สรุปผลการค้นหา 1 ถึง 14 จากทั้งหมด 14

กระทู้: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

  1. #1
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    1202
    Status
    Offline
    โพส
    74

    มาตรฐาน plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    หลักเกณฑ์การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก
    1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555
    2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน
    3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)
    4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)
    5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน
    6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
    7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
    8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี ไปแล้ว (เริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป)


    แนวทางการดำเนินงาน
    1.ผู้ซื้อรถยนต์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้
    - หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี
    - สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
    - สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)


    2.กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทาง บกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ


    3.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน


    4.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครอง รถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่


    5.กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป

    *** งงกับข้อ 3 รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab) ของเราเข้าข่ายหรือเปล่าครับ หรือว่าต้องไม่เกิน 1500 cc. เท่านั้น

  2. #2
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    1202
    Status
    Offline
    โพส
    74

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    เพิ่มเติม***ค้นไปค้นมาเจอจนได้......สรุปว่าปิคอัพที่ราคาไม่เกิน 1ล้านบาท ขอคืนเงินภาษีได้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังมิทราบครับ






    คลอดออกมาแล้วสำหรับมาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุน สำหรับสิ่งจำเป็นในชีวิตรถยนต์คันแรก (ภาษาราชการ) ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 ไฟเขียวอนุมัติการคืนภาษีรถคันแรกตามที่กระทรวงการคลังเสนอเรียบร้อยแล้วโดย มาตรการดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554-วันที่ 31 ธันวาคม 2555 ร่นเร็วจากเดิมที่จะเริ่มวันที่ 1ต.ค.2554

    "เชื่อว่าผลจากมาตรการดังกล่าวจะทำให้ภาคอุตสากรรมรถยนต์ขยายตัวและมียอด ขายรถยนต์ในปี 2555 เพิ่มขึ้น 5 แสนคัน เบื้องต้นได้ประมาณการภาษีที่ต้องคืนให้กับประชาชนเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3 หมื่นล้านบาท" นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวแถลง

    สำหรับหลักเกณฑ์และแนวทางดำเนินการในโครงการดังกล่าว มีดังนี้
    1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555
    2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน
    3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)
    4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)
    5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน
    6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
    7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
    8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี ไปแล้ว (เริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป)

    ส่วนแนวทางการดำเนินงาน
    1.ผู้ซื้อรถยนต์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2554 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้
    -หนังสือยินยอมสละสิทธิการโอนภายใน 5 ปี
    -สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
    -สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)


    2.กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทาง บกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิการโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ


    3.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน


    4.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครอง รถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ให้กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่


    5.กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป

    สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน www.excise.go.th

    ย้อนกลับมาดูรุ่นรถที่เข้าหลักเกณฑ์ตามประกาศของกระทรวงการคลัง ในส่วนของ"อีโคคาร์"ดู จะเข้าเกณฑ์หมด อาทิ รถที่ขายดีที่สุดของค่ายนิสสันอย่าง"มาร์ช" เครื่อง1,200ซีซี เกียร์ธรรมดา และออโต(CVT) ราคาอยู่ระหว่าง375,000-537,000บาท


    เช่นเดียวกับ"บริโอ"ของค่ายออนด้า ที่มีขนาดเครื่องยนต์1,200ซีซีเช่นเดียวกัน ราคาขายอยู่ระหว่าง 399,900-508,500 บาท

    นอกจากนี้ค่ายออนด้ายังมีตัวขายเพิ่มอย่าง"ฮอนด้า ซิตี้"เข้ามาเป็นตัวเลือกอีกคันด้วย เพราะมีเครื่องยนต์ตรงตามสเป็ก 1,500 ซีซี สนนราคาอยู่ระหว่าง574,000-644,000บาท

    เท่านี้ยังไม่พอ ฮอนด้ายังมี"แจ๊ซ"อีก1รุ่น เครื่องยนต์เดียวกับซิตี้ แต่ราคาจะแพงขึ้นอีกนิดหน่อย

    และหากอยากได้รถอเนกประสงค์แบบครอบครัว 6-7ที่นั่ง ฮอนด้า"ฟรีด"รุ่นต่ำสุดก็ยังอยู่ในเกณฑ์ เพราะใช้เครื่องยนต์1,500ซีซี ตัวเดียวกับซิตี้ ราคาอยู่ที่894,000-914,000บาท ส่วนรุ่นท็อปจะทะลุหลักล้านบาทไปแล้ว

    สำหรับค่ายมาสด้ามีรถที่โดนใจวัยจ๊าบอย่าง"มาสด้า2"เป็นรถธง เลือกได้หมดทั้งรุ่นแฮทช์แบ็ค และ4 ประตู เพราะใช้เครื่องยนต์1,500 ซีซี ราคาอยู่ระหว่าง535,000-690,000บาท

    ส่วนค่ายใหญ่อย่าง"โตโยต้า"ก็เข้าเกณฑ์หลายรุ่น ทั้งรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง อย่าง"อแวนซา" ในส่วนของเครื่องยนต์เบนซิน1,500ซีซี ราคาอยู่ระหว่าง 579,000-704,000บาท

    ตามมาด้วยรถยอดฮิตอย่างเก๋งเล็ก"วีออส" เครื่องยนต์1,500ซีซี เช่นกัน ราคาอยู่ระหว่าง574,000-714,000บาท นอกจากนี้ยังมี "ยาริส" อีก1รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์1,500ซีซีเช่นเดียวกัน ราคาอยู่ระหว่าง539,000-714,000บาท

    ค่ายเชฟโรเลตมีรุ่นเก๋งเล็ก"อาวีโอ" แต่จะเป็นรุ่น1,400 ซีซีเท่านั้น เพราะรุ่น1,600ซีซีไม่เข้าเกณฑ์ ราคาอยู่ระหว่าง555,000-658,000บาท

    นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกอย่าง "เฌอรี่" จากจีนแดงของค่ายไทยเฌอรี่ยานยนต์ เช่นรุ่นQQ เครื่องยนต์1,100ซีซี ราคาอยู่ระหว่าง 379,500-422,500บาท ส่วนรุ่นเอ1 เครื่องยนต์1,300ซีซี ราคา438,000บาท


    ขณะที่ "โปรตอน" ของค่ายพระนครโอโตเซลส์ มีรุ่นที่เข้าเกณฑ์คือSAGA เครื่องยนต์1,300ซีซี ราคาอยู่ระหว่าง399,000บาท-464,000บาท และ"แซฟวี่" 5 ประตู เครื่องยนต์1,100ซีซี ราคาอยู่ระหว่าง399,000-469,000บาท

    อย่างไรก็ตามผู้สันทัดในวงการรถยนต์แย้งว่า ฟรีด เฌอรี่ แซฟฟวี่อาจไม่เขาเกณฑ์เพราะเป็นรถนำเข้า ไม่ได้ผลิตในประเทศ แต่หลายรุ่น หลายยี่ห้อที่กล่าวมาตอนต้นก็มีมากมายให้เลือกได้อย่างจุใจอยู่

    ส่วนรถกระบะหรือปิคอัพ เนื่องจากไม่จำกัดซีซีเครื่องยนต์ เรียกได้ว่าเลือกได้ทุกยี่ห้อ และเกือบทุกรุ่น (ถ้าไม่ใช่รุ่นท็อปสุด เพราะบางยี่ห้อรุ่นท็อปสุดเกิน1ล้านบาทไปแล้วก็มี) ทั้งโตโยต้า แชมป์ อีซูซุ ดีแมกซ์ มิตซูบิชิ ไตรตัน นิสสัน นาวารา มาสด้า บีที-50 ทาทาปิคอัพ เชฟโรเลต เป็นต้น

  3. #3
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2009
    User ID
    4942
    Status
    Offline
    โพส
    45

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    เงินเดือน 15,000 บาท ได้คืน ภาษีเท่าไร ใครมีวิธีคิด ช่วยทีครับ ผมงง กับวิธีคืนภาษีจัง

  4. #4
    shadamyen
    ผู้เยี่ยมชม

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    ที่ผมทราบ การคืนภาษีไม่เกี่ยวกับเงินเดือนเลยครับ
    ภาษีที่ได้คืนมันเป็นภาษีสรรพสามิตรถยนต์คันนั้นๆ ข้อมูลบอกว่าถ้ารถกระบะ ภาษี12% ของราคารถครับ เงินที่เราจะได้รับคืนก็คือเงินส่วนนี้ครับ
    แล้วเงินภาษีที่จะได้คืน จะได้เป็นเช็คครับ เหมือนเช็คช่วยชาติในยุครัฐบาลที่แล้ว

  5. #5
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Dec 2010
    User ID
    14982
    Status
    Offline
    โพส
    242

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    ขยายให้จากที่ไปหาข้อมูลมาครับ
    - ระยะเวลาตั้งแต่ 16 ก.ย.54 ถึง 31 ธ.ค.55
    - รถที่เข้าข่ายก็ 3 ประเภทใหญ่ๆ คิดง่ายๆ
    1.รถเก๋ง ไม่เกิน 1500 ซีซี. ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท (เช่น วีออส, ยาริส, อัลติส, ฮอนด้าซิตี้, และจำพวก ECO Car ฯลฯ)
    2.รถปิคอัฟ ไม่จำกัดซีซี ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท
    3.รถปิคอัฟ 4 ประตู ราคาไม่เกิน 1 ล้าน (ปาเจโร่ตัวถูก ไม่เข้าข่ายครับ)
    - คนซื้อ ต้องอยู่ในระบบภาษี คือ ที่ต้องยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีน่ะแหละ เช่น ข้าราชการ, ลูกจ้างบริษัท ฯลฯ เงินเดือนเท่าไหร่ไม่เกี่ยว ถ้าไฟแนนซ์ผ่านก็ใช้ได้

    ส่วนที่ว่าได้คืนเท่าไหร่ ....แต่ละคันไม่เท่ากัน เช่น
    วีออส รุ่น J/AT ราคาประมาณ 550,000.- ได้คืนประมาณ 8 หมื่นกว่านิดหน่อย แต่ถ้ารุ่น G ก็ ได้ 1 แสนเลย (จริงๆมันมากกว่านั้น แต่ได้แค่นั้น ไม่เกินแสน)
    ยาริส รุ่น J ก็ได้คืน 8 หมื่นปลายๆ ถ้ารุ่น G ขึ้นไปก็ 1 แสน

    อ้อ...ไม่ได้คืนทีเดียวนะครับ ผ่อนจ่ายครับ
    ผมมีข้อสังเกตเพิ่มเติมคือ เวลาเราไปซื้อ ที่ไฟแนนซ์จะคำนวนเงินผ่อนต่อดอกเบี้ย จะเอาเงินยอดไหนมาคิดเป็นดอกเบี้ยที่เราจะต้องจ่าย อย่างเช่น วีออสคันนี้ เอายอด 550,000.- (สมมุติว่าหักเงินดาวน์แล้ว) เอายอดนี้มาจัดบวกดอกเบี้ย .......หรือว่า...เอายอด 470,000.- (ที่หักยอดคืนภาษีแล้ว) มาจัดเป็นยอดเงินผ่อน มันจะมีได้เปรียบเสียเปรียบอยู่ คิดให้ดีด้วยครับ ถ้าใครมีเงินสดเต็มๆในมือ (รวยอยู่แล้วว่างั้นเถอะ) ก็ได้อานิสงส์เต็มๆ รัฐบาลท่านให้
    ส่วนตัวผมที่ไม่ได้ใช้สิทธิ์คนมีตังค์ แล้วได้ส่วนลด.... เป็นมนุษย์เงินเดือนก็ต้องคิดต่อ ผมก็ต้องไปกู้สหกรณ์ หรือ กบข.แล้วเอาเงินสดมาซื้อ แบบนี้ประเมินแล้ว ผมยังเสียดอกอยู่ดี (แต่ถูกกว่าไฟแนนซ์) หักลบกับภาษีที่ได้คืน ก็ยังได้ลดอยู่ 30,000-40,000 บาท (ก็ยังดี) ส่วนใครจะมีลูกเล่นยังไงก็มาแนะนำกันบ้างนะครับ ....สวัสดีครับ...

  6. #6
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Aug 2011
    User ID
    21578
    Status
    Offline
    โพส
    26

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    แล้วรถกระบะได้คืนภาษีเท่าไหร่ครับ

  7. #7
    the_beat
    ผู้เยี่ยมชม

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ nu4388 ดูโพส
    แล้วรถกระบะได้คืนภาษีเท่าไหร่ครับ
    รถปิคอัฟ (cap) =3%
    รถปิคอัฟ 4 ประตู = 12%
    วิธีคิด รถปิคอัฟ 4 ประตู ราคา 757,000 / 12% = 90,840

  8. #8
    the_beat
    ผู้เยี่ยมชม

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ nu4388 ดูโพส
    แล้วรถกระบะได้คืนภาษีเท่าไหร่ครับ
    รถเก๋ง ไม่เกิน 1500 ซีซี. =17%
    รถปิคอัฟ (cap) =3%
    รถปิคอัฟ 4 ประตู =12%
    วิธีคิด รถปิคอัฟ 4 ประตู ราคา 757,000/12% = 90,840
    (ไม่แน่ใจว่าเข้าใจ ถูกหรือเปล่า)ครับ

  9. #9
    TTC-02122 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Oct 2010
    User ID
    14160
    Status
    Offline
    โพส
    4,187

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    ออกรถมาก่อน 1 ต.ค.54 ก็อดนะสิ เซงงะ

  10. #10
    สมาชิกถาวร: TTC-00254 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    61
    Status
    Offline
    โพส
    4,677

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ the_beat ดูโพส
    รถเก๋ง ไม่เกิน 1500 ซีซี. =17%
    รถปิคอัฟ (cap) =3%
    รถปิคอัฟ 4 ประตู =12%
    วิธีคิด รถปิคอัฟ 4 ประตู ราคา 757,000/12% = 90,840
    (ไม่แน่ใจว่าเข้าใจ ถูกหรือเปล่า)ครับ
    น่าจะตามนี้ครับ เมื่อวานดูข่าวเห็นเขาเอาตารางมาบอก เลยถ่ายรูปไว้ดูครับ

  11. #11
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    1202
    Status
    Offline
    โพส
    74

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    แล้วจะมีย้อนหลังให้หรือเปล่าน้อ

  12. #12
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Mar 2011
    User ID
    16179
    Status
    Offline
    โพส
    12

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    ตอบแบบนี้เข้าใจง่ายดีมากเลยครับแสดงว่าน้าเปนคนละเอียดดีมากครับ ddd ขอบคุณครับที่ให้ความกระจ่าง

  13. #13
    TTC-00290 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2008
    User ID
    601
    Status
    Offline
    โพส
    159

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555
    2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน
    3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)
    4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจา กต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)
    5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน
    6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
    7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
    8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี
    ผมว่าข้อ 1 กับข้อ 7 มันขัดกันนะครับ...มันจะถึง5ปีได้ไงครับ...งง

  14. #14
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    May 2011
    User ID
    18565
    Status
    Offline
    โพส
    217

    มาตรฐาน ตอบ: plus เราขอคืนเงินภาษีได้หรือเปล่าครับ

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ crazyman99 ดูโพส
    1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555
    2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน
    3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)
    4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจา กต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)
    5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน
    6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
    7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
    8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี
    ผมว่าข้อ 1 กับข้อ 7 มันขัดกันนะครับ...มันจะถึง5ปีได้ไงครับ...งง
    ก็คือว่าเราต้องออกรถตามข้อ1 คือ วันที่16 กันยายน 2554 (ไม่ใช่ 1 ตุลาคม 54 นะ)ถึงวันที่31ธันวาคม2555และต้องครอบครองรถคันนี้เป็นเวลาอย่าง5ปี ถ้าไม่ครบ ในข่าวที่ผมอ่านเจอเค้าบอกว่า ต้องคืนเงินแสนที่เค้าให้เรามา เพราะเราผิดข้อตกลง(อีกอย่างเมือได้เล่มแล้วเค้าจะประทับตราว่า ห้ามโอนภายใน5ปีครับ)

ข้อมูลกระทู้

Users Browsing this Thread

ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)

Bookmarks

กฎการโพสข้อความ

  • ท่าน ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขข้อความโพสได้
  •  
  • BB code สถานะ เปิด
  • Smilies สถานะ เปิด
  • [IMG] สถานะ เปิด
  • [VIDEO] code is เปิด
  • HTML สถานะ ปิด