แสดงเวอร์ชันเต็ม : ถ้าปรับแรงดันที่รางคอมมอนเรลมากๆ จะเกิดอะไร??
อยากถามน้าๆ ที่รู้เรื่อง การปรับแรงดันที่รางคอมมอนเรลครับ ว่าถ้าปรับมาก ผลดี หรือไม่ ยังไงครับ ผู้รู้ช่วยผมหน่อยครับ:21-7::21-7::21-7: ขอบคุณครับ
walkingspeed
18-03-2010, 06:04
พอดีผม save ที่ น้า Nuk เคยบอกไว้ว่า
"การดันราง เป็นการเพิ่มความแรงในการฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้ ผลที่ได้คือ การเผาไหม้รุนแรงขึ้น ความร้อนของน้ำมันก็สูงตาม แต่จังหวะเปิดหัวฉีด มันเท่าเดิม ถ้าดันมากไป ความร้อนสะสมในระบบเชื้อเพลิง อาจก่อให้เกิดอาการ ปั๊มพัง หัวฉีดไหม้ได้
ถ้าทำเกินงามไป ประมาณนี้ "
หวังว่าน่าจะพอเป็นประโยชน์นะครับ
ขอบคุณน้านุ๊กด้วยครับ
bomgrade
18-03-2010, 08:21
เพิ่มเติมจากของน้านุ๊กน่ะครับ
การดันรางจะเพิ่มแรงดันตามชื่อน่ะครับ แต่ข้อดีของการเพิ่มแรงดันคืนฉีดได้แรงขึ้นและน้ำมันเป็นฝอยมากขึ้นเวลาจุดระเิบิดทำให้รถมีกำลังมากขึ้นครับ ถ้าดันมากไปหัวฉีดจะรับภาระหนักมากทำให้เกิดการเสียหายได้ ถ้าจะดันหนักๆ ต้องเปลี่ยนหัวฉีดหรือขยายรูที่หัวฉีดอันนี้ตามสูตรของแต่ละสำนักครับ ถ้าดันแล้วเราไม่ทำชิมท้ายรางก็มีปัญหาอีกคือดันแล้วน้ำมันจ่ายเยอะแต่ชิมเป็นของเดิมสปริงมันอ่่อนทำให้น้ำมันจ่ายคืนสู่ถังหมดครับ ใช้ประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่อีก อันนี้ก็ตามสูตรของแต่ละค่ายเหมือนกันครับเห็นเค้าว่าประมาณ 4 มิลน่ะ
พอดีผม save ที่ น้า Nuk เคยบอกไว้ว่า
"การดันราง เป็นการเพิ่มความแรงในการฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้ ผลที่ได้คือ การเผาไหม้รุนแรงขึ้น ความร้อนของน้ำมันก็สูงตาม แต่จังหวะเปิดหัวฉีด มันเท่าเดิม ถ้าดันมากไป ความร้อนสะสมในระบบเชื้อเพลิง อาจก่อให้เกิดอาการ ปั๊มพัง หัวฉีดไหม้ได้
ถ้าทำเกินงามไป ประมาณนี้ "
หวังว่าน่าจะพอเป็นประโยชน์นะครับ
ขอบคุณน้านุ๊กด้วยครับ
ขอบคุณมากครับน้า
:smiley-transport021
เพิ่มเติมจากของน้านุ๊กน่ะครับ
การดันรางจะเพิ่มแรงดันตามชื่อน่ะครับ แต่ข้อดีของการเพิ่มแรงดันคืนฉีดได้แรงขึ้นและน้ำมันเป็นฝอยมากขึ้นเวลาจุดระเิบิดทำให้รถมีกำลังมากขึ้นครับ ถ้าดันมากไปหัวฉีดจะรับภาระหนักมากทำให้เกิดการเสียหายได้ ถ้าจะดันหนักๆ ต้องเปลี่ยนหัวฉีดหรือขยายรูที่หัวฉีดอันนี้ตามสูตรของแต่ละสำนักครับ ถ้าดันแล้วเราไม่ทำชิมท้ายรางก็มีปัญหาอีกคือดันแล้วน้ำมันจ่ายเยอะแต่ชิมเป็นของเดิมสปริงมันอ่่อนทำให้น้ำมันจ่ายคืนสู่ถังหมดครับ ใช้ประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่อีก อันนี้ก็ตามสูตรของแต่ละค่ายเหมือนกันครับเห็นเค้าว่าประมาณ 4 มิลน่ะ
:4-9:
เพิ่มเติมจากของน้านุ๊กน่ะครับ
การดันรางจะเพิ่มแรงดันตามชื่อน่ะครับ แต่ข้อดีของการเพิ่มแรงดันคืนฉีดได้แรงขึ้นและน้ำมันเป็นฝอยมากขึ้นเวลาจุดระเิบิดทำให้รถมีกำลังมากขึ้นครับ ถ้าดันมากไปหัวฉีดจะรับภาระหนักมากทำให้เกิดการเสียหายได้ ถ้าจะดันหนักๆ ต้องเปลี่ยนหัวฉีดหรือขยายรูที่หัวฉีดอันนี้ตามสูตรของแต่ละสำนักครับ ถ้าดันแล้วเราไม่ทำชิมท้ายรางก็มีปัญหาอีกคือดันแล้วน้ำมันจ่ายเยอะแต่ชิมเป็นของเดิมสปริงมันอ่่อนทำให้น้ำมันจ่ายคืนสู่ถังหมดครับ ใช้ประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่อีก อันนี้ก็ตามสูตรของแต่ละค่ายเหมือนกันครับเห็นเค้าว่าประมาณ 4 มิลน่ะ
ขอบคุณครับน้าบอม ผมทำท้ายรางไปแล้ว+ยกหัวฉีด ตอนนี้มีอาการที่เกียร์2-3 ไม่ค่อยเดินจึงปรับดันรางเพิ่มอ่ะครับแต่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรพังตามมามั้ยครับ
:4-9:
Nuk_Black-Triton
18-03-2010, 10:31
ต้องดูอาการครับน้า ว่าไอ้ที่ไม่เดินมันมาจากอะไร คลัตช์ หรือระบบน้ำมัน รวมไปถึงอากาศ และการระบายไอเสีย
เอาสเตปง่ายๆก่อน ให้สังเกตุว่า ควันดำมากมั้ย "มีเสียงรางดรอป หรือไม่" แนะนำได้ดังนี้ สำหรับรถสมบูรณ์นะครับ
1.ปรับสเตปการยกหัวฉีด ให้สัมพันธ์กันระหว่าง โหลด กับคันเร่งและบูสท์
2.ปรับดันรางเพื่อไปชดเชยการจ่ายน้ำมันที่มากขึ้นของการยกหัวฉีด
3.ปรับบูสท์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน หัวฉีด และเทอร์โบ อะไร
เมื่อเซทให้แมทช์กันแล้ว นิสัยของรถ จะเป็นรถที่ขับง่าย และสนุก
อาจไม่ใช้สูตรแรงที่สุด แต่รับรองว่า ขับสนุกที่สุดครับ
Nuk_Black-Triton
18-03-2010, 10:39
จากคำถามคือ การดันรางมากๆ มีผลอะไร
1.เปลืองน้ำมันมากขึ้น
2.กล่องหลัก สั่งยกเวลาหัวฉีด ให้น้อยลง ถ้าปรับบูสท์มากเกินไป (อยากบูสท์หนัก ต้องไปเพิ่มน้ำมันที่กล่องยก)
3.รางและปั๊ม ทำงานหนัก หัวฉีดความร้อนสะสมมากขึ้น ระยะยาว (ไม่มาก) พังแน่นอน
4.เมื่อการดันมากๆ และน้ำมันไม่มีที่ไป ก็จะหาจุดรั่วซึม ทะลุทะลวงออกมา
5.ข้อนี้ขอย้ำนะครับ ว่า "ดันรางไม่ใช่เทพครับ" อรรถประโยชน์ มันต่างกับกล่องยกโดยสิ้นเชิง
การทำงานต่างกัน ประโยชน์ต่างกัน ข้อนี้ โปรดเข้าใจด้วยนะครับ
กล่องดันรางมีหน้าที่เพิ่มแรงดันน้ำมันในรางคอมมอนเรล
กล่องยกหัวฉีด มีหน้าที่เพิ่มเวลาการฉีดจ่ายน้ำมัน
เมื่อเข้าใจ และมีทั้งสองกล่องในครอบครอง
ควรปรับกล่องยก ให้สัมพันธ์ก่อนที่จะ ปรับดันรางมาชดเชยครับ
ถ้ามีกล่องเดียว (ดันราง) ควรรู้จักคำว่า พอ เพราะมันก็ได้ในระดับนึงที่คุ้มค่า กับเงินที่เสียไปอยู่แล้ว
การปรับเพิ่มขึ้น นั้น ถ้ารถไม่ใช่รถแข่ง ก็มีแต่พังกับพังครับ
ถ้ามีกล่องเดียว (ยก) ก็จะจ่ายน้ำมันให้มากขึ้นในระดับนึง ที่ให้อัตราเร่งที่มันส์กว่าเดิม
การเพิ่มมากไป น้ำมันจะมากเกิน น้ำมันเครื่องสกปรก เขม่ามาก เปลืองน้ำมัน
ถ้ามีสองกล่อง (ยกและดัน) สามารถปรับการทำงานของกล่องทั้งสองใบให้มากกว่าการมีใบเดียวได้
เพราะการทำงานที่เอิ้อประโยชน์กัน ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีถึงดีมาก ครับ
:yenta4-emoticon-002 จดๆๆๆ ความรู้ทั้งนั้น
จากคำถามคือ การดันรางมากๆ มีผลอะไร
1.เปลืองน้ำมันมากขึ้น
2.กล่องหลัก สั่งยกเวลาหัวฉีด ให้น้อยลง ถ้าปรับบูสท์มากเกินไป (อยากบูสท์หนัก ต้องไปเพิ่มน้ำมันที่กล่องยก)
3.รางและปั๊ม ทำงานหนัก หัวฉีดความร้อนสะสมมากขึ้น ระยะยาว (ไม่มาก) พังแน่นอน
4.เมื่อการดันมากๆ และน้ำมันไม่มีที่ไป ก็จะหาจุดรั่วซึม ทะลุทะลวงออกมา
5.ข้อนี้ขอย้ำนะครับ ว่า "ดันรางไม่ใช่เทพครับ" อรรถประโยชน์ มันต่างกับกล่องยกโดยสิ้นเชิง
การทำงานต่างกัน ประโยชน์ต่างกัน ข้อนี้ โปรดเข้าใจด้วยนะครับ
กล่องดันรางมีหน้าที่เพิ่มแรงดันน้ำมันในรางคอมมอนเรล
กล่องยกหัวฉีด มีหน้าที่เพิ่มเวลาการฉีดจ่ายน้ำมัน
เมื่อเข้าใจ และมีทั้งสองกล่องในครอบครอง
ควรปรับกล่องยก ให้สัมพันธ์ก่อนที่จะ ปรับดันรางมาชดเชยครับ
ถ้ามีกล่องเดียว (ดันราง) ควรรู้จักคำว่า พอ เพราะมันก็ได้ในระดับนึงที่คุ้มค่า กับเงินที่เสียไปอยู่แล้ว
การปรับเพิ่มขึ้น นั้น ถ้ารถไม่ใช่รถแข่ง ก็มีแต่พังกับพังครับ
ถ้ามีกล่องเดียว (ยก) ก็จะจ่ายน้ำมันให้มากขึ้นในระดับนึง ที่ให้อัตราเร่งที่มันส์กว่าเดิม
การเพิ่มมากไป น้ำมันจะมากเกิน น้ำมันเครื่องสกปรก เขม่ามาก เปลืองน้ำมัน
ถ้ามีสองกล่อง (ยกและดัน) สามารถปรับการทำงานของกล่องทั้งสองใบให้มากกว่าการมีใบเดียวได้
เพราะการทำงานที่เอิ้อประโยชน์กัน ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีถึงดีมาก ครับ
ขอบคุณครับน้านุ๊ก ถ้างันผมลดดันรางก่อนแล้วเลือกโปรแกรมยกหัวฉีดเอาเบอร์2แล้วค่อยๆเพิ่มดันรางทีละนิดดีมั้ยครับ
siwakorn8511
18-03-2010, 11:36
เอ้าใครอยากแรง.....ก็จัดกันไปครับ สำหรับผมขอแบบบ้านๆๆก็พอ
ต้องดูอาการครับน้า ว่าไอ้ที่ไม่เดินมันมาจากอะไร คลัตช์ หรือระบบน้ำมัน รวมไปถึงอากาศ และการระบายไอเสีย
เอาสเตปง่ายๆก่อน ให้สังเกตุว่า ควันดำมากมั้ย "มีเสียงรางดรอป หรือไม่" แนะนำได้ดังนี้ สำหรับรถสมบูรณ์นะครับ
1.ปรับสเตปการยกหัวฉีด ให้สัมพันธ์กันระหว่าง โหลด กับคันเร่งและบูสท์
2.ปรับดันรางเพื่อไปชดเชยการจ่ายน้ำมันที่มากขึ้นของการยกหัวฉีด
3.ปรับบูสท์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน หัวฉีด และเทอร์โบ อะไร
เมื่อเซทให้แมทช์กันแล้ว นิสัยของรถ จะเป็นรถที่ขับง่าย และสนุก
อาจไม่ใช้สูตรแรงที่สุด แต่รับรองว่า ขับสนุกที่สุดครับ
น้านุ๊กครับแล้วเสียงรางดรอปเป็นยังไงอ่ะครับ???
Nuk_Black-Triton
18-03-2010, 11:49
ขอบคุณครับน้านุ๊ก ถ้างันผมลดดันรางก่อนแล้วเลือกโปรแกรมยกหัวฉีดเอาเบอร์2แล้วค่อยๆเพิ่มดันรางทีละนิดดีมั้ยครับ
จริงๆแล้วน้าควรจูนตารางใหม่ครับ
สเตปบ้านๆ ก่อนนะครับ สำหรับรถสองกล่อง
1.น้าจูนดันรางง่ายๆก่อน แบบเรียบๆ ที่ประมาณ 20% บูสท์คัท เป็นค่าเริ่มต้นก่อน
2.เปิดตารางการยกหัวฉีด โดยเพิ่มการยกรอบต้นมานิดหน่อยก่อน จะทำให้ออกตัวง่าย
และเพิ่มปริมาณน้ำมันช่วง 1800-2800 รตน.มากหน่อย จะทำให้หลังติดเบาะ
หลัง 2800 รตน.ไปแล้ว โบเดิม มันจะหมดลม ก็ลดน้ำมันลงมาหน่อย ประหยัดนิดๆ
เพราะยัดมากไป มันก็ไม่เดินครับ แถมควันก็ดำ (ยัดน้ำมันมากไป วิ่งไม่ออกครับ)
3.เริ่มจูนบูสท์คัท เอาให้ปริ่มๆ โบเดิมบูสท์ ไม่เกิน 22 กำลังงาม รถบ้านๆ
ให้จูนบูสท์คัท หลอกช่วงปลายๆ ถ้ากล่องหลักดรอปน้ำมันลง ให้เพิ่มน้ำมันที่กล่องยกครับ
รถผมไม่ได้แรงอะไรนะครับ ผมจูนแบบใช้ขับสนุกๆ เฉยๆ เทคนิค คงไม่เหมือนกับรถแข่งนะครับ
Nuk_Black-Triton
18-03-2010, 11:54
น้านุ๊กครับแล้วเสียงรางดรอปเป็นยังไงอ่ะครับ???
น้าคุ้นชิน กับเสียงเขกของการดันรางใช่หรือไม่ ถ้าใช่
1.เสียงเขกนั้น มันจะหายไปช่วงเวลานึง พร้อมกับควันไอเสียที่มากขึ้น รถไม่ค่อยเดินด้วย
2.ให้ปรับการดันรางเพิ่มขึ้นในแนวเรียบ เพิ่มขึ้น ประมาณ 3-5% จนเสียงนั้น น้อยลง หรือต่อเนื่อง
3.การปรับจูนหนักมาก อาการนี้ ไม่หายขาด ต้องไปแก้ที่การโมปั้มครับ
ผมอ้างอิงจากรถผมเองนะ เครื่องเดิม เกียร์ออโต้ ล้อ 20 รถพร้อมคนขับ 2 ตันกว่าๆ
วิ่ง 1/4 ไมล์ แบบจูนไม่ได้เรื่อง น้ำมันเกียร์เน่า กล่องไม่ได้จูน (ดันรางอย่างเดียว)
วิ่งได้ระดับ 17 วิครับ
หลังจูนมาใหม่สเตปนี้ ไม่เคยเข้าสนามเลย แต่มั่นใจว่า เวลาดีกว่าเดิมแน่นอนครับ
Nuk_Black-Triton
18-03-2010, 11:57
เอ้าใครอยากแรง.....ก็จัดกันไปครับ สำหรับผมขอแบบบ้านๆๆก็พอ
ดูจากเท้าป๋าแล้ว ผมว่า....
......ดันราง สักใบ ถ้าจะดี .......
:i39:
จริงๆแล้วน้าควรจูนตารางใหม่ครับ
สเตปบ้านๆ ก่อนนะครับ สำหรับรถสองกล่อง
1.น้าจูนดันรางง่ายๆก่อน แบบเรียบๆ ที่ประมาณ 20% บูสท์คัท เป็นค่าเริ่มต้นก่อน
2.เปิดตารางการยกหัวฉีด โดยเพิ่มการยกรอบต้นมานิดหน่อยก่อน จะทำให้ออกตัวง่าย
และเพิ่มปริมาณน้ำมันช่วง 1800-2800 รตน.มากหน่อย จะทำให้หลังติดเบาะ
หลัง 2800 รตน.ไปแล้ว โบเดิม มันจะหมดลม ก็ลดน้ำมันลงมาหน่อย ประหยัดนิดๆ
เพราะยัดมากไป มันก็ไม่เดินครับ แถมควันก็ดำ (ยัดน้ำมันมากไป วิ่งไม่ออกครับ)
3.เริ่มจูนบูสท์คัท เอาให้ปริ่มๆ โบเดิมบูสท์ ไม่เกิน 22 กำลังงาม รถบ้านๆ
ให้จูนบูสท์คัท หลอกช่วงปลายๆ ถ้ากล่องหลักดรอปน้ำมันลง ให้เพิ่มน้ำมันที่กล่องยกครับ
รถผมไม่ได้แรงอะไรนะครับ ผมจูนแบบใช้ขับสนุกๆ เฉยๆ เทคนิค คงไม่เหมือนกับรถแข่งนะครับ
น้านุ๊กครับ กล่องยกผมเปลี่ยนตารางน้ำมันไม่ได้ครับแต่มี3สเต็ปให้เลือกเท่านั้นทีทำได้ก็ปรับดันรางกับปลดบูชครับน้า
joetriton
18-03-2010, 12:03
ตานุ๊กกกสุดหล่อ ถ้าอุดท้ายราง จะดีมั๊ยค๊าบ:4-9:
Nuk_Black-Triton
18-03-2010, 12:08
ตานุ๊กกกสุดหล่อ ถ้าอุดท้ายราง จะดีมั๊ยค๊าบ:4-9:
อุดแล้วดัน ก็ดีครับน้า หมดปัญหาเรื่องไฟโชว์ไปเลย เหมาะกับน้าเท้าหนักๆครับ
แต่ถ้าระบบขัดข้องขึ้นมา ก็งานเข้าเอาง่ายๆเหมือนกันครับ
1.ถ้าทำไม่เกินพอดี ผมว่า แค่ชิมท้ายก็พอครับ
2.ถ้าวสเตปเทพ จูนแข่ง แช่ตลอด มั่นใจในรถมากๆ ก็ อุดไปโลดครับ
Nuk_Black-Triton
18-03-2010, 12:10
น้านุ๊กครับ กล่องยกผมเปลี่ยนตารางน้ำมันไม่ได้ครับแต่มี3สเต็ปให้เลือกเท่านั้นทีทำได้ก็ปรับดันรางกับปลดบูชครับน้า
งั้นก็ลองเล่นดูเลยครับ
หนุกๆ ขำๆ
ตั้งแต่จูนกล่องใช้ในรถมาเนี่ย ค่าตาราง ผมมีเป็น 20 ค่า แล้วมั้งเนี่ย
งั้นก็ลองเล่นดูเลยครับ
หนุกๆ ขำๆ
ตั้งแต่จูนกล่องใช้ในรถมาเนี่ย ค่าตาราง ผมมีเป็น 20 ค่า แล้วมั้งเนี่ย
ขอบคุณน้านุ๊กมากครับแล้วผมจะลองไล่ดูครับ น้านุ๊กมาบ้านน้าวุฒิบ่อยมั้ยครับแล้วน้าไปงานน้าเอชนินทร์รึป่าวครับ
Nuk_Black-Triton
18-03-2010, 13:42
ขอบคุณน้านุ๊กมากครับแล้วผมจะลองไล่ดูครับ น้านุ๊กมาบ้านน้าวุฒิบ่อยมั้ยครับแล้วน้าไปงานน้าเอชนินทร์รึป่าวครับ
บ้านน้าวุฒิ ผมไปบ่อยครับ
ส่วนงานน้าเอ ไปไหนกันหรือ ผมไมรู้เรื่องง่ะ
บ้านน้าวุฒิ ผมไปบ่อยครับ
ส่วนงานน้าเอ ไปไหนกันหรือ ผมไมรู้เรื่องง่ะ
งานแต่งครับ วันที่27มีนาคม2553 ดูรายละเอียดกระทู้น้าวุฒิครับ ห้องประกาศ ประชาสัมพันธ์ จุดนัดพบ
น้าโระมาที่น้านุ๊กบอกครับ ว่างๆเติมน้ำมันเต็มถังแล้ววิ่งไปจูนใหม่ครับ ขอเวลาสักครึ่งคืนเอาเนียนๆครับสงสัยอะไรถามตัวแทนเขาครับน้าดีที่สุด จูนแบบไหน เอายังไง ขับแบบไหน บอกเขาครับ
ดันน้อยๆยกตามเท้าครับ
ส่วนดันรางมากๆ ก็รางแตกครับ อัพเดรท อู่ดัง มือจูนขั้นเทพ
บ้านน้าวุฒิ ผมไปบ่อยครับ
ส่วนงานน้าเอ ไปไหนกันหรือ ผมไมรู้เรื่องง่ะ
กาดร์เชิญก็ได้ อยู่ในรถ มอไซด์น้ารึเปล่า อีนี่ ทุกทีเล้ยยย
chaiyasit
18-03-2010, 22:06
1).ปั๊มอัดความดันเข้าราง-
2).รางเปรียบได้ดังเฮดเดอร์-
3).เฮดเดอร์เก็บไว้ส่งให้วาล์วหัวฉีด(Coil.ไฟฟ้าสั่งด้วยECU)-
4).ECUสั่งฉีดตามเวลา..??..ถ้าต้องการให้นานขึ้นก็หน่วงเวลาฉีด(เรียกเท่ๆว่ายกหัวฉีด+มีกล่องขายตามท้องตลาดด้วยจิ)
...ผมเข้าใจถูกหรือผิดครับน้า ไม่รู้จิงๆขอแจมครับ...
aj anucha
18-03-2010, 23:00
ถามหน่อยครับ โมปั๊มเดิมแล้วดีอย่างไง.......
น้าโระมาที่น้านุ๊กบอกครับ ว่างๆเติมน้ำมันเต็มถังแล้ววิ่งไปจูนใหม่ครับ ขอเวลาสักครึ่งคืนเอาเนียนๆครับสงสัยอะไรถามตัวแทนเขาครับน้าดีที่สุด จูนแบบไหน เอายังไง ขับแบบไหน บอกเขาครับ
ดันน้อยๆยกตามเท้าครับ
ส่วนดันรางมากๆ ก็รางแตกครับ อัพเดรท อู่ดัง มือจูนขั้นเทพ
ขอบคุณครับน้าวุฒิ ณ ตอนนี้ผมลองดูก่อนนะครับ กว่าจะได้ไปจูนไม่ค่อยมีเวลาครับน้า ตอนนี้ลองโปรแกรม 2 ครับ(ยกหัวฉีด) ควันน้อยกว่าโปรแกรม3 แต่ช่วงยกคันเร่งแล้วกดใหม่มันมาช้ากว่าโปรแกรม 3 มากครับ แต่โปรมแกรม 3 มาดีแต่ควันท่วมถนนเลยครับ ตอนนี้ปรับกล่องดันรางประมาณ 40 เปอร์เซนต์ครับน้า แล้วช่วงรอบต่ำแต่กดคันเร่งมากๆจะมีเสียงครืดๆอ่ะครับ ผมว่ามันมาจากการปรับดันรางครับ ไม่รู้ว่าเสียงนี้มันปกติมั้ยครับ :smiley-transport021
ขอชื่นชม
ความอื้อฟื้อที่น้านุ๊ก มีให้ผองเพื่อน อย่างเสมอต้น เสมอปลาย
รักษาคนใจดี ให้คนใจดีมีกำลังใจ ไปตลอดครับ
ด้วยใจนับถือครับจากใจ
ยรรยงค์
ขอบคุณครับน้าวุฒิ ณ ตอนนี้ผมลองดูก่อนนะครับ กว่าจะได้ไปจูนไม่ค่อยมีเวลาครับน้า ตอนนี้ลองโปรแกรม 2 ครับ(ยกหัวฉีด) ควันน้อยกว่าโปรแกรม3 แต่ช่วงยกคันเร่งแล้วกดใหม่มันมาช้ากว่าโปรแกรม 3 มากครับ แต่โปรมแกรม 3 มาดีแต่ควันท่วมถนนเลยครับ ตอนนี้ปรับกล่องดันรางประมาณ 40 เปอร์เซนต์ครับน้า แล้วช่วงรอบต่ำแต่กดคันเร่งมากๆจะมีเสียงครืดๆอ่ะครับ ผมว่ามันมาจากการปรับดันรางครับ ไม่รู้ว่าเสียงนี้มันปกติมั้ยครับ แล้วกล่องยกหัวฉีดนี่ผมว่าเค้าน่าจะให้ โปรแกรมมาจูนเอาเอง จะได้ทำเองลองเองเลย ผมได้อ่านหนังสือรถแต่งเล่มหนึ่งมีวิธีการจูนกล่องยกหัวฉีดด้วย ไม่รู้ว่าเข้าจะบอกวิธีจูนทำไมในเมื่อเค้าก็ไม่ได้ให้โปรมกรมมาจูนเอง:i41: ผมก็เลยต้องลองปรับดันรางเอาอ่ะครับน้าวุฒิ:smiley-transport021
เสาร์นี้ถ้าว่างเจอกันที่เทพนครน่ะครับพี่โระ
Nuk_Black-Triton
19-03-2010, 10:20
กาดร์เชิญก็ได้ อยู่ในรถ มอไซด์น้ารึเปล่า อีนี่ ทุกทีเล้ยยย
ไม่มีง่ะ มาช้า เป็นคนที่ถูกลืม :emo021vj6:
Nuk_Black-Triton
19-03-2010, 10:28
กาดร์เชิญก็ได้ อยู่ในรถ มอไซด์น้ารึเปล่า อีนี่ ทุกทีเล้ยยย
ขอบคุณครับน้าวุฒิ ณ ตอนนี้ผมลองดูก่อนนะครับ กว่าจะได้ไปจูนไม่ค่อยมีเวลาครับน้า ตอนนี้ลองโปรแกรม 2 ครับ(ยกหัวฉีด) ควันน้อยกว่าโปรแกรม3 แต่ช่วงยกคันเร่งแล้วกดใหม่มันมาช้ากว่าโปรแกรม 3 มากครับ แต่โปรมแกรม 3 มาดีแต่ควันท่วมถนนเลยครับ ตอนนี้ปรับกล่องดันรางประมาณ 40 เปอร์เซนต์ครับน้า แล้วช่วงรอบต่ำแต่กดคันเร่งมากๆจะมีเสียงครืดๆอ่ะครับ ผมว่ามันมาจากการปรับดันรางครับ ไม่รู้ว่าเสียงนี้มันปกติมั้ยครับ แล้วกล่องยกหัวฉีดนี่ผมว่าเค้าน่าจะให้ โปรแกรมมาจูนเอาเอง จะได้ทำเองลองเองเลย ผมได้อ่านหนังสือรถแต่งเล่มหนึ่งมีวิธีการจูนกล่องยกหัวฉีดด้วย ไม่รู้ว่าเข้าจะบอกวิธีจูนทำไมในเมื่อเค้าก็ไม่ได้ให้โปรมกรมมาจูนเอง:i41: ผมก็เลยต้องลองปรับดันรางเอาอ่ะครับน้าวุฒิ:smiley-transport021
ตามหลักการ น้าปรับแรงดันรางมากๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดี เนื่องจากความเครียดในระบบมีสูงครับ
ความสึกหรอตามมามากกว่าที่คิดครับ
ผมแนะนำวิธีการดูควันและการดมควันนะครับ
1.ควันดำไหลเป็นรถขายไก่ กลิ่นน้ำมันยังไม่สุก แปลว่า น้ำมันในระบบมากเกินไป ให้ลดน้ำมันลง
มากไป วิ่งไม่ออก และแรงจ่านน้ำมันในระบบลดลง
2.ควันดำออกพุ่งเป็นลำๆ เกิดจาก แรงดันรางจ่ายมากเกินไป รถวิ่งไม่ออก เนื่องจากแรงดันสูง
แต่น้ำมันเปิดน้อย
3.ควันดำลอยขึ้นบนอย่างรวดเร็ว เหมือนเป็นฝุ่นผงลอยไปในอากาศ กลิ่นน้ำมันเหม็น และสุกดี
และควันแบบนี้จะเกิดเมื่อ กดคัรเร่งช่วงกวนทีน หรือแซงกระชั้น แปลว่า จูนหนัก แต่ส่วนผสมดี
เปลืองหน่อยแต่วิ่ง
4.ควันสีเทาบางๆ และลอยขึ้นบนอย่างรวดเร็ว คือการจูนที่ถูกต้อง ใช้น้ำมันคุ้มค่า
เมื่อขับขี่แบบปกติ
ส่วนตัวผมจูนควันเทาๆ เวลาซ่านิดๆ และเมื่อกดคันเร่งจม จะเปลี่ยนสีควันเป็นดำ ในบัดดล
ผมจูนไว้เล่นช่วงออกตัว - 160 เองนะครับ
อย่าหวังว่ารถผมจะได้ 200 เพราะอุปกรณ์ต้านลมผมมีเพียบ (แรค+โรลบาร์)
Nuk_Black-Triton
19-03-2010, 10:34
1).ปั๊มอัดความดันเข้าราง-
2).รางเปรียบได้ดังเฮดเดอร์-
3).เฮดเดอร์เก็บไว้ส่งให้วาล์วหัวฉีด(Coil.ไฟฟ้าสั่งด้วยECU)-
4).ECUสั่งฉีดตามเวลา..??..ถ้าต้องการให้นานขึ้นก็หน่วงเวลาฉีด(เรียกเท่ๆว่ายกหัวฉีด+มีกล่องขายตามท้องตลาดด้วยจิ)
...ผมเข้าใจถูกหรือผิดครับน้า ไม่รู้จิงๆขอแจมครับ...
น้าเข้าใจถูกครับ
แต่คำว่า เฮดเดอร์ นั้น เป็นศัพท์ เฉพาะ สำหรับระบบไอเสียในรถยนต์
จริงๆแล้วคำนั้น ภาษาไทย เรียกว่า รางร่วมครับ เป็นที่มาของคำว่า Commonrail ครับ
Commonrail เป็นรางร่วมเพื่อกักเก็บน้ำมัน ความดันสูงไว้จ่ายให้ระบบหัวฉีด Piezo ที่ควบคุม
ด้วยระบบไฟฟ้า สั่งการจากสมองกล ECU ที่กำหนดเวลาเปิดปิดหัวฉีดได้อย่างแม่นยำ
และตรงกับความต้องการ ผสานกับระบบ เทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่อัดอากาศเข้ามาให้รุนเรง
กับน้ำมันที่มีแรงฉีดมหาศาล ทำให้เกิดการเผาไหม้อย่างรุนแรง กำลังที่ได้ จึงสูงกว่าแบบกลไกเดิมๆ
และส่งผลให้การเผาไหม้ สะอาด ได้พลังแรง จึงทำให้ระบบคอมมอนเรลนั้น
สามารถทำให้ ประหยัดกว่าระบบกลไกปั๊ม VE ได้ถึง 30% ครับ
ระบบคอมมอนเรลได้พิสูจน์แล้วว่า ความแรงและความประหยัด ไปด้วยกันได้
Nuk_Black-Triton
19-03-2010, 10:36
ขอชื่นชม
ความอื้อฟื้อที่น้านุ๊ก มีให้ผองเพื่อน อย่างเสมอต้น เสมอปลาย
รักษาคนใจดี ให้คนใจดีมีกำลังใจ ไปตลอดครับ
ด้วยใจนับถือครับจากใจ
ยรรยงค์
ขอบคุณน้าเช่นกันครับ
ที่มีความรู้ในสิ่งที่ผมไม่เคยคิดว่า จะได้รู้ครับ
ขอเป็นกำลังใจให้น้าด้วยครับ
ด้วยความนับถือ
นุคครับ :smiley-eatdrink042:
Nuk_Black-Triton
19-03-2010, 10:37
น้าโระมาที่น้านุ๊กบอกครับ ว่างๆเติมน้ำมันเต็มถังแล้ววิ่งไปจูนใหม่ครับ ขอเวลาสักครึ่งคืนเอาเนียนๆครับสงสัยอะไรถามตัวแทนเขาครับน้าดีที่สุด จูนแบบไหน เอายังไง ขับแบบไหน บอกเขาครับ
ดันน้อยๆยกตามเท้าครับ
ส่วนดันรางมากๆ ก็รางแตกครับ อัพเดรท อู่ดัง มือจูนขั้นเทพ
เห็นด้วยครับ
Nuk_Black-Triton
19-03-2010, 12:29
ถามหน่อยครับ โมปั๊มเดิมแล้วดีอย่างไง.......
ซุ่มอีกแระ
ตามความเข้าใจของผมนะ
มันจะทำให้ปั๊มสร้างแรงดันได้เร็วขึ้น
แต่ก็เพิ่มความเครียดมากขึ้น
เหมาะกับรถ จูนหนัก โบใหญ่ หัวฉีดโต อย่างรถท่านน่ะแหละ :kapook-17351-2909:
myjoefiend
19-03-2010, 13:33
ว้าวๆๆๆแรงกันจังอิจฉาจริงรถเราใส่อะไรกับชาวบ้านไม่ได้เลย น้อยใจจริงๆเลย ยังไงก็ใจเย็นๆหาวิธีการและสูตรการปรับตามแนวขับขี่และรถของตัวเองให้ได้ไวๆด้วยน๊ะคับ เพราะรถแต่ละคัน คนแต่ละคนขับ ทั้งความแรงและความประหยัดมันต่างกันครับ ยังไงต้องค่อยๆปรับครับใจเย็นๆ ถ้านวณแรงของรถตัวเองได้ยิ่งสบายเลย ทั้งเรื่องยาง น้ำหนักรถ อุปกรณ์ต้านลม แรงดันลมยาง จุดศูนย์ถ่วง ที่สำคัญแนวการขับขี่และฝีมือของคนขับ ยังไงซะ ติดดิน 200+ สู่งๆ 180+ ได้กันสบายครับ แค่นี้ผมก็ว่ามีความเสี่ยงสูงกับชีวิตและเครื่องยนต์กันแล้วน๊ะครับขอบอก นอกจากอัพให้หนักขึ้นกว่าเดิม (งานนี้ใช้งบบานเลย) หรือลดน้ำหนักรถให้ได้น้อยลงกว่าเดิม(อันนี้เป็นไปไม่ได้แน่นอนนอกจากเปลี่ยนตัวกระบะหลังเป็นไฟเบอร์ทั้งดุ้น แล้วโมภายในใหม่) ลองหาวิธีดูน๊ะครับ สู้ๆครับ จะได้ถูกใจ อิอิ
ตามหลักการ น้าปรับแรงดันรางมากๆ ไม่ได้ก่อให้เกิดผลดี เนื่องจากความเครียดในระบบมีสูงครับ
ความสึกหรอตามมามากกว่าที่คิดครับ
ผมแนะนำวิธีการดูควันและการดมควันนะครับ
1.ควันดำไหลเป็นรถขายไก่ กลิ่นน้ำมันยังไม่สุก แปลว่า น้ำมันในระบบมากเกินไป ให้ลดน้ำมันลง
มากไป วิ่งไม่ออก และแรงจ่านน้ำมันในระบบลดลง
2.ควันดำออกพุ่งเป็นลำๆ เกิดจาก แรงดันรางจ่ายมากเกินไป รถวิ่งไม่ออก เนื่องจากแรงดันสูง
แต่น้ำมันเปิดน้อย
3.ควันดำลอยขึ้นบนอย่างรวดเร็ว เหมือนเป็นฝุ่นผงลอยไปในอากาศ กลิ่นน้ำมันเหม็น และสุกดี
และควันแบบนี้จะเกิดเมื่อ กดคัรเร่งช่วงกวนทีน หรือแซงกระชั้น แปลว่า จูนหนัก แต่ส่วนผสมดี
เปลืองหน่อยแต่วิ่ง
4.ควันสีเทาบางๆ และลอยขึ้นบนอย่างรวดเร็ว คือการจูนที่ถูกต้อง ใช้น้ำมันคุ้มค่า
เมื่อขับขี่แบบปกติ
ส่วนตัวผมจูนควันเทาๆ เวลาซ่านิดๆ และเมื่อกดคันเร่งจม จะเปลี่ยนสีควันเป็นดำ ในบัดดล
ผมจูนไว้เล่นช่วงออกตัว - 160 เองนะครับ
อย่าหวังว่ารถผมจะได้ 200 เพราะอุปกรณ์ต้านลมผมมีเพียบ (แรค+โรลบาร์)
ขอบคุณมากครับ
chaiyasit
20-03-2010, 22:14
น้าเข้าใจถูกครับ
แต่คำว่า เฮดเดอร์ นั้น เป็นศัพท์ เฉพาะ สำหรับระบบไอเสียในรถยนต์
จริงๆแล้วคำนั้น ภาษาไทย เรียกว่า รางร่วมครับ เป็นที่มาของคำว่า Commonrail ครับ
Commonrail เป็นรางร่วมเพื่อกักเก็บน้ำมัน ความดันสูงไว้จ่ายให้ระบบหัวฉีด Piezo ที่ควบคุม
ด้วยระบบไฟฟ้า สั่งการจากสมองกล ECU ที่กำหนดเวลาเปิดปิดหัวฉีดได้อย่างแม่นยำ
และตรงกับความต้องการ ผสานกับระบบ เทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่อัดอากาศเข้ามาให้รุนเรง
กับน้ำมันที่มีแรงฉีดมหาศาล ทำให้เกิดการเผาไหม้อย่างรุนแรง กำลังที่ได้ จึงสูงกว่าแบบกลไกเดิมๆ
และส่งผลให้การเผาไหม้ สะอาด ได้พลังแรง จึงทำให้ระบบคอมมอนเรลนั้น
สามารถทำให้ ประหยัดกว่าระบบกลไกปั๊ม VE ได้ถึง 30% ครับ
ระบบคอมมอนเรลได้พิสูจน์แล้วว่า ความแรงและความประหยัด ไปด้วยกันได้
**ขอบคุณครับน้านุ๊กที่รักยิ่ง..ยิ่งคบหายิ่งรัก....**ว่างๆมาเลี้ยงเบียร์ผมมั่งดิ..:i40:...(ล้อเล่นน่ะ...มาให้ผมเลี้ยงเบียร์มั่งจิ:4-9:)**
ขับเคลื่อนระบบโดย vBulletin™ Version 4.2.5 Copyright © 2024 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.