Triton 3200 + LPG มีคนเข้ามาชมเกิน 100,000 คนแล้วครับ

[stra-ton]

มีข้อมูลค่า บำรุงรักษา บ้างไหมครับ กี่ % จะคุ้มทุนไหมครับ

[TON_GAS]

มีข้อมูลค่า บำรุงรักษา บ้างไหมครับ กี่ % จะคุ้มทุนไหมครับ

คร่าวๆการบำรุงรักษา
1.ระยะการถ่ายน้ำมันเครื่องยาวออกไปอีกเท่าตัว จากที่ต้องเปลี่ยนทุกๆ 10000 กิโลเมตร เป็น 20000 กิโลเมตรพร้อมกรองน้ำมันเครื่อง
2.แคทน่าจะมีอายุยาวนานอีกมากเลยเพราะเขม่าสะสมน้อยลงหลายเท่าตัว
3.SCV ทำงานไม่หนักมากอายุการใช้งานก็นานขึ้นเพราะเรากดคันเร่งน้อยกว่าเดิมการเพิ่มแรงดันในรางก็น้อยลงไปด้วย
4.เทอร์โบทำงานน้อยลง เมื่อก่อนวิ่ง 100 บูทประมาณ 10 ปอน แต่ปัจจุบันแค่ 5 ปอนก็วิ่งได้ 100 แล้ว

ส่วนจะคุ้มทุนไหมผมจะเทียบคร่าวๆให้ดู คิดราคาน้ำมัน 27.69 แก๊ส 11.20
1.นาย ก.ใช้รถเฉลี่ยกินน้ำมัน 11 โลลิตรวิ่งตั้งแต่ป้ายแดงจนถึง 1 แสนกิโล นาย ก.ใช้น้ำมันทั้งหมด 9091 ลิตร เป็นเงิน 251,702 บาท
เปลื่ยนน้ำมันเครื่องไส้กรองครั้งละ 1,100 บาท จำนวน 10 ครั้ง เป็นเงิน 11,000 บาท
2.นาย ข.ใช้ร่วมดีเซลตั้งแต่ป้ายแดงเช่นกัน ขับแบบมันๆได้อัตราเฉลี่ยดีเซล 16 กม./ลิตร แก๊ส 25 กม./ลิตร (เอาค่ากลางๆครับเพราะบางรุ่นอัตรากินแก๊สได้ถึง 36 กม./ลิตร) ระยะจนถึง 1 แสนโลใช้น้ำมันทั้งสิ้น 6250 ลิตร เป็นเงิน 173,062 บาท ใช้ LPG 4000 ลิตรเป็นเงิน 44,800 บาท
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรอง 5 ครั้งเป็นเงิน 5500 บาท

สรุปค่าใช้จ่ายนาย ก. 251730+11000 = 262,730 บาท
สรุปค่าใช้จ่ายนาย ข. 173,062+44,800+5,500= 223,362 บาท
นาย ข.มีเงินเหลือ 39,368 บาท หักค่าติดตั้งระบบร่วม 18,500 บาท ยังคงเหลือไว้ซื้อขนมให้ลูก 20,868 บาท ที่ระยะทางครบ 1 แสนกิโลเมตร ระยะทางยิ่งไกลเงินจะคงเหลือมากขึ้นครับ
หากอนาคตราคาน้ำมันขึ้นลิตรละ 30-40 บาท จะเห็นว่านาย ข.มีทองใส่เพื่มขึ้น ส่วนนาย ก.ผ้าขาวม้าคาดพุง
และหากความเป็นจริงอัตราเฉลี่ยดีเซลที่ทำได้ระดับ 20-24 กม./ลิตรล่ะ อัตราเฉลี่ยแก๊สที่ 28-36 กม./ลิตรล่ะ ตัวเลขคงต่างจากนี้ไปมาก เอาคร่าวๆแค่นี้ว่างๆจะทำตารางเปรียบเทียบกันแบบเต็มๆให้ดูกันครับ

[Modelist]

คอยติดตามชม Triton 2.5 116 Hp Auto ตัวท้อป

[Kamo_007]

คอยติดตามชม Triton 2.5 116 Hp Auto ตัวท้อป

*ว้าว..สมาชิกใหม่ชมรมคนใช้แก๊ส...อย่าขับเพลินล่ะน้านัท...รถมันแรง

[MEAW_SAN]

อยากไปติดมั่งจังครับ

[indy72]

คร่าวๆการบำรุงรักษา
1.ระยะการถ่ายน้ำมันเครื่องยาวออกไปอีกเท่าตัว จากที่ต้องเปลี่ยนทุกๆ 10000 กิโลเมตร เป็น 20000 กิโลเมตรพร้อมกรองน้ำมันเครื่อง
2.แคทน่าจะมีอายุยาวนานอีกมากเลยเพราะเขม่าสะสมน้อยลงหลายเท่าตัว
3.SCV ทำงานไม่หนักมากอายุการใช้งานก็นานขึ้นเพราะเรากดคันเร่งน้อยกว่าเดิมการเพิ่มแรงดันในรางก็น้อยลงไปด้วย
4.เทอร์โบทำงานน้อยลง เมื่อก่อนวิ่ง 100 บูทประมาณ 10 ปอน แต่ปัจจุบันแค่ 5 ปอนก็วิ่งได้ 100 แล้ว

ส่วนจะคุ้มทุนไหมผมจะเทียบคร่าวๆให้ดู คิดราคาน้ำมัน 27.69 แก๊ส 11.20
1.นาย ก.ใช้รถเฉลี่ยกินน้ำมัน 11 โลลิตรวิ่งตั้งแต่ป้ายแดงจนถึง 1 แสนกิโล นาย ก.ใช้น้ำมันทั้งหมด 9091 ลิตร เป็นเงิน 251,702 บาท
เปลื่ยนน้ำมันเครื่องไส้กรองครั้งละ 1,100 บาท จำนวน 10 ครั้ง เป็นเงิน 11,000 บาท
2.นาย ข.ใช้ร่วมดีเซลตั้งแต่ป้ายแดงเช่นกัน ขับแบบมันๆได้อัตราเฉลี่ยดีเซล 16 กม./ลิตร แก๊ส 25 กม./ลิตร (เอาค่ากลางๆครับเพราะบางรุ่นอัตรากินแก๊สได้ถึง 36 กม./ลิตร) ระยะจนถึง 1 แสนโลใช้น้ำมันทั้งสิ้น 6250 ลิตร เป็นเงิน 173,062 บาท ใช้ LPG 4000 ลิตรเป็นเงิน 44,800 บาท
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องพร้อมไส้กรอง 5 ครั้งเป็นเงิน 5500 บาท

สรุปค่าใช้จ่ายนาย ก. 251730+11000 = 262,730 บาท
สรุปค่าใช้จ่ายนาย ข. 173,062+44,800+5,500= 223,362 บาท
นาย ข.มีเงินเหลือ 39,368 บาท หักค่าติดตั้งระบบร่วม 18,500 บาท ยังคงเหลือไว้ซื้อขนมให้ลูก 20,868 บาท ที่ระยะทางครบ 1 แสนกิโลเมตร ระยะทางยิ่งไกลเงินจะคงเหลือมากขึ้นครับ
หากอนาคตราคาน้ำมันขึ้นลิตรละ 30-40 บาท จะเห็นว่านาย ข.มีทองใส่เพื่มขึ้น ส่วนนาย ก.ผ้าขาวม้าคาดพุง
และหากความเป็นจริงอัตราเฉลี่ยดีเซลที่ทำได้ระดับ 20-24 กม./ลิตรล่ะ อัตราเฉลี่ยแก๊สที่ 28-36 กม./ลิตรล่ะ ตัวเลขคงต่างจากนี้ไปมาก เอาคร่าวๆแค่นี้ว่างๆจะทำตารางเปรียบเทียบกันแบบเต็มๆให้ดูกันครับ

โอ้โฮ! ยกตัวอย่าง อย่างนี้ เห็นภาพชัดเจนขึ้นเยอะ อยากจะไปติดเดี๋ยวนี้เลยครับ
เหมาะมากกับคนตังน้อยอย่างผม กำลังเก็บตังอยู่ครับ อีกอย่างอยู่ไกลด้วย เด๋วหาเวลาดีๆก่อนครับ จะไปเยี่ยมอาจารย์แน่ๆ

[Nuk_Black-Triton]

อยากไปติดมั่งจังครับ

จัดไปครับ น้ามาถูกทางแล้ว

[MEAW_SAN]

จัดไปครับ น้ามาถูกทางแล้ว

ตอนนี้สภาพการเงินยัง " เปราะบางอยู่ครับ"
ต้องรอก่อนครับ เอ้า อัพให้ครับ

[Nuk_Black-Triton]

ตอนนี้สภาพการเงินยัง " เปราะบางอยู่ครับ"
ต้องรอก่อนครับ เอ้า อัพให้ครับ

ยิ่ง "เปราะบาง" ยิ่งต้องจัดครับ

เอาน่า เป็นรถหายากแล้วก็ต้องทำอะไรให้มันยากๆ จะได้เป็น

2.5 Cab Plus AT + LPG + ดันราง + กล่องคันเร่ง + OEM Timer

หลังการติดตั้ง แค่ลมพัด ก็วิ่งฉลุยครับ รถเบาๆ ประหยัดแน่ๆครับ

[MEAW_SAN]

ยิ่ง "เปราะบาง" ยิ่งต้องจัดครับ

เอาน่า เป็นรถหายากแล้วก็ต้องทำอะไรให้มันยากๆ จะได้เป็น

2.5 Cab Plus AT + LPG + ดันราง + กล่องคันเร่ง + OEM Timer

หลังการติดตั้ง แค่ลมพัด ก็วิ่งฉลุยครับ รถเบาๆ ประหยัดแน่ๆครับ

น้าลืม + ไฟเบรคอัจคัต + ประป๋องเออเอง ด้วยอ่ะ

[Nuk_Black-Triton]

น้าลืม + ไฟเบรคอัจคัต + ประป๋องเออเอง ด้วยอ่ะ

เออนั่นแหละ...

อยากเชียร์ให้น้าทำ เพราะจะได้เห็นๆว่า

ความแรง+ความประหยัด มันต้องไปด้วยกันได้

เอาเลยน้า ราคาไม่สน เอายอดอย่างเดียวเลย

เพราะรุ่นน้า ยังไม่มีในระบบครับ จัดไป อย่าช้า ...

[MEAW_SAN]

เออนั่นแหละ...

อยากเชียร์ให้น้าทำ เพราะจะได้เห็นๆว่า

ความแรง+ความประหยัด มันต้องไปด้วยกันได้

เอาเลยน้า ราคาไม่สน เอายอดอย่างเดียวเลย

เพราะรุ่นน้า ยังไม่มีในระบบครับ จัดไป อย่าช้า ...

จัดไปตานุ๊ค แค่นี้นะ ไปหาตังก่อนนนนน

[Kamo_007]

สัปดาห์นี้ น้ำมันขึ้นมา 2 ครั้งแล้ว รวมแล้วก็ 1.20 บาท/ลิตร ขยับไปใกล้ลิตรละ 30 บาทอีกแล้ว...

[Nuk_Black-Triton]

สัปดาห์นี้ น้ำมันขึ้นมา 2 ครั้งแล้ว รวมแล้วก็ 1.20 บาท/ลิตร ขยับไปใกล้ลิตรละ 30 บาทอีกแล้ว...

อย่างเซงครับ น้ำมันใกล้30 บาท

ย้อนไปเมื่อสักสิบปีก่อน สมัยขับแทกซี่ เติมน้ำมัน 95 ยังลิตรละ 10 บาทเอง

[Kamo_007]

อย่างเซงครับ น้ำมันใกล้30 บาท

ย้อนไปเมื่อสักสิบปีก่อน สมัยขับแทกซี่ เติมน้ำมัน 95 ยังลิตรละ 10 บาทเอง

โห..พี่นุ๊กครับ ย้อนหลังซะผมนึกไม่ออกเลย เอ หรือว่าเราอายุยังน้อยอยู่นะ..อิ..อิ...อิ

[boatania]

ผมติดกระป๋องดักใจ OEM มา มันจะมีผลอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์ไหม ถ้าผมติดแก๊สร่วมครับ

[Kamo_007]

ผมติดกระป๋องดักใจ OEM มา มันจะมีผลอะไรเกี่ยวกับเครื่องยนต์ไหม ถ้าผมติดแก๊สร่วมครับ

น้าว่าไม่เกี่ยวกันนะโบ๊ท...เพราะที่เราติดแก๊สน่ะ ทำงานกับระบบเชื้อเพลิงครับผม

ล่าสุดตอนนี้นะโบ๊ท รถน้าที่เติมน้ำมันเมื่อวันที่ 17 มิย ที่ผ่านมา ถึงตอนนี้ใช้นำมันไปได้ถึงขีดที่ 1 ก็คือ 1 ใน 4 นั่นแหละ วิ่งได้ระยะทางแล้ว 300 กิโลเมตรครับเป็นการใช้งานในกรุงเทพ สภาพการจราจรที่รถติดมากๆด้วยนะครับ.... พรุ่งนี้จะถ่ายรูปมาฝากครับ

[boatania]

น้าว่าไม่เกี่ยวกันนะโบ๊ท...เพราะที่เราติดแก๊สน่ะ ทำงานกับระบบเชื้อเพลิงครับผม

ล่าสุดตอนนี้นะโบ๊ท รถน้าที่เติมน้ำมันเมื่อวันที่ 17 มิย ที่ผ่านมา ถึงตอนนี้ใช้นำมันไปได้ถึงขีดที่ 1 ก็คือ 1 ใน 4 นั่นแหละ วิ่งได้ระยะทางแล้ว 300 กิโลเมตรครับเป็นการใช้งานในกรุงเทพ สภาพการจราจรที่รถติดมากๆด้วยนะครับ.... พรุ่งนี้จะถ่ายรูปมาฝากครับ

ครับน้า ผมติดตามอยู่เรื่อยๆครับ

[TON_GAS]

อีซูซุ 2800 4x4 คันนี้ติดแบบเต็มอ็อปชั่นครับ 1.ชุดเซฟพลัสดีเซล ซึ่งมีตัวเพิ่มความร้อนน้ำมันดีเซลก่อนเข้าหัวฉีด และ ตัวเพิ่มอ๊อกซิเจนให้กับอากาศที่ดูดเข้าไป 2.ชุดผลิต Oxy-Hydrogen ที่ทำงานสูงสุดที่ไม่เกิน 15 Amp. ส่วนรอบเดินเบาประมาณ 4.5-5 Amp. 3. ติดตั้ง LPG เข้าไปอีกโดยใช้ถังขนาด 25 ลิตรวางใต้รถแทนยางอะไหล่ หม้อต้ม Shap ตัวเก่งครับ ตั้งเป้าให้ได้ 17-18 โลลิตรครับ เพราะเคยทำเครื่องตัวเดียวกันแต่เป็น 4 ล้อเล็กบรรทุกของได้ถึง 17 โลลิตรมาแล้วโดยไม่มีชุดผลิต Oxy-Hydrogen ปรับจูนแบบคร่าวๆในครั้งแรก กดคันเร่ง 1500 รอบนิ่งๆแล้วเปิดระบบปรากฏว่ารอบขึ้นไปถึง 2500 รอบ ซึ่งแรงไปมากสำหรับการปรับจูนแก๊ส จึงต้องเปลี่ยนอุปกรณ์คุมเก๊สใหม่ให้จ่ายน้อยกว่านี้อีก ก็ได้ดังคาดครับ ในครั้งที่สอง รอบเครื่องขึ้นมาแค่ 2000 รอบต่อนาที ในขณะที่เราได้ทำการลดน้ำมันไว้แล้ว ลองเปิดแอร์แล้วขับรอบหมู่บ้าน คันเร่งเบามากกดนิดเดียวพุ่ง ไม่มีเสียงแกร๊กของเครื่อง และไม่มีกลิ่นแก๊สออกท่อไอเสียครับ เอาไว้รอผลความประหยัดครับ อาจใช้เวลาสักหน่อยเพราะ Oxy-Hydrogen เป็นตัวแปรสำคัญมาก ถ้าปรับจนพอดีมันจะประหยัดทั้งน้ำมันและแก๊สและได้กำลังเครื่องยนต์ที่ดีมากครับ

เจ้าของรถรายงานมาแล้วครับวิ่งในเมืองได้ 15.3 กม./ลิตร และล่าสุดใช้เส้นทางกรุงเทพ - ลพบุรีไปกลับใช้ความเร็วประมาณ 100-110 ได้ความประหยัดที่ 18.3 กม./ลิตร แก๊สกินที่ 15.1 กม./ลิตร ข้อมูลที่ได้จากหน้าปัดไมล์ของรถครับ ซึ่งเจ้าของรถใช้ยาง 31 นิ้ว หน้ากว้าง 10.5 นิ้ว ระยะทางในความเป็นจริงมันไกลกว่านี้อีกครับเพราะยางเดิมแค่ 29 นิ้วเอง ผมแนะนำให้ลดการจ่ายแก๊สลงอีกไว้ได้ผลเช่นไรจะรายงานอีกทีครับ

[triton salon]

น่าสนใจมากๆอย่างนี้ต้องลอง