ไม่เคย เข้ามาตอบเลยกระทู้นี้ ตรูจะโดนรุมมั้ยนี่ ...
ถ้าเป็นผม นะ ตามสูตรเลย
1.หม้อสุญญากาศ 2.ออยน้ำมันระบบอากาศ 3.อินเตอร์ดีดีสักอัน
4.คูลเบิ้ล 5.พัดลมแหล่ม
แนะนำได้แค่นี้เองครับ
ไม่เคย เข้ามาตอบเลยกระทู้นี้ ตรูจะโดนรุมมั้ยนี่ ...
ถ้าเป็นผม นะ ตามสูตรเลย
1.หม้อสุญญากาศ 2.ออยน้ำมันระบบอากาศ 3.อินเตอร์ดีดีสักอัน
4.คูลเบิ้ล 5.พัดลมแหล่ม
แนะนำได้แค่นี้เองครับ
ข้อมลูเยอะจิงๆคับน้านุ๊ก ผมไปเบิ้ลคูลแล้นล์บ้างดีกว่ากันไวก่อน ขอบคุณคร๊าฟฟฟสำหรับข้อมูล
ก็ดูกันไป เพราะผมรู้สึกว่า ระบบภายในมันก็เป็นเหล็ก อ่ะนะ
เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวเย็น ผมว่า มันจะผิดรูปเอาได้เหมือนกัน
อยากให้มันนิ่งๆ ดีที่สุด
และแนะนำเพิ่มเติม สำหรับรถแรงๆ ทั้งหลาย ไหนๆ ก็โมกันได้มาถึงเพียงนี้
ความสะอาดของหน้าแผง ก็สำคัญ ทำความสะอาดบ่อยๆ ก็ดีครับ
รู้หรือไม่ว่า (สำหรับคนชอบระบบไฟฟ้า)
1.เมื่อดับเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะคูลดาวน์ มาแค่ไหนก็ตาม
หลังการหยุดเครื่องยนต์ ระบบระบายความร้อน ก็ไม่มีการไหลเวียน
2.เมื่อไม่ไหลเวียน จะเกิดความร้อนสะสมมากบริเวณฝาสูบ ซึ่งไม่ได้มีการระบายความร้อน
3.เมื่อน้ำมีอุณหภูมิสูง จะเกิดแรงดันสูง มาที่หม้อพักน้ำ และเกิดการขยายตัว (มวล)
4.หม้อน้ำ อยู่นอกระบบเครื่องยนต์ ฉะนั้น มันจะเย็นก่อนเครื่องยนต์
5.เมื่อนั้น เมื่อแรงดันลดลง ก็จะเปลี่ยนเป็นแรงดูด กลับเข้าเครื่องยนต์ ให้เป็นภาวะปกติ
เราควรใส่ใจจุดนี้กันด้วย ด้วยการนำเทคโนโลยีล้าสมัยของรถฝั่ง มาใช้กัน
กล่าวคือ สำหรับท่านที่เพิ่มพัดลมไฟฟ้า 2 จังหวะมาแล้วนั้น
หลังการดับเครื่อง ให้พัดลมทำงานต่อไป ที่จังหวะ 1 เป็นเวลาประมาณ 10-20 นาที
ในรถฝรั่ง มันจะทำงานแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าอุณหภูมิลดลงถึงจุดที่ไม่เป็นอันตราย
แล้วมันจะดับไปเองอัตโนมัติ
สำหรับรถเราไม่ได้มีระบบนี้ แต่ดันตัวร้อนเหมือนรถฝรั่ง ก็ควร Diy มาใช้งานกันมั่ง
ระบบนี้ ได้ปรึกษา วิศวกรประจำตัว ที่ทำงานย่านพระราม 3 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เจ้านี้ คิดค้นในทางลับ กับระบบ คูลลิ่งให้รถเราๆท่านๆ กันอยู่ และได้ติดตั้ง (บางส่วน)
ไปกับรถเขาเองเป็นที่เรียบร้อย
อย่างว่าหละนะ รถคันตั้งแพง ก็ต้องรักเป็นธรรมดา
ไม่พอครับน้า
ถ้าจอดรถแล้ว (เมื่อหยุดใช้แล้ว หรือจอดนานๆ)
ผมเห็นในรถยุโรป มันทำงานต่อไปอีกประมาณ 15 นาที
ทำงานแบบ เบาๆ นะครับ ไม่ได้หมุนเอาเป็นเอาตาย
เรื่อยๆ เบาๆ นิ่มๆ พอความร้อนลง ก็หยุดเองครับ
แต่รถเราไม่มีระบบนี้ อาจต้องพึ่งพาวงจรสำเร็จรูปต่อเอาอ่ะครับ
แต่ผมรับรองว่า ระบบนี้ มีประโยชน์ในระยะยาวแน่นอนครับ
ให้เทคนิคไปแล้ว เรื่องระบบไปจัดการเอาเองนะครับ ผมทำไม่เป็น
และควรที่จะต้องหาพัดลมแบบ 2 จังหวะ จะดีกว่าครับ
กล่าวคือ ในตอนที่ต้องการระบายความร้อนอย่างเร็ว ก็ 2
เมื่อดับเครื่องไปแล้ว ก็ 1 แบบเบาๆเลย
ในระบบนี้ ถ้าเป็นรถฝรั่ง ทำงานอัตโนมัติ ตามอุณหภูมิ
ถ้าเป็นรถญี่ปุ่น จะทำงานเมื่อกุญแจ อยู่ตำแหน่ง ACC หรือ ON เท่านั้น
โดยควบคุมจาก Temp Sensor เป็นหลัก ไปสั่งการ ECU ให้พัดลมหมุน ตามจังหวะที่
เหมาะสมครับ ถ้าเป็นรถเรา ก็ต้องหาวงจรมาทำเอง แล้วแต่ Know Hour แต่ละคนครับ
มีอะไร อยากให้แบ่งปันกันครับ แม้ทุกวันนี้ ไม่ได้ใช้ไทรทันแล้ว ก็ยังเข้ามาอยู่เสมอครับ
แย่เลยของผมมันจังหวะเดียวซะด้วยซิ หมุนแบบเอาเป็นเอาตายเลยล่ะ.....สงสัยต้องแก้ทางอื่นทำแบบที่น้านุ๊กว่า ให้มันทำงานตาม Temp Sensor ขอบคุณนะคับน้านุ๊กสำหรับข้อมูล
พังกันเยอะมั๊ยเนี่ย หลายคันเหมือนกันเน๊อะ
ค่อยๆขับก็ได้ น้าเล้ง
ว่างๆ แวะมามั่งละกัน
5555+ คับๆๆ
สวัสดีครับน้า พอดีว่าพึ่งโพสได้ครับน้า
รถผมคันที่น้าวุฒิเอามาลงอ่ะครับ น้ำดันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
สงสัยต้องหาทางทำอย่างน้านุกบอกเอาไว้แล้วอ่ะครับ ไม่งั้นมันก็จะกลับมาเป็นอีก ตอนนี้กดเป็นไม่ได้ต้องขับไม่เกินร้อยตลอดเลยอ่ะครับ
ถ้ากดเมื่อไรน้ำดันออกความร้อนพุ่งขึ้นทันทีเลยครับ
ถ้าว่างคงต้องเอาไปให้น้าโย่งเปิดฝาอีกรอบอ่ะครับ
ส่วนเรื่องวาล์วน้ำของ a32 ผมว่าเวลามันเย็นก็เย็นเกินไปหน่อย
แต่เวลาซัดบางทีความร้อนมันก็พุ่งขึ้นไปเกือบร้อยถึงลดอ่ะครับ
เวลามันลดมันก็ลดเร็วเวอร์อะครับ
เหมือนมันคุมอุณหภูมิไม่ค่อยนิ่ง
(หรือว่ามันเป็นแต่รถผมคนเดียวก็ไม่รู้ครับ)
ตอนนี้ก็เปลี่ยนมาใช่ของเดิมละครับ
ผมว่ามันคุมอุณหถูมิได้นิ่งกว่าอ่ะครับ
พัดลมไฟฟ้าก็น่าสนใจนะครับถ้าอยากทำ temp control เดี๋ยวผมจะลองเขียนโปรแกรม MCU มาควบคุมโดยเอาสัญญาณมาจาก sensor ECT เดี๋ยวต้องวัดค่าต่างๆดูก่อนว่าจะควบคุมยังงัยแต่คอนเซ็ปน่าจะเป็นแบบเมื่ออุณหภูมิน้อยกว่า xxx 'C สัญญาณไฟฟ้า=xxxV.ให้พัดลม run แบบ slow แต่เมื่อ temp มากกว่า XXX 'C สัญญาณไฟฟ้า XXX V ก็ให้ run fast ไปคงต้องให้เวลาและหาอุปกณ์กันนิดนึง
จะเล่นพัดลมไฟฟ้าตรงไหนน้าจีพัดลมใหญ่เหรอ ผมว่าให้ใหญ่กว่านี้ก็ไม่ทันครับน้า
มีบางท่านที่ผมเห็น ปลดสายพานพัดลมออกทำพัดลมไฟฟ้ามาแทนก็ดีนะครับ
แต่ที่ลดได้แน่ๆและไม่กระทบกับเครื่องให้ ใส่หม้อน้ำโลมิเนี่ยมดีที่สุดเอาใหญ่ๆเลยอยู่แน่ๆ
เอาใบใหญ่เลยนะน้า รอชมด้วยคนครับ เครื่องยนต์น่าจะตัวเบาขึ้นนะครับ ไม่ต้องเสียแรงให้กับ พัดลม แล้วต้องความเร็วเท่าไหร่อ้ะน้า
อีกส่วนหนึ่งที่จะขาดไม่ได้
การเพิ่มความดัน เช่นฝาหม้อน้ำเป็น 1.1 ก็จะป็นการเพิ่ม จุดเดือดให้สูงขึ้นไปในตัวด้วยครับ
ในส่วนวาวล์น้ำเปิดเร็วเท่าที่มองตอนนี้ สำหรับรถที่เดิมๆ อย่างผม เป็นตัวเลือกแรกๆที่น่าลงทุน
ฝาหม้อน้ำใหม่เพิ่มจุดเดือด ไม่กี่ตังค์(กำลังหาของเล่นอยู่)เคยใส่ e-car 1.1
การเพิ่มจุดเดือดให้เร้นท์สูงขึ้น กดยาวๆเร็วๆ อุหภูมิยังขึ้นไปเกือบร้อย แต่สามารถลงมาได้เร็ว
ทำไมลงมาเร็วสังเกตุกันดีๆรถเปลี่ยนวาวล์น้ำจากเดิม 89-91ไปเป็นร้อยหรือร้อยกว่า(จุดเดือด น่าจะราว110-120) ไม่คอนเฟิร์ม
จากที่ลองมา 91-97 นั้น มองดูรวมโอเค แต่ลองดูยาวๆ 97 ไม่ยอมลง ทั้งๆที่วาวล์น้ำมันทำงานตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว 82.5 แต่ความร้อน ที่เห็นแกว่งค่อยๆลงอาจจะเป็นเหตุผลการหล่อเย็นในรถธรรมดา(หม้อเดิม หล่อเย็นห่วย)
วาวล์น้ำใหม่ในรถโมกล่อง ดีเชลค่าความร้อนสูง ยิ่งเพิ่มยิ่งร้อนแล้วมันไปไหน มันไปรอบกระบอกสูบ แต่ต้องรออุหภูมิถึงจุดที่วาวล์น้ำทำงานแล้วมันจะปล่อยออกไปที่หม้อน้ำแล้วเอาน้ำในหม้อน้ำที่เย็นมาวนในกระบอกสูบใหม่
แต่วาวล์เก่าเกิดอะไรขึ้นมันรอน้ำในเครื่องขึ้นไปถึงตัวมันที่พร้อมจะเปิดแต่แล้วเกิดอะไรขึ้นน้ำรอบเครื่องร้อนแสนเข็ญจากที่เราตะปี้ตะปันยัดน้ำมันให้มันกินเข้าไป
มันคงบอก กูร้อนแล้วนะร้อนอย่างเร็วด้วย มึงจะเปิดทันป่าว
วาวล์น้ำเปิด......แต่เหมือนกรรมซัด น้ำร้อนมากเกิดการขยายตัววิ่งผ่านวาวล์น้ำอย่างเร็วไปดันน้ำในหม้อน้ำเข้ามา
มาที่เสือ้สูบทั้งที่มันยังร้อนๆอยู่ ไอ้น้ำร้อนที่อยู่หม้อน้ำมันก็ยังไม่เย็นลงเท่าไรมันก็โดนดันกลับเข้ามาอีก
อุหภูมิสะสมในระบบสูง.....กว่าจะลดต้องลดคันเร่งลง
หม้อน้ำเดิมๆใบกะเปี๊ยก อุปกรณ์ขวางทางลมเพียบ ถึงจะได้วาวล์น้ำเปิดเร็วอย่างเดียวคงไม่พอ
ยกตัวอย่างรถผม 81-83 ตอนนี้ วิ่งปกติรถติดมากหรือน้อย แกว่งแค่นี้ กดยาวขึ้นมาอีกหน่อย แต่ด้วยที่วาวล์มันทำงานเร็ว ระยะทางที่มันจะเดือดก็เลยมากขึ้น ลดคันเร่งนิดนึ่งมันก็ลงมาให้อยู่ในขอบเขตที่สบายใจ ทำใจเรื่องกินเพราะจับอัตรการสิ้นเปลื่องดีไม่เคยได้ตั้งแต่ออกรถ
ในอีกทางหนึ่งถ้าเราใช้วาวล์เดิมแล้วเพิ่มจุดเดือดของน้ำไปอีก โดยใช้ฝาหม้อหม้อใหม่ มันก็เป็นการเพิ่มจุดเดือด อีกทางหนึ่ง
เจาะวาวล์ก็คงไม่ใช่ทางออกที่ดีเพราะมันคุมอะไรแทบไม่ได้เลย
ข้อสังเกตุ รถที่ยังน้ำไม่ดันเปลี่ยนวาวล์ใหม่แล้วไม่ค่อยพบปัญหาหรือยังไงบอกหน่อย
ใครยังไม่ดันเปลี่ยนวาวล์เปลี่ยนฝาหม้อน้ำแล้วเป็นยังไงกันลองมาคุยหน่อย
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks