กฎหมายไฟตัดหมอก (ช่วย...ใคร)

ผมเห็นข่าวว่าเปิดไฟตัดหมอก ตำจับและปรับแล้วด้วยแต่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่า พรบ.มันออกมารึยังยัง แต่ที่แน่นๆผมว่ามันปัญอ่อนมากๆ เพราะสมัยนี้ส่วนใหญ่ไฟตัดหมอกโรงออกแบบมาไม่ใช่สำหรับตัดหมอกจริงๆ เพราะถ้าเป็นไฟตัดหมอกจริงไฟจะส่องออกไปแบบกระจายอย่างท้าย vios อันนี้น่าจับครับ แต่อย่าง triton vigo น้าลองสังเกตุดูว่า ไฟตัดหมอกนั้นมีองศาที่ยิ่งลงพื้น ไฟไม่ได้จ้าออกมาเหมือนท้าย vios สรุปคือเค้าทำมาเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ แต่นี่อะไร ผมละเบื่อ อย่างพวกที่เอาโครมเดิมไปติดxenon หรือไฟตัดหมอกเป็นแบบท้าย vios อันนี้ผมจะไม่ว่าสักครับ ทำมั้ยไม่เอาหัวไปแก้ปัญหาอื่น โจนเต็มบ้านเมืองไปหมด ปล้นจี้ ข่มขืน เอาเวลามาจ่องจับรถเปิดไฟตัดหมอก ตรูจะบร้า

จับ xenon ดีกว่าอีกครับ ผมเห็นรถกระบะเปิดเยอะแยะไม่ได้รำคารอะไรเลย

ซีนอล แสบตา และก้อพวกที่ไม่เคยสังเกตไฟหน้ารถตนเองว่าไฟด้านไหนสูงกว่ากัน

เห็นด้วยครับ:purplebananna:

เห็นด้วยอีกเสียงครับ

ผมโดนแล้วโดนจับแล้ว จับจิง โดนแล้วผมงงมาก บอกว่าห้ามเปิดตัดหมอก

โดนอยู่ใหนอ่า บอกมั่งจาได้ ไม่ไปทางนั้น

ชื่อก็บอกว่าไฟตัดหมอกไง หากไม่มีหมอกหรือทัศนวิสัยปกติจะเปิดทำไม รวมทั้ง(บ้าไฟ)ท่านที่ติดซะรอบคันเกินความจำเป็น ก็น่าจับอยู่หรอกน้า

เรื่องไฟตัดหมอก มันมีข้อห้ามมาตั้งนานแล้วนี่ครับ หลายปีมาแล้วเค้ามีข้อกำหนด มานานแล้วถ้าผมจำไม่ผิด แต่พึ่งมาจริงๆจังก็ตอนนี้เองครับ สมัยนั้นผมขับ อีพุผุ ดราก้อนอายเปิดเข้าด่านยังโดนเตือนเลยครับ สัก15ปีมาแล้วมั้ง ตั้งแต่นั้นมาจึงเปิดเฉพาะเวลาทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดีครับ ส่วนไฟซีน้อล โนคอมเม้นครับ เพราะไม่คิดจะติดตั้งแต่แรก เลยไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าไหร่นัก แต่ก็แอบโมโหเหมือนกันเพราะมันแยงตาครับ 555

ไฟตัดหมอกเปิดได้ 4 กรณีเท่านั้น
1. เมื่อมีหมอก
2. เมื่อฝนตกหนัก
3. หลังฝนตกตอนกลางคืน
4. เมื่อมีกลุ่มควันที่เกิดจากเผาหญ้าข้างทาง
ถ้าจะจับก็ให้จริงจัง ก็ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ก็เปิดเพราะทำให้เคลียร์ขึ้น แต่พอข่าวออกมาก็ไม่กล้าเปิด ซึ่งคันอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็ยังเปิดอยู่ไม่เห็นจับ..หรือไฟไหม้ฟางรอสักพัก ลืมตัว กันไปค่อยเปิดใหม่..อ่ะอ่ะ

:kapook-17196-7812:พี่เค้าจะจับเฉพาะเวลาเข้าด่านครับ ตามถนนมืดๆ มองไม่เห็นทางกับในป่าทางเปลี่ยวๆแกไม่มาจับครับ คริๆ

ไฟตักหมอกผมก็ว่าไม่เท่าไหร่ ผมว่าพวกที่ไม่ตั้งไฟตัวเองให้ต่ำแล้วแยงตาชาวบ้านน่าจับมากกว่า

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ nnat1997

โดนอยู่ใหนอ่า บอกมั่งจาได้ ไม่ไปทางนั้น

---

โดนเรียบด่วนคับน้า

ไป ไปสภากัน

ใจเค้า ใจเราครับ ไม่สนับสนุนเปิดพร่ำเพื่อครับ

ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมปี 2536 ได้มีการระบุการใช้ไฟตัดหมอก ดังนี้
สามารถใช้ได้ต่อเมื่อรถวิ่งอยู่ในสภาวะที่มีหมอก ควัน หรือฝุ่นละอองจนเป็นอุปสรรค อันอาจเกิดอันตรายในขณะขับรถและต้องไม่มีรถอยู่ด้านหน้าหรือ สวนมาในระยะของแสงไฟ หรือในระยะ 150 เมตร โดยสามารถใช้หลอดไฟแสงขาวหรือแสงเหลือง ที่มีกำลังไฟไม่เกินดวงละ 55 วัตต์ เท่านั้น หากมีการใช้ไฟตัดหมอกไม่เป็นไปตามประเภท ลักษณะและเงื่อนไขที่กำหนด จะมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

ให้เปิดใช้ไฟตัดหมอกในกรณีต่างๆ ดังนี้
1. ฝนตกปรอยๆ หรือตกหนัก ไฟตัดหมอกจะมีประโยชน์มาก แม้จะเป็นช่วงกลางวันก็ตามเพราะมันสามารถช่วยให้รถที่สวนมามองเห็นไฟตัดหมอกอย่างชัดเจน
2. เมื่อขึ้นภูเขาสูงหรือยอดเขา เช่นภูเรือ-ดอยสุเทพ เป็นต้น โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวทั้งตอนเช้าและ ตอนกลางคืน เพราะที่สูงๆนั้นหมอกจะมีมากกว่าปกติ
3. ในช่วงกลางคืนหลังฝนหยุดตกหรือถนนยังเปียกอยู่ ซึ่งไฟตัดหมอกจะช่วยให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ของ ดีขึ้น เพราะไฟหน้าปกติของเราถูกน้ำสะท้อนไปเกือบหมดแล้ว
4. ทุกกรณีที่มีหมอกหรือควันเกิดขึ้นบนท้องถนนที่บดบังทัศนะวิสัยให้มองเห็นได้น้อยกว่า 50เมตร
5. ปิดไฟตัดหมองทันทีที่มีรถสวนมา ในระยะที่มองเห็นไฟหน้าของรถที่สวนมาได้อย่างชัดเจน
แม้แต่รถที่มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติก็จะสั่งปิดไฟตัดหมอกคงไว้เฉพาะไฟปกติเมื่อสัญญานจับได้ว่ามีไฟสะท้อนมาในมุมตรงข้าม สุดท้ายนี้ จะเห็นได้ว่า การใช้ไฟตัดหมอกอย่างถูกวิธี จะก่อให้เกิดประโยชน์และช่วยเพิ่มความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน ทำให้สามารถมองเห็นรถคันอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน ในทางตรงกันข้าม การเปิดไฟตัดหมอกอย่างพร่ำเพรื่อ ไม่มีมารยาท และผิดวิธี นอกจากจะรบกวนสายตาและสร้างความรำคาญให้กับผู้ขับรถรายอื่นๆ ที่ร่วมใช้เส้นทางแล้ว ยังเพิ่มโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ god-army

ให้เปิดใช้ไฟตัดหมอกในกรณีต่างๆ ดังนี้
1. ฝนตกปรอยๆ หรือตกหนัก ไฟตัดหมอกจะมีประโยชน์มาก แม้จะเป็นช่วงกลางวันก็ตามเพราะมันสามารถช่วยให้รถที่สวนมามองเห็นไฟตัดหมอกอย่างชัดเจน
2. เมื่อขึ้นภูเขาสูงหรือยอดเขา เช่นภูเรือ-ดอยสุเทพ เป็นต้น โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวทั้งตอนเช้าและ ตอนกลางคืน เพราะที่สูงๆนั้นหมอกจะมีมากกว่าปกติ
3. ในช่วงกลางคืนหลังฝนหยุดตกหรือถนนยังเปียกอยู่ ซึ่งไฟตัดหมอกจะช่วยให้ทัศนะวิสัยในการขับขี่ของ ดีขึ้น เพราะไฟหน้าปกติของเราถูกน้ำสะท้อนไปเกือบหมดแล้ว
4. ทุกกรณีที่มีหมอกหรือควันเกิดขึ้นบนท้องถนนที่บดบังทัศนะวิสัยให้มองเห็นได้น้อยกว่า 50เมตร
5. ปิดไฟตัดหมองทันทีที่มีรถสวนมา ในระยะที่มองเห็นไฟหน้าของรถที่สวนมาได้อย่างชัดเจน
แม้แต่รถที่มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติก็จะสั่งปิดไฟตัดหมอกคงไว้เฉพาะไฟปกติเมื่อสัญญานจับได้ว่ามีไฟสะท้อนมาในมุมตรงข้าม สุดท้ายนี้ จะเห็นได้ว่า การใช้ไฟตัดหมอกอย่างถูกวิธี จะก่อให้เกิดประโยชน์และช่วยเพิ่มความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน ทำให้สามารถมองเห็นรถคันอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน ในทางตรงกันข้าม การเปิดไฟตัดหมอกอย่างพร่ำเพรื่อ ไม่มีมารยาท และผิดวิธี นอกจากจะรบกวนสายตาและสร้างความรำคาญให้กับผู้ขับรถรายอื่นๆ ที่ร่วมใช้เส้นทางแล้ว ยังเพิ่มโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย

---

ชัดเจนมากๆน้า

เห็นเปิดกันกือบทุกคัน

เห็นด้วยครับ...เหมือนเป็นช่องให้ตำรวจหากินข้อหาชาเล้ง....เซ็งจัง