ว่าจะเอาเจ้าตั้นไปติดกรองแอร์..แต่ศูนย์บอกว่าติดแล้วแอร์จะเบากว่า เดิม ..รบกวนพี่ๆ น้าๆ ผู้รู้ให้คำแนะนำด้วยครับ...
ว่าจะเอาเจ้าตั้นไปติดกรองแอร์..แต่ศูนย์บอกว่าติดแล้วแอร์จะเบากว่า เดิม ..รบกวนพี่ๆ น้าๆ ผู้รู้ให้คำแนะนำด้วยครับ...
แน่นอนน้า เบากว่าเดิมแน่ๆ แต่ผมเลือกเอาสุขภาพคน กับสุขภาพคอย์เย็นของแอร์ครับ ถ้าไม่ติดกรองแอร์ คอย์เย็นจะสกปรกขนาดใหน มีกระทู้เก่าอยู่หาอ่านดูครับ
เบากว่าครับ ปัจจุบันผมถอดออกแล้วครับ ว่าจะทำแบบเป็นกล่องแล้วเอากรองแอร์บ้านมาวางน่าจะแรงกว่าครับ
ดี..... หายใจเต็มปอด สุขภาพดีทั้งคนทั้งรถ
เสีย...ความแรงของแอร์ลดลง เสียเงินนิดหน่อย(แต่สุดคุ้ม)
แนะนำ...รีบไปติดให้ไว ไว ไวที่สุด เชื่อผมมม
ข้อดี
1.แอร์สะอาดขึ้น แต่มันไม่ได้กรองอากาศครับ ฉะนั้น ปอดคุณ เหมือนเดิมครับ เพราะมันกรองแค่สิ่งสกปรก
2.ยืดอายุการใช้งาน คอยล์เย็นได้นานขึ้น
ข้อเสีย
1.ลมออกน้อยกว่าเดิม แน่นอน ต้องเปิดแอร์แรงขึ้น อายุการใช้งานพัดลม สั้นลง
2.โอกาสที่คอยล์เย็นจะเป็นน้ำแข็งมีมากกว่าเดิม โอกาสผุ มากกว่าเดิม (รถที่ใส่กรองแต่ไม่ล้างแอร์)
3.ระบบแอร์อัตโนมัติ ทำงานเปลี่ยนไป จะสั่งลมแรงขึ้น
4.เสียเงิน และต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา
สรุป .... ทำภายในรถให้สะอาด ปราศจากฝุ่นละออง ล้างรถ ดูดฝุ่นบ่อยๆ ทำความสะอาดเบาะนั่งประจำ
กรองแอร์ไม่จำเป็นหรอกครับ พัดลมไฟฟ้า ยังน่าใส่กว่ากรองแอร์เลย
ใส่แล้วเวลาเปิดแอร์แล้วไม่มีกลิ่นเหม็น รบกวนใจครับ สบายใจใส่เลยครับ ลองใส่แล้วเปรียบเทียบดูครับ
ใส่กรองดีครับ กรองจาก0 เนื้อมันเป็นกระดาษคล้ายๆ กรองน้ำมันครับ
ทำให้ลมแอร์เบากว่าเดิมเยอะเลย ผมกะเปลี่ยนเป็นกรองคล้ายๆ กรองแอร์บ้านครับ รอว่างๆก่อนค่อยทำครับ อิอิ
เป็นคนใช้รถปกติ ทิ้งๆขว้างๆ ก้อใส่ไปก่อนดีกว่า ครบระยะเปลี่ยน ราคาไม่ได้แพงมากมาย คนเรากินข้าวกันมื้อนึงเดี๋ยวนี้แพงกว่าอีก กินแล้วก้ออึออกมาหมด
นอกจากเป็นพวกรักความสะอาดจัด ดูดฝุ่นทุก 3 วัน ก้ออีกเรื่อง
ใส่เถอะครับ เพื่อรถเพื่อตัวเอง แค่เหยียบพื้นก้าวขึ้นรถ ก็มีเศษฝุ่นแล้วครับ
ถ้าขยันดูดฝุ่นทุกวัน อันนั้นก็ว่าไปครับ ไม่จำเป็นต้องใส่
อีก 1 เสียงที่ใส่กรองแอร์ครับ....ผมดูดฝุ่นเองอาทิตย์ละครั้ง ผ่านไปสองเดือนถอดกรองออกมาเป่า ฝุ่นเยอะมาก
ทำทั้งสองอย่าง ครับ ทั้งใส่กรองและดูดฝุ่น (ลมแอร์ไม่ได้ตกมากมายครับ) ดูดิมันจะสกปรกซักแค่ไหน
ผมก็ใส่มาแล้วครับพัดลมแอร์ก็เบานิดหน่อยแต่ดีกับสุขภาพเรา ล้างรถเดือนละครั้งเอง
ก็ล้างบ่อยๆ นะครับจะได้ไม่ตั้น แล้วต้องแรงพัดลม หรือไม่ก็เปลี่ยนบ่อยๆ ที่ 1หมื่นโลไปเลยครับ ยังไม่ทันตัน ถอดมาเป่า ตอนสามพันห้าพัน แล้วแต่ ตามสะดวกนะครับ
ผมว่าใส่ดีกว่าครับ ช่วยได้เยอะทั้งสุขภาพของคนในรถและตู้แอร์อย่างในรถเก่งอีกคันของผมไม่มีกรองแอร์ ใบไม้เล็กๆปลิ้วออกมาและก็ไอ้ที่ออกไม่ได้ติดตามช่องแอร์อีกเพียบ ฝุ่นก็เยอะ
อย่างไทรทันเมื่อก่อนผมก็ซื้อกรองแอร์มาใส่แต่ตอนนี้ผมว่ามันแพงเกินไปอันล่ะต้อง 400 กว่าบาท เลยเอากรองแอร์บ้านมาใส่แทนแล้วเอาแผ่นกรองของมิสเตอร์สมาร์ทขั้นกลางอีกที (ตอนนั้นที่น้านนท์ทำกล่องใส่กรองแจกขอไม่ทัน หมดซะก่อน เลยอด)ก็พอใช้ได้ครับ ลมก็ออกมาแรงกว่าใส่กรองแอร์ของศูนย์ครับ
ใส่แล้วลมเบาลงหน่อย แต่ดีต่อรถและคนขับ
ลองใช้กรองแอร์นี้ดูครับ ดีกว่าของศูนย์
http://www.thaitritonclub.com/forum/showthread.php?t=42
งุงิงุงิ อิอิ ของผมแทบไม่รู้สึกเลยว่ามันเบาลง เพราะใส่จาก 0 ตั้งกะป้ายแดง
แต่มันก็เย็นจับใจแม้พัดลมเบอร์ 1 และปรับเท็มแค่ 9 นาฬิกาที่เย็นจัดก็เนื่องจากผมเป็น คนจนครับ ขับพลัสแค็ป เง้อออออ ปริมาตรห้องโดยสารมันน้อยยยยยยยยยยยยมาก อิอิ
ข้อเสียแอร์เบาลง อยู่ที่คุณภาพของตัวกรอง เสียเงินเพิ่ม ได้ลื้อรถ
ข้อดี อากาศที่เราและเพื่อนร่วมเดินทางสูดเข้าใขขณะขับรถสะอาดขึ้น ยืดอายุคอยด์แอร์ แอร์เย็นนานกว่ารถที่ไม่ได้ใส่กรอง ยืดระยะเวลาการล้างแอร์ ช่วยลดปริมาณฝุ่นผงที่ลอยในรถและจับที่คอลโซล ที่แน่ๆ เพื่อสุขภาพครับ อิอิ ใส่ไปเถอะครับ ยังไงก็ดีกว่าไม่ได้ใส่อยู่แล้ว ถ้าท่านเห็นฝุ่นที่มาจากกรองรถของท่านเองก็จะถึงบางอ้อเองแหละ อิอิ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks