อยากถามน้ำๆท่านใด มีความรู้เทคนิคการขับพลัสออโต้ ถ้าลงเขาควรทำอย่างไร ใช้เกียร์ไหนขอเป็นวิทยาทานหน่อยครับ
อยากถามน้ำๆท่านใด มีความรู้เทคนิคการขับพลัสออโต้ ถ้าลงเขาควรทำอย่างไร ใช้เกียร์ไหนขอเป็นวิทยาทานหน่อยครับ
ผมใช้แค่ Lครับ ทั้งขึ้นทั้งลง (โดยเฉพาะขึ้นแบบชันๆหักไปหักมา สงสารระบบของเกียร์ที่มันต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ในส่วนตัวเลยบังคับมันใว้ที่ Lพอผ่านจุดนั้นๆไปก็ค่อยยัดไปที่ละเกียร์ขับยังกับเกียร์ M/Tเลยละครับ)ไม่ต้องรีบร้อนลงไม่ปล่อยให้รถพุ่งลงมาเร็วๆ ไม่เบรคแบบเรียเบรค ใช้วิธีกดเบรคหนักนิ๊ดนึงเป็นช่วงๆแบบจับๆปล่อยๆ หรือถ้ามาที่เกียร์2เบรคพอลดความเร็วพอประมาณประคองเข้าโค้งลงเขาก็ดึงมาได้เลยที่ L ป้องกันเบรคใหม้ครับ..แล้วให้ระวังใว้นิดนึงเวลาขึ้นแบบอัดแข่งโชว์กำลังเครื่อง..ไฟน้ำมันเกียร์จะโชว์(ร้อนเกิน)ถ้าเราเอาแต่กำลังเครื่องเป็นหลัก ..แต่ก็ไม่เคยโชว์ให้เห็น ..
ออโต้ผมไม่รู้ครับ เท่าที่รู้ผมใช้แต่เกียร์ต่ำๆครับ 1-3 ไม่เกินนี้ ขยันเหยียบเบรคช่วยเอาครับเพื่อชะลอความเร็ว ไม่จำเป็นจะไม่เหยียบคลัสเด็ดขาดครับวิธีที่ถูกต้องทำยังไมไม่รู้ ชินแต่แบบวิธีนี้ครับ แล้วก็อย่าลืมทิ้งระยะห่างกับคันข้างหน้ามากๆด้วยน๊ะครับ อิอิ
ตามน้าบอมเลยครับ
ขึ้นอยู่กับสภาพถนน+ความลาดชันของเส้นทางด้วยคับ ถ้าไม่ชันมากก้อใช้2 แต่ถ้าชันเลย ก้อlคับ ตรวจสอบคู่มือด้วยนะคับว่าแต่ละเกียร์มีลิมิตที่เท่าไหร่ ขับขี่ปลอดภัยคับ
ถ้าทางไม่ชันมากและใช้ความเร็วได้ขณะขึ้นเขา แนะนำ Od Off ครับ
กำลังของเครื่องยนต์ และการรักษารอบเครื่องยนต์ให้มากกว่า 2000 รตน.
จะทำให้รถมีอัตราเร่ง และเอนจิ้นเบรคที่ดี ในความเร็วสูงครับ
ถ้าความเร็วปานกลาง (ประมาณ 40-70 กม.ชม.) ให้ใช้เลข 2 ในการขึ้นเขาครับ
อัตราเร่งจะดีมาก และเอนจิ้นเบรค จะดีตามครับ
ถ้าขึ้นเขาชันมากๆ แนะนำให้ไปที่ L ครับ รักษารอบเครื่องตอนขึ้นให้มากกว่า 2000 รตน.ครับ
การใช้รอบต่ำ ไม่ได้ส่งผลดีในตอนขึ้นลงเขานะครับ
เนื่องจากเวลาขึ้นเขา สมมติชันมาก เราใช้ D ขึ้นไป รอบเครื่องยนต์ต่ำ แต่เกียร์จะสูงกว่าที่ควรจะเป็น
ผลที่ได้รับคือ ความร้อนเครื่องยนต์มากขึ้น และระบบเกียร์ทำงานหนักเกินไป (โหลดสูงไป)
ทำให้เกิดอาการเกียร์ไหม้ได้
การใช้รอบสูง แต่อยู่ในรอบกำลัง ไม่ได้ส่งผลในเรื่องการสึกหรอหรอกครับ ตรงกันข้าม
เครื่องยนต์ที่มีกำลังสูงจะสามารถข้ามผ่านอุปสรรคไปได้โดยง่าย
ทางเขา รถกะเหรี่ยงขนผัก ขับโคตรเซียนเลย วิ่งหายๆ
การลงเขา ให้ใช้เกียร์ ต่ำกว่าปกติ 1 เกียร์
การลงเขาด้วยความเร็ว ช่วงถอนคันเร่ง ให้ใช้งาน Od Off เพื่อลดความเร็วด้วยเอนจิ้นเบรค
เมื่อถึงโค้ง ให้ดึงเบรคมือช่วยนิดนึง และส่งคันเร่งเข้าโค้งต่อไป จะทำให้เบรคไม่ร้อนจัด สำหรับการขับด้วย
ความเร็วสูง
แต่ถ้าความเร็วที่ขับไม่เกิน 80 ระหว่างการใช้ Od Off เมื่อใกล้โค้ง ให้ดึง ลงมา 2 (ความเร็วไม่เกิน 110)
ไม่งั้นเกียร์จะไม่เปลี่ยนลงมาให้ เป็นระบบป้องกันความเสียหายจากเครื่องยนต์หมุนรอบจัดเกินไป
ช่วงใกล้โค้งถ้าความเร็วสูงไป เบรคมือ จะช่วยท่านได้ และเข้าโค้งอย่างปลอดภัย
ในทางทุรกันดารมาก ให้ใช้ L ในการลงเขา โดยไม่ต้องเหยียบเบรคบ่อยๆ เนื่องจากเกียร์นี้ จะมีเอนจิ้นเบรคมากสุด
การลงทางชันๆนานๆ ให้ใช้เบรคมือช่วยบ้าง เพราะระหว่างการลง เบรคหน้าจะทำงานมากกว่าปกติ
ทำให้เกิดอาการเบรคเฟด (ไม่อยู่) ได้ การใช้เกียร์ที่เหมาะสม จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดีครับ
ผลเสียของการใช้เกียร์ผิด
1.เครื่องยนต์เกิดอาการร้อนจัด (ยิ่งแรงบิดน้อยๆยิ่งเห็นผล)
2.เกียร์ออโต้ เกิดอาการคลัตช์ลื่น และไหม้ได้ (ภาระมากเกินไป)
3.ความสึกหรอสูงขึ้นมาก จากอาการเครื่องยนต์น๊อก
4.ระบบเบรค ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงแก่ชีวิตได้
รู้รถ รู้คน รู้ทาง ไม่ประมาท ครับ
ฝากอีกนิดในเกียร์ L ถ้าความเร็วมากกว่า 48 กม.ชม. แล้วเปลี่ยนมาตำแหน่งนี้
เกียร์จะไม่เปลี่ยนให้ เนื่องจากเครื่องยนต์หมุนรอบจัดเกินไป
ในเกียร์ 2 จังหวะเดียวกัน ถ้าจะดึงลง ความเร็วต้องน้อยกว่า 110 กม.ชม.ครับ
ด้วยเหตุผลเดียวกัน
ในเกียร์ 3 (od Off) ความเร็ว ไม่เกิน 140 กม.ชม.ครับ เหตุผลเดียวกัน
เวลาต้องการแซงแบบใช้ Od Off ที่ความเร็วมากกว่า 110 กม.ชม. ในเกียร์ D
สามารถ ตบลงเลข 2 ได้เลย เกียร์จะลงมาแค่เกียร์ 3 ครับ เพราะความเร็วมากกว่า 110 ครับ
สะดวกในการใช้งานมากกว่า พอแซงพ้น ก็ยัดเข้า D เหมือนเดิม โดยไม่ต้องกดสวิทช์ Od Off ครับ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks