Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
สำหรับรถแข่งโดยเฉพาะมอไซ(จะเห็นผลชัดเจนสุด)แรงดันลมผิดแค่ 1 ปอนด์มีผลกับการแข่งขันและเวลาต่อรอบทันทีครับ
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ
TOM3
ทุกปีใหม่ผมจะขับรถล่องใต้พาภรรยาและลูกๆไปเยี่ยมคุณแม่ยาย(ของผม)ที่ สงขลา เมื่อต้นปีที่แล้วออกเจ้าตั้นได้ไม่กี่วันก็ขับลงใต้เลย ภายในห้องโดยสารเงียบ ช่วงล่างนุ่มนวล หนึบ ไม่ส่าย ไม่โคลงขณะทำความเร็วสูงขับสบายไม่เครียด 12 ชม.ที่ขับรถอยู่มีความสุขมาก มาปีนี้ความรู้สึกข้างต้นหายไปสิ้น ช่วงล่างแข็งกระด้าง ช่วงถนนไม่เรียบ(ปุปะ) ถ้าใช้ความเร็วสัก 120 บนถนนไม่เรียบ จะออกอาการเต้น แถออกข้าง ยิ่งขับยิ่งเครียด ต้องกำพวงมาลัยแน่นขึ้น ผมก็มานั่งนึกว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมความรู้สึกจึงได้ต่างจากปีที่แล้วราวฟ้ากับดิน ไล่ดูปัจจัยทั้งหลายก็เดิมๆไม่ได้แตกต่างจากช่วงป้ายแดง ทุกอย่างสแตนดาร์ท มาจบที่ลมยาง ช่วงปีที่แล้วผมสูบตามสเป็ค 29 มาปีนี้หลังจากที่เข้าไปดูตามโพสของสมาชิก ก็แนะนำกันไปต่างๆตามความรู้สึกของแต่ละท่าน ผมก็ลองปรับมาอยู่ที่ 32 รู้สึกว่าแข็งกระด้างขึ้นเล็กน้อย ขับในเมืองหรือออกตจว.ช่วงไม่เกิน 2-300 กม.ก็ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ จากที่สูบลม 32 เมื่อเดินทางไกลเกิดความร้อนสะสม ลองวัดดูอีกครั้งระหว่างทางจาก 32 กลายเป็น 35 มิน่ารถถึงได้กระด้าง ในช่วงถนนไม่เรียบเต้นแล้วแถจะพาลงข้างทางซะหลายครั้ง อาการนี้จะน้อยลงเมื่อใช้ความเร็วไม่สูง แต่ผมต้องขับถึง 1,000 กม. จะให้ขับ 90-100 อยู่ได้ยังไง ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 120-130 ยังใช้เวลาตั้ง 12 ชม.(บวกแวะทานข้าว 2 มื้อ แวะเข้าห้องน้ำอีก 4-5 ครั้ง) ยกเว้นช่วงมีฝนก็ต้องช้าลงหน่อย ผมจึงลดความดันลมยางลงเหลือ 32(ขณะยางร้อน) ก็เดาว่าเมื่อเย็นลงคงเหลือ 29 ตามสเป็ค ได้ผลครับความรู้สึกเดิมๆเมื่อต้นปีที่แล้วกลับคืนมาทั้งหมด ไม่น่าเชื่อว่าลมยางที่ต่างกันแค่ 3 ปอนด์ จะทำให้เกิดความแตกต่างกันได้มากขนาดนี้ ขากลับผมสูบ 30 ความรู้สึกก็ไม่แตกต่างกับ 29 ครับ ท่านสมาชิกลองสังเกตุดูครับ ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกและความเห็นส่วนตัวครับ อย่าถือเป็นมาตรฐานนะครับ ชอบแบบไหนทำตามใจท่านดีที่สุดคร๊าบบบบบ
ปล. ขากลับเจอสมาชิกท่านหนึ่งพลัสสีดำที่ co-op สุราษฎร์ ช่วงแปดโมงเช้า ไม่ทันเห็นตอนท่านมาถึง เลยไม่ได้ทักทายกัน
สำหรับท่านที่จะลงใต้แนะนำอาหารมื้อเที่ยงที่ สวนส้มนายดำ (หลังสวน) อาหารอร่อย(ไทย-อีสาน) บรรยากาศดี(สวน) ห้องน้ำสนุก สะอาดหลากหลายสไตล์ ต้นไม้สวย เพลิดเพลินหายเหนื่อย
ส่วนขาขึ้นแนะนำมื้อเที่ยงเช่นกันที่ P2N (พีทูเอ็น) ทับสะแก บรรยากาศหรู(แอร์-สวน) อาหารอร่อย(ไทย-ฝรั่ง) เบเกอรี่ ห้องน้ำสวยสะอาด อิ่มแล้วเอนหลังได้ด้วย
สมาชิกท่านใดอยู่สุราษฎร์ ช่วยแนะนำมื้อเช้าหน่อยครับ จะทานที่ทุ่งสงก็เช้าเกินไป ปั๊มตราดาวที่เลย co-op เป็นไงบ้างครับ ที่ co-op เดี๋ยวนี้ไม่ได้เรื่องเลยครับเอาไม้กระแทกปากอร่อยกว่าเยอะครับพี่น้องครับ
ขอบคุณครับน้าต้อม สำหรับข้อมูลดีๆ ผมคนหนึ่งครับที่เชื่อเรื่องนี้มากๆ ครับ ของผม 32 ปอนด์ มาตลอดครับกำลังดี ปลอดภัยครับสำหรับไม่บรรทุก ไม่กระด้างมากไป แต่ความรู้สึกนี้กว่าจะรู้ตอนออกรถใหม่ๆ พี่ท่านใส่ให้ผม 45 ปอนด์ กระโดดเป็นม้าพะยศ เลยครับ แต่ยังไม่เคยลอง 29 ปอนด์เลยครับ ไว้จะลองดูว่านิ่มขนาดไหนน่ะครับ :kapook-17199-4683:
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
ของผมตอนออกรถศูนย์เติม48ทั้งหมดเลยแม่ผมถามว่ารถใหม่ๆ
ทำไมโดดจังเลยไม่นิ่มเลยผมล่ะเครียดรีบเลี้ยวเข้าปั๊มใกล้ๆศูนย์เลย
ตอนนี้เติมลมตอนยางเย็นหน้า33หลัง34ครับกำลังดีออกจะเด้งนิสๆ
ถ้าวิ่งทางไกลผมก็ว่าจะใช้ระดับนี้อ่ะครับเพราะแค่นี้ก็เห็นแก้มยางมัน
ยวบๆแล้วครับนานๆไปอาจจะลองหน้า31หลัง32เผื่อเอาไว้เวลายาง
ร้อนก็ได้ครับ อืมได้ความรู้ไปอีกแบบ
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
ความรู้ดีๆครับสำหรับคนเดินทาง ขอบคุณครับน้า
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
ขอบคุณครับน้าที่เอาข้อมูลดีๆมาเล่าให้ฟัง
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
ดีมากครับ ยังมีอีกหลายคนมากบนถนน ขับรถไม่เคยดูลมยาง อันตรายมาก!!!!
การเช็คลมยางเรื่อยๆทำให้โอกาสยางระเบิดแทบไม่มีเลยครับ แม้ว่ายางจะเก่ามากก้อตาม
ยางระเบิดกันก้อเพราะมาจากลมยางรั่วออกเรื่อยๆ จนเหลือน้อยมาก เป็นส่วนใหญ่ครับ คนที่สังเกตและเช็คลมยางเรื่อยๆ จะทำให้รู้ว่าเส้นไหน ลมออกมา มากน้อย จะทำให้ แก้ปัญหาได้ทันการ
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
เติมลมไนโตรเจนครับ 30 หน้า - หลัง เลย
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
ของผมก็เหมื่อนกันเข้าศูนย์ เช็ค 10000 โลศูนย์ติมมาให้ 35 ร่อนหน้าดูชมเลย ปัจจุบันยืนอยู่ที่ 30 นิ่มมาก 180ยังไม่ส่ายเลย แต่ถ้ามองดูเหมื่อนรถยางอ่อนนะ อย่าตกใจมันเป็นธรรมชาติของ Plus
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
ขอบคุณสำรับข้อมูลครับพี่น้อง
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
แล้วที่ถูกต้องควรเติมเท่าไรอะ เวบบางเว็บบอกว่าถ้าเติมลมอ่อนอาจทำให้ยางระเบิดได้ บางคนบอกเติมแข็งไปอาจทำให้ระเบิดได้อีก ขับเก๋งผมก็เติมตามสเปครถตลอดแต่พอพลัสนี่มันยังไงกัน เติม29ดูแล้วดูอีกก็เหมือนอ่อนไป เติม 38 วิ่งเป็นม้าดีด
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
ผมเติม 36 พอได้ คงเพราะเปลี่ยนโช้คมาด้วย เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าเด้งเท่าไรครับ
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลนะครับคือยางเริ่มเสื่อมสภาพ....เสียงยางจะดังเข้ามาในห้องโดยสาร ไม่ค่อยเกาะถนนและถ้ามีน้ำหรือฝนตกก็จะเหินน้ำ เข้าโค้งที่หนึ่งต้องจับพวงมาลัยให้มั้่นเชียวนะครับ :smiley-transport031
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
ถ้าเติมลมตามสเป็คที่โรงานงานกำหนดมาคือ29ทั้งหน้าและหลังซึ่งยางที่ติดมากับรถนั้นขนาด245-70-16 แล้วถ้าผมเปลี่ยนยางเป็น265-70-16ผมก็ควรที่จะเพิ่มลมยางขึ้นไปใช่ใหมคับ
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
รถผมใช้น้อย อาทิดใช้ครั้ง ต้องเติมเยอะไว้ก่อน หน้า หลัง 35 ไม่นั้นยางเสียก่อนได้ใช้ คริๆ
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
ผมหน้า หลัง 30 นุ่มหนึบครับตอนนี้ 50,00 โลยางก็ยังปกติดีครับผม
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
คำถามที่ว่าเติมเท่าไร ไม่มีลิมิตชีวิต ขับไม่เกิน 90 ครับ สำหรับผม
-ไม่อ่อนไปกว่า 15-20
-เติมเข้าไปสูงได้เท่าไร ตามใจ เพราะรถบรรทุกของเติมกัน 70-80 วิ่งเหนือยันใต้ ถ้าไม่บรรทุกของซัก 30-32 กะลังสบาย
-รถจะใช้ยางซีรี่ส์ไหน แก้มเตี้ย แก้มสูง ไม่มีความสัมพันธ์กับว่ายางใหญ่ขึ้นเติมลมแรงดันมากขึ้นครับ ท่านสามารถเติม 29-32 ได้ในยางขนาด 285/75 R16 วิ่งนุ่มๆตามปกติ
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
เติมลม 32-35 วิ่งในเมือง ความเร็วต่ำไม่เกิน 100 ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างครับ เพราะเราวิ่ง 30-50 กม.วิ่งสลับหยุด ประมาณ 1 ชม.ก็ถึงที่หมาย ความร้อนสะสมยังไม่มาก จากเดิมอาจจะขึ้นไปอย่างมาก 1-1.5 ปอนด์ แต่ถ้าออกตจว.ระยะทางไกลๆ ใช้ความเร็ว 100-140 วิ่งยาวตลอด 2-3 ชม.จึงหยุดพัก ความร้อนสะสมในยางมีมาก รถผมจาก 32 ขึ้นไปเป็น 35 จึงออกอาการเต้น และแถเมื่อเจอถนนไม่เรียบ ผมเองออกทริป 100-250 กม.เกือบทุกเดือน(พัทยา,หัวหิน,สระบุรี,เขาใหญ่,ฯลฯ) 4 คน+สัมภาระ= 4-500 กิโล.บอกตามตรงสูบลม 32 ก็ไม่ค่อยรู้สึกครับ เพราะเส้นทางที่ผมกล่าวมาข้างต้น ใช้ความเร็วได้ไม่มาก บางช่วงอาจขับเร็วได้แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ เนื่องจากปริมาณรถมาก ไม่เหมือนขับลงใต้ ผมออกตั้งแต่ตี 4 ถนนตรงโล่งเหยียบแช่ 130-140 ได้เป็นระยะทางยาวๆ(ชิดซ้ายตลอดไม่เคยโดนเรียก) ช่วงต้นๆอาจยังไม่ออกอาการ จนยางร้อนความดันลมเพิ่มเป็น 35 จึงแสดงอาการ ผมว่าที่สเป็คที่เขากำหนดให้สูบลมแค่ 29 ปอนด์ เค้าคงเผื่อมาแล้วว่า ขับในเมืองก็นุ่มออกย้วยๆกำลังดี ออกตจว.ทริปสั้น-ทริปยาวยังไงก็เพิ่มไม่เกิน 3 ปอนด์ จาก 29 อย่างมากก็จะเป็น 32 ก็ไม่แข็งมากจนเต้น ส่วนตัวผมทั้งในเมืองและตจว.ปัจจุบันสูบ 30 ครับ ตามนิสัยคนไทยชอบแถม ส่วนท่านอื่นๆผมว่าใช้ความรู้สึกของท่านเองดีที่สุด อย่าไปซีเรียสกับตัวเลขเลยครับ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาชี้แนะ
ระวัง!!ยางแข็ง+ถนนไม่เรียบ+140กม./ชม. = แถ(เลื้อย)ลงข้างทางแน่นอนครับพี่น้องครับ!!!
Re: เล่าสู่กันฟังเรื่องลมยาง
อ้างอิง:
โพสต้นฉบับโดยคุณ
TOM3
เติมลม 32-35 วิ่งในเมือง ความเร็วต่ำไม่เกิน 100 ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างครับ เพราะเราวิ่ง 30-50 กม.วิ่งสลับหยุด ประมาณ 1 ชม.ก็ถึงที่หมาย ความร้อนสะสมยังไม่มาก จากเดิมอาจจะขึ้นไปอย่างมาก 1-1.5 ปอนด์ แต่ถ้าออกตจว.ระยะทางไกลๆ ใช้ความเร็ว 100-140 วิ่งยาวตลอด 2-3 ชม.จึงหยุดพัก ความร้อนสะสมในยางมีมาก รถผมจาก 32 ขึ้นไปเป็น 35 จึงออกอาการเต้น และแถเมื่อเจอถนนไม่เรียบ ผมเองออกทริป 100-250 กม.เกือบทุกเดือน(พัทยา,หัวหิน,สระบุรี,เขาใหญ่,ฯลฯ) 4 คน+สัมภาระ= 4-500 กิโล.บอกตามตรงสูบลม 32 ก็ไม่ค่อยรู้สึกครับ เพราะเส้นทางที่ผมกล่าวมาข้างต้น ใช้ความเร็วได้ไม่มาก บางช่วงอาจขับเร็วได้แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ เนื่องจากปริมาณรถมาก ไม่เหมือนขับลงใต้ ผมออกตั้งแต่ตี 4 ถนนตรงโล่งเหยียบแช่ 130-140 ได้เป็นระยะทางยาวๆ(ชิดซ้ายตลอดไม่เคยโดนเรียก) ช่วงต้นๆอาจยังไม่ออกอาการ จนยางร้อนความดันลมเพิ่มเป็น 35 จึงแสดงอาการ ผมว่าที่สเป็คที่เขากำหนดให้สูบลมแค่ 29 ปอนด์ เค้าคงเผื่อมาแล้วว่า ขับในเมืองก็นุ่มออกย้วยๆกำลังดี ออกตจว.ทริปสั้น-ทริปยาวยังไงก็เพิ่มไม่เกิน 3 ปอนด์ จาก 29 อย่างมากก็จะเป็น 32 ก็ไม่แข็งมากจนเกินไป ส่วนตัวผมทั้งในเมืองและตจว.ปัจจุบันสูบ 30 ครับ ตามนิสัยคนไทยชอบแถม ส่วนท่านอื่นๆผมว่าใช้ความรู้สึกของท่านเองดีที่สุด อย่าไปซีเรียสกับตัวเลขเลยครับ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาชี้แนะ
ระวัง!!ยางแข็ง+ถนนไม่เรียบ+140กม./ชม. = แถ(เลื้อย)ลงข้างทางครับพี่น้องครับ!!!
ขอบคุณที่แบ่งปันครับบบบ :kapook-17340-6327: