แสดงเวอร์ชันเต็ม : ขอความรู้เรื่องเพาเวอร์แอมจากผู้รู้เป็นวิทยาทานสัก นิด
เนื่องจากปัจจุบันใช้เพาเวอร์แอมคลาสABอยู่ทั้ง2ตัวมันเกิดปัญหาเกิดจากแม่บ้านถามว่าคลาสABที่ใช้อยู่มันต่างจากคลาสAที่วางอยู่หลังตู้ปลามันต่างกันอย่างไรทำไมต้องซื้อใหม่แล้วคลาสDมันต่างกันอย่าไร?ซวยเลยคราวนี้
ผมก็ตอบไปด้วยความรูอันน้อยนิดตามความที่เข้าใจว่า
คลาสA เสียงมันใสน่าฟังระยิบระยับเป็นธรรมชาติอะไรประมาณนี้แต่มันมีความร้อนมาก
คลาสABเสียงมันนุ่มใสสวยๆน่ารักไม่ร้อนเท่าไหร่คนนิยมใช้มากกว่าคลาสA
คลาสDให้เสียงหนักแน่นพลังสูงเหมาะไว้เอาไปขับsupเบสมากที่สุด
ตามที่รู้มาอาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมดนักจึงขอความอนุเคราะห์จากผู้รู้(กูรู)หรือท่านกูรู้ทั้งหลายช่วยให้ความรู้เพิ่มอีกสักนิดขอร้องจริงๆ
อีกนิดนึงครับรบกวนข้อมูลเพาเวอร์ตัวนี้สักนิดนึงครับ
audiogod hollywood 200w 4ch mossfet digital class"a" ว่าเป็นยังไงทั้งเสียงที่จะได้อะไรประมาณนี้พอจะขับลำโพงเฮิทส์ แยกชิ้น6.5"จะดีไหม เทียบกับที่ซื้อมาใหม่ lanzar za-80.2 ที่ติดรถอยู่ว่าตัวไหนน่าใช้กว่ากัน(จะเอาตัวบนมาขับแกนรวมบอมเบอร์แกนร่วมที่ประตูหลังอีกคู่)
ขอขอบคูณล่วงหน้าครับ:kapook-17332-8238:
เนื่องจากปัจจุบันใช้เพาเวอร์แอมคลาสABอยู่ทั้ง2ตัวมันเกิดปัญหาเกิดจากแม่บ้านถามว่าคลาสABที่ใช้อยู่มันต่างจากคลาสAที่วางอยู่หลังตู้ปลามันต่างกันอย่างไรทำไมต้องซื้อใหม่แล้วคลาสDมันต่างกันอย่าไร?ซวยเลยคราวนี้
ผมก็ตอบไปด้วยความรูอันน้อยนิดตามความที่เข้าใจว่า
คลาสA เสียงมันใสน่าฟังระยิบระยับเป็นธรรมชาติอะไรประมาณนี้แต่มันมีความร้อนมาก
คลาสABเสียงมันนุ่มใสสวยๆน่ารักไม่ร้อนเท่าไหร่คนนิยมใช้มากกว่าคลาสA
คลาสDให้เสียงหนักแน่นพลังสูงเหมาะไว้เอาไปขับsupเบสมากที่สุด
ตามที่รู้มาอาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมดนักจึงขอความอนุเคราะห์จากผู้รู้(กูรู)หรือท่านกูรู้ทั้งหลายช่วยให้ความรู้เพิ่มอีกสักนิดขอร้องจริงๆ
อีกนิดนึงครับรบกวนข้อมูลเพาเวอร์ตัวนี้สักนิดนึงครับ
audiogod hollywood 200w 4ch mossfet digital class"a" ว่าเป็นยังไงทั้งเสียงที่จะได้อะไรประมาณนี้พอจะขับลำโพงเฮิทส์ แยกชิ้น6.5"จะดีไหม เทียบกับที่ซื้อมาใหม่ lanzar za-80.2 ที่ติดรถอยู่ว่าตัวไหนน่าใช้กว่ากัน(จะเอาตัวบนมาขับแกนรวมบอมเบอร์แกนร่วมที่ประตูหลังอีกคู่)
ขอขอบคูณล่วงหน้าครับ:kapook-17332-8238:
อยากช่วยน้าวุฒิ จัง แต่ในรถผมยังฟังเทป ที่ติดมากะรถอยู่เลย...ใครรู้ช่วยบอกน้าวุฒิ..หน่อยคร๊าบบบบบ
รอข้อมูลเหมือนกันครับ อยากรู้
webmaster
10-08-2008, 10:51
CLASS "D"
ตัว "D"ไม่ได้ย่อมาจากคำว่า DIGITAL อินพุทถูกแปลงเป็นออดิโอ เวฟฟอร์ม ไบนารี 2 สเตท ความแตกต่างเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ CLASS D ออกแบบให้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ แทนที่จะต้องเสียกำลังไปในทรานซิสเตอร์ เอาท์พุทก็จะถูกไม่เปิดตลอด ไม่มีโวลเทจเสีย ก็ปิดตลอด ส่งผลให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ดังนั้นอินพุทออดิโอถูกแปลงเป็น PWM (PULSE WIDULATED) ร่องสีเหลืองที่อยู่ขางใต้คือ เอาท์พุทของแอมพ์ ร่องสีฟ้าคือ เวฟฟอร์ม PWM เวฟฟอร์มสีฟ้าจะถูกป้อนให้กับฟิลเตอร์เอาท์พุท ซึ่งให้ผลเป็นเวฟฟอร์มเอาท์พุทสีเหลือง สังเกตว่า เอาท์พุทจะดูเหมือนอะไรบางอย่างที่เสียไปสัญญาณที่เสีย และเสียงสวิทชิงทั้งหมดไม่สามารถเอาออกไปได้ และจะเห็นผลได้ที่นี่ เพราะขั้นตอนการแปลงสัญญาณอินพุทไปเป็น pwn และแปลงกลับไปเป็นแอนาลอก ทำให้เกิดการเสียของสัญญาณไป ฟีดแบคทั่วไปก็เหมือนกับที่ใช้ในการออกแบบแอมพ์ CLASS "AB" เพื่อลดการเสียของสัญญาณ มอสเฟทเป็นทางเลือกเดียวสำหรับการออกแบบ CLASS "D" ซึ่งการออกแบบส่วนใหญ่จะมีประโยชน์แต่กับเพียงเบสส์แอมพ์ เมื่อมันไม่สามารถสวิทช์ได้เร็วเพียงพอ กับการผลิตความถี่สูงอีกครั้ง การออกแบบ CLASS "D" ฟลูล์เรนจ์คุณภาพสูงยังคงหาได้ ในเครื่องเสียงระดับมืออาชีพ แต่มันจะซับซ้อนกับเอาท์พุทมัลทิเฟล
CLASS "T"
CLASS T (TRIPATH) เหมือนกับ CLASS D แต่ไม่ใช้ฟีดแบค แอนาลอก เหมือนกับ CLASS D ฟีดแบคจะเป็นสัญญาณดิจิทอล และเกิดกับส่วนบนของฟิลเตอร์เอาท์พุท เพื่อหลีกเลี่ยงการยกเฟสของฟิลเตอร์นี้เพราะการเสียของสัญญาณในแอมพ์ CLASS D และ CLASS T เกิดขึ้นจากไทมิงทำงานผิดจังหวะ แอมพ์ CLASS T จะป้อนข้อมูลในเรื่องจังหวะกลับไป ส่วนการเสียของสัญญาณ ยังเกิดจากที่เเอมพ์ใช้ตัวประมวลผลสัญญาณดิจิทอล เพื่อแปลงอินพุท แอนาลอกไปเป็นสัญญาณ PWM และประมวลผลข้อมูลก่อนจะส่งกลับ การประมวลผล จะดูที่ข้อมูลฟีดแบค และทำการปรับแต่งจังหวะ เพราะลูพฟีดแบคไม่ได้รวมฟิลเตอร์เอาท์พุทเอาไว้ด้วย ในแอมพ์ CLASS T มั่นคงมาก และสามารถทำงานได้เต็มช่องสัญญาณเสียง ซึ่งผู้ฟังส่วนใหญ่ไม่สามารถได้ยินความแตกต่างระหว่าง CLASS T และ CLASS AB ที่ออกแบบดีๆได้ การออกแบบทั้ง CLASS Dและ CLASS T ต่างก็มีปัญหากันคนละอย่าง มันเกินกำลังมาก ที่รอบต่ำเพราะเวฟฟอร์มความถี่สูงๆ จะเกิดขึ้นตลอดเวลาแม้ในช่วงที่ไม่มีสัญญาณเสียงแอมพ์ก็ยีงมีความร้อนตกค้างหลงเหลืออยู่แอมพ์บางรุ่นจะมีการตัดการทำงานของเครื่องเมื่อหยุดพักใช้งาน และจะกลับมาทำงานใหม่ เมื่อใช้งานโดยอัตโนมัติ
CLASS "G"
CLASS G เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นมาอีกขั้นธรรมดาแอมพ์ CLASS AB จะขับโดยเพาเวอร์ซัยพลาย MULTI-RAIL แอมพ์ 500 วัตต์ อาจจะมี POSITIVE RAIL 3 และ NEGATIVE RAIL 3 ซึ่ง RAIL VOLTAGES อาจจะเป็น 70,50,25 โวลท์เมื่อเอาท์พุทของแอมพ์ขยับไปใกล้ 25 โวลท์ ซัพพลายก็จะสวิทช์ให้ RAIL 50 โวลท์ และเมื่อเอาท์พุทขยับเข้าไปใกล้ 50 VOLT RAIL ซัพพลายก็จะสวิทช์ไปยัง RAIL 70 โวลท์ บางครั้งเรียกการออกแบบนี้ว่า RAIL SWITCH
การออกแบบนี้ เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ โดยลดการสูญเสียโวลเทจกับทรานซิลเตอร์เอาท์พุทโวลเทจนี้ เป็นความแตกต่างระหว่างซัพพลายบวก หรือแดง กับเอาท์พุทออดิโอ สีฟ้า CLASS G มีประสิทธิภาพเทียบเท่า CLASS D หรือ CLASS T ในขณะที่การออกแบบ CLASS G มีความสลับซับซ้อนมาก โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานแอมพ์ CLASS AB และมีคุณลักษณะใกล้เคียงกันมาก
CLASS "H"
CLASS H มีความคล้ายกับ CLASS G ยกเว้น RAIL VOLTAGE ที่โมดูเลทสัญญาณอินพุทเท่านั้น ที่ไม่มีเพาเวอร์ซัพพลาย RAIL จะสูงกว่าสัญญาณเอาท์พุทเล็กน้อย ปล่อยโวลเทจให้กับทรานซิสเตอร์ตัวเล็ก และระบายความร้อนทรานซิสเตอร์เอาท์พุท วงจรที่คล้ายกับที่ใช้ในแอมพ์ CLASS D นี้ก็คือ มีโมดูเลทเพาเวอร์ซัพพลาย RAIL ที่เหมือนกัน ในส่วนของความสลับซับซ้อนแอมพ์แบบนี้ มีความเหมือนกับแอมพ์ CLASS D แต่ทำงานได้เหมือนกับแอมพ์ CLASS AB
-----------------------
ข้อมูลจาก: http://www.suchartsound.co.th/ket.php
myjoefiend
10-08-2008, 13:35
เหอะๆอ่านแล้วมึน ใช้เทปต่อกับมือถือแบบเดิมดีที่สุด ไม่เปลืองเงิน 55555 เพราะถึงไปใส่เครื่องเสียงก็เปิดดังมากไม่ได้ เซ็ง
ขอบคุณครับ
ท่านเว็ปมาสเตอร์
งานนี้คงต้องแอบแง้มประตูรถน้าวุฒิฟังเพลงซะแล้ว.....ผบ.อนุมัติแล้วเหรอเนี่ยน้าวุฒิ
แหมน้าwizเนี่ยจะมาแง้มหรือจะแหกก็ได้
เส็จนานแล้วครับแต่ยังไม่เรียบร้อยในความรู้สึก
ข้อจำกัดหลายอย่างเช่นตังค์เป็นส่วนสำคัญทีเดียว
เป็นชุดเน้นพร้อนเสตจแบบเล็กๆอย่าคาดหวังอะไรมากครับน้าwiz
บอกก่อนเลยเปิดมาไม่เจอเอลพลายf-1แน่นอนหรือเพาร์เวอร์ซาวด์สตีมหรือkamazหรือลำโพงไดเนาด์หรือเฟาคอนหรือมมอเรลหรือกระทั่งซับธรรมดาอย่าแม็กเน็ทหลอกน้าwizไอ้ที่ว่าอยากได้ทั้งนั้นแต่แม่บ้านไม่อนุมัติ
ก็เลยเป็นแสนกะโหลกกะลาสุดธรรมดาๆ
แหมเล่นซะมึนเลย เดี๋ยวรอเก็บตังค์อีกนิด
ของผมเปิดได้แต่แผ่นอุลตร้าแมน กะ มาสค์ ไรเดอร์ เท่านั้นแหละ ลูกมันไม่ให้ดูอย่างอื่นเลย เซ็งห่าน!
ของผมเปิดได้แต่แผ่นอุลตร้าแมน กะ มาสค์ ไรเดอร์ เท่านั้นแหละ ลูกมันไม่ให้ดูอย่างอื่นเลย เซ็งห่าน!
สมแล้ว...อิอิอิ....
เนื่องจากปัจจุบันใช้เพาเวอร์แอมคลาสABอยู่ทั้ง2ตัวมันเกิดปัญหาเกิดจากแม่บ้านถามว่าคลาสABที่ใช้อยู่มันต่างจากคลาสAที่วางอยู่หลังตู้ปลามันต่างกันอย่างไรทำไมต้องซื้อใหม่แล้วคลาสDมันต่างกันอย่าไร?ซวยเลยคราวนี้
ผมก็ตอบไปด้วยความรูอันน้อยนิดตามความที่เข้าใจว่า
คลาสA เสียงมันใสน่าฟังระยิบระยับเป็นธรรมชาติอะไรประมาณนี้แต่มันมีความร้อนมาก
คลาสABเสียงมันนุ่มใสสวยๆน่ารักไม่ร้อนเท่าไหร่คนนิยมใช้มากกว่าคลาสA
คลาสDให้เสียงหนักแน่นพลังสูงเหมาะไว้เอาไปขับsupเบสมากที่สุด
ตามที่รู้มาอาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมดนักจึงขอความอนุเคราะห์จากผู้รู้(กูรู)หรือท่านกูรู้ทั้งหลายช่วยให้ความรู้เพิ่มอีกสักนิดขอร้องจริงๆ
อีกนิดนึงครับรบกวนข้อมูลเพาเวอร์ตัวนี้สักนิดนึงครับ
audiogod hollywood 200w 4ch mossfet digital class"a" ว่าเป็นยังไงทั้งเสียงที่จะได้อะไรประมาณนี้พอจะขับลำโพงเฮิทส์ แยกชิ้น6.5"จะดีไหม เทียบกับที่ซื้อมาใหม่ lanzar za-80.2 ที่ติดรถอยู่ว่าตัวไหนน่าใช้กว่ากัน(จะเอาตัวบนมาขับแกนรวมบอมเบอร์แกนร่วมที่ประตูหลังอีกคู่)
ขอขอบคูณล่วงหน้าครับ:kapook-17332-8238:
ทำไมน้าวุฒิชอบวางของไว้หลังตู้ปลา :emoticon-cartoon-00
อะไรที่เหลือๆก็เอามาให้ผมก็ได้คร๊าบบ เดี๋ยวตู้ปลามันจะพังซะก่อน
rookiechy
20-10-2010, 18:02
คลาส เอ จะให้รายละเอียดดี ความเพี้ยนต่ำ
อัดได้ไม่มาก ความร้อนสูง เหมาะสำหรับคนชอบรายละเอียด
คลาส เอบี ก็เอามาอย่างละครึ่ง ความละเอียด
ลดลง อัดได้มากขึ้นความร้อนต่ำ
ขับเคลื่อนระบบโดย vBulletin™ Version 4.2.5 Copyright © 2024 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.