ผมวิ่ง ได้ ราว ๆ 300 กิโล เอง เคยเห็นว่า เฉลี่ยกินกัน 1.3-1.8บาท/กิโล
ของผมเนี่ยติด 1.8-2.0บาท/กิโล เลยนะครับ
ขับ 120-140 ครับ เวลารีบ ๆ ก็ไหลไป อาจจะ 160 ครับ
อยากรู้ว่าผิดปรกติมั๊ยครับ
ผมวิ่ง ได้ ราว ๆ 300 กิโล เอง เคยเห็นว่า เฉลี่ยกินกัน 1.3-1.8บาท/กิโล
ของผมเนี่ยติด 1.8-2.0บาท/กิโล เลยนะครับ
ขับ 120-140 ครับ เวลารีบ ๆ ก็ไหลไป อาจจะ 160 ครับ
อยากรู้ว่าผิดปรกติมั๊ยครับ
ของผมวิ่งได้ 400 โล หมดไฟแดงกระพริบ เติม 500 บาทไม่น่าจะเต็มถัง ลิดรละ 11.60 ขับแค่ 90-110 พอดีถนนแถวบ้านไม่ค่อยดีอ่ะครับ
โห กิโล ล่ะ 1.25 เองเหรอ โครตถูกเลยแฮะ
ครับใช่ครับขับแบบเรื่อยๆนะครับไม่กระชาก
ประมาน 380 km 1.3-1.4 ครับ 110-120km/hr
ยังยืนยันครับ 9 โลลิตรครับ ก็ 1.3 บาทครับ ด้วยความเร็ว ไม่เกิน 110 ครับ
แสดงว่าผมเป็นคนขับรถเร็วเหรอเนี่ย
ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย เวลาขับช้า ๆ แล้วมันง่วงจะหลับ นี่นา
งั้น Lpg ไม่ประหยัดอย่างที่คิดสิครับ ถ้าขับเร็วด้วย 120 - 140
ผมใช้ ดีเซล 28 บาท 15 โลลิตร
ก็ตกลิตรละ 1.87 บาท
และไม่ต้องเติม เบนซินด้วยเหมือน Lpg
และบำรุงรักษามากเหมือน Lpg
แรงบิดน่าจะได้มากว่า
ขอบทสรุปจากผู้รู้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
เข้ามาแลกเปลี่ยนครับน้า
ผมดีเซล วิ่งทางยาว กทม - หัวหิน 120 - 130 ใช้รอบเครื่องประมาณ 3,000 แช่ๆ ครับ บรรทุกคน 5 คน + ของหลังกระบะ รวมประมาณครึ่งตัน ขนาดยาง 215/55/17 เต็มถังจากกทม. - หัวหิน (เติมถึงคอถัง) และเที่ยวอื่นๆ กลับมาเติมที่ กทม.เต็มถังถึงคอถังเท่าเดิม นำระยะทาง (กิโลเมตร) หารเฉลี่ยด้วยจำนวนน้ำมัน (ลิตร) ได้ 15 กว่าๆ /ลิตร ครับ
ความประหยัดผมว่าเครื่องเดิมๆ ก็ประหยัดครับ (อยู่ที่เท้าและการขับขี่ สำหรับดีเซลพยายามไม่ลากรอบเครื่อง 2,000 รอบ ก็เปลี่ยนเกียร์) ส่วนเบนซินต้องลากรอบนิดนึงเพื่อเรียกแรง แต่ก็ไม่น่าเกิน 2,500 รอบ
ผมเคยใช้วีออส เกียร์ธรรมดา เอามาดม LPG (ระบบดูด) ถัง 58 ลิตร เต็มถังได้ 49 - 50 ลิตร ขับกลับบ้านที่พะเยา 690 กม. ถังเดียวถึงบ้าน เหลือวิ่งได้อีกนิดหน่อย (ใช้แก๊สเฉลี่ย 14 - 15 กม./ลิตร) ขับประมาณ 120 - 130 ใช้รอบไม่เกิน 3,500 รอบ แก๊สหัวฉีดบางคันได้ระยะทางน้อยกว่าผมครับ
ปล. ตอนนี้อยากกลับไปดมแก็สเหมือนเดิมครับ (แต่ด้วยราคาน้ำมันดีเซลขนาดนี้ + แรงบิดของเครื่องดีเซล ทำให้มันน่าคิดเหมือนกัน) แต่ถ้าน้ำมันเกินกว่า 30 บาท/ลิตร ก็ต้องเริ่มลดความเร็วลงแล้วครับ
ปล. ขับรถเร็วน้อยลงช่วยเราประหยัดเงินในกระเป๋า และปลอดภัยขึ้น โชคดีมีแฮงทุกท่านครับ......
สุดยอดครับน้า สเต็ปเท้าเยี่ยมไปเลย ผมว่าถ้าผมออกดีเซล
คงไม่จบแค่ 120-140 ครับ เพราะแรงบิดมันดี แล้วก็เร่งขึ้นไว
คงจะขับราว 140-160 แทน ดังนั้น เครื่องเบนซิน
ก็ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า พอสมควรครับ คือ บางที
พอออกตัวแล้วไม่แรง เร่งแล้วขึ้นช้า เพราะแรงบิดน้อย เลยขับช้าลงครับ
ก็ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นข้อดีหรือข้อเสียดี
ปล.ด้วยราคาน้ำมันดีเซลที่ไม่เกิน 30 บาท จะติด LPG
ก็ยังต้องรอกันไปยาว ๆ ครับ กว่าจะคุ้มทุน ถ้าจะให้คืนทุนเร็ว ต้อง NGV ครับ
นึกถึงตอนใช้คันเก่าแล้วเติมแก๊ส เทียบกับตอนนี้ใช้ดีเซลแล้วเติม B5 (ตอนจ่ายตังค์) คนละอารมณ์กันเลยครับ
จริงๆ แล้ว ผมจองตัวเบนซินเมื่อกลางเดือน ก.ค. 53 ที่ผ่านมา (กะเอามาดม LPG) ครับ แต่เนื่องจากสำนักงานใหญ่โทรมาเลื่อนรับรถกลางเดือนตุลาฯ 53 ทำให้รอไม่ไหวครับ (ไม่มีรถใช้) เลยต้องจำใจใช้ดีเซล
อุตสาห์โทรไปเพื่อจองคิวติดตั้งแก๊สไว้เรียบร้อย แถมไปซื้อตัวติดรถ LPG (สีเงิน) กะว่าจะมาติดท้ายรถ แถมจะติดสติ๊กเกอร์ LPG network of Thailand ด้วยซะหน่อย แต่ Mmth ทำให้ฝันผมสลายหมดเลย วางแผนต่างๆ ไว้ ก็พังครืนล้มไม่เป็นท่า
นี่ถ้าขืนรอตัวเบนซินนะ ป่านนี้ก็คาดว่าจะยังไม่ได้รับรถอย่างแน่นอน เนื่องจากอาทิตย์ที่แล้วโทรไปหาเซลล์เรื่องป้ายทะเบียน ก็เลยถามถึงตัวเบนซิน และได้คำตอบว่า ในรอบของผมที่จองนั้น ต้องเลื่อนการรับรถไปกลางเดือน พ.ย. (มรึง ! เลื่อนเอาอีกแล้วเหรอเนี่ย....)
ช่วงนี้เบนซินมีแต่กระบะตอนเดียวที่ทยอยออกมาครับ......
สาวก LPG ที่จองเบนซินเพื่อมาติดแก๊สก็ต้องรออีกหน่อยครับ
ส่วนสาวก CNG ก็ต้องรออีกพักใหญ่ครับ
ส่วนผมถ้าย้อนเวลาได้ ผมจะยอมนั่งรถเมล์มาทำงาน เพื่อรอตัวเบนซินครับ....
500 บ. 400 โล ครับ 100-120 >>140-160 บ้างเวลาโดนดูดตูด.....
หุหุหุ....อย่าให้ราคาแก๊สขึ้นเลยยยย...ถ้าขึ้นคงจะพอๆกับ E85
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks