PDA

แสดงเวอร์ชันเต็ม : ระบบสั่นสเทือนแบบถุงลม



Morgan6969
31-03-2011, 18:13
ใครพอจะมีรายละเอียดบ้างคับ
ขอเตียงล่วงหน้าคับ

korntriton
31-03-2011, 18:27
ใส่ไปพี่ต้องการอะไรหรอครับ เช่นอยากเตี้ยกองพื้น หรือว่าอะไรอย่างอื่น
แต่ช่วงล่างถุงลมไม่แข็งแรงนะครับ

mckyparty
31-03-2011, 18:42
ดีที่สุดแล้ว แต่แพงมาก ของใหม่มีแสนอัพ
นิยมใช้กับรถหรูๆมากๆ

ดีแน่ปรับสูงต่ำได้ อ่อนแข็งได้

Morgan6969
31-03-2011, 18:56
ใส่ไปพี่ต้องการอะไรหรอครับ เช่นอยากเตี้ยกองพื้น หรือว่าอะไรอย่างอื่น
แต่ช่วงล่างถุงลมไม่แข็งแรงนะครับ



ปรับสูงต่ำได้ อ่อนแข็งได้
แล้วทำไมมันไม่แข็งแรงอะคับ
ราคาก็ไม่น้อยเลยนะ

korntriton
31-03-2011, 19:18
ปรับสูงต่ำได้ อ่อนแข็งได้
แล้วทำไมมันไม่แข็งแรงอะคับ
ราคาก็ไม่น้อยเลยนะ
ตามความคิดผมนะมะรู้ถูกหรือผิด
สมมุตพี่วิ่งต่างจังหวัดเศษหินคมๆกระเด็นมาโดนถุงลมแตกอาจเกิดอันตรายได้แถมยังบำรุงรักษาแพงหาที่ซ่อมยากแต่ถ้าอยากสุดจัดไปครับ

korntriton
31-03-2011, 19:19
เอามาให้ดูเป็นแนวทางครับ

ภูรีภัทร
31-03-2011, 19:43
ราคาไม่แพงมากครับ เอาแบบถูกสุดก็สามหมื่นกว่า ติดตั้งระหว่างยางรองกันกระแทก(ชัสซี+เพลาท้าย) ถอดแหนบเหลือสองแผ่นบน เติมลมตามปั๊มเพื่อปรับความอ่อนแข็งได้ครับ แต่ถ้าให้ครบก็ต้องมีปั๊มแรงดัน
http://www.thaiautoserver.com/index.php/techmenu/18-airsus
ลองศึกษาดูครับ แต่ผมว่าทำไปมันไม่จบครับ ใช้กระบะ ก็กระเทือนนิดหน่อย ปรับแหนบถูกตังส์กว่า

mckyparty
31-03-2011, 21:35
ชื่อกระทู้น่าจะตั้งเป็น ระบบกันสะเทือนแบบถุงลมรึเปล่าครับ?

ตัวอย่างก้อมีใช้ในพวก series7 หรือ s-class ใช้ตับใหญ่ๆเลย
เรื่องทนทานคงไม่ต้องมาคิดแล้วครับ พวกรถ bus ใช้กันแบบวิ่งเช้ายันเช้าอีกวัน
เพราะมันไม่ใช่ลูกโป่งจิ้มแล้วแตกครับ

แต่เพราะราคามันแรง พวกเราส่วนมากเลยเปลี่ยนคานหลังแบบยกชุดคอยสปริง ถูกกว่า ได้นิ่มด้วย

Morgan6969
01-04-2011, 09:45
โดย ปกติ ความนุ่มนวลกับความสามารถในการแบบน้ำหนักมากๆ มักจะไม่ค่อยไปด้วยกันนัก เนื่องจากว่าถ้าปรับช่วงล่างให้นิ่มนวล เวลาบรรทุกของหนักๆ (หรือแม้แต่น้ำหนักตัวรถเอง) รถก็จะโยนตัวมากทำให้ทรงตัวยาก แถมพาลจะทำให้โช๊คแตกอีกต่างหาก แต่ถ้าปรับช่วงล่างให้แข็งเรื่องแบกของก็หายห่วง แต่ความนุ่มมันก็หายไปเหมือนกัน... จะปรับความนุ่ม-แข็งแต่ละครั้งก็หมายถึงการรื้อช่วงล่างกันยกใหญ่กันที เดียว... ปัญหาทั้งหลายเหล่านี้จะหมดไปหากคุณเปลี่ยมมาใช้ช่วงล่างแบบถุงลมโป่งพอง นี้....

ระบบช่วงล่างแบบถุงลมนี้ ก็เลยเป็นระบบรองรับแรงกระแทกที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนระบบนี้มักจะอยู่ในรถยนต์ขนาดใหญ่อย่างรถเมย์ไฮโซ หรือรถไฟฟ้าบีทีเอสบ้านเราก็ใช้ ลองสังเกตุดู ทั้งนี้เนื่องจากคุณสมบัติเด่นของมันในแง่ของการปรับการรับน้ำหนักมากๆ ได้ดี และสามารถสร้างความนุ่มนวลในการขับขี่ก็ได้ ด้วยเหตุนี้ สมัยนี้ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งชั้นหรูเลิศ รถ SUV ขนาดใหญ่ หรือรถตู้ไฮโซๆ ต่างก็หันมาใช้ช่วงล่างแบบนี้กัน เพราะนับวันอุปกรณ์ไฮเทคมากมายกับน้ำหนักที่หนักขึ้น ทุกที แต่รถหรู... ยังไงก็ต้องนิ่ม เพราะเดี๋ยวป๋าๆ จะช้ำในซะหมด... งั้นก็มาดูว่ามันเป็นยังไงกันเลยดีกว่า

เท้าความกันซักกะนิด

แล้วที่ว่าถุงลมโป่งพองเนี๊ย... มันอยู่ตรงไหนของช่วงล่างน๊ะ... อันนี้ต้องเอามาเทียบกับระบบช่วงล่างแบบเดิมๆ ท่าจะดี โดยทั่วๆ ไปช่วงล่างมักจะมีอุปกรณ์ในการรับแรง กระแทกอยู่ 2 อย่างคู่กัน นั่นก็คือ
1. ตัวรับแรงกระแทก ซึ่งมักจะใช้เหล็กมาทำเป็นขดสปริง หรืออาจทำเป็นเหล็กแท่งแบบแหนบหรือทอร์ชั่นบาร์
2. ตัวดูดซับแล้วกระจายแรง ที่มักจะทำเป็นแท่งน้ำมันมีวาล์ววิ่งขึ้น-ลงอยู่ข้างใน ทำให้หนืดๆ ที่เค้าเรียกกันว่า แดมเปอร์ ช๊อคแอ๊บซอร์บเบอร์หรือโช๊คอัพนั่นเอง

แข็ง-นิ่ม-สูง-ต่ำ ก็ทำได้ทั้งซ้ายขวา

สำหรับช่วงล่างแบบถุงลมนี้ มันจะทำหน้าที่แทนตัวรับแรงกระแทกอย่างสปริงนั่นเอง (แต่ในบางระบบอาจใช้งานร่วมกัน) เรามาเปรียบเทียบกับการใช้สปริงในระบบช่วงล่าง แบบทั่วๆ ไปกันก่อนดีกว่า

สปริงแข็ง = อัดลมในถุงลมมาก = ช่วงล่างแข็ง = รับน้ำหนักได้มาก
สปริงอ่อน = อัดลมในถุงลมอ่อน = ช่วงล่างนิ่ม = ขับขี่ได้นุ่มนวล
ยกสปริงให้สูง = อัดลมให้ถุงลมยืดตัว = ยกรถให้สูงขึ้น = ลุยได้มากขึ้น
ใส่สปริงให้ต่ำ = เอาลมออก = โหลดรถให้ต่ำลง = ลดการต้านลมเวลาวิ่ง หรือ ขึ้น-ลงรถได้สะดวกขึ้น

หรืออาจใช้ในการช่วยสร้างความสมดุลให้ตัวรถก็ได้ ซึ่งช่วงล่างแบบปกติไม่สามารถทำได้ เช่น ในกรณีที่บรรทุกของหนักมากๆ ทำให้หน้ายก ก็สามารถอัดลมเข้าไปในถุงลมเฉพาะด้านหลัง เพื่อให้รับน้ำหนักได้มากขึ้นโดยไม่ยุบลงไปก็ได้ หรือในกรณีที่บรรทุกของหนักไปข้างหนึ่ง ก็สามารถอัดลมเข้าไปในถุงลมเฉพาะข้างซ้ายหรือขวาก็ได้เช่นกัน ทำให้รถยังคงรักษาระดับได้เหมือนเดิม

จากที่กล่าวมาแล้วตอนต้นแล้วว่า นอกจากปรับความแข็งหรือนุ่มนวลของช่วงล่างได้แล้ว ช่วงล่างถุงลมนี้ก็มักจะถูกนำไปใช้ให้ทำหน้าที่ในการปรับความสูงของตัวรถ โดยเมื่ออัดลมเข้าไป มันก็จะทำให้ถุงลมยืดตัวขึ้น ตัวรถก็จะถูกยกให้สูงขึ้น พอเอาลมออกรถก็เตี้ยลงๆ... งานนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับรถ SUV ไฮโซๆ ที่มักจะถูกใช้ในเมือง ก็ปรับให้มันเตี้ยๆ ไว้ จะได้ทรงตัวได้ดีๆ ขึ้น-ลงก็สะดวก และพออยากเข้าป่าก็ค่อยอัดลมเข้าไป ยกให้สูงแล้วค่อยลุยต่อ... ประโยชน์อีกอย่างสำหรับการยกขึ้นยกลงก็คือ สามารถใช้ประโยชน์ เวลารถต้องแบบของหนักๆ ที่ด้านหลัง เป็นเหตุให้เกิดอาการหัวเชิด หยิ่งเกินไป... เราก็สามารถอัดอากาศเข้าไปในถุงลมที่ล้อด้านหลังซะ... แค่นี้หน้าก็ไม่เชิดแล้ว

แล้วมันมีกี่แบบ

การจะใช้ถุงลมเพื่อการรับน้ำหนักมากๆ อย่างเดียวหรือจะให้ยกรถได้ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบตัวถุงลมนี้ด้วย ที่ใช้อยู่ในรถยนต์ทั่วๆ ไป ก็มีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ

1. ถุงกลับด้านได้ Reversible Sleeve มีลักษณะเป็นทรงกระบอก มีฐานรองสามารถปรับแต่งให้เข้ากับช่วงล่างเดิมได้ง่าย
2. ถุงแบบปล้อง Convoluted มีลักษณะเป็นข้อๆ เหมือนสปริง

สรุปการนำไปใช้งาน

1. ถ้าอยู่ในรถหรู มันก็ให้ความนุ่มนวลได้แบบเลิศหรูเลยล่ะ
2. ถ้าอยู่ในรถ SUV ใหญ่ มันก็ทั้งนุ่มทั้งยืดหยุ่น ยกขึ้นยกลง ปรับระดับความสูงได้ตามสภาพถนนกันอย่างสนุกสนาน
3. ถ้าอยู่ในรถบรรทุก มันก็สามารถปรับช่วงล่างให้รับน้ำหนักได้ตามน้ำหนักสัมภาระ และสามารถปรับให้ตัวรถรักษาระดับให้ขนานพื้นเอาไว้
4. ถ้าอยู่ในรถแต่งโหลดสุดๆ ที่เค้าเรียกกันว่า โลว์ไรเดอร์ ก็ใช้แทนระบบไฮดรอลิกได้เลย ยกขึ้นลงได้เหมือนกัน แต่น้ำหนักเบากว่าเพราะไม่ต้องใช้แบต

Morgan6969
01-04-2011, 10:04
http://www.fsip.com/



http://www.fsip.com/asiapacific/lighttruck/productinfo/leafspring/index.shtml

AKNet
01-04-2011, 10:44
น้าอิทจะใส่ถุงลมเหรอคร้าบ

Morgan6969
01-04-2011, 11:10
น้าอิทจะใส่ถุงลมเหรอคร้าบ


คับ ผมกำลังหาข้อมูลอยู่คับ

aaa
01-04-2011, 12:14
น้าอิท ชอบแนวเดียวกับผมเลยอ่ะ :kapook-17194-2887:
กำลังหาข้อมูลอยู่เหมือนกันคร้าบบบ ...:kapook-17195-8823::kapook-17195-8823:

korntriton
01-04-2011, 21:26
อ้าวงงั้นผมขอโทษทีผมนึกว่าถุงลมยกขึ้นยกลงแบบที่vipเขาใส่กัน

MEAW_SAN
02-04-2011, 18:15
ได้แน่นอนครับ เพราะผมเคยเจอ PRADO กองกะพื้นมาแล้ว ... อยู่ที่ราคาของมันเท่านั้นเองละครับ:kapook-17199-4683::kapook-17199-4683::kapook-17199-4683: