baskedx
13-12-2011, 11:16
เมื่อพูดถึงรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ที่มีมากมายในตลาดแล้วนั้น รถยนต์กลุ่มนี้ในปัจจุบันมีพัฒนาที่ก้าวล้ำไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากำลังพูดถึงรถรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้นมากกว่าแค่ภาพเดิมที่ถูกมองว่าเป็นรถส่งของ
กระบะรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถนั่งหลายๆรุ่น จนได้รับความนิยมมาแต่งแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถยนต์แรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักษร EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกในการขับขี่
http://r3.static.fsanook.com/weblog/entry/0/3215/boucher-egr.jpg
หลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่สามารถตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม
เราคงต้องบอกว่า วิศวกรไม่ได้คิดเกินในส่วนนี้ขึ้นมา หากแต่ EGR นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการประกันในเรื่องเครื่องยนต์ด้วย
ความเชื่อเรื่องอุด EGR
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แน่นอนว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่า อุด EGR แล้วจะแรงขึ้น
http://r3.static.fsanook.com/weblog/entry/0/3215/images.jpg
แนวคิดอุด EGR นี้มีขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเริ่มต้นในกลุ่มคนเล่นรถกลุ่มเล็กที่หาวิธีแรงทางลัด ด้วยการศึกษาระบบเครื่องยนต์ และเมื่อเจอ EGR ที่เป็นการนำไอเสียมาเผาไหม้นั้นอีกครั้งนั้น ก็เลยทดลองทำการอุดเพื่อตัดการทำงานในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง
การปิดช่องทางในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่นั้นส่งผลให้อากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์นั้นมีแต่อากาศที่ออกมาจากเทอร์โบ ซึ่งเมื่อผ่านชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ก็ทำให้มีความเย็นลงและเป็นอากาศที่มีการควบแน่นสูงทำให้มีการตอบสนองที่ดีจากเครื่องยนต์นั่นเอง
คำถามที่สำคัญคือ เมื่ออุด EGR แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาหรือไม่ คนที่อุดส่วนใหญ่ ซึ่งโดยมากเป็นผู้ใช้และศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ในแบบรู้กันมาปากต่อปาก ทั้งจากประสบการณ์ตัวเองและประสบการณ์ช่างหรือ Guru ก็มักจะบอกว่าไม่มีอะไร ..รับรองแรง!!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอุด EGR นั้นมีผลเสียเช่นกัน แลัวควรต้องพิจารณาให้ดี
http://r3.static.fsanook.com/weblog/entry/0/3215/egr1.jpg
เมื่ออุด EGR สิ่งแรงที่จะเกิดขึ้นคือการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการขับขี่ แต่ที่หลายคนลืมไปคือเครื่องยนต์ดีเซลนั้นปัจจุบันเป็นระบบไฟฟ้า หรือคอมมอนเรล ซึ่งใช้การตรวจจับอากาศที่ออกมาจากไอเสียคอยควบคุมสั่งการทำงานของเครื่องยนต์
การวัดค่าอากาศนี้ระบบจะทำการประมวลผลโดยผล ECU (Electronics Control Unit) หรือ ECM (Electronic Control Management) ตามแต่รถรุ่นนั้นจะเรียก ซึ่งค่าอากาศและส่วนผสมนั้นจะถูกประมวล และในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการปล่อยไอเสียมากวาล์ว EGR ที่อยู่ตรงท่อไอดีก็จะเปิดขึ้นเพื่อให้ไอเสียนั้นกลับมาเผาไม้อีกครั้ง เพื่อลดก๊าซไอเสียอย่างคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะ "ควันดำ" ซึ่งมีส่วนประกอบโลหะหนักในกลุ่มควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ลองคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องยนต์ย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ปนอยู่ในลักษณะก๊าซที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบรวมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนผสมที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้
http://r3.static.fsanook.com/weblog/entry/0/3215/egr_valve_location.jpg
ประการต่อมา เมื่อระบบไอเสียมีมลพิษมาก ผลคือระบบระบายไอเสียที่ปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ปัจจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องยนต์ในการปรับความสัมพันธ์ในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้เสียหายต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง
เข้าใจอย่างถ่องแท้ตกลง EGR คืออะไร
จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า EGR นั้นค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับหลายระบบมากกว่าที่คิดไม่ใช่เพียงแค่ ท่อที่นำไอเสียมาหมุนวนใหม่อีกครั้งเท่านั้น แต่มันอาจจะยังส่งผลถึงระบบต่างมากมาย ซึ่งเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำแต่อยากให้เข้าใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้น
EGR หรือ exhaust gas recirculation เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมในการนำไอเสียจำนวนหนึ่งประมาณ 5-15 % กลับมาเผาไหม้ร่วมกับ อากาศดีเพื่อให้มีไอเสียที่ดีขึ้นลดมลภาวะที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์
แน่นอนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของไอเสียจะถูกโยนกลับเข้าสู่ห้องเผาไหม้ แต่แม้จะเป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง EGR เองก็มีข้อเสียทำให้น่ำมันเครื่องนั้นมีเขม่ามากกว่าปกติโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่นี่คือข้อดี 4 ประการของการมี EGR
1.ลดการสูญเสีย อัตราเร่ง EGR นั้นคือการนำไอเสียมาเผาไหม้และการจะเผาไหม้ไอเสียนั้นลิ้นปีกผีเสื้อต้อง รับอากาศดีเข้ามาด้วย และถ้าคุณจับทางได้จะพบว่า อัตราเร่งจะลดลง(เครื่องลอยตัวมากกว่า)ไปน้อยกว่าเมื่อไม่อุด EGR
2.เครื่องทำงานลื่นไหลมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสักนิด แต่ให้นึกถึงน้ำร้อนน้ำเย็น และมันก็เป็นเช่นนั้นกับอากาศและกระบอกสูบ คิดง่ายๆการอุด EGR เปรียบเหมือนกับการอากาศร้อนจากไอเสียออกไปทำให้เครื่องยนต์รับแต่อากาศดี และเย็นสบายแต่ความจริงแล้ว อากาศที่ดีนั้นทำให้ เครืองยนต์มักจะสูญเสียค่าความร้อนหน้าสัมผัสลูกสูบมากกว่ าถ้าเทียบกับมีไอเสียจาก EGR เข้ามาผสม ซึ่งแม้อาจจะไม่สามารถรู้สึกได้จากปลายเท้า แต่เชื่อเถอะว่ามีจริง
3.ลดก๊าซไอเสีย แน่นอนนี่คือหน้าที่หลักของ EGR และก๊าซไอเสียถูกใส่เข้ามาเมื่อถึงจุดสูงสุดของลูกสูบเพื่อเผาไหม้ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
4.ลดค่าความร้อนที่ลูกสูบ จำได้ไหมที่เราบอกว่าเมื่อ EGR ทำงานแล้วส่วนอากาศนั้นผสมจะน้อยลงหมายถึงส่วนผสมบางลง และเมื่อส่วนผสมบางลง นั้นก็หมายถึงการที่อากาศใหม่ที่เปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนหลังจากเผาไหม้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอน้อยลง
ถ้ามองตามข้อเท็จจริงของ EGR แล้ว แน่นอนมันเป็นเพียงระบบที่หมุนวนนำอากาศไปเผาไหม้อีกครั้ง หากแต่ระบบนี้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ แม้แต่ช่างก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง ฉะนั้นหากคิดจะอุด EGR นั้นจงคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ
กระบะรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถนั่งหลายๆรุ่น จนได้รับความนิยมมาแต่งแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถยนต์แรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักษร EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกในการขับขี่
http://r3.static.fsanook.com/weblog/entry/0/3215/boucher-egr.jpg
หลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่สามารถตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม
เราคงต้องบอกว่า วิศวกรไม่ได้คิดเกินในส่วนนี้ขึ้นมา หากแต่ EGR นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการประกันในเรื่องเครื่องยนต์ด้วย
ความเชื่อเรื่องอุด EGR
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แน่นอนว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่า อุด EGR แล้วจะแรงขึ้น
http://r3.static.fsanook.com/weblog/entry/0/3215/images.jpg
แนวคิดอุด EGR นี้มีขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเริ่มต้นในกลุ่มคนเล่นรถกลุ่มเล็กที่หาวิธีแรงทางลัด ด้วยการศึกษาระบบเครื่องยนต์ และเมื่อเจอ EGR ที่เป็นการนำไอเสียมาเผาไหม้นั้นอีกครั้งนั้น ก็เลยทดลองทำการอุดเพื่อตัดการทำงานในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง
การปิดช่องทางในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่นั้นส่งผลให้อากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์นั้นมีแต่อากาศที่ออกมาจากเทอร์โบ ซึ่งเมื่อผ่านชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ก็ทำให้มีความเย็นลงและเป็นอากาศที่มีการควบแน่นสูงทำให้มีการตอบสนองที่ดีจากเครื่องยนต์นั่นเอง
คำถามที่สำคัญคือ เมื่ออุด EGR แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาหรือไม่ คนที่อุดส่วนใหญ่ ซึ่งโดยมากเป็นผู้ใช้และศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ในแบบรู้กันมาปากต่อปาก ทั้งจากประสบการณ์ตัวเองและประสบการณ์ช่างหรือ Guru ก็มักจะบอกว่าไม่มีอะไร ..รับรองแรง!!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอุด EGR นั้นมีผลเสียเช่นกัน แลัวควรต้องพิจารณาให้ดี
http://r3.static.fsanook.com/weblog/entry/0/3215/egr1.jpg
เมื่ออุด EGR สิ่งแรงที่จะเกิดขึ้นคือการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการขับขี่ แต่ที่หลายคนลืมไปคือเครื่องยนต์ดีเซลนั้นปัจจุบันเป็นระบบไฟฟ้า หรือคอมมอนเรล ซึ่งใช้การตรวจจับอากาศที่ออกมาจากไอเสียคอยควบคุมสั่งการทำงานของเครื่องยนต์
การวัดค่าอากาศนี้ระบบจะทำการประมวลผลโดยผล ECU (Electronics Control Unit) หรือ ECM (Electronic Control Management) ตามแต่รถรุ่นนั้นจะเรียก ซึ่งค่าอากาศและส่วนผสมนั้นจะถูกประมวล และในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการปล่อยไอเสียมากวาล์ว EGR ที่อยู่ตรงท่อไอดีก็จะเปิดขึ้นเพื่อให้ไอเสียนั้นกลับมาเผาไม้อีกครั้ง เพื่อลดก๊าซไอเสียอย่างคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะ "ควันดำ" ซึ่งมีส่วนประกอบโลหะหนักในกลุ่มควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ลองคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องยนต์ย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ปนอยู่ในลักษณะก๊าซที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบรวมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนผสมที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้
http://r3.static.fsanook.com/weblog/entry/0/3215/egr_valve_location.jpg
ประการต่อมา เมื่อระบบไอเสียมีมลพิษมาก ผลคือระบบระบายไอเสียที่ปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ปัจจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องยนต์ในการปรับความสัมพันธ์ในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้เสียหายต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง
เข้าใจอย่างถ่องแท้ตกลง EGR คืออะไร
จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า EGR นั้นค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับหลายระบบมากกว่าที่คิดไม่ใช่เพียงแค่ ท่อที่นำไอเสียมาหมุนวนใหม่อีกครั้งเท่านั้น แต่มันอาจจะยังส่งผลถึงระบบต่างมากมาย ซึ่งเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำแต่อยากให้เข้าใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้น
EGR หรือ exhaust gas recirculation เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมในการนำไอเสียจำนวนหนึ่งประมาณ 5-15 % กลับมาเผาไหม้ร่วมกับ อากาศดีเพื่อให้มีไอเสียที่ดีขึ้นลดมลภาวะที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์
แน่นอนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของไอเสียจะถูกโยนกลับเข้าสู่ห้องเผาไหม้ แต่แม้จะเป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง EGR เองก็มีข้อเสียทำให้น่ำมันเครื่องนั้นมีเขม่ามากกว่าปกติโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่นี่คือข้อดี 4 ประการของการมี EGR
1.ลดการสูญเสีย อัตราเร่ง EGR นั้นคือการนำไอเสียมาเผาไหม้และการจะเผาไหม้ไอเสียนั้นลิ้นปีกผีเสื้อต้อง รับอากาศดีเข้ามาด้วย และถ้าคุณจับทางได้จะพบว่า อัตราเร่งจะลดลง(เครื่องลอยตัวมากกว่า)ไปน้อยกว่าเมื่อไม่อุด EGR
2.เครื่องทำงานลื่นไหลมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสักนิด แต่ให้นึกถึงน้ำร้อนน้ำเย็น และมันก็เป็นเช่นนั้นกับอากาศและกระบอกสูบ คิดง่ายๆการอุด EGR เปรียบเหมือนกับการอากาศร้อนจากไอเสียออกไปทำให้เครื่องยนต์รับแต่อากาศดี และเย็นสบายแต่ความจริงแล้ว อากาศที่ดีนั้นทำให้ เครืองยนต์มักจะสูญเสียค่าความร้อนหน้าสัมผัสลูกสูบมากกว่ าถ้าเทียบกับมีไอเสียจาก EGR เข้ามาผสม ซึ่งแม้อาจจะไม่สามารถรู้สึกได้จากปลายเท้า แต่เชื่อเถอะว่ามีจริง
3.ลดก๊าซไอเสีย แน่นอนนี่คือหน้าที่หลักของ EGR และก๊าซไอเสียถูกใส่เข้ามาเมื่อถึงจุดสูงสุดของลูกสูบเพื่อเผาไหม้ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
4.ลดค่าความร้อนที่ลูกสูบ จำได้ไหมที่เราบอกว่าเมื่อ EGR ทำงานแล้วส่วนอากาศนั้นผสมจะน้อยลงหมายถึงส่วนผสมบางลง และเมื่อส่วนผสมบางลง นั้นก็หมายถึงการที่อากาศใหม่ที่เปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนหลังจากเผาไหม้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอน้อยลง
ถ้ามองตามข้อเท็จจริงของ EGR แล้ว แน่นอนมันเป็นเพียงระบบที่หมุนวนนำอากาศไปเผาไหม้อีกครั้ง หากแต่ระบบนี้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ แม้แต่ช่างก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง ฉะนั้นหากคิดจะอุด EGR นั้นจงคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ