แสดงเวอร์ชันเต็ม : มีใครเคยเสียค่าปรับข้อหาเมาแล้วขับบŭ
คือว่าเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2553 ตอนประมาณ 3 - 4 ทุ่ม เกิดอุบัติเหตุ ผมขับรถไปเสยท้ายรถเก๋งเค้าบนสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมฝั่งมาจากพระราม3 กำลังจะชิดซ้ายเข้าสุขสวัสดิ์ พอลงจากรถมากะลังจะไปเคลียร์กัน เผอิญมีตำรวจกลุ่มหนึ่งอยู่แถวนั้นพอดี ยศ สารวัตร ของสน.แห่งหนึ่ง ที่อยู่ติดกับสน.ราษฎร์บูรณะ(ไม่ขอเอ่ยชื่อ สน.) แล้ววันนั้นดื่มเบียร์มาด้วยแต่ไม่ถึงขั้นเมา(ก็หลายแก้วเหมือนกัน)
ตำรวจยศสารวัตรมาดูแล้วแล้วก็ถ่ายรูปรถผมและก็คู่กรณีไว้ แล้วก็มามาขอดูใบขับขี่ของผมและก็คู่กรณีแล้วก็ยึดเอาไป ตำรวจบอกว่า ไม่ให้จอดบนนี้ให้ไปเคลียร์กันข้างล่าง แล้วทีนี้สารวัตรคนนี้บอกให้ไปเคลียร์กันที่โรงพัก แล้วก็ขอเบอร์โทรศัพท์ผมไป พูดจาหมาไม่รับประทานมาก "มึงชนเค้ามึงผิดเต็มๆอยู่แล้ว เดี๋ยวกูจะจับมึงเป่า" ผมก็คิดว่าตำรวจคงจะได้กลินแอลกอฮอลก์ เอาละวะงานเข้าละ ผมกับรถคู่กรณี ค่อยๆ ขับไปช้าๆ แล้วคู่กรณีผม เขาออกมาดูรอยที่โดนชน ตัวถังมันไปสีกับยาง จังหวะนั้นผมก็เข้าไปคุยกับเค้า "พี่ๆ ไม่ต้องไป สน.ดีกว่ามั๊ย ถ้าไปผมซวยแน่เลย แวะจอดเรียกประกันที่ไหนก็ได้ ถ้าไป สน.โดนจับเป่าผมซวยแน่เลย" เขาก็ Ok นะ
ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกประกันอะไรเท่าไหร่ ได้แต่ขับอย่างเดียวก็เลยโทรหาพ่อมาช่วยดูด้วย พอประกันมาทั้งคู่เคลียร์กันเสร็จ สารวัตรโทรมาหาผม บอกให้ไปสน. ผมบอกกลับไปว่า เคลียร์กันรู้เรื่องแล้ว สารวัตรบอก "ไม่ได้ คุณต้องไป" ผมขี้เกียจคุยด้วย ปิดโทรศัพท์ซะเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นผมจะไปเอาใบขับขี่ แต่พอไปถึงแล้ว เจอตำรวจคนหนึ่งไม่รู้ยศอะไร บอกว่าใบขับขี่อยู่กับสารวัตร สารวัตรไม่อยู่ ให้เข้ามาเอาวันที่ 29 ตอนเช้า พร้อมกับเงินค่าปรับ 1000 บาท ข้อหาเมาแล้วขับ
อยากรู้ว่า ถ้าโดนปรับ 1000 บาทแล้ว ผมจะโดนอะไรอีกบ้าง จะโดนส่งฟ้องศาลรึเปล่า จะโดนให้บำเพ็ญประโยชน์มั๊ย... ผมมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธข้อหารึเปล่า(ก็ไม่ได้เป่านี่) ซีเรียสมากเลยครับ...
webmaster
27-10-2010, 23:05
ไม่ได้เป่า มันจะเอาหลักฐานมาจากไหนครับ
เพราะเวลาเป่ามันต้องมีสเกลปริ้นออกมา พร้อมกับให้เราเซ็นรับทราบ
เท่าที่ผมรู้มีเท่านี้ครับ
ขอบคุณครับพี่ Admin ชื่ออะไรครับ ตอบเร็วทันใจจริง
ถ้าผมปฏิเสธ ไม่ยอมจ่ายจะดีมั๊ยครับ กลัวมันจะเล่นแง่เอาข้อหาอื่นมายัดเยียดให้ผม วันนั้นมันเรียกผมให้ไปสน. แต่ผมไม่ไป ผมกลัวโดนข้อหา อย่างเช่น ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หรืออื่นๆทำนองเนี้ยอ่ะครับ
webmaster
27-10-2010, 23:23
มันจะยัดข้อหาอะไรก็ได้... ไม่ต้องรีบไปเอากลับมาหรอกครับ ใบขับขี่
ถ้าถูกเรียกตรวจครั้งต่อไปก็แจ้งไปว่า ใบขับขี่หาย กำลังจะไปแจ้งความ คอยดูว่าถ้าเราไม่มีใบขับขี่มันจะยึดอะไร และไม่ต้องเสียค่าปรับใดๆ นะครับ หรือฝากบัตรประชาชนให้มันก็ได้
ไอ้พวกเวง
webmaster
27-10-2010, 23:28
จริงๆ ก็น่าจะเรียกประกันมาตั้งแต่ตอนนั้นเลย เพราะปกติถ้ามีประกัน ก็ต้องรอจนกว่าประกันจะมาเคลียร์ให้โดยมีตำรวจเป็นคนอำนวยความสะดวกให้
แต่ถ้าเราเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุแล้ว ประกันก็จะสรุปได้ไม่ชัดเจน ตำนวดก็จะเขมือบ อีกอย่างหนึ่งถ้าเราเคลียร์กันเองได้ ก็ไม่ต้องไปเพิ่งตำนวด แต่ดันมีตำนวดมาเห็นก่อน
webmaster
27-10-2010, 23:28
ผมก็ว่าไปตามความคิดผม ไม่รู้ว่ากฎหมายจริงๆ เป็นไง
"มึงชนเค้ามึงผิดเต็มๆอยู่แล้ว เดี๋ยวกูจะจับมึงเป่า"
ไม่น่าเป็นตำรวจ น่าจะไปเป็นกุ๊ยคุมซ่อง
วันที่ 29 ว่าจะลองเข้าไปเอาดู จะพาพี่สาวกับแฟนพี่สาวซึ่งเป็นทนายด้วยกันทั้งคู่ไปด้วยครับ เก็บไว้นานกลัวหาย บัตรอยู่กับตัวสารวัตร ไม่กล้าไปเอาคนเดียว
bigmtts43
27-10-2010, 23:42
มันก็คงขู่ไปงั้นละครับเงินค่าเหล้าพวกมัน...แต่มันจะเอาหลักฐานที่ไหนมาว่าเราดื่มในเมื่อเราไม่ได้เป่านิครับ ทำแบบนี้ดีแล้วครับรู้ทันเกมส์มัน
พวกนี้เงินเดือนไม่พอยาไส้ครับถึงต้องเอาของในมือมาหากินแบบนี้ไง
เมียทหารนั่งนับขวด(เพราะไม่รู้จะไปหากินกับคนอื่นยังไง) เมียตำรวจนั่งนับแบงค์(เพราะอะไรก็เห็นๆกันอยู่ครับ)
ที่ชนกัน มันอยู่บนสะพาน ตำรวจมันไม่ให้จอดมันให้ไปเคลียร์กันที่อื่น วันนั้นไปตกลงกันตรงซุ้มประตูเมืองพระประแดง เรียกประกันตั้งนานกว่าจะมาได้ ทำท่าจะไม่มาด้วยสิบอกว่าฝนตนหนักมาไม่ได้ ผมก็ยอมรับว่าผมผิดจริงๆ ขับมาเร็ว เบรคไม่ทันจริงๆ (เบรคแล้วแต่ช้าไปหน่อย)และผมก็กินเบียร์มาเยอะด้วยไม่อยากเถียงกับเขามาก ถ้าเขาเรื่องขึ้นมาผมจะยิ่งซวยเขาก็คุยง่ายดีนะยอมไม่ไป สน. รถเก๋ง Altis ท้ายด้านขวาพังไปเยอะเหมือนกัน แต่ Triton ผม แก้มซ้าย เยินไปหน่อย กันชนฉีกหน่อยนึง รถผมประกันชั้น 1 Tokio Marine ศรีเมือง
ขอบคุณทุกความคิดครับ คืนนี้ขอนอนก่อนครับ ราตรีสวัสดิ์
ถือว่าเป็นประสบการณ์นะครับ
เมาไม่ขับ
แต่ถ้าจำเป็นต้องขับจริงๆ ต้องใส่ความระมัดระวัง ขึ้นจากเดิมอีก หลายๆเท่า
bomgrade
28-10-2010, 08:11
ม่ะต้องเสียครับ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรเลย เป่าก็ไม่ได้เป่า แล้วก็เจ้าทุกข์ไม่ได้ลงบันทึกประจำวันเลยไม่ต้องเสียครับ ถ้าตกลงกันไม่ได้แล้วลงบันทึกประจำวันก็ 400-500 บาทครับ แต่นี่เคลียร์กันได้และยังไม่ได้เป่าอีก มันไม่มีหลักฐานขอใบขับขี่คืนได้เลยครับ แต่อาจจะต้องเสียเวลาไปเถียงกับตำรวจสักหน่อย เพราะเค้าก็พยายามหาข้อเล่นคุณ ก็บอกปัดไป เถียงไม่เลยครับ เราชนะใสๆ เพราะไม่มีหลักฐานครับ
Aong_Chelsea
28-10-2010, 08:44
ถ้าเขาให้เสีย ก้ ถามหาหลักฐาน ครับ อันนี้พอเลี่ยงได้ แต่ ที่มันเรียกแล้วไม่ไปนี่สิ อันนี้ไม่รู้เหมือนกันครับ วันหลังชนนะครับ ให้เรียกประกันก่อน ถ้าตำรวจมา กะบอกว่า มีอะไรคุยกับประกัน ผมได้เลย อันนี้ ลองอ่านดูครับ ยาวไปหน่อยนะครับ
วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
1. โทรแจ้งบริษัททันที จดชื่อผู้รับพร้อมแจ้งเลขกรรมธรรมของท่าน
2. จดชื่อที่อยู่ของผู้ขับขี่ และทะเบียนรถฝ่ายตรงข้าม
3. ห้ามตกลงหรือยินยอม หรือสัญญาว่าจะชดใช้ใด ๆก่อนได้รับความเห็นชอบจากบริษัทฯ
4. กรณีการจัดซ่อมรถประกันต้องทำการตกลงราคา ค่าซ่อมกับทางบริษัทฯก่อน หรือเข้าซ่อมอู่ในเครือของบริษัทฯ
5. กรณีเกิดเหตุต่างจังหวัด ให้ติดต่อสายตรงแจ้งเหตุ หรือสำนักงานสาขาของบริษัทฯ ที่ใกล้ที่สุด
6. แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีทันทีหากมีผู้กระทำให้รถของท่าน ได้รับความเสียหาย
7. กรณีรถของท่านอยู่ในสัญญาน็อคฟอร์น็อคให้ปฏิบัติดังนี้ • ตรวจฝ่ายตรงข้ามว่ามีเอกสารสำคัญ ใช้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ(ใบสีเหลือง) หรือไม่ • หากพบว่ามีให้เจรจาหาข้อสรุปว่าใครผิดใครถูก • ลงลายมือในช่องฝ่ายถูกหากท่านเป็นฝ่ายถูกหรือ ลงลายมือในช่องฝ่ายผิดหากท่านเป็นฝ่ายผิด • แลกเอกสารดั่งกล่าวซึ่งกันและกัน • นำเอกสารที่แลกกันแล้วนั้นติดต่อบริษัทประกันภัยของท่านทันที • ท่านสามารถแยกรถออกจากกัน และต่างฝ่ายต่างแยกออกจากันได้ทันที โดยไม่ต้องรอบริษัทประกัน
8. หากไม่เข้าใจควรติดต่อบริษัทฯ เพื่อความชัดเจนต่อไป โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของบริษัทฯ ทำอย่างไร เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้การจัดการอุบัติเหตุแต่ละครั้งเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โปรดใช้แนวทางในการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้ ก. ในที่เกิดเหตุ... ข. ข้อมูลที่ควรเตรียมไว้แจ้งอุบัติเหตุต่อบริษัทฯ... ค. การซ่อมรถประกัน... ง. บริการรถยก.... ก. ในที่เกิดเหตุ... หากรถคู่กรณีเป็นรถสี่ล้อที่ทำประกันภัย ประเภท
1 ที่มีเอกสาร Knock for Knock (ไม่ว่าจะเป็นบริษัทฯ ใดก็ตามแต่) โดย - เป็นรถสี่ล้อที่มีน้ำหนักรถรวมบรรทุกไม่เกิน 3 ตัน หรือ - รถที่จดทะเบียนที่นั่งไม่เกิน 15 ที่นั่ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกให้ออกเอกสาร "KNOCK FOR KNOCK" ให้คู่กรณีได้เลย โดยปฏิบัติดังต่อไปนี้
1.1 กรอกข้อความรายละเอียดต่าง ๆ ลงในเอกสาร "KNOCK FOR KNOCK" ให้ครบถ้วน
1.2 ให้ผู้ขับขี่ทั้งสองฝ่าย ลงลายมือชื่อในเอกสาร แล้วแลกเปลี่ยนกับเอกสารของคู่กรณี
1.3 แยกย้ายจากที่เกิดเหตุได้ทันที
1.4 นำเอกสารที่ได้จากคู่กรณี มาติดต่อบริษัทฯ เพื่อดำเนินการแจ้งเหตุและจัดซ่อมต่อไป กรณีตกลงกันไม่ได้ว่า ใครเป็นฝ่ายผิดใครเป็นฝ่ายถูกให้ดำเนินการดังนี้ - ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำเครื่องหมาย ณ ที่เกิดเหตุ แล้วเคลื่อนรถออกจากที่เกิดเหตุ - แจ้งบริษัทฯ โดยทันที หากรถคู่กรณีไม่มีประกัน หรือมีประกันภัยประเภทอื่น ที่มิใช่ประเภท 1 ให้ออกเอกสาร "ใบยินยอมรับผิด" ให้คู่กรณีโดยมีวิธีปฏิบัติดังนี้ หากท่านเป็นฝ่ายผิด - ให้ท่านกรอกรายละเอียดลงในใบยินยอมรับผิดและลงชื่อท่าน - กรอกรายละเอียดของคู่กรณี , รายละเอียดความเสียหาย และให้คู่กรณีลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน - ฉีกตัวจริงให้คู่กรณี เพื่อมาติดต่อบริษัทฯ ต่อไป หากท่านเป็นฝ่ายถูก - ให้คู่กรณีกรอกรายละเอียด หรือท่านกรอกเอง - ลงชื่อทั้งคู่ไว้เป็นหลักฐาน ฉีกสำเนาให้คู่กรณี และเก็บตัวจริงไว้เพื่อติดต่อบริษัทฯ ต่อไป - หากท่านมีข้อสงสัย โปรดติดต่อ โทร. 0-2640-7777 กรณีมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต หรือกรณีนอกเหนือจากข้างต้น ต้องโทรศัพท์แจ้งให้บริษัทฯ ทราบโดยทันที เพื่อบริษัทฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกให้บริการต่อไป 3.1 หากท่านถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจ และท่านได้ซื้อความคุ้มครองการประกันตัวในคดีอาญาไว้ โปรดแจ้งให้บริษัทฯ ทราบทันที เพื่อจะได้นำหลักทรัพย์มาประกันตัวท่านโดยเร็วที่สุด 3.2 พนักงานสอบสวนไม่มีสิทธิที่จะควบคุมตัวท่านได้หากไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ สาหัส ที่ต้องทำการรักษาตัวเกินกว่า 20 วัน 3.3 หากเกิดเหตุแล้วท่านหลบหนี ตามกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าท่านผิด หากถูกชนแล้วคู่กรณีหลบหนี หากท่านทราบหมายเลขทะเบียนรถคู่กรณี ให้ท่านแจ้งความร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ โดยระบุในใบแจ้งความว่า เพื่อดำเนินคดี (ห้ามระบุว่าแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานเท่านั้น) กรณีรถหาย - รีบแจ้งให้บริษัทฯ ทราบทันที - รีบแจ้ง ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ (ศปร.) โทร. 245-9059 ,245-6951 ข.ข้อมูลที่ควรเตรียมไว้แจ้งอุบัติเหตุต่อบริษัทฯ... ท่านควรจัดเตรียมรายละเอียดได้แจ้งเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ เพื่อมิให้เกิดความล่าช้า หรือขลุกขลัก ดังต่อไปนี้ ชื่อผู้เอาประกันภัย และหมายเลขกรมธรรม์ เลขทะเบียน ยี่ห้อ และสีของรถประกัน ชื่อคนขับ และสาเหตุการเกิดโดยย่อ สถานที่เกิดเหตุ จุดที่สังเกตุเห็นได้ชัด และจุดนัดหมาย (กรณีต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัท) ถามชื่อผู้รับแจ้ง พร้อมเวลาที่แจ้ง หมายเหตุ สำหรับข้อ 4.5 มีความจำเป็นมาก หากเจ้าหน้าที่ทราบชัดเจนมากเท่าไหร่ก็จะไปถึงได้เร็วขึ้นและเป็นการระบุ บุคคลที่รับแจ้งผู้ซึ่งต้องรับผิดชอบท่านในเบื้องต้น ค. การซ่อมรถประกัน... บริษัทฯ จะจัดซ่อมรถของท่านตามอู่ที่บริษัทฯ ได้คัดเลือกไว้ ดังมีระบุไว้ในสมุดเล่มนี้ หากท่านประสงค์จะซ่อมรถที่อู่ท่านเลือกเอง โปรดแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบพร้อมยื่นใบเสนอราคาต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะจ่ายเป็นเงินตามราคาประเมินของอู่บริษัทฯ อะไหล่ชิ้นใด บริษัทฯ จะพิจารณาเปลี่ยนใหม่ให้กรณีที่ความเสียหายของชิ้นนั้นเกินกว่า 50% เท่านั้น ก่อนส่งรถเข้าซ่อม โปรดตรวจสิ่งของที่อยู่ในรถ ก่อนเซ็นรับรถเมื่อซ่อมเสร็จโปรดตรวจผลการซ่อมอย่างละเอียดไม่ควรตรวจดูรถใน สถานที่แสงสว่างไม่ชัดเจน หากพบว่าการซ่อมไม่เรียบร้อยอย่าเซ็นรับรถและรีบแจ้งบริษัทฯ ทันที ท่านมีสิทธิตรวจสอบรายการซ่อม/เปลี่ยน จากอู่ได้ทุกเวลา หากอู่ซ่อมล่าช้ากว่ากำหนด แจ้งบริษัทฯ ได้ทันที และไม่ควรเร่งอู่จนเกินไปกว่าเวลาอันควร เพราะอาจเกิดผลเสียหายต่อสีที่ซ่อมได้ ง. บริการรถยก.... หากรถท่านขับไม่ได้หลังเกิดอุบัติเหตุ โปรดเรียกบริการรถยก ตามหมายเลขโทรศัพท์ท้ายคู่มือนี้ โดยแจ้งกรมธรรม์ให้เขาทราบ บริษัทฯ จะจ่ายค่ารถยกไม่เกิน 20% ของราคาซ่อมรถประกัน
Aong_Chelsea
28-10-2010, 08:45
เง้ออ ออกมาแบบนี้ได้ไงอ่า ขอโทดด้วยเน้อออ ก๊อบ มามานมะดหน
แจ้งหายทำใหม่จบครับ
ผมโดนจับ แล้วผม ก้อแจ้งหาย
ทำใหม่จบ ครับ
กินกันง่ายๆเล้ย กินเงินภาษียังไพออีกหรอ
คู่กรณีตกลงกันได้ ก็ไม่เกี่ยวกับพี่หนวดเลยครับ ยึดใบขับขี่ไป ใบสั่งก็ไม่มีออกให้
มันกวนส้งติงหาเรื่องเอาตังส์
ส่วนเรื่องเมาขับ มันไม่มีหลักฐาน เล่นเราไม่ได้หรอก (แต่เมาแล้วไม่ขับดีกว่าครับ)
แนะนำวันไปเอาใบขับขี่ แอบกดโทรศัพท์บันทึกเสียง เวลาคุยกับมันไว้ด้วยครับ
เผื่อมันเรียกร้องอะไร ก็เอาไว้เป็นหลักฐานเล่นงานมัน ไอ้พวกจานรายในคราบพี่หนวด
มาตรา 140 เมื่อเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ขับขี่ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอัน เกี่ยวกับรถนั้น ๆ จะว่ากล่าวตักเตือนผู้ขับขี่หรือออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระ ค่าปรับตามที่เปรียบเทียบก็ได้ ในกรณีที่ไม่พบตัวผู้ขับขี่ก็ให้ติดหรือผูก ใบสั่งไว้ที่รถที่ผู้ขับขี่เห็นได้ง่าย
สำหรับความผิดที่กำหนดไว้ใน มาตรา 157ทวิ มาตรา 159 มาตรา 160 และ มาตรา 160ทวิ ห้ามมิให้ว่ากล่าวตักเตือนหรือทำการเปรียบเทียบ
ในการออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ ตามวรรคหนึ่ง เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ จะเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ไว้ เป็นการชั่วคราวก็ได้แต่ต้องออกใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ไว้ และเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องรีบนำใบอนุญาตขับขี่ ที่เรียกเก็บไว้ไปส่งมอบพนักงานสอบสวนภายในแปดชั่วโมงนับแต่เวลาที่ ออกใบสั่ง
สำหรับแทนใบอนุญาตขับขี่ที่ออกให้ตามวรรคสาม ให้ใช้แทนใบอนุญาต ขับขี่ได้เป็นการชั่วคราวไม่เกินเจ็ดวัน เมื่อเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงาน เจ้าหน้าที่หรือพนักงานสอบสวน ได้ว่ากล่าวตักเตือนหรือทำการเปรียบเทียบ ปรับและผู้ขับขี่ได้ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบแล้ว ให้คืนใบอนุญาตขับขี่ ทันที
ในกรณีเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบสั่ง แต่ไม่พบตัว ผู้ขับขี่ ให้สันนิษฐานว่าเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถเป็นผู้กระทำผิดดังกล่าว เว้นแต่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้อื่นเป็นผู้ขับขี่
การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ที่อธิบดีกำหนด
*หมายเหตุ มาตรานี้ความเดิมได้ถูกยกเลิกไป และมีการเพิ่มเติมข้อความ ใหม่เข้าไปโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2535 ใน มาตรา 17 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 109 ตอนที่ 39 หน้า 48-49 วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2535
มาตรา 141 ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถซึ่งได้รับใบสั่งตาม มาตรา 140 อาจ เลือกปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ชำระค่าปรับตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบสั่งหรือตามจำนวนที่พนักงาน สอบสวนแจ้งให้ทราบ ณ สถานที่ที่ระบุไว้ในใบสั่งหรือสถานที่ที่อธิบดีกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในวัน เวลา ที่ระบุไว้ในใบสั่ง
(2) ชำระค่าปรับตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบสั่งโดยการส่งธนาณัติ หรือ การส่งตั๋วแลกเงินของธนาคารโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนสั่งจ่ายให้แก่อธิบดี พร้อมด้วยสำเนาใบสั่งไปยังสถานที่ และภายในวัน เวลาที่ระบุไว้ในใบสั่ง เมื่อผู้ได้รับใบสั่งได้ชำระค่าปรับครบถ้วนถูกต้องแล้ว ให้คดีเป็นอันเลิกกันและ ในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้เรียกเก็บใบอนุญาตไว้ คืนให้แก่ผู้ได้รับใบสั่งโดยเร็ว และให้ถือว่าใบรับการส่งธนาณัติหรือใบรับการ ส่งตั๋วแลกเงินประกอบกับใบสั่งเป็นใบแทนใบอนุญาตขับขี่ได้เป็นเวลาสิบวันนับ แต่วันที่ส่งธนาณัติหรือตั๋วแลกเงินดังกล่าว วิธีการชำระค่าปรับโดยส่งทาง ไปรษณีย์ลงทะเบียน และวิธีการส่งใบอนุญาตขับขี่คืนให้แก่ผู้ได้รับใบสั่งให้เป็น ไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด
*หมายเหตุ มาตรานี้ความเดิมได้ถูกยกเลิกไป และมีการเพิ่มเติมข้อความ ใหม่เข้าไปโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2535 ใน มาตรา 18 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 109 ตอนที่ 39 หน้า 49 วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2535
มาตรา 141ทวิ ในกรณีที่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถซึ่งได้รับใบสั่งไม่ปฏิบัติ ตาม มาตรา 141 ให้พนักงานสอบสวนมีอำนาจดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีที่ทราบที่อยู่ของผู้ขับขี่หรือที่อยู่ของเจ้าของรถ ให้พนักงาน สอบสวนออกหมายเรียกผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถ ให้มารายงานตัวที่พนักงานสอบ สวนในกรณีดังกล่าวนี้ ผู้ใดรับหมายเรียกต้องมารายงานตัวตามวัน เวลา และ ณ สถานที่ที่ระบุไว้ในหมายเรียก และให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ เปรียบเทียบและว่ากล่าวตักเตือนผู้ได้รับหมายเรียกดังกล่าว
(2) ในกรณีที่ไม่อาจส่งหมายเรียกให้แก่ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถได้ ให้ พนักงานสอบสวนแจ้งเป็นหนังสือไปยังนายทะเบียน ตามกฎหมายว่าด้วยรถ ยนตร์ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก เพื่อให้นายทะเบียนแจ้งให้ผู้มา ติดต่อของชำระภาษีประจำปี สำหรับรถคันนั้นไปรายงานตัวที่พนักงานสอบสวน ตามหมายเรียก ถ้าผู้มาติดต่อขอชำระภาษีประจำปีเป็นเพียงตัวแทนของเจ้า ของรถ ในกรณีดังกล่าวนี้ให้นายทะเบียนรับชำระภาษีประจำปีสำหรับรถคันนั้น ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนว่าได้มีการปฏิบัติ ตามหมายเรียกนั้นแล้ว การงดรับชำระภาษีประจำปีไม่เป็นเหตุให้ผู้นั้นไม่ต้อง ชำระเงินเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทาง บก แล้วแต่กรณี
*หมายเหตุ มาตรานี้ได้มีการเพิ่มเติมเข้าไปโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ข้อความใหม่เข้าไปโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2535 ใน มาตรา 19 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 109 ตอนที่ 39 หน้า 49 วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2535
มาตรา 142 เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจสั่งให้ ผู้ขับขี่หยุดรถในเมื่อ
(1) รถนั้นมีสภาพไม่ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 6
(2) เห็นว่าผู้ขับขี่หรือบุคคลใดในรถนั้นได้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทแห่ง พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอันเกี่ยวกับรถนั้น ๆ ในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ เห็นว่าผู้ขับขี่ฝ่าฝืน มาตรา 43 (1) หรือ (2) ให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ดังกล่าว ว่าหย่อนความสามารถในอันที่จะขับหรือเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่
ในกรณีที่ผู้ขับขี่ตามวรรคสองไม่ยอมให้ทดสอบให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจกักตัวผู้นั้นไว้ดำเนินการ ทดสอบได้ภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นแห่งกรณี เพื่อให้การทดสอบเสร็จ สิ้นไปโดยเร็ว และเมื่อผู้นั้นยอมให้ทดสอบแล้ว หากผลการทดสอบปรากฏว่า ไม่ได้ฝ่าฝืนตาม มาตรา 43 (1) หรือ (2) ก็ให้ปล่อยตัวไปทันที
การทดสอบตาม มาตรา นี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด ในกฎกระทรวง
*หมายเหตุ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉ.6) พ.ศ.2542
ผมไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายเท่าไหร่ครับ.... ลองตีความดูก่อน เพื่อตั้งรับกับพวกแมร่ง
ไม่รู้สืบค้นผิดหรือเปล่าเนี่ย 5555
โชคดีครับผม
แจ้งหายทำใหม่จบครับ
ผมโดนจับ แล้วผม ก้อแจ้งหาย
ทำใหม่จบ ครับ
กรณีนี้ ณ.ตอนนี้ถือว่าเสี่ยงแล้วครับ ถ้าเมื่อก่อนอาจทำได้ง่าย
ถ้าตำรวจเค้าส่งข้อมูลการยึดใบขับขี่เข้าไปในระบบแล้ว
เราไปแจ้งหายแล้วขอทำใหม่ อาจแจ๊คพอร์ตได้ครับ
ekasit S.
28-10-2010, 11:31
แจ้งข้อหาเมาแล้วขับไม่ได้ครับ เพราะยังไม่ได้เป่าและมีรีพอร์ตการตรวจเช็ค ส่วนเรื่องค่าปรับ ก้อเข้ากระเป๋าตัว มัน เองแหละ
ผมโดนมาแล้ว จับขังหนึ่งคืน เช้ามาขึ้นศาล ปรับ 3000 บาท รอลงอาญา1ปี บำเพ็ญประโยชน์ สามเดือน ครั้ง ภายใน1ปี :i42:
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ
ลืมแนะนำตัว..... ชื่อ ต้น ครับ เพิ่งสมัครสมาชิกถาวร ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ
ม่ะต้องเสียครับ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรเลย เป่าก็ไม่ได้เป่า แล้วก็เจ้าทุกข์ไม่ได้ลงบันทึกประจำวันเลยไม่ต้องเสียครับ ถ้าตกลงกันไม่ได้แล้วลงบันทึกประจำวันก็ 400-500 บาทครับ แต่นี่เคลียร์กันได้และยังไม่ได้เป่าอีก มันไม่มีหลักฐานขอใบขับขี่คืนได้เลยครับ แต่อาจจะต้องเสียเวลาไปเถียงกับตำรวจสักหน่อย เพราะเค้าก็พยายามหาข้อเล่นคุณ ก็บอกปัดไป เถียงไม่เลยครับ เราชนะใสๆ เพราะไม่มีหลักฐานครับ
คืนนั้นหลังจากเคลียร์กันเสร็จ เจ้าทุกข์เค้าก็ขับรถไปเอาใบขับขี่ที่ สน.ตอนนั้นเลย ผมกลัวว่าตำรวจมันจะลงบันทึกประจำวันไว้ตอนนั้น แล้วถ้าเจ้าทุกข์เค้าบอกตำรวจว่าผมเมาหละ... ผมจะงานเข้ามั๊ยเนี่ย พยานสำคัญเลยนะเนี่ย....
กรุงเก่า
28-10-2010, 22:19
ถ้าใบขับขี่โดน ตร.ยึด แล้วคุณไปแจ้งที่ขนส่งว่า ใบขับขี่หาย ถ้า จนท.เขาเช็ค คุณก็โดนข้อหา แจ้งความเท็จ ก็หนักเอาการอยู่นะครับ ทางที่ดีนะ ผิดว่าตามผิด ถูกว่าตามถูก ตร.ที่คี เค้าไม่ดุหรอกครับ เพราะปกติก็ดื่มกันแทบทุกนาย ทุกระดับชั้นอยู่แล้วครับ
ด้วยความเคารพครับ
กรุงเก่า
28-10-2010, 22:28
ส่วนเรื่องคู่กรณีเค้าว่าคุณเมา กรณีนี้เมื่อตอนเกิดเหตุ ซึ่งมันเป็นเหตุซึ่งหน้า ณ.ตอนนั้น แต่ จนท. ไม่ได้ทำการตรวจวัด L ก ฮ. ดังนั้นหลักฐานไม่มี น้าไม่มีทางผิดแน่นอนครับ ศาลท่านเน้นหลักฐานเป็นหลักครับ แค่ส่งอัยการ หลักฐานไม่มี อัยการท่านก็ตีกลับยกฟ้องแล้วครับ
ด้วยความเคารพครับ
เอ...แต่พี่ตำหนวด มีอำนาจในการยึดใบขับขี่ไปจริงๆเหรอครับ
เหมือนว่าผมเคยได้ยินว่า ใบขับบี่เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ถ้าเจ้าพนักงานยึดเอาไปโดยไม่มีเหตุอันควร ก็เหมือนเป็นการกรรโชคทรัพย์ ว่างั้น(แค่เหมือนๆเคยได้ยินนะ)
แจ้งความร้องทุกข๋ ลักทรัพย์(ใบขับขี่) ฮ่าๆๆๆ เล่นแมร่งเลย:yenta4-emoticon-001
mckyparty
02-11-2010, 13:17
ยังไงก้อจำชื่อเจ้าพนักงานมาให้หมด ยศ ชื่อครับ
ถ้าเป็นสัญญาบัตร มีรุ่นพี่เตรียมตำรวจมากมายรอไล่เตะพวกทำเสียชื่อเสียงครับ
ส่วนท่านประทวน พวกท่านเรียนมาไม่กี่เดือนก้อได้ติดยศพกปืน มาทำมารยาททรามๆแบบนี้ ยิ่งเสียเกียรติพวกท่านมากมาย
ขับเคลื่อนระบบโดย vBulletin™ Version 4.2.5 Copyright © 2024 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.