แสดงเวอร์ชันเต็ม : ผมเพิ่งตื่นตัวเรื่องอุดegr ในขณะที่วิ่งใกล้5หมื่นโลแล้ว.
chanwiputn
17-12-2013, 11:50
ผมมัวแต่เดียวๆในใจ ตอนนี้ใกล้5หมื่นโลแล้วเลยตัดสินใจแล้วว่าช่วงวันที่25/12/13นี้ยังงั่ยๆก็ต้องไปอุด
ถามที่ใหนๆ ใครๆเรื่องอุดegrว่ากันดีทั้งนั้น(ไม่พูดถึงโลกสี่เขียวน่ะครับ)
จึงอยากถามน้าๆว่า ผมวิ่งขนาดนี้แล้ว จะอุดอย่างเดียวจะดีหรือเปล่า หรือต้องทำรายการอื่น
ควบคู่ไปด้วย กังวลตรงที่วิ่งมาเยอะแล้วครับ ขอความรู้เพื่อการตัดสินใจหน่อยครับ
ผมหกหมื่นโลแล้วยังไม่ได้อุดเหมือนกัน รอผู้รู้มาตอบอีกทีครับ
MEAW_SAN
17-12-2013, 11:56
ก่อนอุดลองถอดมาดูท่อร่วมไอดีก่อนครับ แล้วน้าจะรู้ตัวอัติโนมัติเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง
mai_love
17-12-2013, 11:57
แนะนำให้ล้างท่อร่วมไอดี ก่อนครับ
Aon-Ohm Triton
17-12-2013, 14:22
ผมมัวแต่เดียวๆในใจ ตอนนี้ใกล้5หมื่นโลแล้วเลยตัดสินใจแล้วว่าช่วงวันที่25/12/13นี้ยังงั่ยๆก็ต้องไปอุด
ถามที่ใหนๆ ใครๆเรื่องอุดegrว่ากันดีทั้งนั้น(ไม่พูดถึงโลกสี่เขียวน่ะครับ)
จึงอยากถามน้าๆว่า ผมวิ่งขนาดนี้แล้ว จะอุดอย่างเดียวจะดีหรือเปล่า หรือต้องทำรายการอื่น
ควบคู่ไปด้วย กังวลตรงที่วิ่งมาเยอะแล้วครับ ขอความรู้เพื่อการตัดสินใจหน่อยครับ
เมื่อพูดถึงรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ที่มีมากมายในตลาดแล้วนั้น รถยนต์กลุ่มนี้ในปัจจุบันมีพัฒนาที่ก้าวล้ำไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากำลังพูดถึงรถรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้นมากกว่าแค่ภาพเดิมที่ถูกมองว่าเป็นรถส่งของ
กระบะรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถนั่งหลายๆรุ่น จนได้รับความนิยมมาแต่งแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถยนต์แรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักษร EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกในการขับขี่
หลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่สามารถตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม
เราคงต้องบอกว่า วิศวกรไม่ได้คิดเกินในส่วนนี้ขึ้นมา หากแต่ EGR นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการประกันในเรื่องเครื่องยนต์ด้วย
ความเชื่อเรื่องอุด EGR
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แน่นอนว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่า อุด EGR แล้วจะแรงขึ้น
แนวคิดอุด EGR นี้มีขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเริ่มต้นในกลุ่มคนเล่นรถกลุ่มเล็กที่หาวิธีแรงทางลัด ด้วยการศึกษาระบบเครื่องยนต์ และเมื่อเจอ EGR ที่เป็นการนำไอเสียมาเผาไหม้นั้นอีกครั้งนั้น ก็เลยทดลองทำการอุดเพื่อตัดการทำงานในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง
การปิดช่องทางในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่นั้นส่งผลให้อากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์นั้นมีแต่อากาศที่ออกมาจากเทอร์โบ ซึ่งเมื่อผ่านชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ก็ทำให้มีความเย็นลงและเป็นอากาศที่มีการควบแน่นสูงทำให้มีการตอบสนองที่ดีจากเครื่องยนต์นั่นเอง
คำถามที่สำคัญคือ เมื่ออุด EGR แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาหรือไม่ คนที่อุดส่วนใหญ่ ซึ่งโดยมากเป็นผู้ใช้และศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ในแบบรู้กันมาปากต่อปาก ทั้งจากประสบการณ์ตัวเองและประสบการณ์ช่างหรือ Guru ก็มักจะบอกว่าไม่มีอะไร ..รับรองแรง!!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอุด EGR นั้นมีผลเสียเช่นกัน แลัวควรต้องพิจารณาให้ดี
เมื่ออุด EGR สิ่งแรงที่จะเกิดขึ้นคือการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการขับขี่ แต่ที่หลายคนลืมไปคือเครื่องยนต์ดีเซลนั้นปัจจุบันเป็นระบบไฟฟ้า หรือคอมมอนเรล ซึ่งใช้การตรวจจับอากาศที่ออกมาจากไอเสียคอยควบคุมสั่งการทำงานของเครื่องยนต์
การวัดค่าอากาศนี้ระบบจะทำการประมวลผลโดยผล ECU (Electronics Control Unit) หรือ ECM (Electronic Control Management) ตามแต่รถรุ่นนั้นจะเรียก ซึ่งค่าอากาศและส่วนผสมนั้นจะถูกประมวล และในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการปล่อยไอเสียมากวาล์ว EGR ที่อยู่ตรงท่อไอดีก็จะเปิดขึ้นเพื่อให้ไอเสียนั้นกลับมาเผาไม้อีกครั้ง เพื่อลดก๊าซไอเสียอย่างคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะ "ควันดำ" ซึ่งมีส่วนประกอบโลหะหนักในกลุ่มควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ลองคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องยนต์ย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ปนอยู่ในลักษณะก๊าซที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบรวมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนผสมที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้
ประการต่อมา เมื่อระบบไอเสียมีมลพิษมาก ผลคือระบบระบายไอเสียที่ปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ปัจจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องยนต์ในการปรับความสัมพันธ์ในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้เสียหายต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง
เข้าใจอย่างถ่องแท้ตกลง EGR คืออะไร
จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า EGR นั้นค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับหลายระบบมากกว่าที่คิดไม่ใช่เพียงแค่ ท่อที่นำไอเสียมาหมุนวนใหม่อีกครั้งเท่านั้น แต่มันอาจจะยังส่งผลถึงระบบต่างมากมาย ซึ่งเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำแต่อยากให้เข้าใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้น
EGR หรือ exhaust gas recirculation เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมในการนำไอเสียจำนวนหนึ่งประมาณ 5-15 % กลับมาเผาไหม้ร่วมกับ อากาศดีเพื่อให้มีไอเสียที่ดีขึ้นลดมลภาวะที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์
แน่นอนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของไอเสียจะถูกโยนกลับเข้าสู่ห้องเผาไหม้ แต่แม้จะเป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง EGR เองก็มีข้อเสียทำให้น่ำมันเครื่องนั้นมีเขม่ามากกว่าปกติโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่นี่คือข้อดี 4 ประการของการมี EGR
1.ลดการสูญเสีย อัตราเร่ง EGR นั้นคือการนำไอเสียมาเผาไหม้และการจะเผาไหม้ไอเสียนั้นลิ้นปีกผีเสื้อต้อง รับอากาศดีเข้ามาด้วย และถ้าคุณจับทางได้จะพบว่า อัตราเร่งจะลดลง(เครื่องลอยตัวมากกว่า)ไปน้อยกว่าเมื่อไม่อุด EGR
2.เครื่องทำงานลื่นไหลมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสักนิด แต่ให้นึกถึงน้ำร้อนน้ำเย็น และมันก็เป็นเช่นนั้นกับอากาศและกระบอกสูบ คิดง่ายๆการอุด EGR เปรียบเหมือนกับการอากาศร้อนจากไอเสียออกไปทำให้เครื่องยนต์รับแต่อากาศดี และเย็นสบายแต่ความจริงแล้ว อากาศที่ดีนั้นทำให้ เครืองยนต์มักจะสูญเสียค่าความร้อนหน้าสัมผัสลูกสูบมากกว่ าถ้าเทียบกับมีไอเสียจาก EGR เข้ามาผสม ซึ่งแม้อาจจะไม่สามารถรู้สึกได้จากปลายเท้า แต่เชื่อเถอะว่ามีจริง
3.ลดก๊าซไอเสีย แน่นอนนี่คือหน้าที่หลักของ EGR และก๊าซไอเสียถูกใส่เข้ามาเมื่อถึงจุดสูงสุดของลูกสูบเพื่อเผาไหม้ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
4.ลดค่าความร้อนที่ลูกสูบ จำได้ไหมที่เราบอกว่าเมื่อ EGR ทำงานแล้วส่วนอากาศนั้นผสมจะน้อยลงหมายถึงส่วนผสมบางลง และเมื่อส่วนผสมบางลง นั้นก็หมายถึงการที่อากาศใหม่ที่เปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนหลังจากเผาไหม้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอน้อยลง
ถ้ามองตามข้อเท็จจริงของ EGR แล้ว แน่นอนมันเป็นเพียงระบบที่หมุนวนนำอากาศไปเผาไหม้อีกครั้ง หากแต่ระบบนี้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ แม้แต่ช่างก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง ฉะนั้นหากคิดจะอุด EGR นั้นจงคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ
ลองศึกษาดูประกอบการตัดสินใจนะครับน้า
Aon-Ohm Triton
17-12-2013, 14:27
เมื่อพูดถึงรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ที่มีมากมายในตลาดแล้วนั้น รถยนต์กลุ่มนี้ในปัจจุบันมีพัฒนาที่ก้าวล้ำไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากำลังพูดถึงรถรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้นมากกว่าแค่ภาพเดิมที่ถูกมองว่าเป็นรถส่งของ
กระบะรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถนั่งหลายๆรุ่น จนได้รับความนิยมมาแต่งแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถยนต์แรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักษร EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกในการขับขี่
หลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่สามารถตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม
เราคงต้องบอกว่า วิศวกรไม่ได้คิดเกินในส่วนนี้ขึ้นมา หากแต่ EGR นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการประกันในเรื่องเครื่องยนต์ด้วย
ความเชื่อเรื่องอุด EGR
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แน่นอนว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่า อุด EGR แล้วจะแรงขึ้น
แนวคิดอุด EGR นี้มีขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเริ่มต้นในกลุ่มคนเล่นรถกลุ่มเล็กที่หาวิธีแรงทางลัด ด้วยการศึกษาระบบเครื่องยนต์ และเมื่อเจอ EGR ที่เป็นการนำไอเสียมาเผาไหม้นั้นอีกครั้งนั้น ก็เลยทดลองทำการอุดเพื่อตัดการทำงานในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง
การปิดช่องทางในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่นั้นส่งผลให้อากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์นั้นมีแต่อากาศที่ออกมาจากเทอร์โบ ซึ่งเมื่อผ่านชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ก็ทำให้มีความเย็นลงและเป็นอากาศที่มีการควบแน่นสูงทำให้มีการตอบสนองที่ดีจากเครื่องยนต์นั่นเอง
คำถามที่สำคัญคือ เมื่ออุด EGR แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาหรือไม่ คนที่อุดส่วนใหญ่ ซึ่งโดยมากเป็นผู้ใช้และศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ในแบบรู้กันมาปากต่อปาก ทั้งจากประสบการณ์ตัวเองและประสบการณ์ช่างหรือ Guru ก็มักจะบอกว่าไม่มีอะไร ..รับรองแรง!!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอุด EGR นั้นมีผลเสียเช่นกัน แลัวควรต้องพิจารณาให้ดี
เมื่ออุด EGR สิ่งแรงที่จะเกิดขึ้นคือการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการขับขี่ แต่ที่หลายคนลืมไปคือเครื่องยนต์ดีเซลนั้นปัจจุบันเป็นระบบไฟฟ้า หรือคอมมอนเรล ซึ่งใช้การตรวจจับอากาศที่ออกมาจากไอเสียคอยควบคุมสั่งการทำงานของเครื่องยนต์
การวัดค่าอากาศนี้ระบบจะทำการประมวลผลโดยผล ECU (Electronics Control Unit) หรือ ECM (Electronic Control Management) ตามแต่รถรุ่นนั้นจะเรียก ซึ่งค่าอากาศและส่วนผสมนั้นจะถูกประมวล และในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการปล่อยไอเสียมากวาล์ว EGR ที่อยู่ตรงท่อไอดีก็จะเปิดขึ้นเพื่อให้ไอเสียนั้นกลับมาเผาไม้อีกครั้ง เพื่อลดก๊าซไอเสียอย่างคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะ "ควันดำ" ซึ่งมีส่วนประกอบโลหะหนักในกลุ่มควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ลองคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องยนต์ย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ปนอยู่ในลักษณะก๊าซที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบรวมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนผสมที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้
ประการต่อมา เมื่อระบบไอเสียมีมลพิษมาก ผลคือระบบระบายไอเสียที่ปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ปัจจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องยนต์ในการปรับความสัมพันธ์ในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้เสียหายต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง
เข้าใจอย่างถ่องแท้ตกลง EGR คืออะไร
จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า EGR นั้นค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับหลายระบบมากกว่าที่คิดไม่ใช่เพียงแค่ ท่อที่นำไอเสียมาหมุนวนใหม่อีกครั้งเท่านั้น แต่มันอาจจะยังส่งผลถึงระบบต่างมากมาย ซึ่งเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำแต่อยากให้เข้าใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้น
EGR หรือ exhaust gas recirculation เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมในการนำไอเสียจำนวนหนึ่งประมาณ 5-15 % กลับมาเผาไหม้ร่วมกับ อากาศดีเพื่อให้มีไอเสียที่ดีขึ้นลดมลภาวะที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์
แน่นอนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของไอเสียจะถูกโยนกลับเข้าสู่ห้องเผาไหม้ แต่แม้จะเป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง EGR เองก็มีข้อเสียทำให้น่ำมันเครื่องนั้นมีเขม่ามากกว่าปกติโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่นี่คือข้อดี 4 ประการของการมี EGR
1.ลดการสูญเสีย อัตราเร่ง EGR นั้นคือการนำไอเสียมาเผาไหม้และการจะเผาไหม้ไอเสียนั้นลิ้นปีกผีเสื้อต้อง รับอากาศดีเข้ามาด้วย และถ้าคุณจับทางได้จะพบว่า อัตราเร่งจะลดลง(เครื่องลอยตัวมากกว่า)ไปน้อยกว่าเมื่อไม่อุด EGR
2.เครื่องทำงานลื่นไหลมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสักนิด แต่ให้นึกถึงน้ำร้อนน้ำเย็น และมันก็เป็นเช่นนั้นกับอากาศและกระบอกสูบ คิดง่ายๆการอุด EGR เปรียบเหมือนกับการอากาศร้อนจากไอเสียออกไปทำให้เครื่องยนต์รับแต่อากาศดี และเย็นสบายแต่ความจริงแล้ว อากาศที่ดีนั้นทำให้ เครืองยนต์มักจะสูญเสียค่าความร้อนหน้าสัมผัสลูกสูบมากกว่ าถ้าเทียบกับมีไอเสียจาก EGR เข้ามาผสม ซึ่งแม้อาจจะไม่สามารถรู้สึกได้จากปลายเท้า แต่เชื่อเถอะว่ามีจริง
3.ลดก๊าซไอเสีย แน่นอนนี่คือหน้าที่หลักของ EGR และก๊าซไอเสียถูกใส่เข้ามาเมื่อถึงจุดสูงสุดของลูกสูบเพื่อเผาไหม้ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
4.ลดค่าความร้อนที่ลูกสูบ จำได้ไหมที่เราบอกว่าเมื่อ EGR ทำงานแล้วส่วนอากาศนั้นผสมจะน้อยลงหมายถึงส่วนผสมบางลง และเมื่อส่วนผสมบางลง นั้นก็หมายถึงการที่อากาศใหม่ที่เปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนหลังจากเผาไหม้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอน้อยลง
ถ้ามองตามข้อเท็จจริงของ EGR แล้ว แน่นอนมันเป็นเพียงระบบที่หมุนวนนำอากาศไปเผาไหม้อีกครั้ง หากแต่ระบบนี้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ แม้แต่ช่างก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง ฉะนั้นหากคิดจะอุด EGR นั้นจงคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ
ลองอ่านดูประกอบการตัดสินใจครับน้า Aon-Ohm Triton
chanwiputn
17-12-2013, 20:01
เมื่อพูดถึงรถยนต์กระบะรุ่นใหม่ที่มีมากมายในตลาดแล้วนั้น รถยนต์กลุ่มนี้ในปัจจุบันมีพัฒนาที่ก้าวล้ำไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากำลังพูดถึงรถรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้นมากกว่าแค่ภาพเดิมที่ถูกมองว่าเป็นรถส่งของ
กระบะรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถนั่งหลายๆรุ่น จนได้รับความนิยมมาแต่งแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์ที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถยนต์แรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักษร EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกในการขับขี่
หลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่สามารถตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่แท้ที่จริงแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงไอเสียจากท่อไอเสียกลับมาหมุนเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม
เราคงต้องบอกว่า วิศวกรไม่ได้คิดเกินในส่วนนี้ขึ้นมา หากแต่ EGR นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการประกันในเรื่องเครื่องยนต์ด้วย
ความเชื่อเรื่องอุด EGR
อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แน่นอนว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดที่ว่า อุด EGR แล้วจะแรงขึ้น
แนวคิดอุด EGR นี้มีขึ้นมาได้สักระยะหนึ่งแล้วเริ่มต้นในกลุ่มคนเล่นรถกลุ่มเล็กที่หาวิธีแรงทางลัด ด้วยการศึกษาระบบเครื่องยนต์ และเมื่อเจอ EGR ที่เป็นการนำไอเสียมาเผาไหม้นั้นอีกครั้งนั้น ก็เลยทดลองทำการอุดเพื่อตัดการทำงานในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง
การปิดช่องทางในการนำไอเสียมาเผาไหม้ใหม่นั้นส่งผลให้อากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์นั้นมีแต่อากาศที่ออกมาจากเทอร์โบ ซึ่งเมื่อผ่านชุดอินเตอร์คูลเลอร์ ก็ทำให้มีความเย็นลงและเป็นอากาศที่มีการควบแน่นสูงทำให้มีการตอบสนองที่ดีจากเครื่องยนต์นั่นเอง
คำถามที่สำคัญคือ เมื่ออุด EGR แล้วจะมีผลเสียอะไรตามมาหรือไม่ คนที่อุดส่วนใหญ่ ซึ่งโดยมากเป็นผู้ใช้และศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ในแบบรู้กันมาปากต่อปาก ทั้งจากประสบการณ์ตัวเองและประสบการณ์ช่างหรือ Guru ก็มักจะบอกว่าไม่มีอะไร ..รับรองแรง!!! แต่ในความเป็นจริงแล้ว การอุด EGR นั้นมีผลเสียเช่นกัน แลัวควรต้องพิจารณาให้ดี
เมื่ออุด EGR สิ่งแรงที่จะเกิดขึ้นคือการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะการขับขี่ แต่ที่หลายคนลืมไปคือเครื่องยนต์ดีเซลนั้นปัจจุบันเป็นระบบไฟฟ้า หรือคอมมอนเรล ซึ่งใช้การตรวจจับอากาศที่ออกมาจากไอเสียคอยควบคุมสั่งการทำงานของเครื่องยนต์
การวัดค่าอากาศนี้ระบบจะทำการประมวลผลโดยผล ECU (Electronics Control Unit) หรือ ECM (Electronic Control Management) ตามแต่รถรุ่นนั้นจะเรียก ซึ่งค่าอากาศและส่วนผสมนั้นจะถูกประมวล และในจังหวะที่เครื่องยนต์มีการปล่อยไอเสียมากวาล์ว EGR ที่อยู่ตรงท่อไอดีก็จะเปิดขึ้นเพื่อให้ไอเสียนั้นกลับมาเผาไม้อีกครั้ง เพื่อลดก๊าซไอเสียอย่างคาร์บอนมอนนอกไซด์ หรือที่เรารู้จักในฐานะ "ควันดำ" ซึ่งมีส่วนประกอบโลหะหนักในกลุ่มควันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ลองคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องยนต์ย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ปนอยู่ในลักษณะก๊าซที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบรวมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนผสมที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ไม่ได้
ประการต่อมา เมื่อระบบไอเสียมีมลพิษมาก ผลคือระบบระบายไอเสียที่ปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ปัจจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องยนต์ในการปรับความสัมพันธ์ในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้เสียหายต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง
เข้าใจอย่างถ่องแท้ตกลง EGR คืออะไร
จากข้างต้นจะเห็นได้ว่า EGR นั้นค่อนข้างมีความสัมพันธ์กับหลายระบบมากกว่าที่คิดไม่ใช่เพียงแค่ ท่อที่นำไอเสียมาหมุนวนใหม่อีกครั้งเท่านั้น แต่มันอาจจะยังส่งผลถึงระบบต่างมากมาย ซึ่งเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำแต่อยากให้เข้าใจอย่างแท้จริงก็เท่านั้น
EGR หรือ exhaust gas recirculation เป็นกระบวนการทางวิศวกรรมในการนำไอเสียจำนวนหนึ่งประมาณ 5-15 % กลับมาเผาไหม้ร่วมกับ อากาศดีเพื่อให้มีไอเสียที่ดีขึ้นลดมลภาวะที่เกิดจากก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์
แน่นอนจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของไอเสียจะถูกโยนกลับเข้าสู่ห้องเผาไหม้ แต่แม้จะเป็นเพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่ง EGR เองก็มีข้อเสียทำให้น่ำมันเครื่องนั้นมีเขม่ามากกว่าปกติโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล แต่นี่คือข้อดี 4 ประการของการมี EGR
1.ลดการสูญเสีย อัตราเร่ง EGR นั้นคือการนำไอเสียมาเผาไหม้และการจะเผาไหม้ไอเสียนั้นลิ้นปีกผีเสื้อต้อง รับอากาศดีเข้ามาด้วย และถ้าคุณจับทางได้จะพบว่า อัตราเร่งจะลดลง(เครื่องลอยตัวมากกว่า)ไปน้อยกว่าเมื่อไม่อุด EGR
2.เครื่องทำงานลื่นไหลมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งสักนิด แต่ให้นึกถึงน้ำร้อนน้ำเย็น และมันก็เป็นเช่นนั้นกับอากาศและกระบอกสูบ คิดง่ายๆการอุด EGR เปรียบเหมือนกับการอากาศร้อนจากไอเสียออกไปทำให้เครื่องยนต์รับแต่อากาศดี และเย็นสบายแต่ความจริงแล้ว อากาศที่ดีนั้นทำให้ เครืองยนต์มักจะสูญเสียค่าความร้อนหน้าสัมผัสลูกสูบมากกว่ าถ้าเทียบกับมีไอเสียจาก EGR เข้ามาผสม ซึ่งแม้อาจจะไม่สามารถรู้สึกได้จากปลายเท้า แต่เชื่อเถอะว่ามีจริง
3.ลดก๊าซไอเสีย แน่นอนนี่คือหน้าที่หลักของ EGR และก๊าซไอเสียถูกใส่เข้ามาเมื่อถึงจุดสูงสุดของลูกสูบเพื่อเผาไหม้ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
4.ลดค่าความร้อนที่ลูกสูบ จำได้ไหมที่เราบอกว่าเมื่อ EGR ทำงานแล้วส่วนอากาศนั้นผสมจะน้อยลงหมายถึงส่วนผสมบางลง และเมื่อส่วนผสมบางลง นั้นก็หมายถึงการที่อากาศใหม่ที่เปลี่ยนจากเย็นเป็นร้อนหลังจากเผาไหม้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย ทำให้เครื่องยนต์มีการสึกหรอน้อยลง
ถ้ามองตามข้อเท็จจริงของ EGR แล้ว แน่นอนมันเป็นเพียงระบบที่หมุนวนนำอากาศไปเผาไหม้อีกครั้ง หากแต่ระบบนี้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ แม้แต่ช่างก็ไม่ได้เข้าใจอย่างลึกซึ่ง ฉะนั้นหากคิดจะอุด EGR นั้นจงคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนทำ
ลองอ่านดูประกอบการตัดสินใจครับน้า Aon-Ohm Triton
ขอบคุณมากๆเลยครับน้า
MiNi_XXL
17-12-2013, 20:11
ขอบคุณครับ สำหรับบทความดี ๆ เกี่ยวกับ egr ถ้าให้ดีอีกนิด เพิ่มเครดิตให้เจ้าของบทความเค้าหน่อยนะครับ ที่มาที่ไปจากที่ไหน
ขอบคุณครับผม
jaidee8008
17-12-2013, 20:39
ดีครับ.....มีแต่ข้อดีของการไม่อุด egr...........
ข้อเสีย....ท่านผู้รู้....ช่วยแจ้งชัดๆ.....เอาให้สมน้ำสมเนื้อ....แบบไม่ลำเอียงรักษ์โลก
แล้วไอ้ที่ว่าข้อมูลแบบว่า....ถ้าอุดเครื่องพัง//เสื่อมสภาพ(อ่านดูมันเป็นอย่างนั้น)....ขอดูหลักฐานครับ เอาแบบชัดๆ............ถ้าพัง
ผมคนแรกครับ.....จะได้รีบเอาออก....:) แล้วจะได้บอกลูกบอกหลานว่าอย่าทะลึ่งอุด egr อีก...........
แต่ตอนนี้...ข้อมูลที่ผมมี.............ผมอุดครับ
ปล.ผมไลน์ถามเพื่อนที่ทำงานเป็นหัวหน้าวิศวกรดูแลการผลิตเครื่องยนต์ให้กับรถ..???..ไม่บอก.....เมื่อไม่นาน (จริงๆถามย้ำอีกครังไม่ถึง 1 นาทีที่ผ่านมา)คำตอบที่ได้
"ไม่พัง ควันดำกว่าเดิม เขม่าออกท่อเยอะขึ้น เครื่องเย็นและลื่นขึ้นนิดนึง" แค่นี้ก่อนเกรงใจเขา กำลังเข้านอน...
Sutta_pho
17-12-2013, 22:00
เรียนน้าๆทุกท่านครับ เพื่อเป็นการไม่ให้เสพสื่อผิดๆ อยากให้หาข้อมูลเยอะๆ ฟังหลายๆด้านนะครับ แล้วใช้ วิจารณญาณ ของตัวเองนะครับ
อธิบายกันแบบง่ายๆ ไม่วกไปเวียนมา ที่มาของอุปกรณ์ EGR (Exhaust Gas Recirculation) ในการออกแบบวิศวะกรต้องใส่เข้าไปให้กับเครื่องยนต์เพื่อแก้ไขคุณภาพไอเสียให้ได้ตามมาตรฐาน Euro 4 เนื่องจากเป็นข้อกฎหมายที่รัฐบาลแต่ละประเทศกำหนดโดยส่วนใหญ่ ยกตัวอย่าง เครื่อง 4D56 มันถูกใช้มาตั้งแต่ L2oo Cyclone ทีนี้พอจะต้องใช้ใส่ใน Triton ก็ต้องทำให้ผ่านมาตรฐาน Euro ความขี้เกียจของวิศวะกรนะครับ ตัวเครื่องไม่ยุ่ง ไม่ต้องออกแบบใหม่ เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ignition combustion engine) มาเป็นร้อยปี ก็ไม่เห็นมันจะต่างกันตรงไหน ต่างกันแค่ภายนอก ออกแบบ EGR เพื่อให้เอาไอเสียมาเผาอีกครั้ง คุณภาพไอเสียก็ผ่านตามมาตรฐาน ประมาณนี้
EURO 4
ประเภท
CO
HC
NOx
HC+NOx
PM
รรถยนต์นั่งเกิน 6 ที่นั่ง หรือดัดแปลงจากรถบรรทุกที่บรรทุกได้เกิน 2,500 กก.
RW≤1,305
1.0 / 0.50
0.10 / -
0.08 / 0.25
- / 0.30
- / 0.025
1,305<RW≤1,760
1.81 / 0.63
0.13 / -
0.10 / 0.33
- / 0.39
- / 0.04
RW>1,760
2.27 / 0.74
0.16 / -
0.11 / 0.39
- / 0.46
- / 0.06
รถยนต์นั่งไม่เกิน 6 ที่นั่งมวลเต็มอัตราบรรทุกไม่เกิน 2,600 กก.
รถเบนซิน
1
0.1
0.08
-
-
รถดีเซล
0.5
-
0.25
0.3
0.025
ทีนี้อุด EGR ข้อดีและข้อเสียโดยส่วนตัวนะครับ
ข้อดี
อากาศทีเข้าห้องเผาไหม้เป็นอากาศบริสุทธ์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการเผาไหม้สมบูรณ์ กำลังเครื่องจะได้เต็มที่เทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูญเสียไป(รถหนึ่งคันราคาไม่ใช่ถูกๆ ผมต้องการใช้รถให้มันคุ้ม นานที่สุดครับ)
ไม่มีเขม่าเกาะท่อไอดี น้ำมันเครื่องใสขึ้น
ข้อเสีย
แน่นอนครับคุณภาพไอเสียไม่ได้ตามมาตร EURO4 (เวลาตรวจสภาพก็ผ่านทุกที เมืองไทยยังไม่จริงจัง ก็รักนะสิ่งแวดล้อม คิดว่ากับไอเสียรถผมคันเดียว เทียบกับสวนที่บ้าน ผมมีเครื่องฟอกอากาศส่วนตัวครับ กับคนที่มีรถเพื่อเอามาแซดไร้สาระ)
ส่วนผสมหนาขึ้นครับ ขอเถียง เนื่องจากเดิมจะต้องฉีดน้ำมันเผื่อไอ้ไอเสียที่เข้ามาผสม ทีนี้ไม่มีไอเสียมาผสมแล้วก็จะหนาขึ้นครับ ส่วนความร้อนสะสมไม่มีหลอกครับ (ถ้าจะมีมันจะเกี่ยวกับไฟแก่ไฟอ่อน ใครเรียนช่างจะรู้นะ)
สุดท้ายนะครับ รถใครรถมัน หาข้อมูลเยอะๆ ตัดสินใจเองละกัน ส่วนตัวเลย ผมใช้รถเพื่อหาเงิน ก็อยากจะให้มันคุ้มค่า อยู่กับเรานานๆ รถผมก็ 60,000 โลแล้ว อุดตั้งแต่ 5,000โล พอ 40,000 ก็เอาท่อแทนแคทมาใส่ เพราะแคทจะหมดสภาพแล้ว ส่วนไอ้ที่ว่าประกันจะไม่คุ้มครอง ผมทำอู่ข้างนอกก็ได้ ราคาไม่โหดเหมือนศูนย์ ก็ทำแค่นี้ ไอ้ไอเสียออกมา กับรถผมคนเดียวมันคงไม่ไปทำลายชั้นบรรยากาศสักเท่าไหร่เทียบกับคนอื่นๆเอารถมาขับไร้สาระ ใส่โน้น โมนั้น ดันราง ใส่กล่อง แซดควันดำๆ ได้อะไรบ้าง ในอีกแง่ผมก็ทำ CSR ให้โลกใบนี้ โดยเอาที่ดินมาทำสวน ปลูกต้นไม้ให้กับโลกใบนี้แล้วครับ ส่วนไอ้ที่ว่าประกันจะไม่คุ้มครอง ผมทำอู่ข้างนอกก็ได้ ราคาไม่โหดเหมือนศูนย์ แต่ที่รู้ๆ เคลมเกียร์ ลูกปืนกดสายพานหน้าและเคลม Turbo ใหม่มาแล้วครับ
sathit_dee
17-12-2013, 22:27
ผมเพิ่งไปอุดมาได้ 2 วันครับ รถผม 3800 โล ถอดออกมา เขม่าดำเป็นผงๆหนาๆเลย ขนาดรถยังใหม่ๆนะครับนี่
MiNi_XXL
18-12-2013, 10:26
รถผมคนเดียวมันคงไม่ไปทำลายชั้นบรรยากาศสักเท่าไห ร่เทียบกับคนอื่นๆเอารถมาขับไร้สาระ ใส่โน้น โมนั้น ดันราง ใส่กล่อง แซดควันดำๆ ได้อะไรบ้าง
ถ้าไม่เป็นการรบกวนช่วยดูและพิจารณาแก้ไข้ข้อความนี้ก็ดีนะครับ ผมคนนึงที่ใส่กล่อง และมีอีกหลาย ๆคนที่ใส่กล่อง แต่ไม่ได้ขับรถไร้สาระ ไปวัน ๆ นะครับ ผมใช้รถทำงานเช่นกันครับ
อ่านมาทั้งหมดแล้วเจอข้อความนี้เหมือนโดนตบหน้ายังไงก็ไม่รู้
ข้อมูลเยอะแยะมากมายเลยครับ สุดท้ายก็อยู่ที่เหตุผลขอแต่ละคน ว่าจะทำอะไร ทำเพื่ออะไร นานาจิตตังครับ
ส่วนตัวผมอุดแล้ว อุดตอน100,000 โล ล้างท่อร่วมไอดีแล้ว สกปรกมาก ตัวegrเขม่าเกาะแทบปิดสนิท เขม่าที่เกาะตามท่อไอดี จุดที่หนาที่สุดที่วัดได้ประมาณ1.5cm ขูด-ล้างกันเพลินเลยกันแฟน2คน อิ อิ อิ
ถ้าไม่อุดก็ขยันล้างท่อร่วมไอดีหน่อยละกันทุกๆ60000โลรถจะได้ไม่อึด
MEAW_SAN
18-12-2013, 11:37
วิศวกรออกแบบมาดีใช่ แต่วิศวกรวารันตีอายุการใช้งานรถเราแค่ 1 แสนกิโลเมตร ชะนั้นผมไม่ตามวิศวกร ทุกอย่างหรอกครับ
tonntakan
18-12-2013, 12:40
ผมก็อุดครับตั้งแต่5000โล ตอนนี้ 70000โลแล้วเครื่องเดินเรียบตลอด
ทุกวันนี้ก็ กด180สบายๆไม่มีอาการของเครื่อง กระตุกตอนเช้าๆ อีกเลย
ไม่รุ้ซิว่าวิศวกรใช้รถทุกวันเหมือนผมหรือปล่าว แต่ถ้าเขาใช้เขาคงรู้ว่า อุด หรือ ไม่อุด
ส่วนผม อุด แล้วมันดีกับเครื่องยนต์ ของผมครับ
ผมยังไม่ได้อุดเลย ว่าจะอุดเหมือนกัน มัวแต่ ฟังทางนั้นบ้าง ฟังทางนี้บ้าง จนผ่านมาแล้ว 3 ปี ก็ยังไม่ได้อุด 555
โดยส่วนตัวแล้ว สงสัยต้องเอาไปอุดแล้วรู้สึกว่ารถเริ่มอืดขึ้นรึป่าวก็ไม่รู้ในความคิดผมหรือว่าจิตตกไปเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
ตอนนี้อยากเอาไปล้างท่อร่วมไอดีมากเลย ล้างเสร็จแล้วก็อุดเลย ก่อนหน้านี้เคยเห็นมีกระทู้ของน้า ๆ ท่านนึงที่รับล้างท่อร่วมไอดีจำไม่ได้แล้วและก็หาไม่เจอแล้วอาาาา
ตอนนี้อยากจะใช้บริการมากเลย แนะนำด้วยคร๊าบบบบบบบ
somdach tiansoo
18-12-2013, 13:22
อ่านจนตาลาย เลยครับกระทู้นี้ อันนี้ผมก็ไม่รู้เท่าไหร่ ลองอุดดูก็ได้ครับ ถ้าไม่ดีก็ถอดออกกลับสู่สภาพเดิมจบ หรือไม่ต้องไปอุดมันก็ได้ ถ้าขับแล้วไม่ดีหรือกลัวเครื่องพังค่อยไปอุดซ่ะจบ หรือจะลองอุดปีนึง ไม่อุดปีนึง ก็ยังไหวครับ ด้วยความเคารพ
SM-TRITON
18-12-2013, 13:27
ง่ายๆ ครับ อุด ดีที่สุดครับ
มันเป็นนโนบายครับ เป็นการขอความร่วมมือของ
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือการนำของเสียที่
ออกมาจากท่อรถนำกลับไปใช้ใหม่ แต่ที่นำกลับมาใชั
ใหม่ ไม่ได้ออกแบบระบบกรองอากาศอีกชั้น ซึ่งเป็นอากาศ
ที่ไม่สะอาด ซึ่งจุดนี้ส่งผลทำให้เกิด เขม่าที่เกาะตามท่อไอดี
เป็นจำนวนมาก การออกแบบที่ง่ายที่สุดและลดต้นทุนที่สุด
แค่ทำระบบปิดเปิด เข้าตาม % ที่ต้องการสั่งให้การจ่ายน้ำมัน
เพิ่มหรือลดเท่านั้น มันเป็นผลของการออกแบบที่ลดต้นทุนก็
เท่านั้น แต่ไม่ได้มองถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
วิศวกรออกแบบมาดีใช่ แต่วิศวกรวารันตีอายุการใช้งานรถเราแค่ 1 แสนกิโลเมตร ชะนั้นผมไม่ตามวิศวกร ทุกอย่างหรอกครับ
ใช้ครับไม่รู้จะทำตามวิศวกรทำไม เพราะขนาดวิศวกรออกแบบมารุ่นผมไม่มีอินเตอร์ ผมยังไปหาอินเตอร์มาติดเลย555 egr ก็อุดมา5-6 ปีแล้วไม่เห็นว่ารถมันมีทีท่าจะพังอะไรเลย กดยังได้180++อยู่นะ
chanwiputn
18-12-2013, 13:39
ขอบคุณครับ สำหรับบทความดี ๆ เกี่ยวกับ egr ถ้าให้ดีอีกนิด เพิ่มเครดิตให้เจ้าของบทความเค้าหน่อยนะครับ ที่มาที่ไปจากที่ไหน
ขอบคุณครับผม
ข๊อบคุ๋นจ๊ะ จากสุพั๋นบุรีจ๊ะน้า
ตะก่อนเค้าก็ฝากเนื้อฝากตั๋วแล้วน่ะน้า
god-army
18-12-2013, 14:10
อุดตอนยังไม่ถึงหมื่นโล ขี้เขม่าในท่อร่วมดำๆ เหนียวๆ เขรอะเลย คิดดูเอา เหมือนจมูกคุณมีขี้มูก เวลาหายใจสบายรึว่าอึดอัด
turbo129
18-12-2013, 14:12
อ่านแล้วได้ความรู้ครับ..... แถมเหมือนตอบแบบเหมือนเคืองๆกันเลยนะครับ.....ปรองดองครับ ปรองดอง....Triton Club .เฮ้อ
แถวสมุทรสาคร,พระราม 2 , เพชรเกษม หรือแถว ๆ สาย 1 มีน้าท่านใดรับล้างท่อร่วมไอดีมั้ยครับ อยากจะไปใช้บริการจังเลย
chinjuku
18-12-2013, 14:48
อุดตั้งแต่ 100 โล มาเก็บข้อมูลด้วยครับ
mai_love
18-12-2013, 15:12
ผมไม่รู้ ผมขายอย่างเดียว หมดนี่คงเลิกทำขี้เกียจ วิศวกรเขาออกแบบมาดีแล้ว คนไทยมักแต่งเก่งกว่าวิดวะ เดิมๆขับไม่เป็นหรอก มันคือนิสัยนักเลงรถ สาวๆชอบ เหมือนตุ๊กตาบราย แต่งสวยดูดี เดิมๆมันเชย อุด ไม่อุด อยู่ที่ใจรัก อยากเปลี่ยนแปลงอะไรก็คิด ดู ศึกษา ถ้ามีข้อเปรียบเทียบเมื่อไร มักจะมีอย่างอื่นตามมาเสมอ ผมชอบน้าที่มีความรู้เครื่องยนต์นะ ผมออกรถมา 2 คันแระ คันแรก ตัวเตี้ย 116 รุ่นแรก ไม่อุด เพราะไม่ได้ศึกษา แค่โหลดเตี้ย คัน 2 178 พลัส 4 ผมอุดตอน 2 หมื่นกว่าๆ ทุกวันนี้ หาเงินจ่ายค่างวดหัวหมุน
MiNi_XXL
18-12-2013, 15:32
แถวสมุทรสาคร,พระราม 2 , เพชรเกษม หรือแถว ๆ สาย 1 มีน้าท่านใดรับล้างท่อร่วมไอดีมั้ยครับ อยากจะไปใช้บริการจังเลย
อู่ตาโย่งไง บางน้ำจืด เอกชัย แหล่งรวมไทรทัน ดำเนินการโดยช่างดำและช่างต้น 5555 ส่วนช่างโย่งควบคุมการทำงาน
ผมก็ยังไม่อุด แต่ก็หาข้อมูลว่าจะอุดดีไม่อุดดี แต่ที่เขาว่าอุดเทอร์พังเร็วจริงปล่าวครับ
MiNi_XXL
18-12-2013, 17:02
ก้อไม่เห็นพังเลยนะ อย่างอื่นพังก่อน
อู่ตาโย่งไง บางน้ำจืด เอกชัย แหล่งรวมไทรทัน ดำเนินการโดยช่างดำและช่างต้น 5555 ส่วนช่างโย่งควบคุมการทำงาน
ชี้พิกัดให้ผมหน่อยครับ ผมอาจจะเข้าไปซักวันครับ
MiNi_XXL
18-12-2013, 20:42
น้ารู้จักโกลเด้นแฟคตอรี่มั้ย อู่อยู่ทางขวามือ ก่อนถึงโกลเด้นแฟค
SM-TRITON
18-12-2013, 20:50
ผมไม่รู้ ผมขายอย่างเดียว หมดนี่คงเลิกทำขี้เกียจ วิศวกรเขาออกแบบมาดีแล้ว คนไทยมักแต่งเก่งกว่าวิดวะ เดิมๆขับไม่เป็นหรอก มันคือนิสัยนักเลงรถ สาวๆชอบ เหมือนตุ๊กตาบราย แต่งสวยดูดี เดิมๆมันเชย อุด ไม่อุด อยู่ที่ใจรัก อยากเปลี่ยนแปลงอะไรก็คิด ดู ศึกษา ถ้ามีข้อเปรียบเทียบเมื่อไร มักจะมีอย่างอื่นตามมาเสมอ ผมชอบน้าที่มีความรู้เครื่องยนต์นะ ผมออกรถมา 2 คันแระ คันแรก ตัวเตี้ย 116 รุ่นแรก ไม่อุด เพราะไม่ได้ศึกษา แค่โหลดเตี้ย คัน 2 178 พลัส 4 ผมอุดตอน 2 หมื่นกว่าๆ ทุกวันนี้ หาเงินจ่ายค่างวดหัวหมุน
มีคนขายดีแล้วครับ จะรีบเลิกขายไปไหนครับ
วิศวกรเขาออกแบบมาเขาไม่ได้ใช้งานนะครับ
ใช้หลักการทั้งนั้นไม่ได้มาขับรถแบบเราๆ
ท่านๆ มีแต่บทความโต้แย้งกันไปมา
แล้วที่แข่งขันกันในสนาม มีรถคันไหน
มี egr ครับ
kuebsahas
18-12-2013, 20:52
ดี ไม่ดี ผมก้ออุดไปแล้วครับ 1,000 โล
น้ารู้จักโกลเด้นแฟคตอรี่มั้ย อู่อยู่ทางขวามือ ก่อนถึงโกลเด้นแฟค
ถนนเอกชัย กับ พระราม 2 เส้นทางวิ่งประจำครับ ที่ว่านี้อยู่บนถนนเลียบคลองบางน้ำจืดป่าวครับ (ไม่เคยเข้าไปเลยครับ)
230030
พิกัดนี้เลยครับน้า 13.615609, 100.345985
somdach tiansoo
19-12-2013, 09:27
พิกัดนี้เลยครับน้า 13.615609, 100.345985
พิกัด อู่น้าโย่งหรือครับ แจ่มเลย เผื่อว่างๆจะเข้าไปใช้บริการมั่ง ขอบคุณน่ะครับ
Auto_Bot
19-12-2013, 10:18
คันที่ขับอยู่ตอนนี้ผมอุดตั้งแต่ออกจากศูนย์ขับถึงบ้านก็อุดเลยเพราะผมซื้อแผ่นอุดรอไว้ก่อนจะได้เจ้าตั้นอีก คันแรกของผมอีซูซุคอมตัวแรกอุดตอนประมาณ10000โล ตอนนี้360000โลก็ยังวิ่งดีอยู่ไม่เคยมีปัญหา ประสบการณ์ตรง ลูกน้องที่แผนกผมซื้อวีโก้มือสองมา วิ่งมาแล้ว 120000โลผมบอกว่าให้ลองถอดท่อร่วมไอดีออกมาดูว่าสภาพเป็นอย่างไร น้องทำตาม สรุปวันนั้นทั้งวันเอาตะกรันเขม่าออกมาได้1ถ้วยก๋วยเตี๋ยวที่ใหญ่แบบก๋วยเตี๋ยวจับกัง ท่อไอดีเหลือรูเล็กนิดเดียว ฝากผมซื้อแผ่นอุดกับน้าในเวปเราทันที ผมว่าการปล่อยมลพิษสู่บรรยากาศ egr ช่วยลดได้จริง แต่สุดท้าย ขึ้นอยู่กับคนที่ใช้รถด้วยครับว่าขับรถแบบไหน อัด ยัด เหยียบ egr ก็คงช่วยไม่ไหวมลพิษก็ออกมาเยอะเหมือนเดิม ผมขับรถชิวๆ อุดอีจีอาร์ แต่ที่คันนาบ้านผมเต็มไปด้วยต้นตะกู ที่ดินส่วนนึงกันไว้เป็นป่าแบบธรรมชาติ ประมาณ 1 ไร่แม้ไม่มากมาย ก็คงช่วยโลกได้เท่าที่ผมทำร้ายครับ อุดegr รถปล่อยมลพิษมากขึ้นก็จริง แต่การสึกหรอของเครื่องยนต์น่าจะน้อยกว่าไม่อุด ถ้าใช้รถนานๆเครื่องยนต์ที่สึกหรอมลพิษจะเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ด้วย ทั้งหมดนี้ผมคิดเองล้วนๆครับ แชร์ประกอบการตัดสินใจ ขอบคุณครับ
wut28triton
19-12-2013, 11:10
ถ้าน้าคิดจะอุดก็อุดไปเลยครับเด๋วจะเหมือนผมถอดเข้าถอดออกอยู่2รอบ
เพราะอ่านไปอ่านมานี่แหล่ะครับแต่สุดท้ายอุดเรียบร้อยอิอิ
Dr.maxnano
19-12-2013, 16:36
อุดเถอะครับไม่พังหลอกถ้าไม่คิดเยอะ
NaronG99
19-12-2013, 16:41
ขอลิงค์ที่ขายแผ่นอุด egr หน่อยได้ไหมครับ
ขอบคุณครับบบ
Dr.maxnano
19-12-2013, 18:18
ขอลิงค์ที่ขายแผ่นอุด egr หน่อยได้ไหมครับ
ขอบคุณครับบบ
ไปที่ห้องซื้อ-ขายเลยครับมีหลายเจ้า
น้ารู้จักโกลเด้นแฟคตอรี่มั้ย อู่อยู่ทางขวามือ ก่อนถึงโกลเด้นแฟค
555 ผมไปเซอร์เวมาแล้วเรียบร้อยครับ เดี๋ยคงต้องแอบเข้าไปเงียบ ๆ ซักวันครับ
kuebsahas
19-12-2013, 18:47
http://www.thaitritonclub.com/forum/showthread.php?t=54379
ตามนี้เลยครับ แผ่นอุด EGR
MiNi_XXL
20-12-2013, 18:06
555 ผมไปเซอร์เวมาแล้วเรียบร้อยครับ เดี๋ยคงต้องแอบเข้าไปเงียบ ๆ ซักวันครับ
ขี่มอไซด์เข้าไปเมื่อวานป่ะ
ขี่มอไซด์เข้าไปเมื่อวานป่ะ
ไม่ใช่ครับน้า เจ้าตั้นนี่แหละ ยังไม่ได้เข้าไป แค่ผ่านอะครับ เลยชลอดู เย็นนี้ก็ผ่านเหมือนกัน เห็นตั้นตั้ง 3 คันแหนะ คงโน่นอะครับจะเข้าไปช่วงตรุษจีน ครับ ไม่รู้ว่าน้าโย่ง มีแผ่นอุด egr ป่าวครับ ถ้าไม่มีจะได้หาซื้อติดมือไปด้วย แต่ถ้ามีผมจะเข้าไปตัวเปล่า ๆ เลย อิอิ
MiNi_XXL
22-12-2013, 13:46
ซื้อมาเลยครับ
Pom_Supalak
23-12-2013, 11:19
อุดดีกว่า เครื่องยนต์สะอาดขึ้น การใช้งานก็นานขึ้น อัตราเร่งก็ดีขึ้น เหยียบมิดไมล์ตอนนี้กดไปแตะเกือบ 200 แล้ว ต้นมา ปลายไหล ไปยาวๆ
ampnarak
23-12-2013, 11:34
อย่าทำเลยน้า เสียรถเปล่าๆ ครับ
ของผมพึ่งจะ อุดไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ขับมาได้ 16,000 แล้ว ไม่ได้ล้างท่อด้วย
chanwiputn
23-12-2013, 21:50
ยังงั่ยของผมต้องล้างท่อร่วมด้วย
ประโยชน์ของ egr มันก็มีครับ แต่ในระยะยาวมันส่งผลเสียซะมากกว่า ถ้าน้าถอดท่อร่วมไอดีมาดูแล้วจะตัดสินใจง่ายขึ้นครับ ของผมอุดตอน 120,xxx โล ท่อร่วมไอดีก็ยังไม่ได้ล้างด้วยเพราะยังไม่ว่าง ฟิลลิ่งหลังจากอุดมาตอนนี้กับระยะทางมากขนาดนี้ ผมว่า ไกล้เคียง VG 178 HP เรยครับ รู้งี้อุดตั้งแต่ออกมาใหม่ๆแล้ว ทนขับแบบอืดๆมาได้ยังงัยเนี่ย
dang lopburi
24-12-2013, 15:39
ประโยชน์ของ egr มันก็มีครับ แต่ในระยะยาวมันส่งผลเสียซะมากกว่า ถ้าน้าถอดท่อร่วมไอดีมาดูแล้วจะตัดสินใจง่ายขึ้นครับ ของผมอุดตอน 120,xxx โล ท่อร่วมไอดีก็ยังไม่ได้ล้างด้วยเพราะยังไม่ว่าง ฟิลลิ่งหลังจากอุดมาตอนนี้กับระยะทางมากขนาดนี้ ผมว่า ไกล้เคียง VG 178 HP เรยครับ รู้งี้อุดตั้งแต่ออกมาใหม่ๆแล้ว ทนขับแบบอืดๆมาได้ยังงัยเนี่ย
ของผม9หมื่นแล้วสั่งของมาแล้วแต่ยังไม่ได้อุดงั้นก็คงอุดได้เลยโดยยังไม่ต้องล้างท่อก็ได้สิครับ
chanwiputn
24-12-2013, 18:47
ดูๆแล้ว90%อุดกันทั้งนั้นน่ะครับ ไม่ต้องลังเลกันแล้ววว
Dr.maxnano
24-12-2013, 20:40
ของผมถอดมอเตอร์ egr ออกไปเลยครับ
230594
rachawdee
04-01-2014, 22:45
2.4 Plus ผมอุดตั้งแต่ไม่กี่ร้อยโล
คันเก่าดีแหมะก็อุด ปกติกดคันเร่งมันต้องพ่นควัน 1ก้อน พออุดควันก้อนนั้นหายไปเลย
เข้ามาแชร์ความเห็นไว้เช่นกันครับ
chanwiputn
05-01-2014, 20:50
ในที่สุดก็อุดแล้วจ๊ะ ผมถอดท่อไอดีทิ้งเรยยยจ๊ะ
ดูแผ่นอุดหนาดี
http://upicy.com/image-720F_52C96633.jpg
ท่อไอดีนี้ผมถอดออกเลยครับ
http://upicy.com/image-BB85_52C96633.jpg
ขับเคลื่อนระบบโดย vBulletin™ Version 4.2.5 Copyright © 2024 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.