แสดงเวอร์ชันเต็ม : วันนี้นำรถไปเข้าศูนย์ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้วครับ
ผมใช้ ไทรตัน พลัส 4 ประตู เกียร์ธรรมดาครับ ออกรถวันที่ 18 ก.ค. 51 ที่มิตซูลาดพร้าว ตอนนี้วิ่งไปแค่ 1,780 กม. เอง เนื่องจากเป็นคันสำรองใช้ครับ วันนี้ตอน 9 โมงเช้า นัดกับเจ้าหน้าที่ ของบริษัท วังกระบี่ จำกัด ซึ่งจำหน่ายรถ มิตซูบิชิเพียงเจ้าเดียวในจังหวัดกระบี่ นำรถเข้าตรวจเช็คเนื่องมาจาก มีความรู้สึกว่า เวลาเข้าเกียร์สูงแล้วผ่อนคันเร่งรู้สึกว่ามีเสียงดังที่หน้าคอนโซลบริเวณ เครื่องเล่น DVD เสียงดังแกรกๆ แต่ไม่มากครับ คิดว่าอาจจะมีอะไรหลวมหรือไม่เข้าที่ และอีกอาการคือ อยากให้ช่างตั้งครัชให้ลื่นหรือนุ่มขึ้น(ไม่รู้ใช้คำถูกมั้ย?) เพราะก่อนนี้ได้มาลองขับ Test drive ก่อนตัดสินใจซื้อ (แต่ซื้อที่ กทม.ครับ) รู้สึกชอบครัชและเกียร์เพราะเข้าได้ลื่นไม่มีปัญหาเลย ช่างที่นี่ก็ดีครับ ทั้งๆที่วันนี้ รถจอดรอการ maintenance เยอะ รอไม่นาน ก็เรียกผมเข้าไปนั่งข้างๆ ให้ช่างขับพร้อมกับฟังผมอธิบายปัญหาไปด้วย ปรากฎว่ามันไม่ดังแฮะ ช่างก็เลยไม่ได้ทำอะไรกับตัวรถ ส่วนเรื่องครัชคุยกันผมก็ถึงบางอ้อ เพราะคันที่ผมทดลองขับ test drive นั้น ได้เปลี่ยนทั้งครัชและหวีครัชไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆที่วิ่งประมาณ 7,000 กม.เอง (บังเอิญจริงว่าช่างคนที่ขับคือคนเดียวกับที่เปลี่ยนชุดครัช) ในใจผมก็นึกประหลาดใจว่า เอ๊ะ..ทำไมรถวิ่งแค่ 7,000 กม. ต้องเปลี่ยนชุดครัชแล้ว .......เดี๊ยวมาต่อตอน 2 ครับ
ระหว่างที่ช่างขับรถไปก็คุยกันไป เรื่องครัช ช่างบอกว่า ทั้งเบรคและครัชของมิตซูนั่นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 100% กล่าวคือเมื่อเบรค ระยะเบรคก่อนรถจะหยุดนั้นสั้น ไว้วางใจได้ดีทีเดียว แต่มีข้อเสียด้วยนะครับคือ ใช้งานไปจนถึงจุดๆ หนึ่งแล้ว ผ้าเบรคจะมีผงหลุดร่อนออกมา เกาะอยู่ในจานทำให้เบรคแล้วมีเสียง ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยมี ทางแก้คือ เอาผงฝุ่นออก แล้วทำความสะอาดจานเบรคหากไม่หายก็เปลี่ยนผ้าเบรค ส่วนเรื่องครัชนั้นสืบเนื่องมาจากตัวที่ผมทดลองขับเป็นตัวที่ผ่านการเปลี่ยนครัชและหวีครัชเรียบร้อยแล้ว (ทั้งๆ ที่ขับมา ประมาณ 7,000 กม. รถศูนย์เสียด้วย) แต่รถผมยังใหม่ยังไม่ได้เปลี่ยนอะไรยังเดิมๆ อยู่ เพราะฉะนั้นครัชผมปกติ แต่ต่อไปครัชจะแข็งขึ้น ต่อมาเมื่อลงจากรถ วิเคราะห์และสรุปอาการว่าคือครัชผมปกติ และเสียงในคอนโซลเมื่อขับรอบต่ำก็ไม่ได้ยิน (มันคงจะกลัวหมอ) ช่างได้ให้ผมไปลองเหยียบ ครัชของรถ Mobile แบบ 4X4 ดู เหยียบจะมีเสียงเอี้ยด อ้าดๆช่างบอกว่า นั่นคือรถใช้ไปสักพักจะเริ่มแข็งและมีเสียง เพราะผงจากผ้าครัชจะไปเกาะอยู่เป้นกระจุก ในอะไรสักอย่างๆ เป็นเบ้ากลมๆ(ช่างไม่ได้บอก) พร้อมกับเอามาให้ดู บอกว่าทางแก้คือ ต้องยกเครื่องมาแก้ เพื่อเปลี่ยน อืม...และอีกอย่างคือหากผู้ใช้ขับรถติดหล่ม หรือหลุม ขับและเร่งเครื่อง แต่รถไม่ขยับล้อหมุนฟรีกับที่ เมื่อนำมาเข้าศูนย์พบว่ามีผงครัชมากผิดปกติ หรือไหม้จะอยู่นอกเหนือการประกัน จะต้องจ่ายเงินในการซ่อมแซมเอง....ผมก็อืม...(คิดในใจว่าพี่จะรู้ได้อย่างไร ว่าเกิดจากการขับขี่ที่ผิดของผู้ใช้ หรือพี่มั่นใจว่าของมิตซูออกมา ร้อยคัน ต้องดีทั้ง ร้อยคันเลยไม่มีอะไรบกพร่องเลย แต่ก็ไม่ได้ถาม) เดี๊ยวมาต่อตอน 3 ครับ
มีงี้ด้วย ตอน2ยังก่ะอ่านการ์ตูน
เนื่องจากผมมีรถ 2 คันและใช้คนเดียว อีกคันเป็น Vigo 2.5 Cab เกียร์ธรรมดา จะใช้ Triton ก็ต่อเมื่อไป ตจว. หรือเสาร์อาทิตย์ ช่างแนะนำว่าควรเฉลี่ยใช้ให้เท่าๆกัน เพราะ Batteries โดยเฉลี่ย มีอายุการใช้งานประมาณ 1.5 -2 ปี แล้วแต่ผู้ใช้ หากรถไม่ค่อยได้วิ่งอาจจะใช้งานได้สั้นลง และอีกอย่าง คือ ยางเมื่อรถอยู่กับที่นานๆ ยางรถจะไม่เสมอกัน (ไม่เป็นวงกลม)บางคนเรียกว่า "ยางบวม" ส่วนเรื่องน้ำมัน เขาแนะนำว่าหากเป็นไปได้ ให้ใช้น้ำมันที่ดีที่สุดในท้องตลาด เพราะรถไทรตันมีตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำมันค่อนข้างละเอียด หากวิ่งทุกวันไม่เป้นไรเติมน้ำมันอะไรก็ได้ แต่หากวิ่งๆ จอดๆ แนะนำ V power เพราะน้ำมันปกติมีส่วนผสมประมาณ 2% หากเป็น Bio หรือ บี 5(ก็ 2%+5% = 7%) จะมีความหนืดในตัวเครื่องยนต์มากกว่า ทำให้ต้องกดคันเร่งลึกกว่า (ส่วนตัวผมใช้ V power ทั้ง 2 คันมาตลอดแทบจะนับครั้งได้ที่เดิมดีเซลธรรมดา) และข้อสุดท้ายเรื่องจอ DVD จะหมดประกันที่ 40,000 กม. วิธีที่จะถนอมมันให้ใช้งานได้นานๆ คือก่อนดับเครื่องให้ปิดจอก่อน ป้องกันการกระชากของไฟที่เลี้ยงจอ LCD ครับ ตอน 2 ยาวไปนิดหากเป็นการ์ตูนคงเป็นการ์ตูนที่มีสาระประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับสมาชิกคลับอันอบอุ่นนะครับ
Chatuchak
10-09-2008, 19:50
ขอบคุณที่เอาความรู้จากประสบการณ์มาเล่าครับ
นึกว่าตอนจน พระเอกจะไปช่วยนางเอกที่ถูกแม่เลี้ยงเอาไปปล่อยในสลัมออกมา แล้วเป็นลูกเศรษฐีเหมือนกับพระเอกด้วย
B5 นี่ คือ เอาน้ำมันดีเซลที่ผสมไบโอดีเซลแล้ว 2% มาผสมไบโอดีเซลเข้าไปอีก 5% เหรอครับ ผมเข้าใจว่า เอาดีเซลเพียวๆ มาผสมไบโอดีเซลเข้าไป 5% ซะอีก...........
zook-zone
10-09-2008, 21:13
ดีครับ
เรื่องน้ำมันตามความเข้าใจของผมนั้นเป็นอย่างนี้ครับ คือน้ำมันดีเซลปกติจะมีส่วนผสม (ซึ่งอาจจะผสมไบโอดีเซล หรือมีสิ่งเจือปน สารตกค้าง หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มีส่วนผลมอื่นที่ไม่ใช่ดีเซลที่ 2%) ส่วนน้ำมันไบโอดีเซล ชนิด บี5 ก็คือการนำเอาน้ำมันดีเซลธรรมดา (ที่มีส่วนผสมอย่างอื่นอีก 2%อยู่แล้ว)ไปรวมกับ ไบโอดีเซลอีก 5 % รวมเป็น 7% ซึ่งหากข้อมูลนี้เป็นจริงแสดงว่า ผมเข้าใจผิดมาตลอด ว่าดีเซลธรรมดาที่มีส่วนผสมอื่นอยู่ด้วยอีก 2% (แต่ผู้จัดจำหน่ายไม่บอกว่า บี2) เท่ากับหากเราเติมดีเซลธรรมดา ก็คือเราใช้ B2 นั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น ความรู้ที่ผมได้มาอาจจะไม่ตรงทั้งหมด แต่ผมเชื่อว่ายังไงในคลับคงมีคนตอบให้กระจ่างกว่าผมได้แน่นอนครับ
น้ำมันดีเซลปรกติ ก็เป็น B2 ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา ตามประกาศดังกล่าว น้ำมันดีเซล B2 ที่จะมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ จะมีส่วนผสมของน้ำมันไบโอ 1.5% ส่วนน้ำมัน B5 นั้น จะมีส่วนผสมของน้ำมันไบโอ 4% ***เพิ่มเติมนะครับ แล้วเราจะเชื่อได้อย่างไรว่าทางผู้ผลิต ผสมน้ำมันตามอัตราส่วนนี้จริง ???แล้วนี้ยังไม่นับสิ่งปนเปื้อนหรือสิ่งสกปรกใน น้ำมันอีกนะครับ ??? จากที่นี่ครับ http://www.radompon.com/webboard/index.php?topic=509.msg647
Eaknarin
23-04-2009, 09:21
ขอบคุณที่ให้ข้อมูลดีๆครับ
Nuk_Black-Triton
23-04-2009, 09:33
วีพาวเวอร์ เป็น ไบโอบีห้านะครับ
ไม่ใช่บีสองแต่อย่างใด
ซึ่งอย่างไร ก็ตามเราหนีไม่พ้นที่จะต้องเติม
ส่วนน้ำมันดีเซลเกรดสูงสุดตอนนี้ เป็นของบางจากนะครับ
ไม่ใช่เชลล์ แต่อย่างใด
น้ำมันเชลล์วีพาวเวอร์ คือไบโอบีห้าที่ราคาสูงที่สุด พิเศษสุดด้วยกรรมวิธีการกลั่นครับ
ส่วนบางจาก ยูโร4 มีทั้ง B2-b5 ครับ นี่คือ น้ำมันเกรดสูงสุด ผ่านมาตรฐาน ยูโร4
ที่บังคับใช้ในปี 2555 ครับ
joetriton
23-04-2009, 09:34
สิ่งปนเปื้อนที่ว่ากันคือหัวเชื้อของแต่ละแห่งครับ เค๊าว่ากันว่าคนละสูตร
แต่ตัวดีเซลหลักมาจากคลังเดียวกันครับ(ใช่ป่าวครับ):smiley-transport032
แต่ผมเติ่ม vpower นะ แพงแต่เทียบระยะทางที่เพิ่มขึ้นแล้วประหยัดกว่า ^-^
thitot_inkman@sanook.com
23-04-2009, 09:51
เก็บข้อมูล
mckyparty
23-04-2009, 09:53
บางจาก ประหยัด อืดดี ^-^
ผมเติมแต่ บางจากครับ เพราะลดอีก 20 สต จากการเติมเอง ความรู้สึกไม่แตกต่าง
เมื่อก่อนรถเดิมๆ plus ผมก้อวิ่งได้ 185-187 up ทุกยี่ห้อน้ำมันครับ (ปตท เชลล์ บางจาก เอสโซ่)
อัตราเร่งผมก้อไม่ค่อยรู้สึกด้วย คิดว่าพอๆกันหมดเลยอ่ะ ทั้งแบบดีเซลปกติ และ B5 ด้วย
ตอนนี้ลง 3.2+รองแหวน น้ำมันบางจาก ต้น-กลาง ขึ้นเร็วมากขึ้น ปลายขยี้ได้ 195 แบบยังไม่หมด
มายืนยันว่าไม่อืดแน่ครับ แต่สงสัยผมจะความรู้สึกช้ารึเปล่า
Nuk_Black-Triton
23-04-2009, 10:04
ผมเติมมาหมดแล้วทุกยี่ห้อ
ถ้าการเดินทาง อยากใช้ไบโอ หรือ ดีเซล ให้เติม ปตท หามาตรฐานได้ง่าย
ถ้าการเติมแบบหาปั๊มได้ง่ายๆ ระหว่างทาง เชลล์บีห้า ใช้ดีประหยัดกว่าครับ
ส่วนบางจาก ส่วนตัวรู้สึกว่าแรงสุด และเปลืองที่สุดครับ เหมาะใช้ในเมือง
ผมเคยเดินทาง ด้วยน้ำมันงบบริษัท ซึ่งเติมอะไรก็ได้
ผมเติมเชลล์วีตลอดการเดินทาง รู้สึกว่าลื่นดี แต่ไม่ได้ประหยัดเลย
เครื่องเงียบ วิ่งดี ดื่มดี คำนวณแล้ว แพงกว่าทุกอย่างที่เติมมาครับ
Nuk_Black-Triton
23-04-2009, 10:06
อีกเรื่อง ผมชอบเชลล์บีห้า มากกว่าเชลล์วี อีกครับ
myjoefiend
23-04-2009, 10:08
แหล่มครับ สำหรับข้อมูลขอบคุณครับ
wong2737
27-04-2009, 02:30
แล้ว v power คือน้ำมันตัวไหนเหรอ
kanoktriton
27-04-2009, 04:13
มีน้ำมัน ใช้กันทุกวัน แต่โรงกลั่น S/D งง ไหมครับ จริงๆแล้ว น้ำมันเหมือนน้ำมันนั่นแหละ บอกไม่ได้หรอกครับ แต่เราโดนหลอกกันมาตลอดครับ B 5เราเพิ่ง ใช้ แต่ B2 เราใช้มาตั้แต่ 2002 ครับ( ดูรายการใน TV )ผมเพียงจะบอกว่า เวลาเราเติมเราดูยี่ห้อ แต่ที่ระยองนะ มีทุกยี่ห้อเลยครับที่มารับน้ำมันที่คลัง (ยกเว้นJET) .....เหอ เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คนวงในครับ ตอนนี้ก็กลั่นอย่างเดียวไม่มีปั๊ม ของตัวเอง ส่งขายในนาม ............. เขาก็บอกว่าน้ำมันเขาดีนั่นแหละ ....เพราะฉะนั้นเลือกเติมปั๊มใหญ่ๆๆ จะลดอัตราเสี่ยงดีกว่า ครับ:smiley-transport011:21-7:
ขับเคลื่อนระบบโดย vBulletin™ Version 4.2.5 Copyright © 2024 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.