newyear
06-06-2013, 16:45
จากกรณี คลิป ตำรวจไล่เจ้าหน้าที่กู้ภัย
208808
ในโลกสังคมออน์ไลน์ โปรดพิจารณาข้อมูลข่าวสารให้ถึ่ถ้วน แม้ยอมรับว่าภาพพจน์ของตำรวจจราจรไทยต่อสายตาประชาชนบางส่วนไม่ค่อยดีนัก ดูจากกรณี การโพสของ RKU News // ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ ตร.ไล่รถกู้ชีพ!เมื่อครู่นี่เอง! "ทีมงานคนหลังไมค์" รับการร้องเรียนมาเพื่อตรวจสอบว่า "เจ้าหน้าที่จราจร" ไล่รถฉุกเฉินทีมกู้ชีพนพรัตน์ เนื่องจากขวางการจราจร กรณี ว.40 ผู้เสียชีวิต เขต สน.มีนบุรี!...***ตำรวจไล่รถพยาบาลขณะช่วยคน...เจ็บ...////โดยการลงภาพการปฐมพยาบาลให้กับผู้ที่เกิดอุบัติขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยวิ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าที่ถนนร่มเกล้าขาออก และโพสในลักษณะ ขณะกำลังช่วยคนเจ็บอยู่นั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.มีนบุรีมาไล่ไม่ให้จอดรถ และหลังจากนั้นก็มีการเผยแพร่คลิปขณะที่ตำรวจจราจร สน.มีนบุรี รหัส 6625 กำลังให้รถตู้ที่จอดกีดขวางถนนออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีศพผู้ตายนอนอยู่บนถนน หลังจากนั้้นมีการแชร์กันอย่างแพร่หลายในสังคมออน์ไลน์ และก็ด่าว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายนี้รวมทั้งตำรวจจราจรในภาพรวมกันอย่างมาก วันนี้(6มิ.ย.56) พ.ต.ท.ถนัด นักธรรม รอง ผกก.จร.สน.มีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าทีตำรวจจราจร สน.มีนบุรี รหัส 6625 ได้เข้าไปพบกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี และผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ในภาพถ่ายและคลิปทั้งหมด เพื่อพูดคุยถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ชีพนพรัตน์ที่เป็นผู้โพสในเรื่องดังกล่าว ได้ยอมรับว่า ภาพการปฐมพยาบาลนายทวีพงษ์ฯในตอนแรก กับคลิปที่ถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจมาให้รถออกนั้น เป็นคนละช่วงเวลากัน โดยในภาพการปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น เป็นภาพที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าไปในที่เกิดเหตุในช่วงต้นๆและพยายามช่วยชีวิตของนายทวีพงษ์ฯ แต่หลังจากพยายามอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของนายทวีพงษ์ฯได้ และศพได้นอนเสียชีวิตในทีเกิดเหตุ ส่วนคลิปที่ถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.มีนบุรี 6625 นั้น เป็นการถ่ายในช่วงหลังจากที่นายทวีพงษ์ฯเสียชีวิตคาที่แล้ว และรอการตรวจชันสูตรของแพทย์และพนักงานสอบสวนตามกฏหมาย โดยช่วงดังกล่าวเจ้าหน้าที่กู้ชีพกำลังเก็บของกลับ และมีตำรวจจราจรมาให้เลื่อนรถที่จอดในช่องที่ 3 ออกไป ทำให้เกิดความไม่พอใจ และกลับมาโพสภาพและข้อความที่ขัดต่อข้อเท็จจริงและมีการเผยแพร่ไปทั่วประเทศ ซึ่งหนุ่มนักโพส ได้ขอโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.มีนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ติดใจในเรื่องดังกล่าว และจะร่วมมือกันทำงานเพื่อสังคมไทยต่อไปครับ จึงแจ้งมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=564498586935354&set=a.318509371534278.94376.315467721838443&type=1&theater
208808
ในโลกสังคมออน์ไลน์ โปรดพิจารณาข้อมูลข่าวสารให้ถึ่ถ้วน แม้ยอมรับว่าภาพพจน์ของตำรวจจราจรไทยต่อสายตาประชาชนบางส่วนไม่ค่อยดีนัก ดูจากกรณี การโพสของ RKU News // ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ ตร.ไล่รถกู้ชีพ!เมื่อครู่นี่เอง! "ทีมงานคนหลังไมค์" รับการร้องเรียนมาเพื่อตรวจสอบว่า "เจ้าหน้าที่จราจร" ไล่รถฉุกเฉินทีมกู้ชีพนพรัตน์ เนื่องจากขวางการจราจร กรณี ว.40 ผู้เสียชีวิต เขต สน.มีนบุรี!...***ตำรวจไล่รถพยาบาลขณะช่วยคน...เจ็บ...////โดยการลงภาพการปฐมพยาบาลให้กับผู้ที่เกิดอุบัติขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยวิ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าที่ถนนร่มเกล้าขาออก และโพสในลักษณะ ขณะกำลังช่วยคนเจ็บอยู่นั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.มีนบุรีมาไล่ไม่ให้จอดรถ และหลังจากนั้นก็มีการเผยแพร่คลิปขณะที่ตำรวจจราจร สน.มีนบุรี รหัส 6625 กำลังให้รถตู้ที่จอดกีดขวางถนนออกจากที่เกิดเหตุ โดยมีศพผู้ตายนอนอยู่บนถนน หลังจากนั้้นมีการแชร์กันอย่างแพร่หลายในสังคมออน์ไลน์ และก็ด่าว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายนี้รวมทั้งตำรวจจราจรในภาพรวมกันอย่างมาก วันนี้(6มิ.ย.56) พ.ต.ท.ถนัด นักธรรม รอง ผกก.จร.สน.มีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าทีตำรวจจราจร สน.มีนบุรี รหัส 6625 ได้เข้าไปพบกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี และผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ในภาพถ่ายและคลิปทั้งหมด เพื่อพูดคุยถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ชีพนพรัตน์ที่เป็นผู้โพสในเรื่องดังกล่าว ได้ยอมรับว่า ภาพการปฐมพยาบาลนายทวีพงษ์ฯในตอนแรก กับคลิปที่ถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจมาให้รถออกนั้น เป็นคนละช่วงเวลากัน โดยในภาพการปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น เป็นภาพที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าไปในที่เกิดเหตุในช่วงต้นๆและพยายามช่วยชีวิตของนายทวีพงษ์ฯ แต่หลังจากพยายามอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของนายทวีพงษ์ฯได้ และศพได้นอนเสียชีวิตในทีเกิดเหตุ ส่วนคลิปที่ถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.มีนบุรี 6625 นั้น เป็นการถ่ายในช่วงหลังจากที่นายทวีพงษ์ฯเสียชีวิตคาที่แล้ว และรอการตรวจชันสูตรของแพทย์และพนักงานสอบสวนตามกฏหมาย โดยช่วงดังกล่าวเจ้าหน้าที่กู้ชีพกำลังเก็บของกลับ และมีตำรวจจราจรมาให้เลื่อนรถที่จอดในช่องที่ 3 ออกไป ทำให้เกิดความไม่พอใจ และกลับมาโพสภาพและข้อความที่ขัดต่อข้อเท็จจริงและมีการเผยแพร่ไปทั่วประเทศ ซึ่งหนุ่มนักโพส ได้ขอโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.มีนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ติดใจในเรื่องดังกล่าว และจะร่วมมือกันทำงานเพื่อสังคมไทยต่อไปครับ จึงแจ้งมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=564498586935354&set=a.318509371534278.94376.315467721838443&type=1&theater