่าวายอะไรประมาณนั้นครับ แต่อย่างน้าโจ้ว่าก้อเข้าท่าดีครับ ขี้เรารู้ว่ามันเหม็นแล้วเราจะเอานิ้วไปเขี่ยทำไม แต่ทุกคนก้อให้ข้อคิดดีๆทุกคนเลยครับ...น้าจักรอย่างนี้ถ้าเราทำบุญกรวดน้ำให้กะสิ่งที่มาทำให้เราต้องอดทนจะดีมั้ยครับจะได้ผลป่าวครับ...จะได้กรวดน้ำให้ทุกวัน:i40::smiley-sport036::21-7::21-7::21-7:
joetriton
09-12-2009, 14:39
-ขันติ-...-ขันติ-...-ขันติ-
IamDream
09-12-2009, 15:00
อดทนคือ ไม่เก็บมาใส่ใจไว้ให้มันกวนใจ ถ้ามันยังกวนใจ รอจนกว่ามันจะกวน ต... แล้วก็ ตืบๆๆๆๆๆๆ เอ้ยอย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยครับเฮีย
taye triton plus4
09-12-2009, 15:09
อดทนคือ ไม่เก็บมาใส่ใจไว้ให้มันกวนใจ ถ้ามันยังกวนใจ รอจนกว่ามันจะกวน ต... แล้วก็ ตืบๆๆๆๆๆๆ เอ้ยอย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยครับเฮีย
ขอบคุณครับน้า เข้าท่าดี...โลกนี้ไม่มีใครใหญ่ฝ่าโลงเน๊อะ มันอยู่ที่ใจต่างหาก:i40:แต่ความคิดน้าโดนใจจัง ฮ่าๆๆๆๆ
น้องขาวมุก
09-12-2009, 15:16
อดทน ก็คือ อดทน ครับ 555555555+
อย่าไปใส่ใจ อย่าไปคิดกับมัน เราก็ไม่ต้องทนแล้วครับ
อ่าว พี่ๆน้องๆน้าๆเราตอบกันไปหมดแล้ว งั้นผมมาเก็บของกลับบ้านดีกว่า.555..
Bangpakong
09-12-2009, 16:47
:kapook-17197-2309:มีรัยกัน.???:kapook-17201-6012:ไม่มีใครอยู่แล้ววุ้ย โล่ง....:emotion_006_onion:ย่องๆ มาตอบมั่งดีกว่า คริๆๆๆๆ:kapook-17196-7812: คำง่ายๆ น้าต่ายคิดรัยมากมาย :kapook-17198-9597: มีอยู่แ่ค่ 2 คำ:i40:
1. อด ก็คือไม่มีจะกิน
2. ทน ก็อยู่ได้นาน งัยน้า 555555 กร้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ:22emoticon-cartoon-:22emoticon-cartoon-:21-7::i37:
taye triton plus4
09-12-2009, 17:10
อ่าว พี่ๆน้องๆน้าๆเราตอบกันไปหมดแล้ว งั้นผมมาเก็บของกลับบ้านดีกว่า.555..
ลุงเล่นไม่คิดเลยอ่ะ เอาของเค้ามาแล้วก้อบกเค้าตอบไปหมดและ ป๋าติ๊กก้อ:i40:
"อดทน" เพื่ออะไร แต่ถ้าอดทนเพื่อสิ่งที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ควรจะ "อดทน" ถ้า "อดทน" แต่ยังอยู่เดิม ๆ ไม่ดีขึ้น ก็ไม่น่าจะอดทน ทุกคนอดทนทุกวันนี้ก็เพื่อ สิ่งที่ดีกว่าที่เป็นอยู่
taye triton plus4
09-12-2009, 18:56
"อดทน" เพื่ออะไร แต่ถ้าอดทนเพื่อสิ่งที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ควรจะ "อดทน" ถ้า "อดทน" แต่ยังอยู่เดิม ๆ ไม่ดีขึ้น ก็ไม่น่าจะอดทน ทุกคนอดทนทุกวันนี้ก็เพื่อ สิ่งที่ดีกว่าที่เป็นอยู่
น่าคิดครับ แล้วถ้าเราต้องทนกับไอ้คนที่ระยำคอยยั่วยวนเราคอยใส่ร้ายเราคอยทำทุกอย่างที่มันเห็นว่าสะใจมันล่ะครับ เราจะทำไงดี:smiley-transport012
kamkaew1
09-12-2009, 20:18
น่าคิดครับ แล้วถ้าเราต้องทนกับไอ้คนที่ระยำคอยยั่วยวนเราคอยใส่ร้ายเราคอยทำทุกอย่างที่มันเห็นว่าสะใจมันล่ะครับ เราจะทำไงดี:smiley-transport012
ก็บอกมันว่าเวลาคุยกับผมถอดแว่นตาออกซะ มีปัญหาอะไรคุยกันตรงๆ ไม่ต้องมาเก๊ก หรือว่าไม่กล้าสู้หน้า แล้วเสือกยืนมองหน้าผมทุกวันเวลาเจอกัน หน้าผมมีอะไรเป็นพิเศษป่าววะครับ (ทำมาแล้วครับแต่รู้ว่ามันไม่ดีครับอย่าเลียนแบบ)
moojapan
09-12-2009, 20:19
เอามั่งครับ มาช้าดีกว่าไม่มา อดทนสำหรับผม คือตอนนี้รู้ตัวเองว่าอดทนขึ้นตั้งแต่จากบ้านเกิดเมืองนอนมา ทนทุกอย่าง(สีทนได้)ไม่เคยอดทนได้ขนาดนี้มาก่อน บางครั้งโดนด่าก้อต้องยอม เข้าหูซ้ายออกหูขวา(ปรกติแล้วจะไม่ยอมง่ายๆหรอก) ทนทำไปเพราะได้ตังค์ อันนี้ชอบครับ ตอนนี้เริ่มชินชาแล้วครับ คือไม่ค่อยเอาสิ่งที่ไม่ดีมาใส่ใจครับ คิดมากเปลืองสมองครับ
kamkaew1
09-12-2009, 20:53
ตอนนี้ผมพยายามเข้าวัดเข้าวาอยู่ครับเป็นคนใจร้อน จะพยายามให้มันเย็นๆ เข้าไว้ครับ เดือนนี้ไปมาสองรอบแล้วเหมือนจะใช้ได้นะ อิอิ
taye triton plus4
12-12-2009, 16:43
ขอขอบพระคุณสมาชิกทุกๆท่านครับ ที่ให้ ความกระจ่าง และ เป็นแว่คิดที่ดีครับ เดี๋ยวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ผมก้อจะไปทำบุญ แล้ว กรวดน้ำให้แก่ เจ้ากรรมนายเวร และสัมภเวสีเหล่านั้นให้ได้รับ ครับ จะได้ไม่มาเบียดเบียนเราอีกทำให้เรา รำคาญใจ แต่ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วครับ และปล่อยวางได้เยอะแล้วครับ เพราะสมาชิกทุกๆท่านช่วยชี้แนะครับ ขอบพระคุณจริงๆครับ ขอบคุณน้าหยามครับ ที่เอาตัวอย่างมายกให้ผมอ่านจนตาลายเลยฮ่าๆๆๆๆได้ข้อคิดดีมากๆเลยครับ:21-7::21-7::21-7:
PooH_PooH
18-12-2009, 20:09
ทนอด คือ การพ่ายแพ้ แพ้ทุกอย่าง แพ้แม้กระทั่งตัวเอง
อดทน คือ .............สู้.............แม้ว่ากำลังจะแพ้..........อดทด หยัดยื่น........ล้มแล้วลุก...ก้อคือ อดทน............ แล้วคำว่า อดทน ของน้าต่าย....กำลัง อดทน กับอะไรคับ....คิดแล้วแก้ปัญหาอย่าง อดทน นะคับ และ อย่า ทนอด กับ คำว่า อดทน
taye triton plus4
19-12-2009, 21:04
ทนอด คือ การพ่ายแพ้ แพ้ทุกอย่าง แพ้แม้กระทั่งตัวเอง
อดทน คือ .............สู้.............แม้ว่ากำลังจะแพ้..........อดทด หยัดยื่น........ล้มแล้วลุก...ก้อคือ อดทน............ แล้วคำว่า อดทน ของน้าต่าย....กำลัง อดทน กับอะไรคับ....คิดแล้วแก้ปัญหาอย่าง อดทน นะคับ และ อย่า ทนอด กับ คำว่า อดทน
ขอบคุณมากครับน้าครับ:yenta4-emoticon-002
ขับเคลื่อนระบบโดย vBulletin™ Version 4.2.5 Copyright © 2024 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.