PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : มารยาทในการขับรถยนต์



Alongkorn
18-12-2010, 22:05
มารยาทในการขับรถยนต์

การเดินทางด้วยรถยนต์บน ถนนสาธารณะ นอกจากกฎหมายราชการแล้ว
ยังควรมีมารยาท และความเอื้ออาทรต่อกัน เพื่อให้มีทั้งความราบรื่น
และความปลอดภัย ในการเดินทางอยู่เสมอ

ผู้ขับรถยนต์ไทย กับมารยาทในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ยังไม่มีมากนัก
หากไม่หันมารณรงค์ร่วมกัน การรักษามารยาท ก็คงจะถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง

วิธีและมารยาทในการปฏิบัติต่อไปนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งยังมีอีกหลายแนวทาง ถ้าเห็นว่าสมควรก็ค่อยนำไปปฏิบัติ
1. กะพริบ ไฟสูงขอทางหรือเตือน อาจสับสนบางเรียกศัพท์สแลงกันว่า ดิฟไฟสูง คนไทยมักใช้เตือน เพื่อไม่ให้รถยนต์ทางโทตัดเข้ามาทางเอกหรือทางตรง ในขณะที่บางประเทศใช้การกะพริบไฟสูงเมื่ออยากให้ทาง เพราะแสดงว่า เห็นแล้วและยอมให้ทาง ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้เพื่อบอกว่า เห็นแล้วว่ามีรถยนต์กำลังจะตัดทางเข้ามา แต่ไม่ให้เข้ามา

ในกรณีนี้ กฎหมายไทย ไม่มีการกำหนดว่า ให้ใช้การกะพริบไฟสูง เพื่อจุดประสงค์ใด อาจเพราะไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นสากลได้ จึงยังพอใช้กันในสไตล์ไทย ๆ ได้ แต่ก็มีผู้ที่ใช้เพื่อต้องการให้ทางอยู่บ้าง ซึ่งน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะต้องเห็นก่อนจึงจะสามารถกะพริบไฟบอกได้ ก็คงต้องปล่อยวางและใช้กันไปตามกระแส2. จอดในพื้นที่ห้ามจอด-เปิดไฟฉุกเฉิน ถือเป็นการเอาเปรียบสังคมอย่างหนึ่ง แม้จะเป็นการจอดชั่วคราวก็ตาม เพราะการเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อแสดงว่าจอด แต่ถ้าไม่ใช่เวลาและและพื้นที่ซึ่งควรจอดก็ไม่ควรปฏิบัติ อีกทั้งยังผิดกฎจราจรอีกด้วย การเปิดไฟฉุกเฉินจอดในพื้นที่ห้ามจอด ไม่สามารถป้องกันการออกใบสั่งได้

3. ก้มศีรษะขอบคุณ ลืมไปแล้วหรือ ? 3-4 ปีที่ผ่านมา ผู้ขับมีการก้มหัวขอบคุณเมื่อได้รับการให้ทาง แต่ในระยะหลังมานี้เริ่มมีการถดถอยหรือหลงลืมกันไปบ้าง อาจจะเป็นเพราะการรักษาศักดิ์ศรีโดยไม่จำเป็น เช่น ผู้ขับรถยนต์ระดับหรูราคาแพง มักไม่ยอมขอบคุณผู้ขับรถยนต์ราคาถูกที่ยอมให้ทาง หรือผู้ชายมักไม่ยอมขอบคุณผู้หญิง ฯลฯ

นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก เมื่อมีการขอบคุณให้หลังจากได้รับการให้ทาง หากเกรงเสียศักดิ์ศรี ไม่อยากก้มศีรษะขอบคุณให้ ก็สามารถใช้วิธียกแขนพร้อมแบฝ่ามือครบทั้ง 5 นิ้ว (เน้นครบ 5 นิ้ว เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด) ซึ่งยังดีกว่าการเพิกเฉย การขอบคุณในเรื่องที่สมควร ไม่น่าใช่เรื่องการเสียศักดิ์ศรี4. เบรก ต้องสนใจรถยนต์ที่ตามด้วย ไม่ใช่แค่รักษามารยาท แต่เป็นการเพิ่มความปลอดภัยกันด้วย ถ้าต้องมีการเบรก ผู้ขับส่วนใหญ่จะมองแค่เป็นการลดความเร็ว เมื่อมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า โดยไม่ค่อยสนใจมารยาท และความปลอดภัยของผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมา

หาก มีเวลาพอ ก่อนการเบรกควรเหลือบมองกระจกหลัง และเพื่อจะได้ตัดสินใจกดแป้นเบรกด้วยจังหวะและน้ำหนักที่เหมาะสม เพื่อมารยาทที่ดี ผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมาไม่ต้องเบรกจนตัวโก่ง และไม่เสี่ยงต่อการเสียโฉมของบั้นท้ายรถยนต์ของตนเอง
นอกจากนั้น การแตะเบรกโดยไม่จำเป็นก็ถือว่า เสียมารยาทบ้างเล็กน้อย เพราะไฟเบรกจะสว่าง ทำให้ผู้ขับรถยนต์คันตามมาชะงัก แต่ก็อย่ากังวลมากจนแตะเบรกช้า เพราะอาจเป็นอันตราย
การเบรกไม่ควรสนใจแต่เพียงสถานการณ์ด้านหน้าเท่านั้น ด้านหลังก็ต้องสนใจทั้งมารยาทและความปลอดภัย5. ข้าม 4 แยก / 3 แยก ตรงไป ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน ถ้าจะขับรถยนต์แล้วต้องการข้าม 4 แยก หรือ 3 แยกแนวตรงแล้วต้องการตรงไป การเปิดไฟฉุกเฉิน-กะพริบ 4 มุม เป็นวิธีที่ผิดและอันตราย

สาเหตุที่ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินในกรณีนี้ เพราะผู้ขับรถยนต์ที่มาด้านซ้าย-ขวา อาจเห็นเพียงไฟกะพริบด้านหน้ามุมเดียว เสมือนเป็นการเปิดไฟเลี้ยว โดยไม่ทราบเลยว่า เป็นการเปิดไฟฉุกเฉินกะพริบพร้อมกัน 4 มุมซ้าย-ขวา
หากสมมุติ เหตุการณ์ขึ้นจะพบว่า ไฟเลี้ยวด้านหน้า แม้จะกะพริบพร้อมกันซ้าย-ขวา แต่ผู้ขับรถยนต์คันที่มาจากด้านข้างในแต่ละด้าน ก็ยังอาจเห็นไฟหะพริบเพียงมุมเดียว โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถยนต์มาจากด้านซ้าย ก็อาจจะไม่ชะลอความเร็วลงหรือไม่ให้ทาง ด้วยคิดว่ารถยนต์คันที่เปิดไฟฉุกเฉินจะเลี้ยวซ้าย โดยไม่เกี่ยวกับเขา
นอก เหนือจากนั้นในมุมอื่น หากมีรถยนต์บางคันที่เปิดไฟฉุกเฉิน ผู้ขับรถยนต์คันอื่นก็อาจเข้าใจผิดคิดว่า เป็นการเปิดไฟเลี้ยวเฉพาะมุมที่เขาเห็นในช่วงเวลานั้ น
วิธีปฏิบัติ ที่ถูกต้องและปลอดภัย คือ เบรกชะลอความเร็วลงมองซ้าย-ขวา เมื่อเส้นทางว่างพอ ก็ตรงไปด้วยความเร็วที่เหมาะสม โดยไม่ต้องเปิดสัญญาณไฟใด ๆ ใช้สมาธิและเวลา มองรถยนต์คันอื่น ปลอดภัยกว่าการเสียสมาธิและเสียเวลา เปิด-ปิดสวิตช์ไฟฉุกเฉิน
ในกฎหมายจราจร ไม่มีการระบุไว้ว่า ต้องเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อต้องการข้าม 4 แยกแล้วตรงไป
ฝนตกหนัก ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน อาจให้ผลร้ายในความหวังดี ที่เกรงว่าผู้ร่วมทางจะไม่สามารถมองเห็นรถยนต์ ของตน เมื่อฝนตกหนัก ๆ
ไม่ ควรเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะจะแยงสายตา และหากมีรถยนต์บางคันบังรถยนต์คันที่เปิดไฟฉุกเฉิน ผู้ขับรถยนต์คันอื่นอาจเข้าใจผิดว่า เป็นการเปิดไฟเลี้ยวเฉพาะมุมที่เขาเห็น รวมถึงมักมีการเปลี่ยนเลนโดยไม่ปิดไฟฉุกเฉินก่อน ก็จะไม่มีไฟเลี้ยวให้ใช้บอกเตือนตามปกติ
ถ้าฝนตกหนักมาก วิธีปฏิบัติที่ปลอดภัยและถูกต้อง คือ ชะลอความเร็วลง ชิดเลนซ้าย และเปิดไฟหน้าแบบต่ำ หรือถ้ามีไฟตัดหมอกหลังสีแดงเพิ่มอีก 2 ดวง ก็ควรเปิดไว้ด้วย แล้วขับด้วยความระมัดระวังตลอดเส้นทาง
ไฟฉุกเฉินมี ไว้ใช้เมื่อฉุกเฉินจริง ๆ เช่น รถยนต์จอดเสีย เกิดอุบัติเหตุบนผิวจราจร รถยนต์ถูกลาก (ถ้ามีโอกาส ทำป้ายหรือเขียนกระดาษแปะด้านท้ายรถว่า "รถลาก" จะช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น)
ในกรณีที่เปิดไฟฉุกเฉินและมีการลากรถยนต์ ควรชิดเลนซ้ายและเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ควรปิดไฟฉุกเฉินแล้วเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าตามระยะห่าง ที่ปลอดภัย6. สปอตไลท์/ไฟ ตัดหมอก ควรเปิดเมื่อไม่รบกวนคนอื่น ไฟส่องสว่างนี้มีทั้งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและติดตั้งเพิ่มเอง ตำแหน่งอยู่ตรงด้านล่างของกันชนหน้า 2 ดวงต่อรถยนต์ 1 คัน รถยนต์บางรุ่นติดตั้งให้ใช้เป็นไฟตัดหมอก ซึ่งก็ควรใช้เมื่อมีหมอกตามชื่อเรียก

การใช้สปอตไลท์/ไฟตัดหมอก เริ่มมีการผิดมารยาท สร้างความรำคาญ และเริ่มแพร่หลายขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจลดความปลอดภัยแก่ผู้ร่วมถนน คือ เปิดใช้ในขณะที่เส้นทางไม่มืดมาก ซึ่งไม่จำเป็นเลยเพราะแสงสว่างที่แรงนั้น อาจแยงสายตาทั้งผู้ขับรถยนต์คันที่สวนมาและคันที่นำห น้าในเส้นทางปกติ ไม่ควรเปิดใช้งานเพราะสว่างอยู่คนเดียว แต่ทำให้คนอื่นตาพร่ามัวคล้าย หรือแย่กว่าการเปิดไฟสูงสาดไปทั่วนั่นเอง
ผู้ขับรถยนต์บางรายหนักข้อ ด้วยการเปิดเพียงไฟหรี่ แล้วเปิดสปอตไลท์เพิ่มความสว่าง นับเป็นการรบกวนสายตาของเพื่อนร่วมทางอย่างมาก ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำเพื่ออะไร ?
ต้นเหตุที่หลายคนเปิดสปอตไลท์ หรือไฟตัดหมอกด้านหน้า โดยไม่เกรงใจผู้ขับรถยนต์คันนำ หรือคันที่สวนทางมา เพราะคิดไปเองแต่เพียงว่า ตำแหน่งของสปอตไลท์อยู่ต่ำ ไม่น่าแยงตาเหมือนการเปิดไฟสูง
ในความเป็นจริง ไฟส่องสว่างที่ติดตั้งอยู่ต่ำก็อาจแยงตาได้ ถ้ามีแสงแรงและมีการกระจายแสงมาก ๆ สปอตไลท์ส่วนใหญ่มีแสงแรง และหลายแบบมีการกระจายแสงมากจนแยงตา ด้วยแสงแบบประกายแฉก
หากอยากเปิดใช้จริง ๆ ควรลองเปิดแล้วออกไปมองอย่างรอบคอบว่า จะแยงตาผู้อื่นหรือไม่ (ส่วนใหญ่แยงตา)
หากไม่แน่ใจ ก็ไม่ควรเอาเปรียบผู้ขับร่วมทาง ด้วยการเปิดสปอตไลท์โดยไม่จำเป็น ควรเปิดเมื่อมืดจริง ๆ และมั่นใจว่า ไม่รบกวนผู้อื่น
สำหรับ คำถามที่ว่า แล้วเมื่อมีปัญหาอย่างนี้ผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งสปอตไล ท์มาเพื่ออะไร แล้วจะได้ใช้งานเมื่อไร เพราะกลัวไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายระบุในคู่มือประจำรถยนต์ว่า สปอตไลท์ควรเปิดเมื่อไม่รบกวนผู้อื่น จำเป็น หรือควรเปิดเมื่อหมอกลง และไม่ควรเปิดใช้ต่อเนื่องนาน ๆ เพราะจะร้อนเกินไปจนจานฉายอาจเสื่อมได้ง่าย และการเปิดสปอตไลท์ต่อเนื่องจนร้อน เมื่อต้องลุยน้ำกะทันหัน กระจกด้านหน้าของสปอตไลท์อาจแตกร้าวได้
การติดตั้งสปอตไลท์เพิ่มเติม เอง ถ้าไม่ถูกตำแหน่งหรือมีแสงแรงเกินกำหนด ก็ผิดกฎหมาย ทั้งมีการเปิดใช้และไม่เปิด จะไม่ผิดกฎหมายก็ต่อเมื่อติดตั้งถูกตำแหน่งมีฝาครอบปิด และไม่ได้เปิดใช้บนเส้นทางเรียบปกติ
ถ้ามีไฟตัดหมอกหลัง ควรเปิดเมื่อหมอกลง หรือฝนตกหนักเท่านั้น ในรถยนต์บางรุ่นมีสวิตช์พิเศษสำหรับไฟตัดหมอกด้านหลั ง คือ มีไฟท้ายสีแดงเพิ่มขึ้นอีกข้างละดวง โดยมีความสว่างมากกว่าไฟท้ายปกติมาก เพื่อใช้เตือนผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมาเมื่อหิมะตกหนัก ฝนตกหนัก หรือหมอกลง
ถ้าเปิดใช้ไฟตัดหมอกหลังสีแดง ซึ่งมีความสว่างมาก ๆ ในยามทัศนวิสัยปกติแบบไทย แสงสว่างที่เพิ่มขึ้นมาอาจจะแยงสายตาผู้ที่ขับรถยนต์ คันที่ตามมา จึงไม่ควรเปิดใช้บนสภาพถนนปกติ ถ้าจะรบกวนผู้อื่น7. เปลี่ยน เลน-แซง-ขึ้นทางตรงได้แล้ว ควรเร่งความเร็วเพิ่ม การเลี้ยวขึ้นทางตรงจากซอยหรือทางโท รวมถึงการเปลี่ยนเลน ควรกระทำเมื่อเส้นทางว่างพอ เมื่อเปลี่ยนเข้าสู่เลนที่ต้องการได้แล้ว บางคนไม่สนใจมารยาทต่อผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมา เพราะคิดแต่เพียงว่า ถ้าถูกชนด้านท้ายแล้วจะไม่ผิด เนื่องจากเข้าสู่เส้นทางได้เต็มคันแล้ว

ด้าน มารยาท เมื่อเข้าสู่เส้นทางได้เต็มคันแล้ว ควรเร่งความเร็วมาก ๆ กดคันเร่งหนัก ๆ เพื่อไล่รถยนต์คันหน้าในระยะที่เหมาะสมให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องสนใจว่า รถยนต์คันหลังห่างแค่ไหน เพื่อมารยาท ผู้ขับรถยนต์คันหลังจะได้ไม่ต้องเบรกจนตัวโก่ง และไม่เสี่ยงต่อการเสียโฉมของบั้นท้ายรถยนต์ของตนเอง ด้วย8. ไฟเหลือง ควรเร่งหนีหรือเบรก ? หลักการที่ถูกต้องและเป็นสากลแต่ไม่ค่อยมีปฏิบัติกัน คือ ต้องเบรกและจอดเมื่อเห็นไฟเหลืองก่อนไฟแดง

ผู้ขับรถยนต์ไทยส่วนใหญ่ เมื่อเห็นไฟเหลือง กลับกลายเป็นไฟเตือนให้เร่งหนีการติดไฟแดง ซึ่งไม่ถูกต้องนัก เพราะการที่ไฟเหลืองสว่างขึ้นก่อนจังหวะไฟแดง ตามหลักการจริงเป็นการเตือน เพื่อให้ชะลอความเร็วลงและจอด
ในเมื่อ วิถีการขับรถยนต์ของคนไทยส่วนใหญ่ ถ้าเห็นไฟเหลือง คือ ไฟเตือนให้เร่งหนีการติดไฟแดง ก็คงหลีกหนีไม่พ้น และรณรงค์ได้ยาก ที่จะให้เปลี่ยนเป็นการที่เมื่อไฟเหลืองสว่างขึ้นก่อนจังหวะไฟแดง เป็นการเตือนเพื่อให้ชะลอความเร็วลงและเบรก
หากอยาก จอดเมื่อเห็นไฟเหลืองแล้วเบรกเพื่อจอด ก็นับเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยจากการถูกชนท้าย เพราะคนไทยส่วนใหญ่ เมื่อเห็นไฟเหลืองจะเข้าใจกันว่า เป็นการเตือนให้เร่งหนีการติดไฟแดงบนแยก
ถ้า ต้องการฝืนสังคม (ทั้งที่ไม่ผิด) ควรเหลือบมองกระจกหลังไว้หน่อย เพื่อจะได้ตัดสินใจกดแป้นเบรกด้วยน้ำหนักและจังหวะที่เหมาะสม เพื่อมารยาท ผู้ขับรถยนต์คันหลังไม่ต้องเบรกจนตัวโก่งและไม่เสี่ย งต่อการเสียโฉมของบั้นท้าย รถยนต์ของตน9. ไฟเลี้ยว ต้องเปิด-ปิดอย่างเหมาะสม

ถือ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ถูกมองข้าม การเปิดไฟเลี้ยวเป็นเรื่องจำเป็น เพราะกฎหมายกำหนดให้มีการเตือนผู้ร่วมทางล่วงหน้าตาม ระยะที่เหมาะสม จึงควรเปิดไฟเลี้ยวเมื่อเตรียมเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยวล่วงหน้าพอสมควร และไม่ควรเปิดค้างจนลืม
ชิดซ้ายเสมอ บนถนนหลายเลนมักมีการเตือนวา "ขับช้า ชิดซ้าย" ซึ่งไม่ค่อยตรงกับหลักการขับปลอดภัย และมารยาทในการใช้ถนน เพราะจะมีรถยนต์แล่นเลนขวาตลอด โดยคิดว่าความเร็วที่ใช้ในขณะนั้นถือว่าเร็วแล้ว ซึ่งอาจเป็นเพราะกฎหมายไทยกำหนดให้ใช้ความเร็วสูงสุด ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อใช้ความเร็วเกินขึ้นไปแล้ว ก็มักจะคิดไปเองว่า เร็วพออยู่แล้ว จึงสามารถแล่นชิดขวาได้ วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง รักษามารยาท และปลอดภัยในการใช้เลนขวา คือ "แซงแล้วชิดซ้าย" ไม่ว่าจะใช้ความเร็วสูงเท่าไรก็ตาม เมื่อเร็วแล้วแต่ยังมีเร็วกว่าได้
การขับรถยนต์ด้วยมารยาทที่ดีเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติ

MEAW_SAN
18-12-2010, 22:57
ขอบคุณครับป๋า

mckyparty
19-12-2010, 00:02
วันก่อนผมพึ่งเซ็งเล็กๆกับคนขับ Sl สปอร์ตป้ายแดงสีขาว ขึ้นทางด่วนจะจ่ายเงินครับ แถวๆพระราม2

รถติดมาก เลนจากสองเลน ถูกบังคับให้เหลือเลนเดียวเพื่อจ่ายเงินทางด่วน
อีแม่เจ้านี่ เค้าวิ่งแบบสลับคันกันมาตลอด ไม่เคยมีปัญหา เ็ปนมารยาท เวลาเจอคอขวด ใครไม่รู้ ก้อรู้ไว้ด้วยนะครับ เปนพื้นฐานที่เมืองนอกเค้าสั่งสอนกันมานาน แต่บ้านเรา นานๆจะได้เห็น

อีถ่อยนี่ แทรก แทรก แทรก กะจะเบียดขึ้นหน้าผม เบิ้ลเปนคันที่สอง ผมก้อไม่ยอม จนที่สุึดเค้าแทรกไม่ได้ บีบแตรด่าผมใหญ่เลย

สะใจ จริงๆ คิดว่าขี่คันละสิบล้านแล้ว ทำอะไรถ่อยๆ ต่อหน้าคนถ่อยอย่างผม

Joe043
19-12-2010, 02:08
วันก่อนผมพึ่งเซ็งเล็กๆกับคนขับ Sl สปอร์ตป้ายแดงสีขาว ขึ้นทางด่วนจะจ่ายเงินครับ แถวๆพระราม2

รถติดมาก เลนจากสองเลน ถูกบังคับให้เหลือเลนเดียวเพื่อจ่ายเงินทางด่วน
อีแม่เจ้านี่ เค้าวิ่งแบบสลับคันกันมาตลอด ไม่เคยมีปัญหา เ็ปนมารยาท เวลาเจอคอขวด ใครไม่รู้ ก้อรู้ไว้ด้วยนะครับ เปนพื้นฐานที่เมืองนอกเค้าสั่งสอนกันมานาน แต่บ้านเรา นานๆจะได้เห็น

อีถ่อยนี่ แทรก แทรก แทรก กะจะเบียดขึ้นหน้าผม เบิ้ลเปนคันที่สอง ผมก้อไม่ยอม จนที่สุึดเค้าแทรกไม่ได้ บีบแตรด่าผมใหญ่เลย

สะใจ จริงๆ คิดว่าขี่คันละสิบล้านแล้ว ทำอะไรถ่อยๆ ต่อหน้าคนถ่อยอย่างผม

ผมก็ไม่รู้เป็นไร ชอบแกล้งพวกชอบแทรกแบบนี้ครับ ถ้าผมมากับลูกกับเมีย ก็ไม่เป็นไรใจเย็นๆ อยากแทรกก็แทรกไป แต่ถ้าไปคนเดียวแล้วเจอพวกชอบแทรก ไม่มีมารยาทแบบนี้ ผมจะแกล้งไม่ให้เข้าครับ แต่ตั้งแต่แก๊งไผเขีียวเขาเป็นข่าวผมคงจะเลิกแล้วล่ะครับ ใครอยากแทรกก็แทรกไป:kapook-17351-2909:

Alongkorn
19-12-2010, 10:00
วันก่อนผมพึ่งเซ็งเล็กๆกับคนขับ Sl สปอร์ตป้ายแดงสีขาว ขึ้นทางด่วนจะจ่ายเงินครับ แถวๆพระราม2

รถติดมาก เลนจากสองเลน ถูกบังคับให้เหลือเลนเดียวเพื่อจ่ายเงินทางด่วน
อีแม่เจ้านี่ เค้าวิ่งแบบสลับคันกันมาตลอด ไม่เคยมีปัญหา เ็ปนมารยาท เวลาเจอคอขวด ใครไม่รู้ ก้อรู้ไว้ด้วยนะครับ เปนพื้นฐานที่เมืองนอกเค้าสั่งสอนกันมานาน แต่บ้านเรา นานๆจะได้เห็น

อีถ่อยนี่ แทรก แทรก แทรก กะจะเบียดขึ้นหน้าผม เบิ้ลเปนคันที่สอง ผมก้อไม่ยอม จนที่สุึดเค้าแทรกไม่ได้ บีบแตรด่าผมใหญ่เลย

สะใจ จริงๆ คิดว่าขี่คันละสิบล้านแล้ว ทำอะไรถ่อยๆ ต่อหน้าคนถ่อยอย่างผม


ผมก็ไม่รู้เป็นไร ชอบแกล้งพวกชอบแทรกแบบนี้ครับ ถ้าผมมากับลูกกับเมีย ก็ไม่เป็นไรใจเย็นๆ อยากแทรกก็แทรกไป แต่ถ้าไปคนเดียวแล้วเจอพวกชอบแทรก ไม่มีมารยาทแบบนี้ ผมจะแกล้งไม่ให้เข้าครับ แต่ตั้งแต่แก๊งไผเขีียวเขาเป็นข่าวผมคงจะเลิกแล้วล่ะครับ ใครอยากแทรกก็แทรกไป:kapook-17351-2909:

ว๊าก...โรคจิตทั้งสองคนเลยพี่น้อง :kapook-17196-7812:

ดันเป็นโรคเกลียดนักแทรกเบียดเสียบเหมือนกัน
เจอพวกนี้เมื่อไหร่ เปนไม่ยอมให้มันเบียดแทรกเสียบ
แล้วดันมาเจอพวกตอนที่ ไปกับคนใช้นี่สิเจ็บใจ
เธอชอบสั่งปล่อยเขาไป เดี๋ยวมานก็เจอตอเองแหละ

:i44:
:22emoticon-cartoon-

beejle
19-12-2010, 15:04
ที่เจอนะครับ จะมีคนบางประเภทครับ ที่เห็นไฟเลี้ยวเราแล้วชอบเหยียบคันเร่ง
ไม่ให้เราแทรกครับ ทั้งๆที่ความเร็ว 50-70 นะครับ (ใน กทม.) ซึ่งระยะที่เราเปิดไฟเพื่อจะเปลี่ยนเลนนั้นมีมากพอ ที่เราสามารถเข้าได้เลย ที่เปิดไฟ ก็เพื่อมารยาท ครับ แต่พอเปิดไฟปุ๊บ เค้าเล่นเหยียบคันเร่งปั๊บไม่ให้เข้าครับ งงครับ

decskong
19-12-2010, 18:29
:21-7::21-7:ครับป๋าจะจำไว้จนขึ้นใจครับ และจะพขอบคุณครับที่แบ่งบัน สิ่งดีๆ ให้ครับยายามปฏิบัติ ตามครับ วันนี้เห็นอุบัติเหตุ ยังกลัวไม่หายเลยครับ

mckyparty
19-12-2010, 19:00
ความจริงคือ การเปิดไฟเลี้ยว ขอทาง กลายเป็นการทำให้เราไม่ได้ช่องทางซะงั้น
แต่ยังไงก้อต้องเปิดครับ บ่นเฉยๆ

somkhoun
19-12-2010, 20:07
ที่เจอนะครับ จะมีคนบางประเภทครับ ที่เห็นไฟเลี้ยวเราแล้วชอบเหยียบคันเร่ง
ไม่ให้เราแทรกครับ ทั้งๆที่ความเร็ว 50-70 นะครับ (ใน กทม.) ซึ่งระยะที่เราเปิดไฟเพื่อจะเปลี่ยนเลนนั้นมีมากพอ ที่เราสามารถเข้าได้เลย ที่เปิดไฟ ก็เพื่อมารยาท ครับ แต่พอเปิดไฟปุ๊บ เค้าเล่นเหยียบคันเร่งปั๊บไม่ให้เข้าครับ งงครับ
การเปิดไฟเลี้ยวเป็นการให้รถคันข้างๆเร่งความเร็วมาตีคู่กับเรา(ประชด):i44:

chaiyasit
19-12-2010, 20:31
ขอบคุณมากครับป๋า.:21-7:.

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากบนผิวจราจรร้านค้าหรือห้างร้านต่างๆไม่นำเก้าอี้,กรวยยาง,เสาปูนขนาดเล็กไปวาง
จะเป็นการช่วยให้มีพื้นที่ๆสามารถเดินรถได้อย่างคล่องตัวขึ้นนะครับ..เจ้าหน้าที่จราจรน่าเอาผิดได้
ในรูปแบบนี้เพราะร้านค้า-ห้างร้านเหล่านั้นคงเสียภาษีพอๆกันกับคนอื่นอย่างเราๆกันครับ..

chachino
19-12-2010, 20:40
ขอบคุณครับป๋ารับทราบและปฏิบัติแบบที่ป๋าว่ามาตลอดครับ อยากเสนอกับรถที่ใช้ไฟแสงสีขาวมากๆจนแสบตารถที่วิ่งสวนมา ทำอย่างไรจะให้เขากลับมาใช้แสงแบบที่กฏหมายกำหนดได้ละครับป๋า ผมว่าน่าจะช่วยลดอุบัติเหตุในเวลาค่ำคืนได้อีกทางหนึ่งเลยนะครับ

นู๋แดง
19-12-2010, 21:22
ขอบคุณคร้า มีประโยชน์มากค่ะ

rangsun
19-12-2010, 22:21
ขอบคุณมากครับป๋า.:21-7:.

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากบนผิวจราจรร้านค้าหรือห้างร้านต่างๆไม่นำเก้าอี้,กรวยยาง,เสาปูนขนาดเล็กไปวาง
จะเป็นการช่วยให้มีพื้นที่ๆสามารถเดินรถได้อย่างคล่องตัวขึ้นนะครับ..เจ้าหน้าที่จราจรน่าเอาผิดได้
ในรูปแบบนี้เพราะร้านค้า-ห้างร้านเหล่านั้นคงเสียภาษีพอๆกันกับคนอื่นอย่างเราๆกันครับ..


นี่ก็อีกอย่างที่ต้องแก้เพราะเกิดขึ้นนานแล้ว มีทั่วประเทศครับร้านค้าประเภทนี้ ผมจะมีเรื่องก็หลายครั้ง ตั้งแต่หนุ่ม ๆ จนแก่แล้วยังไม่มีใครแก้ได้กับพวกเห็นแก่ตัว ที่ไม่เคยเห็นตัวแก่ซะที

joetriton
19-12-2010, 22:21
มารยาทในการขับรถยนต์

การเดินทางด้วยรถยนต์บน ถนนสาธารณะ นอกจากกฎหมายราชการแล้ว
ยังควรมีมารยาท และความเอื้ออาทรต่อกัน เพื่อให้มีทั้งความราบรื่น
และความปลอดภัย ในการเดินทางอยู่เสมอ

ผู้ขับรถยนต์ไทย กับมารยาทในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ยังไม่มีมากนัก
หากไม่หันมารณรงค์ร่วมกัน การรักษามารยาท ก็คงจะถดถอยลงอย่างต่อเนื่อง

วิธีและมารยาทในการปฏิบัติต่อไปนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งยังมีอีกหลายแนวทาง ถ้าเห็นว่าสมควรก็ค่อยนำไปปฏิบัติ
1. กะพริบ ไฟสูงขอทางหรือเตือน อาจสับสนบางเรียกศัพท์สแลงกันว่า ดิฟไฟสูง คนไทยมักใช้เตือน เพื่อไม่ให้รถยนต์ทางโทตัดเข้ามาทางเอกหรือทางตรง ในขณะที่บางประเทศใช้การกะพริบไฟสูงเมื่ออยากให้ทาง เพราะแสดงว่า เห็นแล้วและยอมให้ทาง ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้เพื่อบอกว่า เห็นแล้วว่ามีรถยนต์กำลังจะตัดทางเข้ามา แต่ไม่ให้เข้ามา

ในกรณีนี้ กฎหมายไทย ไม่มีการกำหนดว่า ให้ใช้การกะพริบไฟสูง เพื่อจุดประสงค์ใด อาจเพราะไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นสากลได้ จึงยังพอใช้กันในสไตล์ไทย ๆ ได้ แต่ก็มีผู้ที่ใช้เพื่อต้องการให้ทางอยู่บ้าง ซึ่งน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะต้องเห็นก่อนจึงจะสามารถกะพริบไฟบอกได้ ก็คงต้องปล่อยวางและใช้กันไปตามกระแส2. จอดในพื้นที่ห้ามจอด-เปิดไฟฉุกเฉิน ถือเป็นการเอาเปรียบสังคมอย่างหนึ่ง แม้จะเป็นการจอดชั่วคราวก็ตาม เพราะการเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อแสดงว่าจอด แต่ถ้าไม่ใช่เวลาและและพื้นที่ซึ่งควรจอดก็ไม่ควรปฏิบัติ อีกทั้งยังผิดกฎจราจรอีกด้วย การเปิดไฟฉุกเฉินจอดในพื้นที่ห้ามจอด ไม่สามารถป้องกันการออกใบสั่งได้

3. ก้มศีรษะขอบคุณ ลืมไปแล้วหรือ ? 3-4 ปีที่ผ่านมา ผู้ขับมีการก้มหัวขอบคุณเมื่อได้รับการให้ทาง แต่ในระยะหลังมานี้เริ่มมีการถดถอยหรือหลงลืมกันไปบ้าง อาจจะเป็นเพราะการรักษาศักดิ์ศรีโดยไม่จำเป็น เช่น ผู้ขับรถยนต์ระดับหรูราคาแพง มักไม่ยอมขอบคุณผู้ขับรถยนต์ราคาถูกที่ยอมให้ทาง หรือผู้ชายมักไม่ยอมขอบคุณผู้หญิง ฯลฯ

นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก เมื่อมีการขอบคุณให้หลังจากได้รับการให้ทาง หากเกรงเสียศักดิ์ศรี ไม่อยากก้มศีรษะขอบคุณให้ ก็สามารถใช้วิธียกแขนพร้อมแบฝ่ามือครบทั้ง 5 นิ้ว (เน้นครบ 5 นิ้ว เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด) ซึ่งยังดีกว่าการเพิกเฉย การขอบคุณในเรื่องที่สมควร ไม่น่าใช่เรื่องการเสียศักดิ์ศรี4. เบรก ต้องสนใจรถยนต์ที่ตามด้วย ไม่ใช่แค่รักษามารยาท แต่เป็นการเพิ่มความปลอดภัยกันด้วย ถ้าต้องมีการเบรก ผู้ขับส่วนใหญ่จะมองแค่เป็นการลดความเร็ว เมื่อมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า โดยไม่ค่อยสนใจมารยาท และความปลอดภัยของผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมา

หาก มีเวลาพอ ก่อนการเบรกควรเหลือบมองกระจกหลัง และเพื่อจะได้ตัดสินใจกดแป้นเบรกด้วยจังหวะและน้ำหนักที่เหมาะสม เพื่อมารยาทที่ดี ผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมาไม่ต้องเบรกจนตัวโก่ง และไม่เสี่ยงต่อการเสียโฉมของบั้นท้ายรถยนต์ของตนเอง
นอกจากนั้น การแตะเบรกโดยไม่จำเป็นก็ถือว่า เสียมารยาทบ้างเล็กน้อย เพราะไฟเบรกจะสว่าง ทำให้ผู้ขับรถยนต์คันตามมาชะงัก แต่ก็อย่ากังวลมากจนแตะเบรกช้า เพราะอาจเป็นอันตราย
การเบรกไม่ควรสนใจแต่เพียงสถานการณ์ด้านหน้าเท่านั้น ด้านหลังก็ต้องสนใจทั้งมารยาทและความปลอดภัย5. ข้าม 4 แยก / 3 แยก ตรงไป ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน ถ้าจะขับรถยนต์แล้วต้องการข้าม 4 แยก หรือ 3 แยกแนวตรงแล้วต้องการตรงไป การเปิดไฟฉุกเฉิน-กะพริบ 4 มุม เป็นวิธีที่ผิดและอันตราย

สาเหตุที่ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินในกรณีนี้ เพราะผู้ขับรถยนต์ที่มาด้านซ้าย-ขวา อาจเห็นเพียงไฟกะพริบด้านหน้ามุมเดียว เสมือนเป็นการเปิดไฟเลี้ยว โดยไม่ทราบเลยว่า เป็นการเปิดไฟฉุกเฉินกะพริบพร้อมกัน 4 มุมซ้าย-ขวา
หากสมมุติ เหตุการณ์ขึ้นจะพบว่า ไฟเลี้ยวด้านหน้า แม้จะกะพริบพร้อมกันซ้าย-ขวา แต่ผู้ขับรถยนต์คันที่มาจากด้านข้างในแต่ละด้าน ก็ยังอาจเห็นไฟหะพริบเพียงมุมเดียว โดยเฉพาะผู้ที่ขับรถยนต์มาจากด้านซ้าย ก็อาจจะไม่ชะลอความเร็วลงหรือไม่ให้ทาง ด้วยคิดว่ารถยนต์คันที่เปิดไฟฉุกเฉินจะเลี้ยวซ้าย โดยไม่เกี่ยวกับเขา
นอก เหนือจากนั้นในมุมอื่น หากมีรถยนต์บางคันที่เปิดไฟฉุกเฉิน ผู้ขับรถยนต์คันอื่นก็อาจเข้าใจผิดคิดว่า เป็นการเปิดไฟเลี้ยวเฉพาะมุมที่เขาเห็นในช่วงเวลานั้ น
วิธีปฏิบัติ ที่ถูกต้องและปลอดภัย คือ เบรกชะลอความเร็วลงมองซ้าย-ขวา เมื่อเส้นทางว่างพอ ก็ตรงไปด้วยความเร็วที่เหมาะสม โดยไม่ต้องเปิดสัญญาณไฟใด ๆ ใช้สมาธิและเวลา มองรถยนต์คันอื่น ปลอดภัยกว่าการเสียสมาธิและเสียเวลา เปิด-ปิดสวิตช์ไฟฉุกเฉิน
ในกฎหมายจราจร ไม่มีการระบุไว้ว่า ต้องเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อต้องการข้าม 4 แยกแล้วตรงไป
ฝนตกหนัก ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน อาจให้ผลร้ายในความหวังดี ที่เกรงว่าผู้ร่วมทางจะไม่สามารถมองเห็นรถยนต์ ของตน เมื่อฝนตกหนัก ๆ
ไม่ ควรเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะจะแยงสายตา และหากมีรถยนต์บางคันบังรถยนต์คันที่เปิดไฟฉุกเฉิน ผู้ขับรถยนต์คันอื่นอาจเข้าใจผิดว่า เป็นการเปิดไฟเลี้ยวเฉพาะมุมที่เขาเห็น รวมถึงมักมีการเปลี่ยนเลนโดยไม่ปิดไฟฉุกเฉินก่อน ก็จะไม่มีไฟเลี้ยวให้ใช้บอกเตือนตามปกติ
ถ้าฝนตกหนักมาก วิธีปฏิบัติที่ปลอดภัยและถูกต้อง คือ ชะลอความเร็วลง ชิดเลนซ้าย และเปิดไฟหน้าแบบต่ำ หรือถ้ามีไฟตัดหมอกหลังสีแดงเพิ่มอีก 2 ดวง ก็ควรเปิดไว้ด้วย แล้วขับด้วยความระมัดระวังตลอดเส้นทาง
ไฟฉุกเฉินมี ไว้ใช้เมื่อฉุกเฉินจริง ๆ เช่น รถยนต์จอดเสีย เกิดอุบัติเหตุบนผิวจราจร รถยนต์ถูกลาก (ถ้ามีโอกาส ทำป้ายหรือเขียนกระดาษแปะด้านท้ายรถว่า "รถลาก" จะช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น)
ในกรณีที่เปิดไฟฉุกเฉินและมีการลากรถยนต์ ควรชิดเลนซ้ายและเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน ควรปิดไฟฉุกเฉินแล้วเปิดไฟเลี้ยวล่วงหน้าตามระยะห่าง ที่ปลอดภัย6. สปอตไลท์/ไฟ ตัดหมอก ควรเปิดเมื่อไม่รบกวนคนอื่น ไฟส่องสว่างนี้มีทั้งติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและติดตั้งเพิ่มเอง ตำแหน่งอยู่ตรงด้านล่างของกันชนหน้า 2 ดวงต่อรถยนต์ 1 คัน รถยนต์บางรุ่นติดตั้งให้ใช้เป็นไฟตัดหมอก ซึ่งก็ควรใช้เมื่อมีหมอกตามชื่อเรียก

การใช้สปอตไลท์/ไฟตัดหมอก เริ่มมีการผิดมารยาท สร้างความรำคาญ และเริ่มแพร่หลายขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจลดความปลอดภัยแก่ผู้ร่วมถนน คือ เปิดใช้ในขณะที่เส้นทางไม่มืดมาก ซึ่งไม่จำเป็นเลยเพราะแสงสว่างที่แรงนั้น อาจแยงสายตาทั้งผู้ขับรถยนต์คันที่สวนมาและคันที่นำห น้าในเส้นทางปกติ ไม่ควรเปิดใช้งานเพราะสว่างอยู่คนเดียว แต่ทำให้คนอื่นตาพร่ามัวคล้าย หรือแย่กว่าการเปิดไฟสูงสาดไปทั่วนั่นเอง
ผู้ขับรถยนต์บางรายหนักข้อ ด้วยการเปิดเพียงไฟหรี่ แล้วเปิดสปอตไลท์เพิ่มความสว่าง นับเป็นการรบกวนสายตาของเพื่อนร่วมทางอย่างมาก ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำเพื่ออะไร ?
ต้นเหตุที่หลายคนเปิดสปอตไลท์ หรือไฟตัดหมอกด้านหน้า โดยไม่เกรงใจผู้ขับรถยนต์คันนำ หรือคันที่สวนทางมา เพราะคิดไปเองแต่เพียงว่า ตำแหน่งของสปอตไลท์อยู่ต่ำ ไม่น่าแยงตาเหมือนการเปิดไฟสูง
ในความเป็นจริง ไฟส่องสว่างที่ติดตั้งอยู่ต่ำก็อาจแยงตาได้ ถ้ามีแสงแรงและมีการกระจายแสงมาก ๆ สปอตไลท์ส่วนใหญ่มีแสงแรง และหลายแบบมีการกระจายแสงมากจนแยงตา ด้วยแสงแบบประกายแฉก
หากอยากเปิดใช้จริง ๆ ควรลองเปิดแล้วออกไปมองอย่างรอบคอบว่า จะแยงตาผู้อื่นหรือไม่ (ส่วนใหญ่แยงตา)
หากไม่แน่ใจ ก็ไม่ควรเอาเปรียบผู้ขับร่วมทาง ด้วยการเปิดสปอตไลท์โดยไม่จำเป็น ควรเปิดเมื่อมืดจริง ๆ และมั่นใจว่า ไม่รบกวนผู้อื่น
สำหรับ คำถามที่ว่า แล้วเมื่อมีปัญหาอย่างนี้ผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งสปอตไล ท์มาเพื่ออะไร แล้วจะได้ใช้งานเมื่อไร เพราะกลัวไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายระบุในคู่มือประจำรถยนต์ว่า สปอตไลท์ควรเปิดเมื่อไม่รบกวนผู้อื่น จำเป็น หรือควรเปิดเมื่อหมอกลง และไม่ควรเปิดใช้ต่อเนื่องนาน ๆ เพราะจะร้อนเกินไปจนจานฉายอาจเสื่อมได้ง่าย และการเปิดสปอตไลท์ต่อเนื่องจนร้อน เมื่อต้องลุยน้ำกะทันหัน กระจกด้านหน้าของสปอตไลท์อาจแตกร้าวได้
การติดตั้งสปอตไลท์เพิ่มเติม เอง ถ้าไม่ถูกตำแหน่งหรือมีแสงแรงเกินกำหนด ก็ผิดกฎหมาย ทั้งมีการเปิดใช้และไม่เปิด จะไม่ผิดกฎหมายก็ต่อเมื่อติดตั้งถูกตำแหน่งมีฝาครอบปิด และไม่ได้เปิดใช้บนเส้นทางเรียบปกติ
ถ้ามีไฟตัดหมอกหลัง ควรเปิดเมื่อหมอกลง หรือฝนตกหนักเท่านั้น ในรถยนต์บางรุ่นมีสวิตช์พิเศษสำหรับไฟตัดหมอกด้านหลั ง คือ มีไฟท้ายสีแดงเพิ่มขึ้นอีกข้างละดวง โดยมีความสว่างมากกว่าไฟท้ายปกติมาก เพื่อใช้เตือนผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมาเมื่อหิมะตกหนัก ฝนตกหนัก หรือหมอกลง
ถ้าเปิดใช้ไฟตัดหมอกหลังสีแดง ซึ่งมีความสว่างมาก ๆ ในยามทัศนวิสัยปกติแบบไทย แสงสว่างที่เพิ่มขึ้นมาอาจจะแยงสายตาผู้ที่ขับรถยนต์ คันที่ตามมา จึงไม่ควรเปิดใช้บนสภาพถนนปกติ ถ้าจะรบกวนผู้อื่น7. เปลี่ยน เลน-แซง-ขึ้นทางตรงได้แล้ว ควรเร่งความเร็วเพิ่ม การเลี้ยวขึ้นทางตรงจากซอยหรือทางโท รวมถึงการเปลี่ยนเลน ควรกระทำเมื่อเส้นทางว่างพอ เมื่อเปลี่ยนเข้าสู่เลนที่ต้องการได้แล้ว บางคนไม่สนใจมารยาทต่อผู้ขับรถยนต์คันที่ตามมา เพราะคิดแต่เพียงว่า ถ้าถูกชนด้านท้ายแล้วจะไม่ผิด เนื่องจากเข้าสู่เส้นทางได้เต็มคันแล้ว

ด้าน มารยาท เมื่อเข้าสู่เส้นทางได้เต็มคันแล้ว ควรเร่งความเร็วมาก ๆ กดคันเร่งหนัก ๆ เพื่อไล่รถยนต์คันหน้าในระยะที่เหมาะสมให้เร็วที่สุด โดยไม่ต้องสนใจว่า รถยนต์คันหลังห่างแค่ไหน เพื่อมารยาท ผู้ขับรถยนต์คันหลังจะได้ไม่ต้องเบรกจนตัวโก่ง และไม่เสี่ยงต่อการเสียโฉมของบั้นท้ายรถยนต์ของตนเอง ด้วย8. ไฟเหลือง ควรเร่งหนีหรือเบรก ? หลักการที่ถูกต้องและเป็นสากลแต่ไม่ค่อยมีปฏิบัติกัน คือ ต้องเบรกและจอดเมื่อเห็นไฟเหลืองก่อนไฟแดง

ผู้ขับรถยนต์ไทยส่วนใหญ่ เมื่อเห็นไฟเหลือง กลับกลายเป็นไฟเตือนให้เร่งหนีการติดไฟแดง ซึ่งไม่ถูกต้องนัก เพราะการที่ไฟเหลืองสว่างขึ้นก่อนจังหวะไฟแดง ตามหลักการจริงเป็นการเตือน เพื่อให้ชะลอความเร็วลงและจอด
ในเมื่อ วิถีการขับรถยนต์ของคนไทยส่วนใหญ่ ถ้าเห็นไฟเหลือง คือ ไฟเตือนให้เร่งหนีการติดไฟแดง ก็คงหลีกหนีไม่พ้น และรณรงค์ได้ยาก ที่จะให้เปลี่ยนเป็นการที่เมื่อไฟเหลืองสว่างขึ้นก่อนจังหวะไฟแดง เป็นการเตือนเพื่อให้ชะลอความเร็วลงและเบรก
หากอยาก จอดเมื่อเห็นไฟเหลืองแล้วเบรกเพื่อจอด ก็นับเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยจากการถูกชนท้าย เพราะคนไทยส่วนใหญ่ เมื่อเห็นไฟเหลืองจะเข้าใจกันว่า เป็นการเตือนให้เร่งหนีการติดไฟแดงบนแยก
ถ้า ต้องการฝืนสังคม (ทั้งที่ไม่ผิด) ควรเหลือบมองกระจกหลังไว้หน่อย เพื่อจะได้ตัดสินใจกดแป้นเบรกด้วยน้ำหนักและจังหวะที่เหมาะสม เพื่อมารยาท ผู้ขับรถยนต์คันหลังไม่ต้องเบรกจนตัวโก่งและไม่เสี่ย งต่อการเสียโฉมของบั้นท้าย รถยนต์ของตน9. ไฟเลี้ยว ต้องเปิด-ปิดอย่างเหมาะสม

ถือ เป็นเรื่องพื้นฐานที่ถูกมองข้าม การเปิดไฟเลี้ยวเป็นเรื่องจำเป็น เพราะกฎหมายกำหนดให้มีการเตือนผู้ร่วมทางล่วงหน้าตาม ระยะที่เหมาะสม จึงควรเปิดไฟเลี้ยวเมื่อเตรียมเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยวล่วงหน้าพอสมควร และไม่ควรเปิดค้างจนลืม
ชิดซ้ายเสมอ บนถนนหลายเลนมักมีการเตือนวา "ขับช้า ชิดซ้าย" ซึ่งไม่ค่อยตรงกับหลักการขับปลอดภัย และมารยาทในการใช้ถนน เพราะจะมีรถยนต์แล่นเลนขวาตลอด โดยคิดว่าความเร็วที่ใช้ในขณะนั้นถือว่าเร็วแล้ว ซึ่งอาจเป็นเพราะกฎหมายไทยกำหนดให้ใช้ความเร็วสูงสุด ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อใช้ความเร็วเกินขึ้นไปแล้ว ก็มักจะคิดไปเองว่า เร็วพออยู่แล้ว จึงสามารถแล่นชิดขวาได้ วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง รักษามารยาท และปลอดภัยในการใช้เลนขวา คือ "แซงแล้วชิดซ้าย" ไม่ว่าจะใช้ความเร็วสูงเท่าไรก็ตาม เมื่อเร็วแล้วแต่ยังมีเร็วกว่าได้การขับรถยนต์ด้วยมารยาทที่ดีเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติ:smiley-music019::smiley-music019::smiley-music019:

rangsun
19-12-2010, 22:30
วันก่อนผมพึ่งเซ็งเล็กๆกับคนขับ Sl สปอร์ตป้ายแดงสีขาว ขึ้นทางด่วนจะจ่ายเงินครับ แถวๆพระราม2

รถติดมาก เลนจากสองเลน ถูกบังคับให้เหลือเลนเดียวเพื่อจ่ายเงินทางด่วน
อีแม่เจ้านี่ เค้าวิ่งแบบสลับคันกันมาตลอด ไม่เคยมีปัญหา เ็ปนมารยาท เวลาเจอคอขวด ใครไม่รู้ ก้อรู้ไว้ด้วยนะครับ เปนพื้นฐานที่เมืองนอกเค้าสั่งสอนกันมานาน แต่บ้านเรา นานๆจะได้เห็น

อีถ่อยนี่ แทรก แทรก แทรก กะจะเบียดขึ้นหน้าผม เบิ้ลเปนคันที่สอง ผมก้อไม่ยอม จนที่สุึดเค้าแทรกไม่ได้ บีบแตรด่าผมใหญ่เลย

สะใจ จริงๆ คิดว่าขี่คันละสิบล้านแล้ว ทำอะไรถ่อยๆ ต่อหน้าคนถ่อยอย่างผม
เมื่อคืนผมก็เจอเหมือนน้าเลยแยกเทศบาลหัวหิน เขาติดไฟแดงเป็นแถวจู่ ๆ วิ่งช่องรถเลี้ยวซ้ายมา จะหน้าด้านมาแทรกเข้าเลนเลี้ยวขวาผมไม่ยอม ไฟเลี้ยวก็ไม่ขอ เปิดกระจกขอก็ไม่ทำ เร่งเครื่องแล้วหักหน้าจะเข้าแถว ผมไม่ยอมแถมกดแตร(ด่า)ด้วย เขาโกรธเร่งเครื่องควันตลบทั้งถนนเลยแล้วก็เข้าจอดข้างฟุตบาตไปเลย

นายหมูบิน
19-12-2010, 22:57
อยากให้คนขับรถทุกคันได้อ่านจังเลยครับ..โดยเฉพาะพวกรถหรูที่วิ่งซ้ายไม่เป็น

vasin2523
19-12-2010, 23:06
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลดีๆครับ

โต๋ ไตตั้น
20-12-2010, 17:43
สาระดีดี อีกแล้วครับทั่น รับทราบนําไปใช้ได้เลย

korntriton
20-12-2010, 19:22
ที่เจอนะครับ จะมีคนบางประเภทครับ ที่เห็นไฟเลี้ยวเราแล้วชอบเหยียบคันเร่ง
ไม่ให้เราแทรกครับ ทั้งๆที่ความเร็ว 50-70 นะครับ (ใน กทม.) ซึ่งระยะที่เราเปิดไฟเพื่อจะเปลี่ยนเลนนั้นมีมากพอ ที่เราสามารถเข้าได้เลย ที่เปิดไฟ ก็เพื่อมารยาท ครับ แต่พอเปิดไฟปุ๊บ เค้าเล่นเหยียบคันเร่งปั๊บไม่ให้เข้าครับ งงครับ
ก็อย่าเปิดสิครับ555

Alongkorn
20-12-2010, 19:50
ขอบคุณมากครับป๋า.:21-7:.

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากบนผิวจราจรร้านค้าหรือห้างร้านต่างๆไม่นำเก้าอี้,กรวยยาง,เสาปูนขนาดเล็กไปวาง
จะเป็นการช่วยให้มีพื้นที่ๆสามารถเดินรถได้อย่างคล่องตัวขึ้นนะครับ..เจ้าหน้าที่จราจรน่าเอาผิดได้
ในรูปแบบนี้เพราะร้านค้า-ห้างร้านเหล่านั้นคงเสียภาษีพอๆกันกับคนอื่นอย่างเราๆกันครับ..



เราเริ่มที่เราก่อน ทำไมเราจะต้องตามเขาในสิ่งที่ผิด
ผมเองเคยมีความรู้สึกต่อต้าน
พวกไร้มารยาทไร้ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
แต่มันเกินหน้าที่ที่จะไปแก้ไขปัญหา
คิดไปก็ไร้ความสุข มีแต่ความคิดแค้นความทุกข์ก็ผุดขึ้นมา
ปวดหัวเปล่าๆ ใครเป็นอย่างไรก็ช่างเขา
ผมขอเริ่มในสิ่งที่ทำได้ คือการรณรงค์กับสมาชิกเราก่อน
เราทำตัวเราให้ถูกต้อง และดีที่สุด ชีวิตเราจะมีแต่ความสุข ไร้ทุกข์ตลอดไป

chaiyasit
20-12-2010, 20:10
เราเริ่มที่เราก่อน ทำไมเราจะต้องตามเขาในสิ่งที่ผิด
ผมเองเคยมีความรู้สึกต่อต้าน
พวกไร้มารยาทไร้ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม
แต่มันเกินหน้าที่ที่จะไปแก้ไขปัญหา
คิดไปก็ไร้ความสุข มีแต่ความคิดแค้นความทุกข์ก็ผุดขึ้นมา
ปวดหัวเปล่าๆ ใครเป็นอย่างไรก็ช่างเขา
ผมขอเริ่มในสิ่งที่ทำได้ คือการรณรงค์กับสมาชิกเราก่อน
เราทำตัวเราให้ถูกต้อง และดีที่สุด ชีวิตเราจะมีแต่ความสุข ไร้ทุกข์ตลอดไป
ข้อความที่ผมเขียนอาจแทงใจและไร้ทิศทาง...แต่ก็ลงตรงที่แนวทางตามชื่อกระทู้ครับ..
**ทำ..ไม่ทำ..ตัวเราเองรู้ดีกว่าคนอื่น..**
เสียงค่อนข้างเล็กมากแต่มาช่วยดันและทำตามแนวเดียวกันครับป๋า..ขอบคุณอีกครั้งครับป๋า:D..

KHO TRITON
21-12-2010, 15:36
เป็นประโยชน์มาก อยากให้พวกไร้น้ำใจเข้ามาอ่านบ้างจัง รถติดก็ลงวิ่งซ้าย บางทีก็กระพริบไฟไล่ โดย
เฉพาะรถราคาแพง ท่านมีธุระคนเดียวหรือไง.

น้องขาวมุก
21-12-2010, 15:56
ขับรถดี มีน้ำใจ ภัยห่างตัว :emo024mc1:

tonzatriton
21-12-2010, 16:04
ขอบคุณครับ ป๋า

nick-ice
21-12-2010, 17:37
:yenta4-emoticon-002:yenta4-emoticon-002:yenta4-emoticon-002 ขอบคุณครับป๋าดีมากๆเลย

myjoefiend
21-12-2010, 17:38
ขอบคุณครับ ป๋า ผมก็อยากให้คนมีมารยาทให้ก่อนบ้างผมเลยทำอยู่ประจำ เผื่อจะเจอคนแบบเดียวกันแต่นานมากๆ กว่าจะเจอคันนึง พูกแล้วเหนื่อยใจครับ

mahtragul
21-12-2010, 20:25
การเปลี่ยนแปลงสังคมในทันทีเป็นสิ่งทำได้ยาก ควรเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตัวเราก่อนความเป็นคน ย่อมแตกต่าง จึงควรมีคุณธรรมคอยชี้ทาง เพื่อยกระดับ ให้ต่างจากสิ่งมีชีวิต เดรัชฉาน ที่มีวิถีชีวิตเบียดเบียนซึ่งกันและกัน หรือสัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก ความเป็นมนุษย์ควรประเสริฐเลิศล้ำกว่านั้น ควรก่อกำเนิดอย่างสร้างสรรค์และเติบโตร่วมกัน ยินดีกับผลงานของผู้มีปัญญา ศรัทราในความดี หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี
ขอบคุณครับ ป๋า

tan immature
22-12-2010, 18:17
1 คน ทำได้ 1 ข้อ ก็ยังดี

chachino
25-12-2010, 18:52
เริ่มต้นจากป๋า พร้อมด้วยพวกเราชาวสมาชิกไทรทันคลับ แล้วก็ ต่อ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ฯลฯ การจราจรไทยต้องดีขึ้นแน่นอนครับ เริ่มเลยครับเรื่องนี้ไม่ต้องคอยใคร เป็นตัวอย่างให้คนทั่วไปเห็นว่าชาวไทรทันไทย ปฏิบัติตามกฏ มีวินัย เปี่ยมน้ำใจ ในการใช้รถใช้ถนนครับ

Alongkorn
28-12-2010, 22:47
ขอไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต

27 ธค. 2553 23:22 น.


เวลา 21.30 น. พ.ต.ท.สนอง แสงมณี สารวัตรเวรสน.วิภาวดี รับแจ้งเกิด
อุบัติเหตุรถตู้โดยสารพุ่งชนขอบทางด่วนโทลเวย์ ทำให้ผู้โดยสารตกลงมาเสียชีวิต
บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า สะพานลอยด้านหน้าสำนักงานปรมณู
ริมรั้วข้างคลองชลประทานมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.
จึงรุดไปตรวจสอบบนทางด่วนโทลเวย์ พบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว วิ่งระหว่างม.ธรรมศาสตร์ - อนุสาวรีชัยสมรภูมิ
บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถจำนวน 15 คน พุ่งชนขอบปูนข้างทาสภาพพังยับเยิน
ศพของผู้โดยสารกระเด็นตกลงมานอนเสียชีวิตเกลื่อนถนน และมีศพห้อยอยู่บนสะพานลอยคนข้าม
บางรายเสียชีวิตอยู่ในคลอง จำนวน 8 ศพ เป็นชาย 4 ราย หญิง 4 ราย
โดยมีศพชาย 1 ราย สวมเสื้อสีขาว กางเกงยีนส์แขวนติดอยู่กับเหล็กสะพานลอยคนข้าม
อีกศพเป็นชายตกลงไปในคลองริมรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรทางคู่ขนานขาเข้าตั้งแต่บริษัทยาคูล
ถึงแยกบางเขน ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก
พ.ต.ท.สนอง กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถตู้คันดังกล่าว
ขับมาจากรังสิต เพื่อมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ด้วยความเร็วสูง
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิวิค ทราบชื่อคนขับน.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 18 ปี
พุ่งชนท้ายรถตู้ทำให้รถตู้เสียหลักพลิกคว่ำ ชนขอบทางด่วนโทรเวย์
ทำให้ประตูรถตู้เปิดออกผู้โดยสารที่อยู่ภายใน กระเด็นตกลงมาเสียชีวิต

Alongkorn
28-12-2010, 22:56
กระบะวีโก้ซิ่งอัดตอม่อถ.พระราม2ตาย7ราย

พนักงาน (http://www.plazajob.com/)สอบสวน สน.แสมดำ รับ (http://www.plazajob.com/)แจ้ง เกิดอุบัติเหตุ
รถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน ตช 1418 กทม. เสียหลักชนตอม่อ บริเวณถนนพระราม 2 กม.8
ฝั่งขาเข้าจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่
พบศพผู้เสียชีวิตติดภายในรถกระบะด้านหน้า จำนวน 4 ราย
ส่วนอีก 3 ราย นั่งด้านหลัง เสียชีวิตคาที่ 1 ราย ส่วน อีก 2 ราย เจ้าหน้าที่พยายามช่วยชีวิต
โดยนำส่ง ร.พ.นครธน แต่สุดจะยื้อชีวิตไว้ได้ และเสียชีวิตที่ ร.พ.อีก จำนวน 2 ราย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพรถ พบว่าถูกอัดเข้ากับตอม่อแหลกละเอียด
ภายในรถ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง งัดร่างของผู้เสียชีวิตออกจากรถอย่างยากลำบาก จำนวน 2 ราย
ภายในรถ มีกระเป๋าเดินทางหลายใบ (http://www.plazajob.com/) คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมด น่าจะกลับจากการเดินทางมาจากต่างจังหวัด

ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิต ล่าสุด ทราบชื่อ คนขับรถกระบะมรณะ
คือ นายภูมิกิติ จารุธนานนท์ อายุ 39 ปี เป็น คน กทม. เจ้าหน้าที่
อยู่ระหว่างการตรวจค้นภายในรถ เพื่อตรวจสอบเอกสารและหา (http://www.plazajob.com/)รายชื่อผู้เสียชีวิต
ส่วนความคืบหน้าจะรายงาน (http://www.plazajob.com/)ให้ทราบต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.สุนทร อัมพรายน์ ผกก.สน.แสมดำ
เปิดเผยความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุ รถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน ตช 1418 กทม.
เสียหลักชนตอม่อ บริเวณถนนพระราม 2 กม.8 ฝั่งขาเข้า มีผู้เสียชีวิต 7 ศพ
ล่าสุด จากการตรวจสอบ พบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน
โดยได้เดินทางกลับจากงาน (http://www.plazajob.com/)ศพที่บ้านญาติ ซึ่งผู้ตายเป็นคนภูมิลำเนา จ.นครศรีธรรมราช และขณะขับรถกลับเข้า กทม. ก็ได้เสียหลักชนตอม่อ
ซึ่งจากการตรวจสอบ ไม่พบร่องรอยเบรกของรถ
จึงเชื่อว่า คนขับอาจหลับในและขับรถมาด้วยความเร็วสูง จึงเสียหลักชนและเสียชีวิตคาที่ทั้งหมด
โดยผู้เสียชีวิต เบื้องต้น ประกอบด้วย
1.นายภูมิกิติ จารุทนานนท์ คนขับรถ ซึ่งเป็นพ่อ
2.นางธัญพัฒน์ จารุทนานนท์ ภรรยา
3.นางสาว พิชญา จารุทนานนท์ ลูกสาว และนายธนยส ขุนนักเชียร ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 3ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และขณะนี้มีญาติของผู้ตาย ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่แล้ว และจะทํา (http://www.plazajob.com/)การขอรับ (http://www.plazajob.com/)ศพกลับไปบำเพ็ญกุศล ซึ่งเจ้าหน้าที่ นำศพไปบันทึกที่ สน.แสมดำ ก่อนส่งตรวจพิสูจน์ ตามขั้นตอน

pphundongyang
28-12-2010, 23:45
:kapook-17197-2309:ไร้ซึ่งรอยเบรค
วันนี้ตอน16.45น.บายพาสปากช่องฝั่งขาเขากรุงเทพ
พี่โก้ก็ลงไปจูบกับต้นสะเดาในร่องกลาง

ยังไงครอบครัวไทรทันคลับเดินทางช่วงปีใหม่ระมัดระวังด้วยนะครับ
เมาแล้วหลับดีกว่า

x-net
28-12-2010, 23:48
ชอบข้อ 6 ครับ เพราะอยากให้พวกที่ชอบเปิดไฟตัดหมอกได้อ่าน จัง แสบตามาก โดยเฉพาะไฟตัดหมอกไฟท้าย แสบตาจริงๆๆ

Alongkorn
29-12-2010, 23:04
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร
ความประมาท
ฝ่าฝืนกฏหมาย โดยเจตนา/ไม่เจตนา
ไม่ใส่ใจในความปลอดภัย
ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
ผู้ใช้รถไร้วินัยจราจร
ตำรวจละเลยหน้าที่/มุ่งหาประโยชน์ส่วนตน
พ่อแม่ตามใจลูก อายุ 16 ปี ซื้อรถให้ใช้
ถ้าเป็นกรณีนี้ ผิดที่พ่อแม่นั่นแหละ

หรือเกิดจากไอ้ปิ๊ดหว่า :i38:

bradrooker
31-01-2011, 21:59
ขอบคุณครับ

lermtakeru
20-02-2011, 18:27
ข้อมูลดีๆครับ

mckyparty
20-02-2011, 18:33
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร
ความประมาท
ฝ่าฝืนกฏหมาย โดยเจตนา/ไม่เจตนา
ไม่ใส่ใจในความปลอดภัย
ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
ผู้ใช้รถไร้วินัยจราจร
ตำรวจละเลยหน้าที่/มุ่งหาประโยชน์ส่วนตน
พ่อแม่ตามใจลูก อายุ 16 ปี ซื้อรถให้ใช้
ถ้าเป็นกรณีนี้ ผิดที่พ่อแม่นั่นแหละ

หรือเกิดจากไอ้ปิ๊ดหว่า :i38:

น้องอายุ 18 แล้ว และทำไม ไม่มีใครย้อนรอยไปดูมารยาทรถตู้มั่ง

Yanyong
24-03-2011, 13:19
เห็น ท่าน พ่อ ท่าน แม่ (ง)
และทีมกฏหมายน้อง ออกมายืนยันแล้วนี่ครับ
ว่า รถน้องเขาไม่ได้เฉี่ยวกับรถตู้เลยนะครับ รถตู้เสียหลักเองน้องเขาอุส่าห์ หักหลบ
จนรถน้องเขาเสียหลักเลย อ๊ะ
รถตู้ก็เป็นผู้หญิงขับ อาจไม่ชำนาญเองอะครับ
เป็น ผมเอง ยอมเฉพาะ Triton เท่านั้นครับ

psylencex
24-03-2011, 13:29
สุดยอดครับ ป๋า ขอเน้นเรื่องไฟเลี้ยว เห็นบ่อยมาก ไม่เคยเปิดกันเลย หรือไม่ก็เปิดตอนเลี้ยวแล้ว

thitot_inkman@sanook.com
24-03-2011, 14:01
น้องอายุ 18 แล้ว และทำไม ไม่มีใครย้อนรอยไปดูมารยาทรถตู้มั่ง
ผมโดนตลอดเลย พวกรถตู้เนี๊ยะ:yociexpress09:

Chatuchak
31-03-2011, 13:46
ขอบคุณครับป๋าแม้จะเขียนลงมานานแล้ว แต่เพิ่งได้อ่านและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สมาชิกของชมรมนี้จะอ่าน ทำความเข้าใจและใช้จิตสำนึกของตัวเองพิจารณาครับ

Sinplug
22-04-2011, 10:50
ขอบคุณนะครับน้าที่นำความรู้ดีๆใกล้ตัว มาฝากกัน.....

ผมถ้าใครเปิดไฟเสี้ยวขอทางผมยอมให้แทรกได้ แต่คันไหนไม่เปิดผม ไม่ยอมครับ ผมจะขอทางจะดันเปิดไฟเสี้ยวซะนิดก็ไม่ได้ เคยมีเหตุการณ์ประมาณนี้เหมือนกันครับจะแทรกให้ได้แต่ไม่ยอมเปิดไฟเสี้ยว ไม่ทราบว่าดันไฟเลี้ยวนี่มันยุ่งยากตรงไหนกัน ผมก็ไม่ยอมครับ สุดท้ายพี่ท่านแกจอดเข้าไม่ได้ พอรถผมขยับ คันหลังก็ไม่ให้เหมือนผม แกก็ยังไม่เปิดไฟเลี้ยวอีก

กรุงเก่า
28-04-2011, 02:12
:96 2:ผมเคยเจอแต่เคทแบบนี้ครับ เจอบ่อยๆด้วย ขับออกมาจากซอยเพื่อจะออกทางซ้ายจากซอย มองทางขวาเพื่อดูรถที่จะมาจากทางตรง พอเจอวิ่งมาเราก็ไม่กล้าออก กลัวไปตัดหน้าเขา เพราะเขามาทางตรง แต่พอถึงปากซอยเราปั๊บ เขาก็ชลอแล้วเลี้ยวเข้าซอยเราเฉยเลย ไฟเลี้ยวก็ไม่เปิด:80 2: สรุปเราก็จอดเอ๋อสิครับ แทนที่จะเปิดไฟเลี้ยวมาแต่ไกลให้สัณญานเรา เราก็นึกว่าจะตรงไปไม่กล้าออกไป ที่แท้เลี้ยวเข้าซอยเรา ปล่อยให้เราจอดชลอ เพราะนึกว่าเขาจะตรงไป แต่ดันมาเลี้ยวเข้าซอยเรา ไฟเลี้ยวมีแต่ก็ไม่เปิด เห้อๆๆๆๆๆ:9 4:
ด้วยความเคารพครับ...:3 2:

youknowbig
16-05-2011, 15:55
ข อ บ คุ ณ ค รั บ

nopparat ngamsai
17-05-2011, 15:57
ขอบคุณมากค่ะ เป็นประโยชน์อย่างมาก เคยเจอแบบขับไปโทรไปคุณพี่ก้อโงนเงนโงนเงนอยู่กลางถนนเจอทั้งรถยนต์และมอไซด์ช่างไม่เกรงใจชาวบ้านเค้าบางเลยน่าจะจอดคุยกันให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยขับรถต่อ น้าๆเห็นด้วยไหมค่ะ