Joe043
08-02-2011, 09:02
ขาร๊อครุ่นเก่า น่าจะรู้จักกันดี นะครับ กับตำนานเพลงร๊อคสำเนียงบลู
บทเพลงอมตะจะอยู่ในใจผมตลอดไป:i42::emo023vv3:
เพลง Still got the blue ที่ทำให้ผมรู้จัก แกรี่ มัวร์ ตั้งแต่เมื่อ20ปีที่แล้ว
4O_YMLDvvnw
เพลงนี้คุ้นๆมั๊ยครับ สำเนียงเหมือนเพลงอะไรเอ่ย กับวงร๊อคมือขวา
GHSfaEHgUPE
มือกีตาร์ชื่อดังชาวไอริช 'แกรี มัวร์' เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 58 ปี ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน คอสตา เดล โซล์ เขตตอนใต้ของประเทศสเปน ระหว่างการพักร้อน
แกรี มัวร์ มือกีตาร์ชื่อดังอดีตสมาชิกวงดนตรี Thin Lizzy สิ้นลมลงด้วยวัย 58 ปี ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งที่ประเทศสเปน ในช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีรายงานว่านักดนตรีชื่อดังชาวไอริช อยู่ระหว่างการเดินทางมาพักร้อน
มัวร์ เริ่มต้นมีชื่อเสียงกับการเป็นสมาชิกของวงฮาร์ดร็อค Thin Lizzy และเข้า ๆ ออก ๆ วงอยู่หลายช่วง นอกจากนั้นเขายังเคยทำงานร่วมกับ ฟิล ไลน็อตต์ นักร้องนำของวงหลายครั้ง จนกระทั่งฝ่ายหลังเสียชีวิตด้วยการเสพเฮโรอินเกินขนาดในปี 1986
มือกีตาร์ชื่อดังรายนี้ยังได้ทำงานกับศิลปินระดับโลกมากมาย ขณะเดียวกันผลงานเดี่ยวของ แกรี มัวร์ ยังถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม เขามีผลงานติดอันดับ TOP40 ของชาร์ตเพลงอังกฤษในช่วงยุค 1970s ถึง 1980s รวมถึงเพลง Parisienne Walkways และ Out in the Fields
ไบรอัน ดาวนีย์ อดีตสมาชิกของ Thin Lizzy กล่าวถึงข่าวเศร้าครั้งนี้ว่า 'ผมช็อคสุด ๆ ไปเลยครับ เขาจะอยู่ในความทรงจำ และคำภาวนาของผมตลอดไป ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาได้จากไปแล้ว'
ข่าวเศร้าครั้งนี้ได้รับคำยืนยันจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ มัวร์ ที่ระบุว่า 'มันเป็นเรื่องเศร้า และน่าเสียใจอย่างที่สุด ที่เราต้องประกาศว่า แกรี มัวร์ ได้จากไปแล้ว ระหว่างที่เขาพักร้อนที่สเปนเมื่อคืนที่ผ่านมา เราขอฝากความห่วงใยไปถึง ลูก ๆ, ครอบครัว และเพื่อน ๆ ของเขาในช่วงเวลาอันแสนเศร้าครั้งนี้'
แกรี มัวร์ เกิดเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 1952 ที่ เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ และเริ่มต้นออกแสดงดนตรีตั้งแต่มีอายุไม่มากนัก ภายหลังได้รับกีตาร์โปร่งเป็นของขวัญ เมื่อมีอายุเพียง 8 ขวบ และเมื่ออายุได้ 14 ปี เขาก็กลายเป็นสุดยอดมือกีตาร์อายุน้อย โดยได้รับอิทธิพลจากศิลปินชื่อดังในยุคอย่าง อัลเบิร์ต คิง, เอลวิส เพรสลีย์ และ The Beatles
แต่จุดเปลี่ยนในเส้นทางสายดนตรีของ มัวร์ เกิดขึ้นชัดเจนที่สุด เมื่อเขาได้ชมการแสดงสดของ จีมี แฮนดริกซ์ และ จอห์น เมยอล กับวง Bluesbreakers ที่เดินทางมาแสดงที่ เบลฟาสต์ในเวลานั้น จนทำให้ มัวร์ เริ่มต้นพัฒนาการเล่นกีตาร์สำเนียงแนวบลูส์ร็อคแบบฉบับของตนเองขึ้นมา ที่จะกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาไปอีกหลายปี
เมื่อมีอายุได้ 16 ปี มัวร์ ย้ายไปอยู่ที่ดับลิน และได้ร่วมวง Skid Row กับ โนเอล บริจแมน และ เบรนดัน ชิลส์ ที่สร้างชื่อทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการดนตรี และได้พบกับ ฟิล ไลน็อตต์ ที่ได้ทำหน้าที่นักร้องนำของ Skid Row ในช่วงสั้น ๆ โดยทั้งสองได้มีโอกาสทำร่วมงานกันในหลาย ๆ โอกาสไปอีกหลายปี จนกระทั่งฝ่ายหลังเสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาดในปี 1986
เมื่อปี 1972 มัวร์ ได้เข้าเป็นสมาชิกของ Thin Lizzy ที่มี ไลน็อตต์ เป็นนักร้องนำ แทนที่ อีริค เบลล์ มือกีตาร์คนเก่าที่ออกจากวงไปอย่างกะทันหัน มือกีตาร์หนุ่มน้อยที่มีอายุเพียง 20 ปี อย่าง มัวร์ เข้าร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับวงโดยทันที แต่เขาก็ได้เป็นสมาชิกของ Thin Lizzy อยู่เพียง 4 เดือน และอัดเพลงไปเพียง 3 เพลงเท่านั้น จึงลาออกเพื่อไปสร้างสรรค์ผลงานเพลงของตนเอง
หลังจากนั้น มัวร์ กลับมาร่วมงานกับ Thin Lizzy อีกหลายช่วง ทั้งเป็นสมาชิกชั่วคราวระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ต และเป็นสมาชิกถาวร แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณไม่ถึง 2 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตามในการเป็นส่วนหนึ่งของ Thin Lizzy มัวร์ ยังได้ร่วมบันทึกเสียงอัลบั้ม Black Rose: A Rock Legend ที่ต่อมากลายเป็นผลงานระดับคลาสสิคของวง
สก็อต กอร์แฮม มือกีตาร์อีกคนจาก Thin Lizzy กล่าวถึงการร่วมเล่นดนตรีกับ มัวร์ ว่า 'การได้เล่นดนตรีกับ แกรี่ ในช่วง Black Rose เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของผม เขาเป็นมือกีตาร์ที่ยอดเยี่ยม เป็นคนที่ยอดเยี่ยม'
ตลอดอาชีพทางดนตรีของสุดยอดมือกีตาร์ผู้นี้ เขามีโอกาสได้ร่วมงานกับนักดนตรีชื่อดังมากมาย อาทิ จอร์จ แฮริสัน, Dr. Strangely Strange, Colosseum II, อัลเบิร์ต คอลลินส์, จิมมี่ นีล, โม ฟอร์เตอร์, จินเจอร์ เบเกอร์, แจ็ค บรูซ, วิคกี้ บราวน์, โคซี่ พาวล์, The Beach Boys, ออสซี ออสบอร์น และ แอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์
ซึ่งการร่วมงานกับศิลปินชื่อดังระดับโลกมากมายนี่เอง มัวร์ จึงได้มีโอกาสทดลองเล่นดนตรีหลากหลายแนว ทั้ง ร็อค, ฮาร์ดร็อค แจ๊ซซ์ และ ป๊อป จนกระทั่งในปี 1990 เขาจึงได้กลับมาหารากเหง้าบลูส์ร็อคของตนเองอีกครั้ง กับผลงานเพลงเดี่ยว Still Got The Blues ที่งานนี้ได้นักดนตรีชื่อดังอย่าง อัลเบิร์ต คิง, อัลเบิร์ต คอลลินส์ และจอร์จ แฮริสัน มาร่วมงานด้วย
มัวร์ ยังคงสานต่อผลงานแนวบลูส์ร็อคของตนเองในผลงานอีกหลายอัลบั้มตลอดช่วงระยะ เวลา 20 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ลืมที่จะทดลองแนวเพลงใหม่ ๆ ด้วย รวมถึงการใส่บีตเพลงเต้นรำเข้าไปในอัลบั้ม Dark Days in Paradise เมื่อปี 1997
ตลอดการทำงานกว่า 40 ปี สำเนียงกีตาร์ของ แกรี มัวร์ นับได้ว่ามีอิทธิพลต่อนักดนตรีรุ่นหลังมากมาย อาทิ วิเวียน แคมป์เบล (Def Leppard), เจค อี. ลี, แอเดรียน สมิธ (Iron Maiden), แรนดี้ โรดส์ และ เคิร์ก แฮมเม็ตต์ (Metalica) เป็นต้น
ที่มา manager.co.th
บทเพลงอมตะจะอยู่ในใจผมตลอดไป:i42::emo023vv3:
เพลง Still got the blue ที่ทำให้ผมรู้จัก แกรี่ มัวร์ ตั้งแต่เมื่อ20ปีที่แล้ว
4O_YMLDvvnw
เพลงนี้คุ้นๆมั๊ยครับ สำเนียงเหมือนเพลงอะไรเอ่ย กับวงร๊อคมือขวา
GHSfaEHgUPE
มือกีตาร์ชื่อดังชาวไอริช 'แกรี มัวร์' เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 58 ปี ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน คอสตา เดล โซล์ เขตตอนใต้ของประเทศสเปน ระหว่างการพักร้อน
แกรี มัวร์ มือกีตาร์ชื่อดังอดีตสมาชิกวงดนตรี Thin Lizzy สิ้นลมลงด้วยวัย 58 ปี ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งที่ประเทศสเปน ในช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีรายงานว่านักดนตรีชื่อดังชาวไอริช อยู่ระหว่างการเดินทางมาพักร้อน
มัวร์ เริ่มต้นมีชื่อเสียงกับการเป็นสมาชิกของวงฮาร์ดร็อค Thin Lizzy และเข้า ๆ ออก ๆ วงอยู่หลายช่วง นอกจากนั้นเขายังเคยทำงานร่วมกับ ฟิล ไลน็อตต์ นักร้องนำของวงหลายครั้ง จนกระทั่งฝ่ายหลังเสียชีวิตด้วยการเสพเฮโรอินเกินขนาดในปี 1986
มือกีตาร์ชื่อดังรายนี้ยังได้ทำงานกับศิลปินระดับโลกมากมาย ขณะเดียวกันผลงานเดี่ยวของ แกรี มัวร์ ยังถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม เขามีผลงานติดอันดับ TOP40 ของชาร์ตเพลงอังกฤษในช่วงยุค 1970s ถึง 1980s รวมถึงเพลง Parisienne Walkways และ Out in the Fields
ไบรอัน ดาวนีย์ อดีตสมาชิกของ Thin Lizzy กล่าวถึงข่าวเศร้าครั้งนี้ว่า 'ผมช็อคสุด ๆ ไปเลยครับ เขาจะอยู่ในความทรงจำ และคำภาวนาของผมตลอดไป ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาได้จากไปแล้ว'
ข่าวเศร้าครั้งนี้ได้รับคำยืนยันจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ มัวร์ ที่ระบุว่า 'มันเป็นเรื่องเศร้า และน่าเสียใจอย่างที่สุด ที่เราต้องประกาศว่า แกรี มัวร์ ได้จากไปแล้ว ระหว่างที่เขาพักร้อนที่สเปนเมื่อคืนที่ผ่านมา เราขอฝากความห่วงใยไปถึง ลูก ๆ, ครอบครัว และเพื่อน ๆ ของเขาในช่วงเวลาอันแสนเศร้าครั้งนี้'
แกรี มัวร์ เกิดเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 1952 ที่ เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ และเริ่มต้นออกแสดงดนตรีตั้งแต่มีอายุไม่มากนัก ภายหลังได้รับกีตาร์โปร่งเป็นของขวัญ เมื่อมีอายุเพียง 8 ขวบ และเมื่ออายุได้ 14 ปี เขาก็กลายเป็นสุดยอดมือกีตาร์อายุน้อย โดยได้รับอิทธิพลจากศิลปินชื่อดังในยุคอย่าง อัลเบิร์ต คิง, เอลวิส เพรสลีย์ และ The Beatles
แต่จุดเปลี่ยนในเส้นทางสายดนตรีของ มัวร์ เกิดขึ้นชัดเจนที่สุด เมื่อเขาได้ชมการแสดงสดของ จีมี แฮนดริกซ์ และ จอห์น เมยอล กับวง Bluesbreakers ที่เดินทางมาแสดงที่ เบลฟาสต์ในเวลานั้น จนทำให้ มัวร์ เริ่มต้นพัฒนาการเล่นกีตาร์สำเนียงแนวบลูส์ร็อคแบบฉบับของตนเองขึ้นมา ที่จะกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาไปอีกหลายปี
เมื่อมีอายุได้ 16 ปี มัวร์ ย้ายไปอยู่ที่ดับลิน และได้ร่วมวง Skid Row กับ โนเอล บริจแมน และ เบรนดัน ชิลส์ ที่สร้างชื่อทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการดนตรี และได้พบกับ ฟิล ไลน็อตต์ ที่ได้ทำหน้าที่นักร้องนำของ Skid Row ในช่วงสั้น ๆ โดยทั้งสองได้มีโอกาสทำร่วมงานกันในหลาย ๆ โอกาสไปอีกหลายปี จนกระทั่งฝ่ายหลังเสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาดในปี 1986
เมื่อปี 1972 มัวร์ ได้เข้าเป็นสมาชิกของ Thin Lizzy ที่มี ไลน็อตต์ เป็นนักร้องนำ แทนที่ อีริค เบลล์ มือกีตาร์คนเก่าที่ออกจากวงไปอย่างกะทันหัน มือกีตาร์หนุ่มน้อยที่มีอายุเพียง 20 ปี อย่าง มัวร์ เข้าร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับวงโดยทันที แต่เขาก็ได้เป็นสมาชิกของ Thin Lizzy อยู่เพียง 4 เดือน และอัดเพลงไปเพียง 3 เพลงเท่านั้น จึงลาออกเพื่อไปสร้างสรรค์ผลงานเพลงของตนเอง
หลังจากนั้น มัวร์ กลับมาร่วมงานกับ Thin Lizzy อีกหลายช่วง ทั้งเป็นสมาชิกชั่วคราวระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ต และเป็นสมาชิกถาวร แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณไม่ถึง 2 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตามในการเป็นส่วนหนึ่งของ Thin Lizzy มัวร์ ยังได้ร่วมบันทึกเสียงอัลบั้ม Black Rose: A Rock Legend ที่ต่อมากลายเป็นผลงานระดับคลาสสิคของวง
สก็อต กอร์แฮม มือกีตาร์อีกคนจาก Thin Lizzy กล่าวถึงการร่วมเล่นดนตรีกับ มัวร์ ว่า 'การได้เล่นดนตรีกับ แกรี่ ในช่วง Black Rose เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของผม เขาเป็นมือกีตาร์ที่ยอดเยี่ยม เป็นคนที่ยอดเยี่ยม'
ตลอดอาชีพทางดนตรีของสุดยอดมือกีตาร์ผู้นี้ เขามีโอกาสได้ร่วมงานกับนักดนตรีชื่อดังมากมาย อาทิ จอร์จ แฮริสัน, Dr. Strangely Strange, Colosseum II, อัลเบิร์ต คอลลินส์, จิมมี่ นีล, โม ฟอร์เตอร์, จินเจอร์ เบเกอร์, แจ็ค บรูซ, วิคกี้ บราวน์, โคซี่ พาวล์, The Beach Boys, ออสซี ออสบอร์น และ แอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์
ซึ่งการร่วมงานกับศิลปินชื่อดังระดับโลกมากมายนี่เอง มัวร์ จึงได้มีโอกาสทดลองเล่นดนตรีหลากหลายแนว ทั้ง ร็อค, ฮาร์ดร็อค แจ๊ซซ์ และ ป๊อป จนกระทั่งในปี 1990 เขาจึงได้กลับมาหารากเหง้าบลูส์ร็อคของตนเองอีกครั้ง กับผลงานเพลงเดี่ยว Still Got The Blues ที่งานนี้ได้นักดนตรีชื่อดังอย่าง อัลเบิร์ต คิง, อัลเบิร์ต คอลลินส์ และจอร์จ แฮริสัน มาร่วมงานด้วย
มัวร์ ยังคงสานต่อผลงานแนวบลูส์ร็อคของตนเองในผลงานอีกหลายอัลบั้มตลอดช่วงระยะ เวลา 20 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ลืมที่จะทดลองแนวเพลงใหม่ ๆ ด้วย รวมถึงการใส่บีตเพลงเต้นรำเข้าไปในอัลบั้ม Dark Days in Paradise เมื่อปี 1997
ตลอดการทำงานกว่า 40 ปี สำเนียงกีตาร์ของ แกรี มัวร์ นับได้ว่ามีอิทธิพลต่อนักดนตรีรุ่นหลังมากมาย อาทิ วิเวียน แคมป์เบล (Def Leppard), เจค อี. ลี, แอเดรียน สมิธ (Iron Maiden), แรนดี้ โรดส์ และ เคิร์ก แฮมเม็ตต์ (Metalica) เป็นต้น
ที่มา manager.co.th