แสดงเวอร์ชันเต็ม : ปัญหาช่วงล่างTriton plus 2.5VG Turbo ปี 2012
kro sang
28-05-2013, 20:22
ช่วยด้วยครับเพื่อนๆ คือรถผม Triton plus 2.5VG Turbo ปี 2012 มีปัญหาช่วงล่างอธิบายอาการดังนี้ครับ พื้นที่ในคลิปตรงที่ผมจอดรถทดสอบ เป็นพื้นที่ทางขึ้นเนินนิดหน่อย เวลาจอดถ้าไม่ดึงเบรคมือรถจะไหลถอยหลัง ประมาณนี้ ตรงนี้แหละ ผมดึงเบรคมือไว้เพื่อไม่ให้รถไหลถอยหลัง แล้ว ลงไปเขย่าล้อหลังดู ปรากฎว่า มีเสียงดัง เกราะๆ ลักษณะเหมือนล้อหรือเพลาหลวมครับ แต่ถ้าจอดพื้นที่ราบตามถนนทั่วๆ ไป แล้วลงไปเขย่าล้อหลังดู ปรากฎว่า ไม่มีเสียงดัง ทุกอย่างก็แน่นปกติดี ดึงเบรคมือ โดยยังจอดพื้นที่ราบตามถนนทั่วๆ ไป ปรากฎว่า ก็ไม่มีเสียงดัง แน่นปกติดี
สรุปแล้ว จะมีเสียงดังแบบในคลิปก็ต่อเมื่อ จอดพื้นเอียง หรือ จอดรถหันหัวรถขึ้นเนิน ประมาณนี้ ผมจึงตัดสินใจนำรถเข้าศูนย์ ให้ช่างดู ปรากฎว่า ไม่แสดงอาการแบบในคลิปที่ถ่ายไว้เลย ผมจึงในช่างดูคลิป แล้วให้ช่างนั่งรถไปกับผม ไปจอดตรงพื้นที่ที่เกิดเสียงดัง ช่างลงความเห็นว่า เพลาหลวม นำกลับเข้าศูนย์มาแก้ ก็ไม่หาย ต่อมาบอกว่า ถ้าจอดพื้นที่เอียง จะมีระยะการให้ตัวได้ของเฟืองดอกจอก จึงเกิดเสียง แล้วก็ไม่ได้แก้ไขอะไร ผมจึงกลับมาบ้านโดยไม่ได้รับการแก้ไขอะไร มันจะดังเฉพาะตอนที่ จอดรถหันหน้ารถขึ้นทางขึ้นเนิน หรือหันหน้ารถลงเนิน ที่ต้องดึงเบรคมือช่วยเพื่อไม่ให้รถไหล ปัจจุบัน ไม่ได้แก้ไขอะไร ไม่รู้จะทำไงดี
ปล.เพื่อนๆท่านใด ว่างๆ ลองทดสอบรถท่านดูหน่อยครับ ว่าจะเป็นเหมือนรถผมหรือไม่ จะได้หายสงสัียสักที รถพึ่งวิ่งได้ประมาณ25,000 กิโลเมตรเองครับ
http://youtu.be/NWLnWsSM3L4
หรือคลิปล่าสุด
คลิปนี้หลังจากที่ เข้าไปทำการแก้ไขปัญหา ที่ศูนย์บริการมิตซูชาญนครพนม มาระยะหนึ่งแล้ว จอดบนถนนปกติทั่วไป ดึงเบรคมือแล้วไปโยกล้อหลังดู ก็มีเสียงดังแล้วครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ จะดังเฉพาะตอนจอดทางลาดชัน
https://www.youtube.com/watch?v=vZJgzjnSWG4 (http://youtu.be/vZJgzjnSWG4)
joe ขาวมุข
28-05-2013, 20:42
ยังอยู่ในระยะประกัน เข้าศูนย์เครมเลยครับ
turbo129
28-05-2013, 20:43
เข้าศูนย์เคลมลูกเดียวครับผม..
MiNi_XXL
29-05-2013, 02:13
ลองดูที่สาแหรกแหนบครับ
ถ้ายังไม่ได้ทำอะไรกับช่วงล่างไป เอาไปเคลมครับ ถ้ายังอยู่ในประกัน
อันตรายมากครับ..เข้าศูนย์ด่วนเลย...เคลมครับ..ชุดขับเคลื่อนแหงม..
kro sang
29-05-2013, 06:14
พื้นที่ในคลิปตรงที่ผมจอดรถทดสอบ เป็นพื้นที่ทางขึ้นเนินนิดหน่อย เวลาจอดถ้าไม่ดึงเบรคมือรถจะไหลถอยหลัง ประมาณนี้ ตรงนี้แหละ ผมดึงเบรคมือไว้เพื่อไม่ให้รถไหลถอยหลัง แล้ว ลงไปเขย่าล้อหลังดู มีเสียงดัง เกราะๆ ลักษณะเหมือนล้อหรือเพลาหลวม แต่ถ้าจอดพื้นที่ราบตามถนนทั่วๆ ไป ที่ไม่ต้องดึงเบรคมือรถก็ไม่ไหลถอยหลัง แล้วลงไปเขย่าล้อหลังดู ปรากฎว่า ไม่มีเสียงดัง ก็แน่นปกติดี หรือว่าที่มีเสียงดังเป็นเพราะเราดึงเบรคมือ เพื่อหยุดรถไม่ให้ไหล ผมก็เลยไปดึงเบรคมือ โดยยังจอดพื้นที่ราบตามถนนทั่วๆ ไป ที่เดิม ปรากฎว่า ก็ไม่มีเสียงดัง แน่นปกติดี เคยนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์ ให้ช่างดู ยกรถขึ้น เขย่ารถ ก็ไม่ดัง ล้อก็แน่นเหมือนปกติ ช่างก็ลงความเห็นว่า ปกติ เพราะรถไม่ปรากฎ เสียงดัง ดังกล่าว ผมจึงกลับมาบ้านโดยไม่ได้รับการแก้ไขอะไร มันจะดังเฉพาะตอนที่ จอดรถหันหน้ารถขึ้นทางขึ้นเนิน หรือหันหน้ารถลงเนิน ที่ต้องดึงเบรคมือช่วยเพื่อไม่ให้รถไหล เลยถ่ายคลิปนี้ไว้ ให้เพื่อนๆ ดู มีใครเคยเจออาการแบบนี้ไหม
kro sang
29-05-2013, 06:23
อันตรายมากครับ..เข้าศูนย์ด่วนเลย...เคลมครับ..ชุดขับเคลื่อนแหงม..เคยเข้าศูนย์บริการ พูดให้ช่างฟังถึงอาการดังกล่าว ช่างก็ยกรถดู เช็คทุกอย่าง ทดสอบทุกข้อสงสัยเพื่อหาเสียงดังกล่าว แต่ไม่เจอ ช่างก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะไม่มีเสียงดังผิดปกติเลย เข้าศูนย์เพื่อเช็คแต่ไม่ปรากฎอาการ พอจอดที่บ้านตรงที่ผมถ่ายคลิป ปรากฎว่ามีอาการดัง เหมือนในคลิปทุกครั้งเลย งง มากเลยครับ
เคยเข้าศูนย์บริการ พูดให้ช่างฟังถึงอาการดังกล่าว ช่างก็ยกรถดู เช็คทุกอย่าง ทดสอบทุกข้อสงสัยเพื่อหาเสียงดังกล่าว แต่ไม่เจอ ช่างก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะไม่มีเสียงดังผิดปกติเลย เข้าศูนย์เพื่อเช็คแต่ไม่ปรากฎอาการ พอจอดที่บ้านตรงที่ผมถ่ายคลิป ปรากฎว่ามีอาการดัง เหมือนในคลิปทุกครั้งเลย งง มากเลยครับ
ก็เอาคลิปนี้ให้ช่างที่ศูนย์ดูเลยครับ ถ้าช่างเห็นแล้วยังไม่รู้หรือบอกว่าปกติ ก็ให้เปลี่ยนศูนย์ครับ
MEAW_SAN
29-05-2013, 09:04
เสียงนี้น่าจะเกิดมาจาก เพลากลาง เส้นที่ส่งมาจากท้ายเกียร์และส่งต่องไปยังเฟืองท้ายครับ น้าลองมุดไปใต้ทองรถแล้วเอามือไปหมุนเพลากลางบิดไปมาซ้ายขวา น้าจะได้ยินเสียงเดียวกัน เนื่องจากมีระยะฟรีของเฟืองในระดับนึง(ทำให้เวลาน้าเข้าเกียร์มันจึงไม่มีเสียง) ในคันเก่าผม ก็ดังแบบนี้ครับ โยกล้อหลังก็ดังแบบน้าเลย แต่ดังขนาดนี้ป่าวจำไม่ได้น่าจะน้อยกว่าของน้านะ ผมขับไปแสนกว่าโลแล้วก้ขายไปไม่มีอะไรผิดปกติครับ ส่วนคันนี้ยังไม่เคยเขย่าดูเย็นนี้จะลองให้ครับ ยังไงก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมไปเรื่อยๆและอย่าพึ่งวางใจนะครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
mai_love
29-05-2013, 09:08
ผมดังตั้งแต่ห้าพันโลแระ แต่ไม่รู้จุดใหน ถ้าเป้นเสียงแหนบ ตอนนี้ไม่ดังแระหายห่วง แต่เสียงปริศนาดังกล่าว ก็ยังคงดังอยู่
mai_love
29-05-2013, 09:10
ช่วงนั้นหาเสียงอยู่พักนึงจนคิดว่าตัวเองเป็น สส ไปเลย เบื่อๆก็เลยปล่อย งั้นก็ลองดูเพลากลางละกันครับ ตามที่ลุงข้างบนบอก
kro sang
29-05-2013, 13:36
เพื่อนๆ ท่านไหนถ้ามีเวลาว่าง ลองไปโยกล้อหลังของรถท่านดูให้ทีครับ ว่ามีเสียงดังเหมือนรถผมหรือเปล่า โดยทำแบบนี้ "จอดรถให้หน้ารถหันขึ้นเนิน เป็นเนินสูงประมาณทางขึ้นตามห้างสรรพสินค้า ที่เราขับรถไปจอดตามชั้นต่างๆ ของห้าง หรืออาจจะเป็นทางเข้าบ้านที่สูงกว่าถนนหน้าบ้าน ประมาณนี้ เวลาจอดรถจะไหลถอยหลังใช่ใหม่ครับ ให้ดึงเบรคมือไว้เพื่อช่วยไม่ให้รถไหล(เกียร์อยู่ในตำแหน่ง ว่าง (จะดับเครื่องยนต์ หรือไม่ดับเครื่องยนต์ก็ได้) แล้วลงมาจับล้อหลังโยกดูว่า ล้อแน่นดีไหม มีเสียงดัง เกราะๆ เหมือนรถผมหรือเปล่า "
แต่รถผม มีเสียงดัง นะครับ ผมลองทำตามคำแนะนำของ น้า meaw_san โดยมุดไปใต้ทองรถแล้วเอามือไปหมุนเพลากลางบิดไปมา ซ้ายขวา จะได้ยินเสียง เป็นเสียงของระยะฟรีของเฟือง แต่มันคนละเสียงกับเสียงที่เกิดในคลิป ที่ผมถ่าย ครับ
พี่ผมเคยเป็นครับ วีโก้ เอาไปตั้งเบรคหลังใหม่หายสนิท
เคยเป็นครับนึกภาพออกอาการอย่างที่ว่าขึ้นล้อแล้วโยกกระบะหรือโยกล้อเป็นๆหายไม่ต้องขึ้นที่สูงราบๆก็เป็นเข้าศูนย์ดันไม่มีเสียงเบื่อๆทำไรไม่ได้ผมก็ปล่อยมันไป ลองเอาน้ำฉีดใต้ท้องรถดูซิครับแล้วลองโยกล้อบางที่อาจจะเป็นพวกแหนบก็ได้ครับ
kro sang
29-05-2013, 14:07
พี่ผมเคยเป็นครับ วีโก้ เอาไปตั้งเบรคหลังใหม่หายสนิท ขอคุณนะครับสำหรับคำแนะนำ เดียวจะลองเข้าศูนย์ไปตั้งเบรคหลังใหม่ดู ได้ผลอย่างไรจะมารายงานให้ทราบ กันทั่วหน้าครับ
ทำไมเบรคมือ ดึงหลายแก๊กจังเลย จริงๆแก๊กเดียวน่าจะอยู่ละ
ล้อหลังเป็นดรัมเบรคลองถอดล้อดูผ้าเบรคหลังหรือตั้งเบรคหลังใหม่ดูครับ
ไม่รู้ว่าเคยขับรถแล้วลืมปลดเบรคมือบ้างหรือเปล่าลองให้ร้านยางถอดดูก็ได้ครับ
MEAW_SAN
29-05-2013, 14:11
ทำไมเบรคมือ ดึงหลายแก๊กจังเลย จริงๆแก๊กเดียวน่าจะอยู่ละ
ล้อหลังเป็นดรัมเบรคลองถอดล้อดูผ้าเบรคหลังหรือตั้งเบรคหลังใหม่ดูครับ
ไม่รู้ว่าเคยขับรถแล้วลืมปลดเบรคมือบ้างหรือเปล่าลองให้ร้านยางถอดดูก็ได้ครับ
รถผมทั้งสามสี่คันที่ใช้มาตั้งไว้ราวๆ 4-5 แกร๊กครับ ตึง
kro sang
29-05-2013, 14:17
เคยเป็นครับนึกภาพออกอาการอย่างที่ว่าขึ้นล้อแล้วโยกกระบะหรือโยกล้อเป็นๆหายไม่ต้องขึ้นที่สูงราบๆก็เป็นเข้าศูนย์ดันไม่มีเสียงเบื่อๆทำไรไม่ได้ผมก็ปล่อยมันไป ลองเอาน้ำฉีดใต้ท้องรถดูซิครับแล้วลองโยกล้อบางที่อาจจะเป็นพวกแหนบก็ได้ครับ ผมว่าไม่ใช่เสียงที่เกิดจากแหนบครับ เพราะเคยแหนบดังมาแล้ว แก้ไขเรียบร้อยแล้ว อันนี้มันดังจากข้างในล้อที่เป็นชุดผ้าเบรค และตรงเพลาหลัง ตัวกลมๆใหญ่ๆที่อยู่ตรงกลาง ใกล้ๆ ยางอะไหล่ ครับ
"รถน้าเลข เป็นตอนกี่กิโลเมตรครับ ตอนนี้หายหรือยัง แล้วตอนนี้วิ่งได้กี่โลแล้ว " กลัวเหมือนกัน ถ้าปล่อยไว้นานๆ กลัวมีปัญหาใหญ่
รถผมทั้งสามสี่คันที่ใช้มาตั้งไว้ราวๆ 4-5 แกร๊กครับ ตึง
มันมีผลกับการจับ ของผ้าเบรคหลังด้วยนะขอบอก
ล่าสุดเพิ่งเปลี่ยนเบรคหลังมา จึงทำให้จับอาการได้ว่า เบรคจับ 4 ล้อเป็นไง
เมื่อก่อนเปลี่ยนแต่เบรคหน้า เวลาเบรคจะรู้สึกเหมือนขับมอไซล์แล้วกำดิสเบรคหน้าอย่างเดียวอะ หัวทิ่มๆ
แต่ถ้าเบรคหลังสมบูรณ์ ทำให้รู้สึกว่า กดเบรคนิดๆรถก็ชลอลงมากละและมันก็ไม่มีอาการหัวทิ่มจึ๊กๆด้วย
ตัวตั้งเบรคมือจะอยู่ติดกับผ้าเบรคเขี่ยๆแต่ แก๊ก 2 แก๊ก ก็ได้ละ
MEAW_SAN
29-05-2013, 14:46
มันมีผลกับการจับ ของผ้าเบรคหลังด้วยนะขอบอก
ล่าสุดเพิ่งเปลี่ยนเบรคหลังมา จึงทำให้จับอาการได้ว่า เบรคจับ 4 ล้อเป็นไง
เมื่อก่อนเปลี่ยนแต่เบรคหน้า เวลาเบรคจะรู้สึกเหมือนขับมอไซล์แล้วกำดิสเบรคหน้าอย่างเดียวอะ หัวทิ่มๆ
แต่ถ้าเบรคหลังสมบูรณ์ ทำให้รู้สึกว่า กดเบรคนิดๆรถก็ชลอลงมากละและมันก็ไม่มีอาการหัวทิ่มจึ๊กๆด้วย
ตัวตั้งเบรคมือจะอยู่ติดกับผ้าเบรคเขี่ยๆแต่ แก๊ก 2 แก๊ก ก็ได้ละ
ตามคู่มือเขาเขียนมา 7 แก๊กเลยนะลุง ไม่แน่ใจว่าอย่างไร แต่เท่าที่ผมทราบมา เบรคหน้า จับก่อนเบรคหลังน่าจะถูกต้องแล้ว ชี้แนะด้วยครับ
kro sang
29-05-2013, 14:47
ทำไมเบรคมือ ดึงหลายแก๊กจังเลย จริงๆแก๊กเดียวน่าจะอยู่ละ
ล้อหลังเป็นดรัมเบรคลองถอดล้อดูผ้าเบรคหลังหรือตั้งเบรคหลังใหม่ดูครับ
ไม่รู้ว่าเคยขับรถแล้วลืมปลดเบรคมือบ้างหรือเปล่าลองให้ร้านยางถอดดูก็ได้ครับ ผมก็เคยนึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมเบรคมือเวลาดึง มันหลายแก๊ก จังเลย บางทีดึงหลายแก๊กจนเกือบจะเก้าสิบองศา ก็มี เคยลืมปลดเบรคมือวิ่ง ประมาณ2-3 ครั้ง ตั้งแต่ซื้อรถมา มีครั้งหนึ่งวิ่งโดยไม่ได้ปลดเบรคมือประมาณเกือบ2กิโลเมตร พอรู้ตัว ตกใจมาเลย จอดรถลงมาดูล้อ ว่าเบรคไหม้ มีควันขึ้นหรือเปล่า แต่โชคดีวันนั้นอากาศหนาว ไม่งั้นผ้าเบรคคงไหม้
ตามคู่มือเขาเขียนมา 7 แก๊กเลยนะลุง ไม่แน่ใจว่าอย่างไร แต่เท่าที่ผมทราบมา เบรคหน้า จับก่อนเบรคหลังน่าจะถูกต้องแล้ว ชี้แนะด้วยครับ
หงะ 7 แก๊ก เลยเหรอ จริงๆเบรคหน้าต้องจับก่อนอะถูกแล้วครับเพราะมันเป็นดิสเบรคทำงานเร็วระยะของผ้าเบรค อยู่ห่างจานเบรคแค่นิดเดียว
แต่สิ่งที่ผมบอกหมายถึงเบรคหลังผมมันแย่เอามาๆรถเกือบ 8 ปี ผ้าเบรคเดิมติดรถ ยังหนาแต่เสื่อมสภาพคิดดูว่าจอดอยู่ทางชันดึงเบรคมือจนรูู้สึกว่ามันตึงยังไหลได้อีก
ดังนั้นเรื่องของผ้าเบรคหลังก็ควรจะใส่ใจดูแลกันบ้างก็ดีครับมันเห็นผลรู้สึกได้เลยละ
kro sang
29-05-2013, 15:02
น้าๆ ครับ เบรคมือ กับเบรคเท้า เบรคไหนทำหน้าที่ห้ามล้อหน้า เบรคไหนทำหน้าที่ห้ามล้อหลัง สงสัยครับ
MEAW_SAN
29-05-2013, 15:17
น้าๆ ครับ เบรคมือ กับเบรคเท้า เบรคไหนทำหน้าที่ห้ามล้อหน้า เบรคไหนทำหน้าที่ห้ามล้อหลัง สงสัยครับ
เบรคมือ ไทรทัน ล็อคล้อหลังครับ สว่นเบรคเท่า ล็อคทั้ง 4 ล้อครับ
ผมก็เคยนึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมเบรคมือเวลาดึง มันหลายแก๊ก จังเลย บางทีดึงหลายแก๊กจนเกือบจะเก้าสิบองศา ก็มี เคยลืมปลดเบรคมือวิ่ง ประมาณ2-3 ครั้ง ตั้งแต่ซื้อรถมา มีครั้งหนึ่งวิ่งโดยไม่ได้ปลดเบรคมือประมาณเกือบ2กิโลเมตร พอรู้ตัว ตกใจมาเลย จอดรถลงมาดูล้อ ว่าเบรคไหม้ มีควันขึ้นหรือเปล่า แต่โชคดีวันนั้นอากาศหนาว ไม่งั้นผ้าเบรคคงไหม้
เคยเห็นเชฟป้ายแดงขับกินลมชมวิวแถวบ้าน ไม่รู้ว่าลากเบรคมือมานานแค่ไหน ควันขโมงมาเลยผ่านมาแถวบ้านคนแถวบ้านตะโกนเรียกโบกกันตลอดทางกว่าจะรู้ตัว
คนขับลงมาถึงกับหน้าซีด จอดทำใจอยู่พักนึงแล้วก็ไป หุหุ
ขอคุณนะครับสำหรับคำแนะนำ เดียวจะลองเข้าศูนย์ไปตั้งเบรคหลังใหม่ดู ได้ผลอย่างไรจะมารายงานให้ทราบ กันทั่วหน้าครับ
ครับยินดีครับ หายปกติไวๆนะครับ
อาการของเสียงเกิดเวลาดึงเบรคมือใช่ไม๊ครับ..เวลาที่ไม่ดึงไม่ดังใช่ไม๊ครับ..แล้วเวลาดังคือตอนที่โยกล้อซ้ายและขวา..ไม่ใช่หน้าหลังใช่ไม๊ครับ..เป็นข้างเดียวหรือสองข้างครับ..ถ้าเป็นอย่างที่่ว่า..ลองถอดล้อถอดจานเรคออกดูที่เบรคโดยเฉพาะตะปูยึดเบรคครับ..ลองดูได้ผลอย่างไร..อยากรู้เหมือนกันครับ..
kro sang
03-06-2013, 10:41
อาการของเสียงเกิดเวลาดึงเบรคมือใช่ไม๊ครับ..เวลาที่ไม่ดึงไม่ดังใช่ไม๊ครับ..แล้วเวลาดังคือตอนที่โยกล้อซ้ายและขวา..ไม่ใช่หน้าหลังใช่ไม๊ครับ..เป็นข้างเดียวหรือสองข้างครับ..ถ้าเป็นอย่างที่่ว่า..ลองถอดล้อถอดจานเรคออกดูที่เบรคโดยเฉพาะตะปูยึดเบรคครับ..ลองดูได้ผลอย่างไร..อยากรู้เหมือนกันครับ.. อาการของเสียงเกิดจากตอนที่เราดึงเบรคมือ ส่วนเวลาไม่ดึง โยกล้อดูก็ไม่ดัง จะดังตอนที่เราโยกล้อหลัง ดังทั้งสองข้าง
ล่าสุด เมื่อตอนเช้าได้นำรถเข้าไปตั้งเบรคหลังและเบรคมือที่ศูนย์ มา แล้ววิ่งกลับมาทดสอบที่เดิมที่ผมถ่ายคลิป ปรากฎว่า ก็ยังมีเสียงดังเหมือนเดิม สรุปแล้วตั้งเบรคหลังที่ล้อหลังให้ชิด ก็ยังดังเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าจะเคลมได้หรือเปล่า
MEAW_SAN
03-06-2013, 11:20
อาการของเสียงเกิดจากตอนที่เราดึงเบรคมือ ส่วนเวลาไม่ดึง โยกล้อดูก็ไม่ดัง จะดังตอนที่เราโยกล้อหลัง ดังทั้งสองข้าง
ล่าสุด เมื่อตอนเช้าได้นำรถเข้าไปตั้งเบรคหลังและเบรคมือที่ศูนย์ มา แล้ววิ่งกลับมาทดสอบที่เดิมที่ผมถ่ายคลิป ปรากฎว่า ก็ยังมีเสียงดังเหมือนเดิม สรุปแล้วตั้งเบรคหลังที่ล้อหลังให้ชิด ก็ยังดังเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าจะเคลมได้หรือเปล่า
ตอนเขย่าแบบในคลิบ ลองให้ใครมุดไปจับเพลากลางดูหน่อยน้าว่า จับเพลากลางกับปล่อย มีนมีผลไหม ผมยังสงสัยมันอยู่
kro sang
03-06-2013, 11:34
ตอนเขย่าแบบในคลิบ ลองให้ใครมุดไปจับเพลากลางดูหน่อยน้าว่า จับเพลากลางกับปล่อย มีนมีผลไหม ผมยังสงสัยมันอยู่ เดี่ยวจะไปลองดูตามที่บอกนะ แล้วจะมารายงาน ผมก็กำลังหาสาเหตุเหมือนกัน ว่าตกลงมันเกิดจากอะไรกันแน่
kro sang
03-06-2013, 13:46
ตอนเขย่าแบบในคลิบ ลองให้ใครมุดไปจับเพลากลางดูหน่อยน้าว่า จับเพลากลางกับปล่อย มีนมีผลไหม ผมยังสงสัยมันอยู่ พักเที่ยงลองไปทำดูแล้ว โดยให้ภารโรง มุดไปจับเพลากลางดู จะมีระยะฟรีอยู่ พอเอามือไปจับหมุนซ้าย ขวา จะมีเสียงของระยะฟรีอยู่ ดังลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ก็ยังไม่ใช่เสียงแบบในคลิป จะเป็นคนละเสียง จับเพลากลาง และก็ไม่จับเพลากลาง เขย่าดูผลไม่แตกต่างกัน จุดที่ผมฟังและสังเกตมาตลอดที่เกิดเสียง(ในคลิป)จะอยู่ตรงลูกศรสีแดงที่ชี้ให้ดูครับ ดังมาจากข้างในนั้นเลย ฟังๆดูจะเป็นเสียงที่ดังจากผ้าเบรคข้างใน ยาวไปจนถึงล้ออีกข้างหนึ่งเลย ประมาณนั้น ดังเสียงเดียวกันทั้งสองล้อเลย
208469
ไม่รู้ว่าโครงสร้างจะคล้ายกับ ดรัมของ รถเก๋งหรือเปล่า
น่าจะคล้ายๆกันละเอามาให้ดูต่างกันแค่กระบะมีเพลาขับ
จากรูปฝักเบรคมันสามาถให้ตัวไปกระทบกับโครงรอบตัวมันได้ตลอดครับ
208473
MEAW_SAN
03-06-2013, 14:32
พักเที่ยงลองไปทำดูแล้ว โดยให้ภารโรง มุดไปจับเพลากลางดู จะมีระยะฟรีอยู่ พอเอามือไปจับหมุนซ้าย ขวา จะมีเสียงของระยะฟรีอยู่ ดังลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ก็ยังไม่ใช่เสียงแบบในคลิป จะเป็นคนละเสียง จับเพลากลาง และก็ไม่จับเพลากลาง เขย่าดูผลไม่แตกต่างกัน จุดที่ผมฟังและสังเกตมาตลอดที่เกิดเสียง(ในคลิป)จะอยู่ตรงลูกศรสีแดงที่ชี้ให้ดูครับ ดังมาจากข้างในนั้นเลย ฟังๆดูจะเป็นเสียงที่ดังจากผ้าเบรคข้างใน ยาวไปจนถึงล้ออีกข้างหนึ่งเลย ประมาณนั้น ดังเสียงเดียวกันทั้งสองล้อเลย
208469
กระจ่างครับ เอาใจช่วยให้หาสาเหตุเจอเร็วๆนี้นะครับ
ไม่รู้ว่าโครงสร้างจะคล้ายกับ ดรัมของ รถเก๋งหรือเปล่า
น่าจะคล้ายๆกันละเอามาให้ดูต่างกันแค่กระบะมีเพลาขับ
จากรูปฝักเบรคมันสามาถให้ตัวไปกระทบกับโครงรอบตัวมันได้ตลอดครับ
208473
ผมเห็นด้วยครับ..เพราะของผมก็ดัง..เบรคก็ยังใช้ได้ปกติดีทุกอย่าง..สรุปว่า..คุณครูไม่ต้องกังวลครับ..ตราบใดที่ยังเบรคอยู่..เสียงเกิดจากการเสียดสของโลหะสองชิ้นเวลาที่เค้าอยู่ชิดกัน..เวลาโยกก็เกิดเสียง..
kro sang
05-06-2013, 06:11
208623(รูปภาพอ้างอิงมาจาก www.thaispeedcar.com (http://www.thaispeedcar.com))
เข้าไปเช็คอีกรอบที่ศูนย์ ช่างอธิบายว่า เสียงในคลิป เป็นเสียงของเฟืองดอกจอก เวลาจอดทางเอียง ดึงเบรคมือเพื่อไม่ให้รถไหล ล้อหลังจะทำหน้าที่รับน้ำหนัก จึงเกิดแรงกด ทำให้น้ำหนักสองข้างไม่เท่ากัน จึงเกิดเสียงของเฟืองดอกจอก ดังในรูป
ส่วนประกอบของเฟืองขับ ( Differential )
1. เฟืองเดือยหมู ( Worm Gear ) มีลักษณะคล้ายเฟืองรูปกรวย โคนเฟืองมีขนาดโตกว่าส่วนด้านยอดจะมีขนาดเล็ก ทำหน้าที่รับแรงบิดจากเพลากลางในแนวตั้งฉากมาขับเคลื่อนให้เกิดการหมุนตัว เมื่อเฟืองหมุนตัวจะไปขบกับเฟืองบายศรีทั้ง 2 ด้านให้หมุนตาม
2. เฟืองบายศรี ( Ring Gear ) มีลักษณะเป็นเฟืองวงแหวนมีฟันเฟืองอยู่ด้านข้าง เฟืองตัวนี้จะมีอยู่ 2 ตัว ส่วนอีก 2 ตัวด้านในจะมีเฟืองต่อมายังเพลาขับทั้ง 2 ด้าน มีหน้าที่เปลี่ยนมุมการหมุนให้เป็นแนวขนาน
3 . เฟืองดอกจอก ( Planet Gear ) เป็นเฟืองวงแหวน 2 ตัว ทำหน้าที่แยกการหมุนของเพลาขับทั้ง 2 ด้านเมื่อขณะรถวิ่งตรง เฟืองจะรับแรงกดให้ไปขับเพลาทั้ง 2 ด้านเท่ากัน แต่เมื่อเกิดการเลี้ยวเฟืองดอกจอกจะทำหน้าที่แยกการหมุนของล้อให้ส่งกำลังไปเพียงด้านเดียว
คุณสมบัติของเจ้าเฟืองขับแบบธรรมดานี้ คือการส่งกำลังจะส่งไปยังล้อที่รับภาระสูงสุดเพียงล้อเดียว สังเกตุเวลาขึ้นแม่แรงแล้วหมุน ล้อจะหมุนเพียงล้อเดียว อีกล้อฟรีทิ้งอยู่เฉยๆ หรือเวลารถติดหลุม เมื่อเข้าเกียรเร่งเครื่อง ล้อจะหมุนล้อเดียว คุณสมบัตินี้ใช้ในเวลารถเข้าโค้งจะทำให้ล้อที่อยู่ด้านในโค้งหมุนช้ากว่าล้อที่อยู่นอกโค้งรถจึงเข้าโค้งได้อย่างนุ่มนวล
(อ้างอิงมาจาก www.thaispeedcar.com (http://www.thaispeedcar.com))
kro sang
05-06-2013, 06:23
http://youtu.be/q9A6NfepNHI
การทำงานของเกียร์ เฟืองขับ นำมาจาก(อ้างอิงมาจาก www.thaispeedcar.com (http://www.thaispeedcar.com))ต้องขออนุญาตเจ้าของเว็บและขอบพระคุณครับ
นำมาให้เพื่อนๆ ในคลับดูหลักการทำงานของเกียร์ เฟืองขับ ซึ่งผมได้ตัดบางส่วนของคลิปนี้ออก
ช่างเค้าสรุปไม๊ครับ..ว่ามีผลเสียต่อการขับขี่หรือมไม่..อย่างไร..
kro sang
06-06-2013, 16:06
ช่างเค้าสรุปไม๊ครับ..ว่ามีผลเสียต่อการขับขี่หรือมไม่..อย่างไร..เห็นช่างบอกว่าไม่มีผลต่อการขับขี่ การเบรค เพราะได้เช็คระยะฟรีของเพลากลาง ก็ปกติ ทดสอบการเบรคก็ปกติดี การจอดเอียง ทำให้การรับน้ำหนักสองข้างไม่เท่ากัน จึงทำให้มีเสียงของเฟืองดอกจอก (ไม่รู้จริงเหมือนที่ช่างบอกหรือเปล่านะ) เลยถามช่างไปว่าแล้วคันอื่นๆ ที่ผมนำไปทดสอบ ทำไมไม่เห็นดังสักคันเลย จากรถ 5 คัน (รวมรถผมด้วย)ดังอยู่คันเดียว ช่างก็ตอบว่า เราได้เช็คระยะฟรีของเพลากลางแล้วก็มีค่าปกติ และก็อ้างเหตุผลต่างๆ นาๆ ตามภาษาช่าง แล้วสรุปว่า ปกติ ไม่มีผลเสียต่อระบบใด ประมาณนี้ (แต่ผมก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าทำไม รถผมมัน ดังอยู่คันเดียว ส่วนคันอื่นๆ ไม่ดัง ) ยังสงสัยอยู่ว่า ที่ช่างพูดมาจริง หรือ มั่ว ต้องให้เพื่อนๆ ลองจอดรถในพื้นที่เอียง ดู ว่ามีเสียงดังกันบ้างไหม?
แล้วของเหลวภายในกระโปกเพลายังอยู่ในระดับปกติมั้ยครับ
kro sang
17-06-2013, 12:34
แล้วของเหลวภายในกระโปกเพลายังอยู่ในระดับปกติมั้ยครับ ขอวิธีเช็คหน่อยครับ ว่าดูอย่างไงว่าของเหลวในกระโปกเพลาอยู่ในระดับไหน ถ้าเราจะดูเอง ขอคำชี้แนะด้วยครับ
ขอวิธีเช็คหน่อยครับ ว่าดูอย่างไงว่าของเหลวในกระโปกเพลาอยู่ในระดับไหน ถ้าเราจะดูเอง ขอคำชี้แนะด้วยครับ
ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์นะคะ.....ถ้ารถเดิมๆไม่ได้เพิ่มความสูงจนทำให้เพลาท้ายมีมุมเงยที่ผิดปกติ
.
จอดรถในที่ปลอดภัย และ มีพื้นที่เรียบเสมอกัน
ถอดน๊อตเติมน้ำมันเฟืองท้าย ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปถ้าสัมผัสน้ำมันเฟืองท้ายในระดับเดียวกับปากรูเติม ถือว่าปกติ แต่ถ้าต้องงอนิ้วล้วงลงไปถึงจะเจอ แสดงว่า ผิดปกติค่ะ
triton_tierak
17-06-2013, 14:48
ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์นะคะ.....ถ้ารถเดิมๆไม่ได้เพิ่มความสูงจนทำให้เพลาท้ายมีมุมเงยที่ผิดปกติ
.
จอดรถในที่ปลอดภัย และ มีพื้นที่เรียบเสมอกัน
ถอดน๊อตเติมน้ำมันเฟืองท้าย ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปถ้าสัมผัสน้ำมันเฟืองท้ายในระดับเดียวกับปากรูเติม ถือว่าปกติ แต่ถ้าต้องงอนิ้วล้วงลงไปถึงจะเจอ แสดงว่า ผิดปกติค่ะ
อยากรู้ต้องล้วง อิอิ ขำขำนะคับ
ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์นะคะ.....ถ้ารถเดิมๆไม่ได้เพิ่มความสูงจนทำให้เพลาท้ายมีมุมเงยที่ผิดปกติ
.
จอดรถในที่ปลอดภัย และ มีพื้นที่เรียบเสมอกัน
ถอดน๊อตเติมน้ำมันเฟืองท้าย ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปถ้าสัมผัสน้ำมันเฟืองท้ายในระดับเดียวกับปากรูเติม ถือว่าปกติ แต่ถ้าต้องงอนิ้วล้วงลงไปถึงจะเจอ แสดงว่า ผิดปกติค่ะ
ตามซ้อเปิ้ลบอกเลยครับ แหย่เข้าไปนิดก็เจอแล้วครับลื่นๆ
nournear
17-06-2013, 20:20
รถผมก็เคยเป็นครับเสียงแบบนี้ดังแบบนี้เลย พอวิ่งไปศูนย์โยกดูเงียบกริป รถมันกลัวช่าง
พอถึงช่วงเข้าเช็ค 20000 โล ผมเลยบอกช่างว่าเฟืองท้ายดัง ช่างขันน๊อตดู อ้าวน้ำมันขาดครับ
ช่างเลยถ่ายออกแล้วเติมให้ไหม่ ตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงแล้ว
kro sang
17-06-2013, 21:17
รถผมก็เคยเป็นครับเสียงแบบนี้ดังแบบนี้เลย พอวิ่งไปศูนย์โยกดูเงียบกริป รถมันกลัวช่าง
พอถึงช่วงเข้าเช็ค 20000 โล ผมเลยบอกช่างว่าเฟืองท้ายดัง ช่างขันน๊อตดู อ้าวน้ำมันขาดครับ
ช่างเลยถ่ายออกแล้วเติมให้ไหม่ ตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงแล้ว ขอบคุณนะครับ สำหรับคำแนะนำ/แชร์ประสบการณ์ ว่างๆ จะลองดูครับ แต่ ช่างถ่ายออกแล้วเติมให้ใหม่ เสียค่าใช้จ่ายหรือเปล่า ถ้าเสียค่าน้ำมันที่ถ่ายให้ จ่ายเท่าไรครับ
kro sang
17-06-2013, 21:26
ตามซ้อเปิ้ลบอกเลยครับ แหย่เข้าไปนิดก็เจอแล้วครับลื่นๆ ถ้าแหย่แล้วไม่ลื่น ต้องทำอย่างไรครับมันถึงจะลื่น หรือต้องลูบๆ คลำๆ มันก่อนแล้วจึงแหย่ 555+ (ขอบคุณครับ)
ตามซ้อเปิ้ลบอกเลยครับ แหย่เข้าไปนิดก็เจอแล้วครับลื่นๆ
ฝากความห่วงใยถึงสมาชิคที่ปรับมุมเงยเพลากลาง จะยกเท่าไหร่ไม่สำคัญ สำคัญตรงมุมเงยเพลากลางได้องศาเหมาะ เพราะกระดกคานรับกัน ปัญหามันอยู่ตรงปริมาตรน้ำมันเฟืองท้ายในระบบผิดปกติค่ะ จริงอยู่คลายน๊อตเติมเช๊คระดับเสมอปากรู แต่อย่าลืมนะคะ ปากรูมันต่ำลงกว่าที่เคยเป็นเนื่องจากเรากระดกเพลาให้ได้องศา ดังนั้น ยึดปริมาตรน้ำมันเฟืองท้ายตามคู่มือเป็นดีที่สุดค่ะ ของหนูคนที่บ้านถ่ายเอง แกถิยหลังขึ้นแลมป์ชันๆแล้วก็ เช๊คปริมาณน้ำมันที่ใส่เข้าไปตามคู่มือให้ได้ปริมาตร. ......กันไว้ก่อนค่ะ ขับแบบแก น่ากลัว อิ อิ
kro sang
17-06-2013, 21:30
ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์นะคะ.....ถ้ารถเดิมๆไม่ได้เพิ่มความสูงจนทำให้เพลาท้ายมีมุมเงยที่ผิดปกติ
จอดรถในที่ปลอดภัย และ มีพื้นที่เรียบเสมอกัน ถอดน๊อตเติมน้ำมันเฟืองท้าย ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปถ้าสัมผัสน้ำมันเฟืองท้ายในระดับเดียวกับปากรูเติม ถือว่าปกติ แต่ถ้าต้องงอนิ้วล้วงลงไปถึงจะเจอ แสดงว่า ผิดปกติค่ะ ขอบคุณมากๆ ครับที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์ดีๆ เดียวจะไปล้วงดูซะหน่อย ว่าปกติ หรือผิดปกติ
kro sang
19-06-2013, 16:52
ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์นะคะ.....ถ้ารถเดิมๆไม่ได้เพิ่มความสูงจนทำให้เพลาท้ายมีมุมเงยที่ผิดปกติ
.
จอดรถในที่ปลอดภัย และ มีพื้นที่เรียบเสมอกัน
ถอดน๊อตเติมน้ำมันเฟืองท้าย ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปถ้าสัมผัสน้ำมันเฟืองท้ายในระดับเดียวกับปากรูเติม ถือว่าปกติ แต่ถ้าต้องงอนิ้วล้วงลงไปถึงจะเจอ แสดงว่า ผิดปกติค่ะน๊อตเติมน้ำมันเฟืองท้าย ใช่ตรงนี้หรือเปล่าครับ (ลูกศรสีแดงชี้) เป็นจุกสีขาวๆ ครับ
210301
น๊อตเติมน้ำมันเฟืองท้าย ใช่ตรงนี้หรือเปล่าครับ (ลูกศรสีแดงชี้) เป็นจุกสีขาวๆ ครับ
210301
อันนั้นมันท่อหายใจครับน้า น๊อตเติมอยู่ใกล้เลข166อะครับ
kro sang
19-06-2013, 17:30
อันนั้นมันท่อหายใจครับน้า น๊อตเติมอยู่ใกล้เลข166อะครับ มิน่าละ ผมถอดจุกยางสีขาว(ตรงลูกศรสีแดงชี้)ออกแล้วเอาปลายนิ้วก้อยแหย่ลงไปที่รูนั้น ก็ไม่เห็นเจอน้ำอะไรเลย ส่องดูก็เห็นแต่เหล็กไม่ยักจะมีน้ำมันอะไร 555+++
แล้วตรงท่อหายใจถอดออกดูแล้วปิดเหมือนเดิมได้ไหม ?
triton_tierak
21-06-2013, 21:10
มิน่าละ ผมถอดจุกยางสีขาว(ตรงลูกศรสีแดงชี้)ออกแล้วเอาปลายนิ้วก้อยแหย่ลงไปที่รูนั้น ก็ไม่เห็นเจอน้ำอะไรเลย ส่องดูก็เห็นแต่เหล็กไม่ยักจะมีน้ำมันอะไร 555+++
แล้วตรงท่อหายใจถอดออกดูแล้วปิดเหมือนเดิมได้ไหม ?
น่าเล่นบรรยายซะ ผมนึกว่าไม่ใช่การเช็คสภาพรถ คริคริ
kro sang
25-11-2014, 21:23
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่า่นมา ไม่รู้จะทำอะไร เลยเข้าเว็ป Thaitritonclub.com เปิดไปเจอกระทู้หนึ่ง มีเมลล์ ติดต่อฝ่ายช่างเทคนิค สำนักงานใหญ่ คือ customer.plus@th.mitsubishi-motors.com เลยนึกขึ้นได้ว่า ลองส่งคลิปนี้ไปตามเมลล์นี้ดู บางทีอาจจะให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาได้ ปรากฎว่า
อีกสองวัน ช่างเทคนิคจากมิตซู สำนักงานใหญ่โทรมาถามเกี่ยวกับปัญหานี้ และได้ทำการประสานงานกับศูนย์บริการใกล้บ้านเพื่อให้ผมนำรถเข้าไปทดสอบ
พอดีวันพรุ่งนี้ก็ว่างพอดีเลย เดียวจะลองดูอีกสักครั้ง ก่อนที่จะหมดประกันสามปี หรือ หนึ่งแสนกิโลเมตรในเร็วนี้ นี่ก็ ปีครึ่งแล้วกับปัญหานี้ แต่ก็ขับได้ปกติทุกเส้นทาง
ก็มีแต่ปัญหายางกินขอบด้านนอกล้อหน้าทั้งซ้ายและขวา แต่ซ้ายจะกินเยอะหน่อย ส่วนตัวก็คิดว่าน่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน คงเป็นเพราะเรื่องของศูนย์ล้อมากกว่า
เคยไปตั้งศูนย์ ก็ไม่หาย เลยไม่ทำอะไร เพราะยางห้าหมื่นกว่าโลแล้ว คงถึงเวลาเปลี่ยนยางใหม่แล้ว นี่ก็กะว่า มกราคม 58 ค่อยเปลี่ยนยางใหม่ แล้วขยันสลับยาง
ตั้งศูนย์ทุกหมื่นโล คงจะช่วยได้
พรุ่งนี้จะเข้าศูนย์ตามคำแนะนำของช่างเทคนิคดู แต่จอดทดสอบที่ศูนย์ คงไม่ปรากฎเสียง ดังกล่าว คงต้องรบกวนช่างที่ศูนย์นั่งรถออกไปข้างนอกหาพื้นที่เนิน หรือเอียง
เหมือนในคลิป ช่างจะได้วิเคราะห์สาเหตุถูก เหตุการณ์จะเป็นยังไง เดี๋ยวจะมารายงานผลที่นี่ ต่อไป
Surachart
13-12-2014, 10:42
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่า่นมา ไม่รู้จะทำอะไร เลยเข้าเว็ป Thaitritonclub.com เปิดไปเจอกระทู้หนึ่ง มีเมลล์ ติดต่อฝ่ายช่างเทคนิค สำนักงานใหญ่ คือ customer.plus@th.mitsubishi-motors.com เลยนึกขึ้นได้ว่า ลองส่งคลิปนี้ไปตามเมลล์นี้ดู บางทีอาจจะให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาได้ ปรากฎว่า
อีกสองวัน ช่างเทคนิคจากมิตซู สำนักงานใหญ่โทรมาถามเกี่ยวกับปัญหานี้ และได้ทำการประสานงานกับศูนย์บริการใกล้บ้านเพื่อให้ผมนำรถเข้าไปทดสอบ
พอดีวันพรุ่งนี้ก็ว่างพอดีเลย เดียวจะลองดูอีกสักครั้ง ก่อนที่จะหมดประกันสามปี หรือ หนึ่งแสนกิโลเมตรในเร็วนี้ นี่ก็ ปีครึ่งแล้วกับปัญหานี้ แต่ก็ขับได้ปกติทุกเส้นทาง
ก็มีแต่ปัญหายางกินขอบด้านนอกล้อหน้าทั้งซ้ายและขวา แต่ซ้ายจะกินเยอะหน่อย ส่วนตัวก็คิดว่าน่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน คงเป็นเพราะเรื่องของศูนย์ล้อมากกว่า
เคยไปตั้งศูนย์ ก็ไม่หาย เลยไม่ทำอะไร เพราะยางห้าหมื่นกว่าโลแล้ว คงถึงเวลาเปลี่ยนยางใหม่แล้ว นี่ก็กะว่า มกราคม 58 ค่อยเปลี่ยนยางใหม่ แล้วขยันสลับยาง
ตั้งศูนย์ทุกหมื่นโล คงจะช่วยได้
พรุ่งนี้จะเข้าศูนย์ตามคำแนะนำของช่างเทคนิคดู แต่จอดทดสอบที่ศูนย์ คงไม่ปรากฎเสียง ดังกล่าว คงต้องรบกวนช่างที่ศูนย์นั่งรถออกไปข้างนอกหาพื้นที่เนิน หรือเอียง
เหมือนในคลิป ช่างจะได้วิเคราะห์สาเหตุถูก เหตุการณ์จะเป็นยังไง เดี๋ยวจะมารายงานผลที่นี่ ต่อไป
ปัญหาเรื่องยางหน้ากินผมก้อเป็น จนต้องเปลี่ยนยางไปชุดหนึ่งแล้วยังเป็นอยู่ ตอนนี้เลยไม่รู้จะแก้ยังไง ถ้ามีร้านยางแถวชลบุรีที่เจ๋งคอต บอกด้วยครับจะได้ไปแก้ไข ขอบคุณน้าๆครับ
kro sang
09-02-2015, 22:44
รายงานความคืบหน้าครับ หลังจากได้รับคำแนะนำให้นำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์ใกล้บ้าน วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ได้นำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่งทางภาคอีสานตอนบน ช่างก็เริ่มทำการแก้ไขใช้เวลาประมาณเดือนกว่าๆ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้(ใช้วิธีแก้ไขแบบเดาอาการไปเรื่อย รื้อๆ ถอดๆ จนไม่รู้จะรื้อจะถอดตรงไหนแล้ว) จึงส่งรถเข้าศูนย์บริการสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ เมื่อวันที่12 มกราคม 2558 แล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ผมได้โทรไปถามศูนย์ใหญ่มิตซูว่ารถซ่อมเสร็จหรือยัง ศูนย์ใหญ่มิตซูบอกว่าเสร็จแล้ว รอส่งรถคืนลูกค้า แต่ ณ ปัจจุบัน วันนี้ 9 กุมภาพันธ์ 2558 จนจะครบ 1 เดือนแล้วยังไม่ได้ส่งรถคืนมาเลย โทรไปถามอีก ก็บอกว่ายังไม่ได้ส่งต้องรอบริษัทเทรลเลอร์ รวมแล้ว การซ่อมอาการเพลาดัง หลวม ใช้เวลาไปแล้ว ณ วันนี้ ก็ 2 เดือนกว่าแล้ว และนี้ก็ไม่รู้ว่าวันไหนจะได้รถคืน แล้วอาการที่ซ่อมก็ไม่รู้จะจบหรือเปล่า คงต้องทำใจครับ
tteenzaa
10-02-2015, 09:02
ท่อหายใจนี้หรือเปล่าครับที่ ตอนลุยน้ำหนักๆน้ำจะเข้าเฟืองท้าย จะลุยหนักต้องอุดก่อน หรือเปล่าครับ สงสัยมาก
ท่อหายใจนี้หรือเปล่าครับที่ ตอนลุยน้ำหนักๆน้ำจะเข้าเฟืองท้าย จะลุยหนักต้องอุดก่อน หรือเปล่าครับ สงสัยมาก
ถ้าเน้นลุยขนาดนั้น หาสายลมซืลิโคน ส้มๆเขียวๆ มาต่อตรงจุกนั่นจะดีกว่าค่ะ ปล่อยปลายขึ้นไปที่คานขวางระหว่างแคสซีเพื่อระบายแรงดัน น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าค่ะ
kro sang
24-04-2015, 07:02
รายงานความคืบหน้าครับ หลังจากได้รับคำแนะนำให้นำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์ใกล้บ้าน วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ได้นำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่งทางภาคอีสานตอนบน ช่างก็เริ่มทำการแก้ไขใช้เวลาประมาณเดือนกว่าๆ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้(ใช้วิธีแก้ไขแบบเดาอาการไปเรื่อย รื้อๆ ถอดๆ จนไม่รู้จะรื้อจะถอดตรงไหนแล้ว) จึงส่งรถเข้าศูนย์บริการสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ เมื่อวันที่12 มกราคม 2558 แล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ผมได้โทรไปถามศูนย์ใหญ่มิตซูว่ารถซ่อมเสร็จหรือยัง ศูนย์ใหญ่มิตซูบอกว่าเสร็จแล้ว รอส่งรถคืนลูกค้า แต่ ณ ปัจจุบัน วันนี้ 9 กุมภาพันธ์ 2558 จนจะครบ 1 เดือนแล้วยังไม่ได้ส่งรถคืนมาเลย โทรไปถามอีก ก็บอกว่ายังไม่ได้ส่งต้องรอบริษัทเทรลเลอร์ รวมแล้ว การซ่อมอาการเพลาดัง หลวม ใช้เวลาไปแล้ว ณ วันนี้ ก็ 2 เดือนกว่าแล้ว และนี้ก็ไม่รู้ว่าวันไหนจะได้รถคืน แล้วอาการที่ซ่อมก็ไม่รู้จะจบหรือเปล่า คงต้องทำใจครับ
รายงานผลต่อครับ หลังจากที่รอแล้วรอเหล่า เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ได้รับโทรศัพท์จากศูนย์บริการมิตซู นครพนม ว่ารถของท่านมาแล้ว ให้เข้ามารับรถได้เลย ผมจึงเข้าไปรับรถ ดูสภาพรถจากภายนอก ก็ปกติดี จากนั้นก็ไปทดสอบรถกับช่างที่ศูนย์บริการ ว่าอาการ ล้อหลังมีเสียงดังเวลาจอดถนนเอียง หรือทางชัน เนิน หายหรือเปล่า ก็เป็นที่น่าพอใจ ว่าอาการดังกล่าวได้หายแล้ว ไม่ดังแล้ว ก็ได้รับรถเป็นที่เรียบร้อย ตอนรับรถ ผมได้ถามช่างที่ศูนย์บริการนี้ว่า สำนักงานใหญ่ได้ซ่อม เปลี่ยน อะไรบ้าง ช่างศูนย์ตอบว่า จากการสอบถามไปทางสำนักงานใหญ่ แจ้งว่า ได้เปลี่ยนเฟืองท้ายใหม่ และแก้ไขระบบเบรคหลังให้ใหม่ ซึ่ง คำตอบทำไมไม่ตรงกับที่ผมโทรไปสอบถามกับทางมิตซูสำนักงานใหญ่ก่อนหน้านี้ สำนักงานใหญ่ตอบว่า ได้ทำการปรับแล็คเฟืองท้าย และลองซิมเพลา แค่นั้น ผมก็แอบส่งสัยในใจ ว่า ทำไมได้รับคำตอบไม่เหมือนกัน ตกลง เขาทำอะไรกับรถคันนี้บ้างกันแน่ ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะอาการที่ส่งซ่อมหายก็โอเคแล้วสำหรับผม จากนั้นก็นำรถไปใช้งานตามปกติ
เช้าวันต่อมา จะเดินทางไกล จึงเปิดฝากระโปงหน้ารถเพื่อดูระดับของเหลวในห้องเครื่องว่าปกติหรือไม่ ผมมองดูสภาพโดยรวม สายตาก็ต้องไปสดุดที่หม้อลมเบรค เลยเข้าไปดูใกล้ๆ จึงเห็นได้ชัดเจนเลยว่าสีของหม้อลมเบรคลอก หลุด ร่อน ออก เนื่องจากน้ำมันเบรคกัดสีหม้อลม ตอนแรกนึกว่า หม้อลมเบรครั่วแน่ๆ แต่ลองเช็คดูคราบน้ำมันก็ไม่มี แล้วสีหม้อลมเบรค ลอก หลุด ร่อน ได้อย่างไง เลยขับรถเข้าศูนย์ไปให้ช่างดู ช่างบอกว่า โดนน้ำมันเบรคกัดสีหม้อลมอาจจะเกิดจากช่างทำหกใส่เวลาเติมหรือเติมเต็มจนล้น แล้วไม่ได้ล้าง ทำให้น้ำมันเบรคกัดสีหม้อลมอย่างที่เห็น ศูนย์บริการจึงทำการถอดหม้อลมเบรคออกไปทำสีให้ใหม่ กลับมาใช้แล้วลองสังเกตดูก็ปกติ ไม่รั่ว แสดงว่าเป็นความบกพร่องของช่างสำนักงานใหญ่ ที่สะเพร่า ไม่รอบคอบเวลาเติมน้ำมันเบรค นี้คือมาตรฐานของศูนย์บริการมิตซูแล้วหรือ ขนาดสำนักงานใหญ่ยังเป็นถึงขนาดนี้ แล้วศูนย์บริการตามต่างจังหวัด จะไม่แย่กว่านี้อีกหรอ
สรุปแล้วการแก้ปัญหาของมิตซู ผมต้องตามงานเองตลอด ต้องเสียเวลา ถ้าผมไม่ตามงานก็จะไม่คืบหน้า ก็จะปล่อยๆ ไปรอให้หมดประกัน ซึ่งปัญหาที่รถผมเจอ คือ ช่วงล่างตรงล้อหลังมีเสียงดังเวลาจอดทางลาดชัน ทางเอียง ซึ่งถ้าผมหลงเชื่อช่างที่ศูนย์บริการ ที่บอกว่า อาการนี้ ปกติ คงไม่ได้แก้ไขแล้ว แต่ผมคิดได้ว่า มันไม่ปกติแน่นอน ถึงแม้ว่ารถจะใช้ได้ปกติก็ตาม ผมจึงตามเรื่องให้ถึงที่สุด ตามจี้ ให้ช่างแก้ไขให้เป็นปกติเหมือนรถคันอื่นๆ ยอมทำใจกับการแก้ปัญหาของช่างที่แก้ปัญหาแบบไม่ใช่มืออาชีพ เดาอาการไปเรื่อย ถอด เรื้อ ไปเรื่อยๆ ทำเหมือนรถผมเป็นหนูทดลอง จนผมคิดว่า เรามาไกลถึงขนาดนี้แล้ว จะถอยไม่ได้แล้ว ต้องเอาให้ถึงที่สุด เอาจนกว่าจะหาย ยอมรับว่าเสียเวลามากที่สุด เสียความรู้สึกมากที่สุด ใครไม่เจอกับตัวเองจะไม่รู้หรอกครับ ณ ตอนนี้ รถผมปกติทุกอย่าง ระบบช่วงล่างกลับมาฟิสดังเดิม ทุกวันนี้ไม่เข้าแล้วศูนย์บริการมิตซู รู้สึกว่าช่างไม่ค่อยเก่ง และอีกอย่างรถผมก็หมดประกันแล้ว ใช้บริการอู่ ร้าน เฉพาะทางข้างนอก ดีกว่า ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพงด้วย สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณน้าๆ ทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ให้คำแนะนำ ขอบคุณครับ
ขับเคลื่อนระบบโดย vBulletin™ Version 4.2.5 Copyright © 2024 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.