Triton Plus + LPG

วันก่อนเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เลยนำกรองที่ผ่านการใช้งานมา 12456 กม.มาผ่าดูซิว่าเป็นยังไง และจะวิเคราะห์ดูซิว่าจะดันจนถึง 20000 กม.ค่อยเปลี่ยน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในรถดีเซลเมื่อก่อนจะถ่ายน้ำมันเครื่อง 2 ครั้งต่อการเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง 1 ลูก โดยเครื่องยนต์รุ่นก่อนๆน้ำมันเครื่องจะดำข้นมาก แต่ก็ใช้วิธีการเปลี่ยนถ่ายกันแบบที่กล่าวมากันส่วนใหญ่

แต่ปัจจุบันคุณภาพน้ำมันเครื่องสูงกว่าเมื่อก่อนมากหลายเท่าตัว และเครื่องยนต์คอมมอนเรียวก็ยังสะอาด น้ำมันเครื่องก็ไม่ดำข้นเหมือนแต่ก่อน ยิ่งผมใช้ร่วม Lpg ด้วยแล้วยิ่งคงความใสของน้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนได้เกือบเท่าตัว ก็เลยคิดว่าเราลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองให้ลดลงจากเดิมดีกว่า และก็ได้ลองถึง 20000 กม.แล้วค่อยเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมกรองในครั้งก่อนๆ แต่พูดไปก็เชื่อกันยากเพราะมีแต่คนมีความรู้กันเยอะก็เลยผ่ากรองมาพิสูจน์กันครับ

โดยให้สังเกตุดูที่เยื่อกระดาษกรองสีน้ำตาลครับ ผมใช้คีมตัดและดึงออกมาสภาพยังเหมือนใหม่ และได้ใช้กระดาษทิชชู่ซับให้แห้งเพื่อจะดูว่ามีสิ่งสกปรกติดอยู่มากน้อยเท่าไร เห็นได้ดังภาพครับ ส่วนไส้กรองอีกด้านเมื่อฉีกออกดูก็ยังสภาพที่ไม่ต่างกัน และสีก็ยังเหมือนเดิม(สีออกเทาดำ)ไม่ดำไปกว่าเดิมครับ
จากการวิเคราะห์ดูแล้วบวกกับเหตุผลหลายอย่าง มั่นใจได้ครับว่า 20000 กิโลสบายๆครับ การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งนี้ผมใช้ บางจาก D3 Gold กะว่าจะดันไปจนถึง 50000 โลตามที่บางจากรับประกันไว้ ดูซิว่าจะเป็นเช่นไร

มีไรใหม่ๆ แจ้งด้วยน่ะครับ จะรีบไปอัพ ครับเดี๋ยวตกเทรนด์.....อิๆๆ

มารายงานความประหยัดครับ หลังจากห่างหายไปครับ

น้ำมัน วิ่งมาถึงขีดสุดท้ายแต่ไม่ขึ้นไฟโชว์น่ะครับ 986.9 Km.
เติมน้ำมันเข้าเต็ม 56.344 ลิตร ราคา/ลิตร 29.64 บาท รวม 1670 บาท หาค่าได้ 17.517 กม/ลิตร ตก 1.692 บาท/กม. ครับ

แก๊ส ถังที่ 2 วิ่งมาได้ระยะทาง 457.6 กม. ถังแรก 19.82 ลิตร ครับ
เติมแก๊สเข้าไปเต็มตัด 17.24 ลิตร ราคา/ลิตร 11.60 บาท รวม 200 บาท หาค่าได้ 26.543 กม/ลิตร ตก 0.437 บาท/กม. ครับ

รวมน้ำมัน + แก๊ส = 2.129 บาท/กม. ครับ กล่องคันเร่งไฟฟ้าเบอร์ 2 ครับ

** มีอยู่ช่วงนึงที่กล่องคันเร่งที่อยู่ในเก๊เก็บของ คงมีการกระแทกไปโดนปุ่มกดปรับเป็นเบอร์ 3 ครับจึงทำให้มีอัจตราการกินที่เยอะแบบผิดปกติครับ ถึงว่าทำไมน้ำมันกินมากกว่าเดิมครับ พอไปดูจึงรู้ครับ ก็หลายร้อยกิโลเมตรอยู่ครับ แต่พอปรับมาเป็นเบอร์ 2 และวิ่งจนถึงเวลาเติมน้ำมัน กับ แก๊สแล้วไม่กินเยอะจนเกินไปครับ ครั้งนี้ไม่ได้เอากล้องไปครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS

วันนี้พอจะว่างๆหลังจากสองอาทิตย์ที่ผ่านมาลุยงานตลอดครับ เมื่อวานได้เติมน้ำมันและแก๊สเต็มถัง วิ่งใช้งานในเมืองตามเส้นทาง บางบัวทอง แจ้งวัฒนะ รามอินทรา มอเตอร์เวย์ และย่านรังสิต ใช้ระยะทางประมาณ 150 กม. วันนี้ก็หาทางใช้ตังค์หน่อยครับ วิ่งออกวงแหวนเพื่อจะไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ มิตซูแถวนวนคร เล่นวิ่งอ้อมเลยจะได้ถึง 200 โลซะที กะจะเติมทั้งแก๊สและน้ำมันดูอัตราการบริโภค
แต่ผิดคาดอีกแล้ว กลับถึงบ้านระยะทางได้ 194 กม.แต่เข็มน้ำมันยังอยู่ที่เดิมส่วนแก๊สลงมาครึ่งขีด เลยยังไม่เติมดีกว่าเดี๋ยวเด็กปั้มจะหาว่ากวน เอาไว้ให้เข็มตกมาหน่อยแล้วกัน

ตอนนี้ใช้กล่อง Mcu ใหม่วิ่งทดลองอยู่ครับ ผลการปรับลดดีเซลก็ดีครับ รอเรื่องการปรับจูนแก๊สแบบให้ประหยัดที่สุดโดยที่ไม่กระทบค่าความประหยัดของดีเซล อีกนิดเดียวครับไหนๆก็รอแล้ว

แต่ในขณะที่รอ Mcu ก็ได้พัฒนากล่องในรุ่นที่ใช้ปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เรียกได้ว่าน้องๆ Mcu ก็ว่าได้ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการที่ได้ทำกล่อง Mcu ขึ้นมาแล้วนำข้อดีมาปรับใช้กับกล่องเดิม และก็ได้ออกแบบวงจรใหม่ที่ดีกว่าเดิมขึ้นมาอีก มันจะออกมาให้ได้ใช้อีก 2 อาทิตย์ข้างหน้านี้ครับ

นี่แหละมั๊งที่เขาว่าได้คืบเอาศอก....ว่าไหม

---

จะกี่ศอกก็จะรอครับ อ.ต้น :yenta4-emoticon-002

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS

ขายกล่องเอาเงินมาลดค่าใช้จ่ายดีกว่า ราคามันยังดีอยู่นา โดยส่วนใหญ่ติดแก๊สแล้วถอดกล่องขายกันครับ เราต้องการลดน้ำมันครับ มันสวนทางกับกล่องดันทั้งหลาย แล้วมันจะคบกันได้อย่างไร ถ้าต้องการความประหยัด

แต่ถ้าจะใช้ร่วมกันให้ได้ความแรงเพิ่มขึ้นก็สามารถทำได้ครับ แต่ความประหยัดมันจะไม่ได้ตามเป้าหมายครับ และยังตามมาเรื่องความร้อนและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ด้วยครับ เพราะโดยธรรมชาติถ้าเครื่องแรงกดเป็นมา ยังไงก็ไม่ยั้งกันครับโอกาสพังสูง มันจะไม่คุ้มกันครับ

ส่วนความประหยัดขับแบบปกติไม่ห้าวหาญความเร็วประมาณ 110 น้ำมันครึ่งถังมีตัวเลข 600 โลสบายๆครับ ผมเคยได้ถึง 720 กม.ที่ยาง 245/70 R16 แต่น้ำหนักรถร่วม 2 ตัน ซึ่งขณะนี้ใช้ยาง 265/70 R16 ก็ยังได้ 600 ที่ครึ่งถังอยู่ดีอาจจะเกินบ้าง 20-50 โลแล้วแต่เส้นทางครับ

---

ถ้าน้าเกียง ขายกล่องทองจริงคงได้ค่าทำ และมีเงินเหลือเติมน้ำมัน กับแก๊สบานเลยครับ ของผมครึ่งถังมากกว่า 650 โลน่ะครับ :Banane35:

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS

วันก่อนเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เลยนำกรองที่ผ่านการใช้งานมา 12456 กม.มาผ่าดูซิว่าเป็นยังไง และจะวิเคราะห์ดูซิว่าจะดันจนถึง 20000 กม.ค่อยเปลี่ยน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในรถดีเซลเมื่อก่อนจะถ่ายน้ำมันเครื่อง 2 ครั้งต่อการเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง 1 ลูก โดยเครื่องยนต์รุ่นก่อนๆน้ำมันเครื่องจะดำข้นมาก แต่ก็ใช้วิธีการเปลี่ยนถ่ายกันแบบที่กล่าวมากันส่วนใหญ่

แต่ปัจจุบันคุณภาพน้ำมันเครื่องสูงกว่าเมื่อก่อนมากหลายเท่าตัว และเครื่องยนต์คอมมอนเรียวก็ยังสะอาด น้ำมันเครื่องก็ไม่ดำข้นเหมือนแต่ก่อน ยิ่งผมใช้ร่วม Lpg ด้วยแล้วยิ่งคงความใสของน้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนได้เกือบเท่าตัว ก็เลยคิดว่าเราลดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองให้ลดลงจากเดิมดีกว่า และก็ได้ลองถึง 20000 กม.แล้วค่อยเปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมกรองในครั้งก่อนๆ แต่พูดไปก็เชื่อกันยากเพราะมีแต่คนมีความรู้กันเยอะก็เลยผ่ากรองมาพิสูจน์กันครับ

โดยให้สังเกตุดูที่เยื่อกระดาษกรองสีน้ำตาลครับ ผมใช้คีมตัดและดึงออกมาสภาพยังเหมือนใหม่ และได้ใช้กระดาษทิชชู่ซับให้แห้งเพื่อจะดูว่ามีสิ่งสกปรกติดอยู่มากน้อยเท่าไร เห็นได้ดังภาพครับ ส่วนไส้กรองอีกด้านเมื่อฉีกออกดูก็ยังสภาพที่ไม่ต่างกัน และสีก็ยังเหมือนเดิม(สีออกเทาดำ)ไม่ดำไปกว่าเดิมครับ
จากการวิเคราะห์ดูแล้วบวกกับเหตุผลหลายอย่าง มั่นใจได้ครับว่า 20000 กิโลสบายๆครับ การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งนี้ผมใช้ บางจาก D3 Gold กะว่าจะดันไปจนถึง 50000 โลตามที่บางจากรับประกันไว้ ดูซิว่าจะเป็นเช่นไร

---

ผมว่าจะลองสัก 15000 โลก่อนครับ แล้วค่อยปรับเปลียนไปครับ แต่ดูสีแล้วน่าจะได้นานอยู่น่ะครับ อ.ต้น และรอผล MCU ของอ.ต้นกันต่อไปครับเพื่อสิ่งดีๆครับ

อ.ต้น ครับเห็นเค้าลงความเห็นเกี่ยวกับ ไทรทัน กับ ปาเจโร่ สปอร์ต ตัวใหม่ อ.ต้นว่าเป็นไงบ้างครับ:smiley-sport007:

มีคำถามอยากถามครับ
1.ต้องใช้ Lpg ร่วมตลอดเลย หรือ เลือกใช้ได้ครับ (แต่น่าจะได้)
2.ต้องแจ้งขนส่งไหม

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ happymet

ผมว่าจะลองสัก 15000 โลก่อนครับ แล้วค่อยปรับเปลียนไปครับ แต่ดูสีแล้วน่าจะได้นานอยู่น่ะครับ อ.ต้น และรอผล MCU ของอ.ต้นกันต่อไปครับเพื่อสิ่งดีๆครับ

อ.ต้น ครับเห็นเค้าลงความเห็นเกี่ยวกับ ไทรทัน กับ ปาเจโร่ สปอร์ต ตัวใหม่ อ.ต้นว่าเป็นไงบ้างครับ:smiley-sport007:

---

ผมอ่านที่เขาไปเทสแล้ววิจารณ์กันแล้วครับ ในความเห็นส่วนตัวผมว่าการวิเคราห์มันยังไม่ค่อยระเอียดเท่าไรครับ คนชอบแรง (ไม่รู้จะแรงไปขนาดไหนทุกวันนี้ก็เพียงพอแล้ว) ก็จะเน้นเปรียบเทียบกับค่ายอื่น แต่ไม่เคยคิดเทียบที่ซี.ซี.ของเครื่องยนต์ และน้ำหนักตัวรถเลยแม้แต่น้อย

แต่รถที่น่าใช้คือรถที่แข็งแรงปลอดภัย ทรงตัวดี กำลังเครื่องยนต์สั่งได้ ระบบการหยุดรถที่ดีและปลอดภัยสูง สุดท้ายคืออ็อปชั่นต่างๆมีให้อย่างครบครัน ส่วนราคาขายไม่ต้องเน้นเพราะซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขายต่อ เรื่องศูนย์บริการมีเพียงพอและบริการที่ดีก็พอแล้ว (ไม่ได้ออกรถมาเพื่อจ้องเข้าแต่ศูนย์บริการ)

ผมคิดว่าตัวใหม่ที่ออกมาที่น่าใช้ก็จะเป็นตัว AUTO 5 SPEED เพราะแรงบิดที่ 350 มาตั้งแต่ 1800-3500 รอบ มันเป็นช่วงที่ใช้งานทั่วไปจริงๆครับ และคาดว่ารอบเครื่องยนต์น่าจะต่ำกว่าในรุ่นก่อนๆ น่าจะประหยัดได้มากกว่าเก่าครับ

ส่วนตัวแรงก็ 4x4 ครับ สำหรับขาแรงทั้งหลาย ส่วนพลัสใหม่ก็น่าใช้ครับกระบะยาวขึ้นอีกพอควร ผมลองก้มดูแล้วจุดติดตั้งถังแก๊สมันมีให้แบบตามต้องการเลยครับ ผมบอกแล้วว่าไทรตั้นมันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมเองก็เล็งๆไว้อยู่ครับตอนนี้ก็ซื้อทุกงวดเหมือนกันแต่ไม่เข้าเป้าสักที...........รอไว้ก่อนนะเจ้า 4x4 แปรผัน

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ sirawitr

มีคำถามอยากถามครับ
1.ต้องใช้ Lpg ร่วมตลอดเลย หรือ เลือกใช้ได้ครับ (แต่น่าจะได้)
2.ต้องแจ้งขนส่งไหม

---

ตอบ
1.ต้องใช้ Lpg ร่วมตลอดเลย หรือ เลือกใช้ได้ครับ (แต่น่าจะได้)
- ใช้น้ำมันร่วม LPG ครับ ถ้าแก๊สหมดก็ใช้น้ำมันได้ปกติครับ แต่ถ้าน้ำมันหมดใช้แก๊สอย่างเดียวไม่ได้ครับ
2.ต้องแจ้งขนส่งไหม
- ถ้าต้องการให้ถูก กม. หรือประกันภัยควบร่วม หรือสบายใจก็แจ้งครับ

ถ้าติดแก๊สแล้วคงไม่ต้องการให้แก๊สหมดก่อนหลอกครับ เพราะมันจะต่างกันเห็นๆครับ :i37:

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ sirawitr

มีคำถามอยากถามครับ
1.ต้องใช้ Lpg ร่วมตลอดเลย หรือ เลือกใช้ได้ครับ (แต่น่าจะได้)
2.ต้องแจ้งขนส่งไหม

---

เลือกใช้ได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ใช้แล้วติด เลิกยากครับ
ส่วนเรื่องแจ้งขนส่งถ้าให้ถูกต้องก็ต้องแจ้งครับ เขาจะลงในเล่มให้เราว่า ดีเซล+LPG และก็แจ้งไปยังบริษัทประกันด้วยเพื่อจะได้เพิ่มเบี้ยประมาณ 500 แต่จะคุ้มครองเพิ่มจากเดิมครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS

ผมอ่านที่เขาไปเทสแล้ววิจารณ์กันแล้วครับ ในความเห็นส่วนตัวผมว่าการวิเคราห์มันยังไม่ค่อยระเอียดเท่าไรครับ คนชอบแรง (ไม่รู้จะแรงไปขนาดไหนทุกวันนี้ก็เพียงพอแล้ว) ก็จะเน้นเปรียบเทียบกับค่ายอื่น แต่ไม่เคยคิดเทียบที่ซี.ซี.ของเครื่องยนต์ และน้ำหนักตัวรถเลยแม้แต่น้อย

แต่รถที่น่าใช้คือรถที่แข็งแรงปลอดภัย ทรงตัวดี กำลังเครื่องยนต์สั่งได้ ระบบการหยุดรถที่ดีและปลอดภัยสูง สุดท้ายคืออ็อปชั่นต่างๆมีให้อย่างครบครัน ส่วนราคาขายไม่ต้องเน้นเพราะซื้อมาใช้ ไม่ได้ซื้อมาขายต่อ เรื่องศูนย์บริการมีเพียงพอและบริการที่ดีก็พอแล้ว (ไม่ได้ออกรถมาเพื่อจ้องเข้าแต่ศูนย์บริการ)

ผมคิดว่าตัวใหม่ที่ออกมาที่น่าใช้ก็จะเป็นตัว AUTO 5 SPEED เพราะแรงบิดที่ 350 มาตั้งแต่ 1800-3500 รอบ มันเป็นช่วงที่ใช้งานทั่วไปจริงๆครับ และคาดว่ารอบเครื่องยนต์น่าจะต่ำกว่าในรุ่นก่อนๆ น่าจะประหยัดได้มากกว่าเก่าครับ

ส่วนตัวแรงก็ 4x4 ครับ สำหรับขาแรงทั้งหลาย ส่วนพลัสใหม่ก็น่าใช้ครับกระบะยาวขึ้นอีกพอควร ผมลองก้มดูแล้วจุดติดตั้งถังแก๊สมันมีให้แบบตามต้องการเลยครับ ผมบอกแล้วว่าไทรตั้นมันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมเองก็เล็งๆไว้อยู่ครับตอนนี้ก็ซื้อทุกงวดเหมือนกันแต่ไม่เข้าเป้าสักที...........รอไว้ก่อนนะเจ้า 4x4 แปรผัน

---

เห็นอ.ต้น วิจารณ์มาซะขนาดนี้ คงได้ใช้แน่ๆครับ 4x4 อิอิ ส่วนน้าๆ ท่านอื่นๆที่วิจารณ์เรื่องรถใหม่นี่ ก็แล้วแต่ประสบการณ์แต่ล่ะท่านครับ ขอบคุณที่เสียสละเวลาไปทดสอบและนำข้อมูลที่ได้ลองมาลงให้สมช. ได้รับทราบก็เก็บเป็นข้อมูลครับ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเราๆ ท่านๆ จะตัดสินใจเองว่าจะเลือกอะไรครับ... :smiley-sport001:

ถามเพิ่มหน่อยครับ ไอ้กล่องMCu คืออะไร
แล้วตอนนี้มีหรือยัง แล้วราคาเพิ่มจากเดิมไหมครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ sirawitr

ถามเพิ่มหน่อยครับ ไอ้กล่องMCu คืออะไร
แล้วตอนนี้มีหรือยัง แล้วราคาเพิ่มจากเดิมไหมครับ

---

กล่องอิเล็กทรอนิกครับใช้ไมโครคอนโทลเลอ เป็นตัวสำคัญในการทำงานซึ่งเราสามารถเขียนโปรแกรมให้มันทำงานได้ตามที่เราต้องการตามที่เราได้ออกแบบวงจรไว้ครับ

ปัจจุบันเป็นตัวต้นแบบติดตั้งในรถผมเองและในรถไทรตั้นพลัส 4 ประตูอีกคันครับเพื่อวิ่งทดสอบการทำงานและหาค่าการปรับจูนที่เหมาะสม แบ่งเป็นความเร็วในรอบต่ำๆเช่นการใช้งานในเมือง ความเร็วในรอบกลางๆจะใช้ในการเดินทางเสียส่วนใหญ่ และความเร็วในรอบสูงๆสำหรับขาแรงใครแซงหรือจี้ตูดไม่ได้

กล่องตัวนี้จะรวมเอาประสบการณ์ในการพัฒนาใช้ร่วม ดีเซล+แอลพีจี ตั้งแต่ต้นมารวมเอาข้อดีต่างๆไว้ และแก้ไขข้อด้อยในบางอย่างที่ผ่านมา และตั้งใจทำมาเพื่อจะประกบกับระบบหัวฉีดทั้งหลายที่มีอยู่ครับ และเอาไว้เทียบกับที่พ่วงกล่องต่างๆว่าเป็นเช่นไร มีการทำงานคร่าวๆดังนี้ครับ
1.จะเริ่มเปิดระบบแก๊สเมื่ออุณหภูมิน้ำหล่อเย็นได้ 60 องศา และปิดระบบที่อุณหภูมิน้ำเกิน 98 องศา เพื่อป้องกันขาแรงลากกันแบบยาวๆจะได้ไม่พัง
2.รอบเครื่องยนต์จะเป็นตัวสั่งการทำงานและไม่ต้องมีสวิทที่เท้าอีกต่อไป ซึ่งเป็นประโยชน์มากครับสำหรับรถรุ่นใหม่ที่มีคลุยส์คอลโทล
3.แบ่งระดับความประหยัดและเหมาะสมไว้ 3 ระดับการควบคุม จะได้ทั้งความแรงและประหยัดตั้งแต่ต้นยันปลาย
4.การขับขี่แบบสมูทมาก แยกไม่ออกเลยในขณะแก๊สทำงาน ช่วงยกคันเร่งรถลอยตัวได้ดีทำให้เกิดความประหยัดมากขึ้น ที่สำคัญแรงเรียกได้ทุกย่านความเร็ว ส่วนความเร็วปลายตั้งใจว่าจะให้ได้ 185 กม./ชม.แบบกวาด ซึ่งที่ผ่านมาจะจำกัดไว้ประมาณ 160-170 เกินนั้นก็จะค่อยๆไหล

ทั้งหมดทำได้จริงและใช้งานอยู่ในขณะนี้ รอเรื่องการออกแบบวงจรใหม่ แก้ไขเรื่องสัญญานรบกวน และลดขนาดให้เล็กลง และผลิตออกมาเท่านั้นครับ ผมเองก็รอเหมือนกัน ใช้ตัวต้นแบบอยู่วางโล่งๆไม่ได้ใส่กล่องกลัวลูกแอบปรับเล่นเหมือนกันครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS

กล่องอิเล็กทรอนิกครับใช้ไมโครคอนโทลเลอ เป็นตัวสำคัญในการทำงานซึ่งเราสามารถเขียนโปรแกรมให้มันทำงานได้ตามที่เราต้องการตามที่เราได้ออกแบบวงจรไว้ครับ

ปัจจุบันเป็นตัวต้นแบบติดตั้งในรถผมเองและในรถไทรตั้นพลัส 4 ประตูอีกคันครับเพื่อวิ่งทดสอบการทำงานและหาค่าการปรับจูนที่เหมาะสม แบ่งเป็นความเร็วในรอบต่ำๆเช่นการใช้งานในเมือง ความเร็วในรอบกลางๆจะใช้ในการเดินทางเสียส่วนใหญ่ และความเร็วในรอบสูงๆสำหรับขาแรงใครแซงหรือจี้ตูดไม่ได้

กล่องตัวนี้จะรวมเอาประสบการณ์ในการพัฒนาใช้ร่วม ดีเซล+แอลพีจี ตั้งแต่ต้นมารวมเอาข้อดีต่างๆไว้ และแก้ไขข้อด้อยในบางอย่างที่ผ่านมา และตั้งใจทำมาเพื่อจะประกบกับระบบหัวฉีดทั้งหลายที่มีอยู่ครับ และเอาไว้เทียบกับที่พ่วงกล่องต่างๆว่าเป็นเช่นไร มีการทำงานคร่าวๆดังนี้ครับ
1.จะเริ่มเปิดระบบแก๊สเมื่ออุณหภูมิน้ำหล่อเย็นได้ 60 องศา และปิดระบบที่อุณหภูมิน้ำเกิน 98 องศา เพื่อป้องกันขาแรงลากกันแบบยาวๆจะได้ไม่พัง
2.รอบเครื่องยนต์จะเป็นตัวสั่งการทำงานและไม่ต้องมีสวิทที่เท้าอีกต่อไป ซึ่งเป็นประโยชน์มากครับสำหรับรถรุ่นใหม่ที่มีคลุยส์คอลโทล
3.แบ่งระดับความประหยัดและเหมาะสมไว้ 3 ระดับการควบคุม จะได้ทั้งความแรงและประหยัดตั้งแต่ต้นยันปลาย
4.การขับขี่แบบสมูทมาก แยกไม่ออกเลยในขณะแก๊สทำงาน ช่วงยกคันเร่งรถลอยตัวได้ดีทำให้เกิดความประหยัดมากขึ้น ที่สำคัญแรงเรียกได้ทุกย่านความเร็ว ส่วนความเร็วปลายตั้งใจว่าจะให้ได้ 185 กม./ชม.แบบกวาด ซึ่งที่ผ่านมาจะจำกัดไว้ประมาณ 160-170 เกินนั้นก็จะค่อยๆไหล

ทั้งหมดทำได้จริงและใช้งานอยู่ในขณะนี้ รอเรื่องการออกแบบวงจรใหม่ แก้ไขเรื่องสัญญานรบกวน และลดขนาดให้เล็กลง และผลิตออกมาเท่านั้นครับ ผมเองก็รอเหมือนกัน ใช้ตัวต้นแบบอยู่วางโล่งๆไม่ได้ใส่กล่องกลัวลูกแอบปรับเล่นเหมือนกันครับ

---

:i37: เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วน่ะครับ อ.ต้น แล้วที่ว่าปรับเล่นได้นี่ ปรับได้แบบไหนระดับไหนบ้างครับ หมุ่นๆ หรือกดๆ ครับ
เพราะกล่องคันเร่งไฟฟ้าผมใส่ไว้ในเก๊เก็บของ แล้วมีบ้างช่วงบางครั้งเผลอไปโดนปุ่มปรับเป็นค่าอื่นด้วยคับ ซึ่งไปโดนเปลี่ยนเป็นเบอร์ 3 โดยบังเอิญถึงว่าทำไมกินจังครับ แต่ได้มาซึ่งความแรงครับ.... :kapook-17196-7812:

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ happymet

:i37: เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วน่ะครับ อ.ต้น แล้วที่ว่าปรับเล่นได้นี่ ปรับได้แบบไหนระดับไหนบ้างครับ หมุ่นๆ หรือกดๆ ครับ
เพราะกล่องคันเร่งไฟฟ้าผมใส่ไว้ในเก๊เก็บของ แล้วมีบ้างช่วงบางครั้งเผลอไปโดนปุ่มปรับเป็นค่าอื่นด้วยคับ ซึ่งไปโดนเปลี่ยนเป็นเบอร์ 3 โดยบังเอิญถึงว่าทำไมกินจังครับ แต่ได้มาซึ่งความแรงครับ.... :kapook-17196-7812:

---

ปรับเปลี่ยนค่าได้ครับ โดยใช้โปรแกรมในคอมพิวเตอร์ครับ

จองคนแรกเลยคับ อ.ต้น....

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS

กล่องอิเล็กทรอนิกครับใช้ไมโครคอนโทลเลอ เป็นตัวสำคัญในการทำงานซึ่งเราสามารถเขียนโปรแกรมให้มันทำงานได้ตามที่เราต้องการตามที่เราได้ออกแบบวงจรไว้ครับ

ปัจจุบันเป็นตัวต้นแบบติดตั้งในรถผมเองและในรถไทรตั้นพลัส 4 ประตูอีกคันครับเพื่อวิ่งทดสอบการทำงานและหาค่าการปรับจูนที่เหมาะสม แบ่งเป็นความเร็วในรอบต่ำๆเช่นการใช้งานในเมือง ความเร็วในรอบกลางๆจะใช้ในการเดินทางเสียส่วนใหญ่ และความเร็วในรอบสูงๆสำหรับขาแรงใครแซงหรือจี้ตูดไม่ได้

กล่องตัวนี้จะรวมเอาประสบการณ์ในการพัฒนาใช้ร่วม ดีเซล+แอลพีจี ตั้งแต่ต้นมารวมเอาข้อดีต่างๆไว้ และแก้ไขข้อด้อยในบางอย่างที่ผ่านมา และตั้งใจทำมาเพื่อจะประกบกับระบบหัวฉีดทั้งหลายที่มีอยู่ครับ และเอาไว้เทียบกับที่พ่วงกล่องต่างๆว่าเป็นเช่นไร มีการทำงานคร่าวๆดังนี้ครับ
1.จะเริ่มเปิดระบบแก๊สเมื่ออุณหภูมิน้ำหล่อเย็นได้ 60 องศา และปิดระบบที่อุณหภูมิน้ำเกิน 98 องศา เพื่อป้องกันขาแรงลากกันแบบยาวๆจะได้ไม่พัง
2.รอบเครื่องยนต์จะเป็นตัวสั่งการทำงานและไม่ต้องมีสวิทที่เท้าอีกต่อไป ซึ่งเป็นประโยชน์มากครับสำหรับรถรุ่นใหม่ที่มีคลุยส์คอลโทล
3.แบ่งระดับความประหยัดและเหมาะสมไว้ 3 ระดับการควบคุม จะได้ทั้งความแรงและประหยัดตั้งแต่ต้นยันปลาย
4.การขับขี่แบบสมูทมาก แยกไม่ออกเลยในขณะแก๊สทำงาน ช่วงยกคันเร่งรถลอยตัวได้ดีทำให้เกิดความประหยัดมากขึ้น ที่สำคัญแรงเรียกได้ทุกย่านความเร็ว ส่วนความเร็วปลายตั้งใจว่าจะให้ได้ 185 กม./ชม.แบบกวาด ซึ่งที่ผ่านมาจะจำกัดไว้ประมาณ 160-170 เกินนั้นก็จะค่อยๆไหล

ทั้งหมดทำได้จริงและใช้งานอยู่ในขณะนี้ รอเรื่องการออกแบบวงจรใหม่ แก้ไขเรื่องสัญญานรบกวน และลดขนาดให้เล็กลง และผลิตออกมาเท่านั้นครับ ผมเองก็รอเหมือนกัน ใช้ตัวต้นแบบอยู่วางโล่งๆไม่ได้ใส่กล่องกลัวลูกแอบปรับเล่นเหมือนกันครับ

---

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ happymet

:i37: เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วน่ะครับ อ.ต้น แล้วที่ว่าปรับเล่นได้นี่ ปรับได้แบบไหนระดับไหนบ้างครับ หมุ่นๆ หรือกดๆ ครับ
เพราะกล่องคันเร่งไฟฟ้าผมใส่ไว้ในเก๊เก็บของ แล้วมีบ้างช่วงบางครั้งเผลอไปโดนปุ่มปรับเป็นค่าอื่นด้วยคับ ซึ่งไปโดนเปลี่ยนเป็นเบอร์ 3 โดยบังเอิญถึงว่าทำไมกินจังครับ แต่ได้มาซึ่งความแรงครับ.... :kapook-17196-7812:

---

แล้วโปรเจ็คนี้อีกนานไหมถึงสำเร็จครับ
ส่วนราคาเพิ่มขึ้นไหมครับ
แล้วถ้าติดแบบปัจจุบันสามรถอัพเกรดไปติดกล่อง MCU นี่ได้ไหมครับ:kapook-17197-2309:

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ namwhanyo@hotmail.com

จองคนแรกเลยคับ อ.ต้น....

---

มาต่อคิวครับ:i37:

ถ้าใส่ล้อ 20 อัตราการสิ้นเปลืองจะเพิ่มมากขึ้นไหมครับ

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ TON_GAS

ปรับเปลี่ยนค่าได้ครับ โดยใช้โปรแกรมในคอมพิวเตอร์ครับ

---

อืม... ครับ ดีครับจะได้ไม่ไปรบกวนระบบมากเกินไปครับ สำเร็จรูปดี :dcur002a: