ผมได้ทำสัญญาค้ำประกันรถให้กับลูกน้องเมื่อพย.ปี50 แต่ลูกน้องผมได้ลาออกจากงานต่อมารถถูกยึด ซึ่งในวันทำสัญญาแฟนผมไม่ยินยอมและบอกให้ไปหาคนค้ำใหม่ แต่ทางไฟแนนช์ได้แจ้งว่าอนุมัติเรียบร้อยแล้ว และผมได้แจ้งกับจนท.ของธนชาติว่าหาก ผู้เช่าซื้อไม่สามารถผ่อนได้ผมยินดีจะนำรถคันดังกล่าวมาผ่อนต่อ ซึ่งผู้เช่าซื้อได้ติคค่างวดและทางสถาบันการเงินได้ มีหนังสือทวงถามมายังผม ตั้งแต่เดือนมีค.51ผมจึงได้ติดตามเพื่อไปเอารถแต่ทางผู้เช่าซื้อไม่ยินยอมผมจึงได้มาแจ้งให้กับทางธนชาติไปยึดรถ เพื่อที่จะได้นำมาให้ผมรับช่วงต่อ แต่เมื่อนำรถมาแล้วทางธนชาติไม่ได้แจ้งให้ผมทราบแต่อย่างใด โดยได้นำรถคันดังกล่าวไปขายทอดตลาด ซึ่งผมมาทราบเมื่อทางธนชาติได้มีหนังสือทวงถามส่วนต่างมายังผม และผมได้เข้าไปคุยกับทางธนชาติว่าผมยินดีจ่ายตามราคาที่ทางธนชาติต้องการขายแต่ต้องไปนำรถมาให้ผม ซึ่งในขณะนั้นทางธนชาติไม่สารถนำรถมาให้ผมได้ และบอกว่้าไม่เป็นไรเดียวผมจะจัดการลบออกจากระบบให้ และเมื่อปี51ได้มีบริษัทสำนักงานทนายความได้ไปหาผม ที่บ้านบอกว่า มาติดตามหนีคงค้างจากสถาบันดังกล่าวเนื่องจากเขาได้ไปประมูลหนี้เสียมาจากสถาบันดังกล่าวและผมก็ไดชี้แจงไปตามที่ผมได้คุยกับทางสถาบันการเงินในครั้งแรก ซึ่งทางบริษัทดังกล่าวก็บอกว่าอีกแล้วหรือธนชาติแล้วเรื่องก็เงียบหายไป จนวันที่10/12/53ผมก็ได้รับหมายศาลให้ไปพบจนท.ศาลภายในวันที่25/1/54เพื่อตกลงชดใช้หนี้ทั้งหมด หากผมไม่ไปผมจะมีความผิดข้อหาไหนครับและทำไมเขาไม่ไปติดตามเอากับผู้เช่าซื้อทั้งๆที่เขาสามารถติดต่อได้ พ่อแม่เขาก็อยู่ ผมควรทำอย่างไรดีครับตอนนี้ก็ทะเลาะกับแฟนตลอดจาก เหตุการณ์ดังกล่าว ทำอย่างไรมันจึงจะจบครับ ผมเดือดร้อนจริงๆเงินก็ไม่มีให้ ขอบคุณล่วงหน้าครับ(ผมทราบมาว่าพนง.ได้นำรถไปจำหน่ายให้พรรคพวกในราคาขาดทุน)
Bookmarks