เลียบหิมาลัยสุดขอบฟ้าหลังคาโลก TIBET - เบสแคมป์ MT.Everst Basecamp

มี e-mail จากคุณอดิเทพ แห่ง อินโดนีเซียคาราวาน ขอเชิญสมาชิกไทยไทรทันคลับสมัครร่วมเดินทางเที่ยวแถบเทือกเขาหิมาลัย

INDOCHINA CARAVAN
348 หมู่ 4 ซ..14 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160
348 moo4 soi 14 ----- Bangkae Bangkae Bangkok 10160
Tel 081-802-4922 , Fax : (662) 444-2402
e-mail: khunta_sundance@yahoo.com , aditep_2000@yahoo.com

เลียบหิมาลัยสุดขอบฟ้าหลังคาโลก TIBET - เบสแคมป์ MT.Everst Basecamp

นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นที่ร่ำลือกันว่าดินแดนทิเบตนั้นเปรียบได้ดังสรวงสวรรค์อันเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสัน และความลึกลับ การจะไปถึงดินแดนหลังคาโลกทิเบตได้นั้นมีหลายเส้นทางด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือเส้นทางถนนอันสวยงามระหว่างมณฑลยูนาน-ทิเบต ซึ่งเป็นถนนสายหนึ่งที่ตัดคดเคี้ยวผ่านแนวเทือกเขาสูงชันไปสู่ทิเบตได้ จนทำให้เราต้องฉงนว่าถนนสายนี้สร้างขึ้นมาได้อย่างไรกัน และเป็นที่แน่นอนว่าหากย้อนไปดูอดีตของการก่อสร้างเส้นทางสายนี้ได้ ก็จะพบว่าทุกๆเซนติเมตรที่งานก่อสร้างรุดหน้าไป ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานและชีวิตของคนงานนับไม่ถ้วน แต่อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ของภูมิทัศน์แล้ว ถนนสายนี้คือที่สุดแห่งความงดงามทางธรรมชาติที่พาดผ่านคดเคี้ยวไปตามขุนเขาสูง และยิ่งกว่านั้นตลอดสองข้างทางยังมีภาพของวิถีชีวิตชนพื้นถิ่นอันมีเอกลักษณ์ให้ชมอย่างล้นเหลือ ถนนสายยูนาน - ทิเบต จึงเป็นถนนที่จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้แก่ผู้ที่ไปเยือนได้เสมอ นักเดินทางรุ่นแล้วรุ่นเล่าจากทั่วสาระทิศได้มอบหัวใจให้ถนนสายยิ่งใหญ่นี้ไปอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ก็เพราะมันช่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของจิตวิญญาณในดินแดนหลังคาโลกโดยแท้

กำหนดการเดินทาง
6 เมษายน 2553 – 30 เมษายน 2553

6 เม.ย.53 กรุงเทพ – เชียงราย - เชียงของ - ห้วยทราย
สมาชิกทุกท่าน Free run จากที่พัก และพร้อมกันที่ปั้มน้ำมันบางจาก อ.เชียงของ เวลา 14.00 น. จากนั้นเดินทางสู่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ผ่านขั้นตอนพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำรถข้ามแม่น้ำโขงโดยแพขนานยนต์ สู่สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว ผ่านพิธีการศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาวและเดินทางเข้าที่พัก โรงแรม...... รับประทานอาหารเย็นและพักผ่อนตามอัธยาศัย
7 เม.ย. 53 ห้วยทราย – หลวงน้ำทา-บ่อหาน-เมืองล่า-เชียงรุ้ง - ซือเหมา ( 595 ก.ม.)
หลังจากรับประทานอาหารเช้า ออกเดินทางจากห้วยทรายสู่เมืองหล้า เส้นทางเป็นถนนลาดยาง รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารชายแดนลาว -จีน ด่านบ่อเต้น-บ่อหาน ผ่านพิธีการผ่านแดนสปป.ลาว - จีน ออกเดินทางสู่เมืองเชียงรุ้ง นำรถตรวจสภาพ รับใบขับขี่จีน และทะเบียนรถจีน รับประทานอาหารเย็นและ นำท่านเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
8 เม.ย. 53 ซือเหมา —คุนหมิง – อุ่ยเจ๋อ (765 ก.ม. ระดับน้ำทะเล 2800 เมตร) ออกเดินทางสู่เมืองคุนหมิงในเส้นทางตามถนนลาดยางโค้งบนเทือกเขาสลับซับซ้อนความสูงประมาณ1,500ม. จากระดับน้ำทะเล ภูมิประเทศสวยงาม ขับรถเข้าสู่เส้นทาง ทางด่วนลอยฟ้า กรุงเทพ-คุนหมิงอันทันสมัย เดินทางถึงเมือง อุ๋ยเจ๋อ รับประทานอาหารเย็นนำท่านเข้าพักที่โรงแรม ....... Hotel
9 เม.ย.53 ฮุยเจ๋อ – ญ่าอัน ( 650 ก.ม.ระดับน้ำทะเล 2,500 เมตร
ออกเดินทางสู่เมือง ญ่าอัน เส้นทางผ่านป่า ภูเขา ภูมิประเทศสวยงาม ผ่านหมู่บ้านทุ่งหญ้า ตลอดเส้นทางเดินทางถึงเมือง ญ่าอัน รับประทานอาหารเย็นนำท่านเข้าพักที่โรงแรม ......

10 เม.ย. 53 ญ่าอัน – คังติ้ง ( 220 ก.ม.ระดับน้ำทะเล 3,500 เมตร)
ออกเดินทางจากญ่าอันเข้าตำบลโม่ซี่ชมภูเขาหิมะเหล่ายินซานอุทยานธารน้ำแข็งไหโล้วกวน ป่าสน หงซานหลิง อาหารเย็นนำท่านเข้าที่พัก....... Hotel
11 เม.ย.53 คังติ้ง – ญ่าเจียง - เต้าเฉิน (350 ก.ม.ระดับน้ำทะเล 4,100 เมตร) เข้าเขต The Last Shangri - La
ออกเดินทางผ่านหมู่บ้านชาวเจียหรง ผ่านหุบเขา และช่องแคบหุบเขาตันปาที่มีดอกตู้เจียนฮัวชูช่อระยิบระยับ ผ่านทุ่งหญ้าที่ราบสูงปาเหม่ย สวยงามตามธรรมชาติ ระหว่างสองข้างทางเป็นลำธาร และหน้าผาหินสูงตระหง่าน เดินทางข้ามภูเขาหิมะญ่าลา สูง 4,100 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุด ณ ขอบฟ้ามียอดเขาสลับซับซ้อน บริเวณด้านหน้าซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงสัตว์ มีทั้งแพะ และตัวจามรี มีวิวที่สวยงามน่าประทับใจ หลังอาหารเที่ย เราจะเดินทางโดย ข้ามภูเขา 3 ลูก คือ ภูเขาเจี่ยนจือวานซาน ภูเขาข่าจือลาซาน และเทือกเขาไห่จือซาน ยอดเขาที่สูงที่สุดในแนวเทือกเขานี้ชื่อทู่เอ่อซาน (ภูเขากระต่าย) หุบเขาบริเวณนี้มีความสวยงามและ แปลกตาไปจากวิวเดิมๆที่ผ่านมา คือมีทุ่งหินกว้างสุดตา มีลำธารไหลแซมทุ่งหิน คล้ายกับว่าบริเวณนี้เคยเป็นทะเล หรือเคยจมอยู่ในน้ำมาก่อน จากนั้นเดินทางไปยังเมืองลี่ถัง เมืองที่สูงที่สุดในโลกที่มีคนอาศัยอยู่ (สูงกว่าลาซา) เริ่มเข้าสู่เต้าเฉิน ถึงเมืองยี่หวา(หลัง ปี 2001 มีการเปลี่ยนชื่อเป็นแชงกรีล่า “The Last Shangri – La”แต่ยังเป็นปัญหาเรื่องการตั้งชื่อกับจงเตี้ยนของมณฑลยูนานเพราะใช้ชื่อซ้ำกัน) รับประทานอาหารเย็นนำท่านเข้าพักที่โรงแรม .....Hotel
12 เม.ย.53 เต้าเฉิน – ญ่าติง(170 ก.ม.ระดับน้ำทะเล 4,500 เมตร) ชมวัดชงกู่ซื่อ แล้วไปยังทะเลสาบโจหม่าลา ชมทะเลสาบไข่มุก และภูเขาหิมะกวนอิม ทัศนียภาพสวยงาม วิวทะเลสาบอยู่หน้าภูเขาหิมะ อีกทั้งยังถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ของชาวธิเบตด้วย นำท่านนั่งม้าเที่ยวอุทยาน ชมทิวเขาเหวินซูอย่างใกล้ชิด ชมความยิ่งใหญ่ที่ประจักษ์ตรงหน้าสายตาท่าน และเมื่ออยู่ในบริเวณทุ่งหญ้าโล่หรง ท่านจะรู้สึกเหมือนดังถูกโอบอุ้มไปด้วยขุนเขาหิมะ ทะเลสาบ ทุ่งดอกหญ้าสีเหลือง ขาว ชมพู ม่วง อีกทั้งยังมีทุ่งหญ้าเลี้ยงจามรี ม้า แพะในบริเวณใกล้เคียงกันนี้ ที่ความสูง 4,500 เมตรสมแล้วที่ถูกขนานนามว่า The Last Shangri - La หลังจากนั้น นั่งม้าออกจากอุทยานญ่าติง รับประทานอาหารเย็นนำท่านเข้าพักที่โรงแรม .......
13 เม.ย. 53 ญ่าติง – หมานคาม (547 ก.ม.ระดับน้ำทะเล 3,200 เมตร) ออกเดินทางสู่เมืองหมานคามเป็นภูเขา เลาะริมน้ำสลับลูกรัง ชมความ เป็นอยู่ของชาวบ้านที่อยู่ที่ราบสูง รับประทานอาหารเย็น แล้วเข้าสู่ที่พัก... 14 เม.ย.53 หมานคาม – ปาโซว ( 380 ก.ม.ระดับน้ำทะเล 3,100 เมตรออกเดินทางจากหมานคามสู่เมืองโปมี่ระหว่างทางจะผ่านเขาจิ๋วลา ลงเขาสู่ทะเลสาบหยานวู ชมหมู่บ้านธิเบตและวิวทะเล สาบหยานวู ผ่านป่าดงดิบและภูเขาหิมะ ธารน้ำแข็งหมี่ตุ่ย รับประทานอาหารเย็นนำท่านเข้าพักที่ ......
15 เม.ย. 53 ปาโซว – โป่มี่ - หลินจือ (435 ก.ม. ระดับน้ำทะเล 2,900 เมตร ออกเดินทาง ชมจุดบรรจบของแม่น้ำพ่าหลงจั้นปู้กับแม่น้ำยี่ก้ง พร้อมชมวิวป่าดงดิบและ ถือป็น สิ่งมหัศจรรย์ของที่นี่ แล้วผ่านเขาซื่อจี้ลา (สูง 4,800 เมตร) เข้าพักที่........

16 เม.ย. 53 หลินจือ – ลาซา(454 ก.ม. ร ะดับน้ำทะเล 3,350 เมตร) ออกเดินทางผ่านแม่น้ำกงปู้สู่สถานที่ตรวจม่อจู๋กง แล้วผ่านทางแยกเขาเหม่ยลี่(มีความสูง 4,900 เมตร)ฟาร์มเขาเหม่ยลี่ พร้อมชมวิวพื้นที่ ที่ต่ำเป็นท้องกะทะลาซาและแม่น้ำลาซา มองพระราชวังโพทาลาจากทางไกล รับประทานอาหารเย็นนำท่านเข้าพักที่.......
17 เม.ย. 53 ลาซา พระราชวัง วัดเจ๋อป้ง ตลาดแปดเหลี่ยม ออกเดินทางสู่ พระราชวังโปตาลา สร้างเมื่อคริสศตวรรษที่ 7 โดยกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้รวบรวมธิเบตให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้สำเร็จ คือ กษัตริย์ชงเซิน กัมโป (Songtsen Gampo) แรกเริ่มเพียงจะสร้างเป็นตำหนักให้แก่มเหสีชาวจีนและชาวเนปาลของพระองค์เอง ต่อมาทรงใช้ป้อมแห่งนี้เป็นสถานที่ในการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า , ชมวัดเจ๋อป้งหรือวัดเตรปุง อยู่ทางตะวันตกของเมืองลาซา สร้างโดยดาไลลามะองค์ที่ 3 เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุคที่พุทธศาสนาของทิเบตรุ่งเรืองสุดขีด เคยมีพระลามะอยู่รวมกันเป็นหมื่นองค์ ภายในประกอบด้วยสำนัก 7 สำนัก มีโรงเรียนที่ดินสำหรับเพาะปลูกและข้าทาสบริวาร เป็นที่ตั้งศูนย์พยากรณ์แห่งธิเบต เป็นสถานที่พระสงฆ์ และสามัญชนสามารถเข้ารับการอุปสมบทเป็นนักบวชยากรณ์ได้ เป็นการพยากรณ์แบบเข้าทรง นักบวชพยากรณ์รุ่นสุดท้ายได้ลี้ภัยไปยังอินเดีย พร้อมกับองค์ดาไลลามะและมรณภาพที่นั่น เป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นเวลานาน อารามเตรปุงเคยเป็นที่พำนักขององค์ดาไลลามะก่อนที่พระตำหนักโปตาลาจะสร้างเสร็จสมบูรณ์(ในช่วงสมัยดาไลลามะองค์ที่ 5) มีสถูปพระศพขององค์ดาไลลามะองค์ที่ 2 ที่ 4 ตั้งอยู่ในอารามนี้ เดินชมสินค้าตลาดแปดเหลี่ยมหรือตลาดปาเจียวเจีย ที่นี่จะมีลานปูนกว้างมีร้านแผงลอยตั้งติดกันยาวเป็นแถบ ขายสินค้าพื้นเมืองธิเบต[/font]

18 เม.ย. 53 ลาซา เมืองติ้งยื่อ (580 ก.ม.ระดับน้ำทะเล 3,850 เมตร) เดินทางไต่ภูเขาสูงข้ามขอบฟ้าสู่ที่ราบสูงชิงไห่ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมือง ยื้อเคอเจอหรือชิกัตเซ่(SHIGATSE)เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศทิเบตรองจากลาซาชิกัตเซ่เคยเป็นที่พำนักของปันเซนลามะเมืองชิกัตเซ่ เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญบนเส้นทางการค้าไม้, ขนสัตว์และใบชา ระหว่างทิเบตและอินเดีย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และสถาปัตยกรรมที่ชาวทิเบต ภาคภูมิใจ คือ เจดีย์ เจียนเซ่ คุมบุม (Gyangtse Kubum Stupa) ตรงกลางของสถูปเป็นสัญลักษณ์แทนทางอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะนำไปสู่การปลดปล่อย ทางวิญญาณ และยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดไว้เมื่อศตวรรษที่ 15 โดยชาวเนปาล ระหว่างทางชมวิวทิวทัศน์ที่กว้างไกลสุดขอบฟ้ามีภูเขา หิมะเรียงรายสลับเป็นชั้นเหมือนกำลังขับรถวนอยู่บนยอดเขาหิมาลัย
19 เม.ย. 53 ติ้งยื่อ เบสแคมป์ MT.Everst Basecampเที่ยว วัดหลงปุ้ - ติ้งยื่อ ออกเดินขึ้นสู่ เอเวอร์เรสเบสแคมป์ (จีน)ความสูงกว่า 5,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล ชมวิวทิวทัศน์และ สัมผัส"ที่ที่สูงที่สุดในโลก ติ้งยื่อ (Tingri ) " ใครแพ้ความสูง อาจจะรออยู่ที่วัดหลงปุ้ก็ได้ วัดหลงปุ้ (วัดหลงปู้ซื่อ) ตรงนี้อากาศจะบางออกซิเจนน้อยการหายใจจะไม่คล่องทำให้เหนื่อยง่าย ควรเคลื่อนไหวช้าๆ และจิ๊บน้ำอุ่นบ่อยๆ
20 เม.ย. 53 ติ้งยื่อ - เมืองยื๋อคาเจ๋อ เที่ยววัดทาซื่อหลุนโป เดินทางชมภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อนตลอดสองข้างทางยามแสงอาทิตย์สะท้อนหิมะ,ภูเขา แม่น้ำทะเลสาบใสก่อให้เกิดเป็นภาพ สู่ซึกะเจ๋อมีความสวยงามหลากหลายที่หาชมยากในโลก
ชมวัด ซื่อหลุนโป(ZASIBU) เป็นวัดทิเบตที่ใหญ่อันดับสองของมณฑลชมตำหนักทาซื่อหลุนโป
องค์ดาไลลามะที่ 5 ได้มอบตำแหน่งปันเชนลามะให้กับอาจารย์ของท่าน ชาวทิเบตเชื่อกันว่าองค์
ดาไลลามะคือการมาจุติของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร,ปันเชนลามะนั้นคือพระพุทธอมัตตาภา
เป็นเทพที่สูงกว่าพระอวโลกิเตศวรอารามทาซื่อหลุนโปเป็นที่พำนักขององค์ปันเชนลามะก่อสร้าง
ขึ้นปี ค.ศ. 1447 โดยศิษย์ของพระฌองฆาปา ในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18มีการต่อเติมให้มีขนาด
ใหญ่กว่าเดิมมาก ,ชมหอพระอริยะเมตไตร ซึ่งสร้างขึ้นโดยพระปัญเชนลามะองค์ที่ 9 ปี ค.ศ. 1914
พระอริยะเมตไตรเปรียบเป็นองค์พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในอนาคต องค์สีทองมีความสูง 26 เมตร ในขณะที่เสียงแตรดังกังวาน เป็นสัญญาณการเริ่มต้นเทศกาลประเพณีนำทังก้า ในโบสถ์วิหาร ออกมาให้พร ผู้คนจากที่ต่างๆ หลั่งไหล มาสักการบูชาสวดมนต์ขอพรและชมภาพพระบฏหรือภาพทังก้าเป็นเอกลักษณ์ของชาวทิเบต(ทังก้าคือภาพวาดแทนพระพุทธเจ้า)
21 เม.ย. 53 ติ้งยื่อ - ลาซา แวะเที่ยวทะเลสาบหยามดรก (310 ก.ม.ระดับน้ำทะเล 4,400 เมตร) เดินทางกลับเส้นทางเดิมชมทัศนียภาพอีกด้านที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน ระหว่างทางแวะชมทะเลสาบน้ำเค็มที่ได้ชื่อว่าใสสะอาดที่สุดแห่งหนึ่ง ทะเลสาบหยามดรก YAMDROK LAKE หรือ ทะเลสาบหยังจัวยง) เป็นทะเลสาบหนึ่งในทะเลสาบสามภพ ของชาวทิเบต มีเนื้อที่ 638 ตร.ม. สูงเหนือระดับน้ำทะเล 4,440 เมตร มีวิวทิวทัศน์ปกคลุมด้วยหิมะและการ์เซีย เกาะแก่ง ทุ่งหญ้าปศุสัตว์ที่สวยงามทุกปีจะมีคนนับแสนไปประกอบพิธีล้างบาป[/font]
22 เม.ย. 53 ลาซา วัดต้าเจา วัดเซล่า วัดใหญ่นอร์บุหลิงข่า ชมวัดต้าเจาซื่อ และชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวธิเบต ชมวัดเซล่า ณเชิงเขาตาติปู บนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของกระท่อมที่พระชองฆาปาศึกษาธรรมและปฎิบัติกรรมฐานทางเหนือของเมืองลาซาขึ้นไป สร้างโดยศิษย์รูปหนึ่งของชองฆาปาเมื่อปี ค.ศ. 1419 (ชองฆาปาเป็นผู้ปฏิรูปและก่อตั้งพุทธศาสนาลัทธิเกอลุคปา หรือ นิกายคุณธรรม ตามประวัติเล่ากันว่าชองฆาปาคือพระอาจารย์ขององค์ดาไลลามะที่ 1) เป็นอารามที่รู้จักกันดีทั่วทิเบต อาคารหลักๆ ของอารามยังคงอยู่ในสภาพดี เนื่องจากไม่ถูกทำลายลงในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม ทุกๆ วัน ในช่วงบ่ายจะมีการฝึกฝนทาง ธรรมโดยลามะแต่ละรูปจะมารวมตัวที่ลานวัดเพื่อทดสอบพระธรรมตั้ง “ ปุจฉา และ วิสัชนา” ชมวัด นอร์บุหลิงฆา อันเป็น พระราชวังฤดูร้อน คู่กันกับพระราชวังฤดูหนาวโปตาลาความหมายเดิมของชื่อ นอร์บุหลิงฆาแปลว่า “สวนอัญมณี” สร้างขึ้น ในช่วงหลังศตวรรษที่ 18โดยดาไลลามะที่ 7 ต่อมา ดะไลลามะองค์อื่นๆ ได้สร้างต่อเติมส่วนของตนเองขึ้นมาเรื่อย ๆ แม้แต่ดาไล ลามะ องค์สุดท้ายก็ยังได้ต่อเติมพระราชวังของตนเองก่อนที่จะหนีออกจากธิเบต ในบริเวณโถงรับรองมีบัลลังก์เทวราช และงานจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับประสบการณชีวิตในแง่มุมต่าง ๆ โดยมีกรอบเป็นภาพเขียนพุทธชาดกจากนั้นเข้าสู่ที่พัก พักที่ ……
23 เม.ย. 53 ลาซา - Namutsa Lake - น่าฉู่ (501 ก.ม. ระดับน้ำทะเล 4,570 เมตร) หลังอาหารเช้าที่โรงแรมแล้วเดินทางจากเมืองลาซาสู่เมืองน่าฉู่ระหว่างทางแวะผ่าน บ่อน้ำพุร้อนหยางปาจิ่งและแวะเที่ยวทะเลสาบนามูช่อ ณ ระดับความสูงประมาณ 4,718 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง นับเป็นทะเลสาบที่อยู่สูงที่สุดในโลก โดยมียอด ภูเขาหิมะไนควิถังโกวลา (Naiqitangoula Mountain) ความสูงราว 7,117เมตร ตั้งตระหง่านเคียงคู่ทะเลสาบอยู่ทางเบื้องหลัง ดังนั้นนักแสวงบุญชาวทิเบตจำนวนมากจึงมาที่นี่เพื่อเดินสวดมนต์ไปรอบๆทะเลสาบ แม้แต่ชาวทิเบตเองก็ยังกล่าวขานกันว่า
ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบที่สวยงามที่สุดในทิเบต ชมตะวันโผล่ขึ้นที่ทะเลสาบซึ่งหู ลุยทุ่งหญ้าทางเหนือธิเบต พักที่ ……….

24 เม.ย. 53 น่าฉู่- ปาชิง – ติงชิง ( 536 ก.ม. ระดับน้ำทะเล 4,300 เมตร)
หลังอาหารเช้าแล้วเดินทางจากเมืองน่าฉู่สู่เมืองปาชิงระหว่างทางชมวิว ทุ่งหญ้าทางเหนือธิเบตเชียงถางที่สวยงาม จากเมืองปาชิงเดินทางต่อสู่เมืองติงชิง ระหว่างจะขึ้นเขาข้ามห้วยชมวิวที่สวยงามมากของธิเบตเหนือ
25 เม.ย. 53 ติงชิง – ชางตู (237 ก.ม. ระดับน้ำทะเล 3,300 เมตร) เดินทางจากเมืองติงชิงสู่เมืองชางตู ระหว่างทางจะได้ชมวิวอันสวยงามและสัมผัสกับชีวิตธรรมชาติของชาวธิเบตและนักแสวงบุญระหว่างทาง พักที่
26 เม.ย. 53 ชางตู - โจวก้ง - หมานคาม ( 434 ก.ม. ระดับน้ำทะเล 3,900 เมตร) เที่ยวชมวัดเฉียงปาหลิน ตลาดเผ่าธิเบต เมืองโจวก้ง เดินทางต่อกลับสู่เมืองหมามคามรับประทานอาหารเย็นนำท่านเข้าพักที่........
27 เม.ย. 53 หมานคาม - ลี่เจียง (569 ก.ม. ระดับน้ำทะเล 3,200 เมตร)หลังอาหารเช้าเสร็จแล้ว ออกเดินทางสู่ เมืองจงเตี้ยนของมณฑลยูนาน ระหว่างทางแวะผ่านเมืองบ้านหินอันสวยงาม และแวะเที่ยวหุบแซงกรีล่า(จงเตี้ยน) ออกเดินทางต่อสู่เมืองเก่าลี่เจียง เดินทางถึงลี่เจียง จากนั้นนำท่านเดินเที่ยวเมืองเก่าลี่เจียง ที่มีประวัติมา 800 กว่าปี มรดกโลกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจีน ยังคงรักษาความงามในอดีตไว้เป็นอย่างดี ทางเดินปูด้วยหินอัดแน่น อาคารไม้แบบจีนโบราณ ลำธารที่ไหลผ่านเกือบทุกหลังคาเรือนเดินทางกลับสู่ที่พัก รับประทานอาหารเย็น
28 เม.ย. 53 ลี่เจียง – คุนหมิง (580 ก.ม.ระดับน้ำทะเล 2,800 เมตร) ออกเดินทางแวะเที่ยวเมืองต้าหลี เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของจีน และเคยเป็นราชธานีของ อาณาจักรน่านเจ้า หรือตาลีฟู เมื่อ 1,200 ปีก่อน มีทัศนียภาพสวยงาม โบราณสถานมากมาย กำแพงเมืองเก่าที่สูงตระหง่าน มีประวัติเก่าแก่หลายร้อยปี เจดีย์สามองค์มีประวัติมา 1,000 กว่าปี เป็นสัญลักษณ์ของเมืองต้าหลี่ สูงตระหง่านอยู่เชิงเขาหิมะชางซัน จากนั้นเดินทางสู่ คุนหมิงรับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย
29 เม.ย. 53 คุนหมิง – เชียงรุ้ง-เมืองล่า ( 874 ก.ม.) เดินทางกลับสู่เมืองเชียงรุ้ง – เมืองล่า โดยทางด่วน ตามเส้นทางเดิม จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักและรับประทานอาหารเย็น
30 เม.ย. 53 เมืองล่า - บ่อเต้น - หลวงน้ำทา – ห้วยทราย - เชียงของ ( 253 ก.ม.) ออกเดินทางถึงด่านชายแดนจีนที่บ่อหาน ตรวจเอกสาร แล้วก็เข้าสู่ประเทศลาวที่บ่อเต็น จากนั้นเดินทางสู่เมืองหลวงน้ำทา –ห้วยทราย ผ่านขั้นตอนพิธีการศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง สปป.ลาว จากนั้นขบวนข้ามแม่น้ำโขงโดยเรือเฟอร์รี่ ผ่านพิธีการลกากรและตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทยที่ อ. เชียงของ สมาชิกรอรับหนังสือเดินทาง จากนั้น Free Run กลับสู่กรุงเทพฯ ตามอัธยาศัย

***************จบโปรแกรม*****************

เราจะไปกันใช่มั๊ยครับป๋าครับ ยาวเลยครับป๋า:emo014hv3:

ผู้ใหญ่ ท่านละ 85,000 บาท ( พักห้องละ 2 ท่าน ) นอนเดี่ยวเพิ่มท่านละ 20,000 บาท ค่านำรถข้ามแดน 3 ประเทศ คันละ 28,000 บาท ราคานี้รวม ค่าวีซ่าเข้า ประเทศจีน ,ค่าข้ามแดน 3 ประเทศ,ค่านำรถข้ามแดน 3 ประเทศ,ค่าประกันภัยบุคคลที่สาม ,ค่าเรือเฟอรี่ข้ามแม่น้ำโขงค่าประกันชีวิตบุคคล,ค่าใบขับขี่จีนหนึ่งท่าน,ค่าทะเบียนรถจีน,ค่าใบอนุญาตนำรถข้ามมณฑล,ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามโปรแกรมระบุ ,ค่าห้องพัก3- 4 ดาว หรือตามสถานที่พักในจีน (พัก 2 ท่าน) ,ค่าอาหารตามโปรแกรม,ไกด์พูดไทย ราคานี้ไม่รวม ค่าวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางต่างชาติ , พาสปอร์ตรถ, ค่าใช้จ่ายส่วนตัว, ค่าอาหาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีในโปรแกรม,ค่ามินิบาร์,ค่าซักรีด,ค่าโทรศัพท์,ค่าขี่ม้า,ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง,ค่าซ่อมรถระหว่างทาง,ค่าทางด่วนค่าจอดรถ,ค่าทริปคนขับรถบัสจีนและค่าทริปไกด์ท้องถิ่น ,ค่าทริปพาเที่ยวตลอดเส้นทางฯ เอกสารที่ต้องเตรียม
1. หนังสือเดินทางฉบับจริง ( PASSPORT) มีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน นับจากวันหมดอายุ
2. สำเนาหนังสือเดินทาง 4 ชุด( ถ้าต่ออายุหนังสือเดินทางให้ถ่ายหน้าที่ต่ออายุด้วย )
3. สำเนาใบขับขี่ 4 ชุด ( เฉพาะผู้ขับขี่ )
4. สำเนาหนังสือจดทะเบียนรถ พร้อมหน้าต่อภาษี 4 ชุด
5. หนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ ( พาสปอร์ตรถเล่มสีม่วง )
6. รูปสีขนาด 2 นิ้ว 2 รูปสำหรับขอวีซ่าทุกท่าน และ เฉพาะผู้ขับขี่ รูปสีขนาด 1 นิ้ว 2 รูปใช่สำหรับทำใบขับขี่จีน (สีพื้นหลังเป็นสีขาว) หมายเหตุ ในกรณีที่เจ้าของรถไม่ได้ไปด้วยจะต้องมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถ , สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของรถ ,พร้อมเซนต์ชื่อรับรอง
7. กรณีที่รถติดสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทลิสซิ่ง ต้องได้รับใบมอบอำนาจและใบยินยอมในการนำรถออกนอกประเทศ
8. ผู้ที่จะร่วมเดินทางต้องส่งเอกสารเกี่ยวกับเรื่องรถและผู้ขับภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อทำเรื่อง นำรถเข้า สปป. ลาว และประเทศจีน ,ใบอนุญาตขับขี่จีน
สำหรับผู้สนใจขอข้อมูล และร่วมเดินทาง ติดต่อได้ที่ คุณรัสรินทร์ โทร : 081 802 4922 ยืนยันการเดินทางภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553

สรุปการเดินทาง
เส้นทาง เส้นทางที่เป็นถนนลาดยาง สลับลูกรัง บนภูเขา ทางด่วน ทางบนที่ราบสูง ปั้มน้ำมันมีตลอดเส้นทาง ระยะทางรวม ประมาณ 11,000 กิเมตร อุณหภูมิ เมื่อเดินทางอยู่ในประเทศลาว อุณหภูมิจะใกล้เคียงกับประเทศไทย เมื่อเดินทางเข้าประเทศจีน อุณหภูมิจะลดลงในมณฑลยูนานอุณหภูมิเฉลี่ยระมาณ 15 C เมื่อเข้าเขต ทิเบตอุณหภูมิจะต่ำกว่า 15C ถึง – 15 C เวลากลางวันจะนานกว่ากลางคืน
เงินหยวน ตลอดเส้นทางการเดินทางในประเทศจีนต้องใช้เงินหยวนในการซื้อสินค้า ถ้าต้องการสำรองเงินควรเตรียมเงินดอลล่าร์ไว้สำหรับแลกเงินหยวน ส่วนในประเทศลาวใช้เงินบาทได้
ราคาน้ำมัน อยู่ที่ประมาณ 5 หยวนเศษ ขึ้นอยู่กับเมือง ดีเซลและเบนซิลราคาจะต่างกันเล็กน้อย
การเดินทาง สำหรับอาหารกลางวัน คณะจะดูความเหมาะสมระหว่างทางที่ผ่าน จะเปิดโอกาสให้พวกเราได้เลือก โดยมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้แนะนำ
สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลายของกิจกรรม ขอให้ไปเลือกความบันเทิงตามอัธยาศัย ภายใต้การแนะนำของไกด์ท้องถิ่น[/font]

งานนี้ถ้าผมไปคงถูกทางราชการเชิญให้ไปเที่ยวแบบยาวไม่ต้องกลับเมืองไทยแน่เลย

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ joetriton

เราจะไปกันใช่มั๊ยครับป๋าครับ ยาวเลยครับป๋า:emo014hv3:

---

:emo014hv3:ไปๆๆๆ:dcur002a:

...ถ้าจะไป คงต้องสำรองอาชีพใหม่ล่วงหน้าได้เลยงานนี้ เสียทั้งตังค์ เสียทั้งงานเพื่อไปตามรอยเก่าของอีผุผุเค้า... http://www.tlcthai.com/backoffice/up..._031_Onion.gif

กลับมาตรูดบานแน่ :kapook-17198-9597:

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ น้องขาวมุก

กลับมาตรูดบานแน่ :kapook-17198-9597:

---

ไปทำอะไรมาคับ...ตรูด...บาน:kapook-17196-7812:

จะไปได้นี่คงต้องอายุระดับเกษียรราชกาล หรือไม่ก็ระดับเจ้าของธุรกิจ มีตังเหลือใช้ฮับ เพราะมีเวลาเหลือเฟือที่จะไป

ให้ผมถูกหวยก่อนน่ะป๋าครับ5555555555555555555555555555555555

เป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ

น่าสนใจนะเนี่ย
สงสัยต้องขายรถ แล้ว อาศัยเค้าไปแทน หุหุหุหุ

ไปเที่ยวครั้งเดียว จนไปสิบปีเลยป๋า 555 งานนี้ยกให้ป๋าไปแล้วกัน เพราะเป็นประธานคลับ ต้องรับคำเชิญตามพิธีและหน้าที่ไป 5555

สุดยอดเส้นทาง 3 ประเทศ

สุดยอดเส้นทาง 3 ประเทศ

เส้นทางระดับตำนาน..คนไปก็ต้องระดับตำนานเหมียลกัน..

น่า ไปมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

สุดยอดเลยครับ ไปเผื่อด้วยน๊ะครับใครที่ได้ไป ได้แต่อิจฉา

อ้างอิง:

---

โพสต้นฉบับโดยคุณ Airt700

เส้นทางระดับตำนาน..คนไปก็ต้องระดับตำนานเหมียลกัน..

---

ของฟรีไม่มีในโลกกกกกกกกก :emoticon-awaaaa