หน้า 7 จากทั้งหมด 13 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
สรุปผลการค้นหา 121 ถึง 140 จากทั้งหมด 259

กระทู้: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

  1. #121
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 1 พฤษจิกายน 2555



    2013 Lexus LS
    เปิดตัว LS ใหม่ปรับโฉมใหญ่ พร้อมรุ่นไฮไลท์จากแผนก Lexus F

    บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์
    ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวรถหรู เลกซัส ตระกูล LS ใหม่ รุ่นปี 2013 ที่ได้รับการปรับปรุงรายละเอียดใหม่มากกว่า 3,000 จุด โดยมี 5 ทางเลือกรุ่นคือ LS460, LS460L แบบ 4 - 5 ที่นั่ง, LS600hL พลังไฮบริด และพิเศษสุดกับรุ่น LS460 F Sport ซึ่งเป็นการเปิดตัวเวอร์ชั่น F จากแผนก Lexus F เป็นครั้งแรกในไลน์ LS Series ระดับราคาตั้งแต่ 9.85 - 13.58 ล้านบาท

    LS Series พัฒนาขึ้นภายใต้ปรัชญา 'การแสวงหาความสมบูรณ์แบบ' หรือ 'The Pirsuit of Perfection' โดยตลอดทั้ง 4 เจนเนอเรชั่น LS มียอดจำหน่ายทั่วโลกแล้วกว่า 7.3 แสนคัน



    การออกแบบภายนอก

    การปรับโฉมใหญ่ครั้งนี้ อยู่บนพื้นฐานของ LS เจนเนอเรชั่น 4 รหัส XF40 โดยใช้จุดเด่นของ เลกซัส ยุคใหม่เป็นหลัก คือ กระจังหน้าทรงเกลียว หรือ spindle grill ที่เริ่มใช้เป็นครั้งแรกในรถต้นแบบ Lexus GS และถือเป็นดีไซน์หลักของ เลกซัส รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต ผลงานการสร้างสรรค์ของ มร. คัทสึฮิโกะ อินาโทมิ หัวหน้าทีมออกแบบ GS ซึ่งถูกนำไปใช้ในรถต้นแบบใหม่ของ เลกซัส อย่าง Lexus LF-LC Sports Coupe Concept หรือ Lexus LF-CC Concept รุ่นล่าสุดด้วย

    LS ใหม่ใช้หลอด LED ในทุกจุด รวมทั้งไฟตัดหมอกที่ถูกจัดวางในแนวตั้ง พร้อมเลนส์ PES หรือ Poly Ellipsoid System ที่มีขนาดเล็กที่สุด ณ ปัจจุบัน เส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 30 มม. เท่านั้น ส่วนไฟ daytime running lights ออกแบบเป็นรูปรูปทรงตัว L ด้านในทำมุมเป็นแนวเดียวกับกระจังหน้าส่วนบน ขับเน้นเอกลักษณ์ของ spindle grill ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    รุ่น F Sport มากับรูปลักษณ์ที่ดุดันกว่าด้วยกระจังหน้าลายตาข่าย (น่าเสียดายที่วันนี้ตัวจริงไม่มา) ภายในตกแต่งด้วยเบาะสปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแพดเดิลชิฟท์ ช่วงล่างปรับระดับด้วยถุงลม หรือ Air Suspension ลดความสูงลงได้ 0.4 นิ้ว มีลิมิเต็ดสลิปแบบ Torsen ให้ใช้งาน เพิ่มความมั่นใจในการหยุดรถด้วยชุดเบรค Brembo คาลิเปอร์หน้า 6 สูบ ล้อขนาด 19 นิ้ว ขึ้นรูปแบบฟอร์จ

    ภายใน

    ยังคงเน้นที่ความสะดวกสบาย และความเงียบในห้องโดยสาร ติดตั้งระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ Multi-Zone ที่ เลกซัส เรียกว่า Lexus Climate Concierge ใช้เซนเซอร์มากกว่า 13 ตัววัดอุณหภูมิในห้องโดยสาร พร้อมทั้งปรับอุณหภูมิของเบาะและพวงมาลัยอัตโนมัติ เพิ่มคุณภาพอากาศด้วย Nano-e ปล่อยประจุลบของน้ำเพื่อดักจับและทำลายแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ และเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ

    เพิ่มความหรูด้วยระบบ Advanced Illumination มีไฟ LED สี Champagne White บริเวณคอนโซลหน้าเรืองแสงต้อนรับเมื่อเข้าใกล้ตัวรถ การให้ข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ Display Zone ผ่านจอ LCD ขนาด 12.3 นิ้ว และโซนควบคุม หรือ Operation Zone ทำงานผ่านปุ่มควบคุมที่ออกแบบในลักษณะเดียวกับเมาส์ หรือ RTI - Remote Touch Interface เจนเนอเรชั่น 2 แผงหน้าปัดติดตั้งจอเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 5.8 นิ้ว

    ชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์จาก Mark Levinson พร้อมระบบ Rear Seat Entertainment System ให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยเครื่องเล่น Blu-ray โดยงานออกแบบทั้งหมดเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานที่สุด ภายใต้แนวคิด Human-Centered Engineering



    เต็มประสิทธิภาพด้วย V8 4.6 และ 5.0 ลิตร

    LS ทุกรุ่นย่อย ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ V8 รหัส 1UR-FSE ความจุ 4.6 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Dual VVT-iE กำลังสูงสุด 380 แรงม้า hp ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50.2 กก.-ม. ที่ 4,100 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. รุ่นพื้นฐานและรุ่น F Sport เท่ากัน 5.7 วินาที ส่วน LS460L ทั้งแบบ 4 และ 5 ที่นั่ง รวมทั้งรุ่นไฮบริด 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุดเท่ากันทุกรุ่น 250 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 9 กม./ลิตร ส่วนรุ่นไฮบริด 10.8 กม./ลิตร

    รุ่นไฮบริด หรือ LS600hL จัดกำลังมาให้เยอะกว่าด้วยเครื่อง V8 รหัส 2UR-FSE ความจุ 5.0 ลิตร 394 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 224 กิโลวัตต์ ทั้งระบบผลิตกำลังได้ 445 แรงม้า hp ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT แบตเตอรี่ยังเป็นชุดเดิม คือ Ni-MH หรือนิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์ อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 219 กรัม/กม. (รุ่นพื้นฐาน 261 กรัม/กม.) ทุกรุ่นผ่านมาตรฐาน Euro 5

    ระบบความปลอดภัย และตัวช่วยอำนวยความสะดวก

    LS460 ใหม่มากับระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ หรือ VDIM - Vehicle Dynamics Integrated Management รวบรวมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันเป็นองค์เดียว เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วย ระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน Adaptive Variable Suspension และ พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเฟืองพวงมาลัยแปรผัน Variable Gear Ratio Steering รวมทั้งจัดการการทำงานของระบบเบรคด้วย

    นอกจากนี้ยังมีระบบ Pre-Crash Safety ใช้เซนเซอร์ตรวจสอบความเปิดไปได้ในกรณีที่การเกิดการชน ระบบจะทำการส่งสัญญาณเตือนมายังหน้าจอ พร้อมสั่งการเข็มขัดนิรภัยให้รั้งผู้ขับและผู้โดยสารแนบเบาะโดยอัตโนมัติ ป้องกันการกระแทกอย่างรุนแรงจากพวงมาลัย คอนโซล หรือถุงลม ทั้งยังมีระบบ Active Headrests ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอในกรณีที่เกิดการชนทางด้านท้ายอีกด้วย

    Credit By : www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  2. #122
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 5 พฤษจิกายน 2555



    Ford Ranger
    แปลงร่างเป็น Torque ในเกม Transformer

    หลังจาก ฟอร์ด ออสเตรเลีย นำรถรุ่น Falcon XR6 มาแปลงร่างเป็น Falcatron ในวีดิโอเกม Transfor
    mer: Fall of Cybertron มาแล้ว และประสบความสำเร็จพอสมควร พร้อมกับเปิดให้แฟนเพจเฟสบุ๊คโหวดว่า อยากเห็นรถรุ่นไหนแปลงร่างอีก ล่าสุดผลโหวดออกมาเป็นรถที่ฝรั่งเรียกว่า Compact Pickup Truck รุ่น Ranger Wildtrak ซึ่งไม่มีจำหน่ายในอเมริกาเหนือ ถูกแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ชื่อ Torque เพื่อเป็นตัวละครในเกมเดียวกับ Falcatron ออกแบบโดยสตูดิโอแห่งเดิม High Moon Studios นั่นเอง

    Transformers: Fall of Cybertron เป็นเกมเดินหน้าลุยแบบมุมมองบุคคลที่ 3 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จัดจำหน่ายโดยค่ายชื่อดังที่คอเกมคุ้นกันดีอย่าง Activision เล่นได้ทั้งเวอร์ชั่น PC, PlayStation 3 และ Xbox 360

    ตัวเกมไม่ต่อเนื่องกับแฟรนไชส์ Transformers ฉบับภาพยนตร์ แต่เดินเส้นเรื่องตามฉบับคอมมิค ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในช่วงสงครามของบรรดา Autobots และ Decepticon บนดาว Cybertron นั่นเอง โดยตัวเกมภาคนี้เป็นภาคต่อของ Transformers: War For Cybertron ในปี 2010 จากนั้นจึงจะเป็นเหตุการณ์ในฉบับภาพยนตร์ที่ดาว Cybertron ล่มสลาย จนเหล่าหุ่นทั้งหลายต้องลงมาบนโลกมนุษย์

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  3. #123
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 6 พฤษจิกายน 2555



    2013 Nissan GT-R
    เติมสมรรถนะเพิ่มความสปอร์ต

    นิสสัน มอเตอร์ เปิดตัว GT-R รุ่นปี 2013 พร้อมทำตลาดในญี่ปุ่น 19 พฤศจิกายนนี้ ปรับปรุงเพิ่มสมรรถนะเครื่อ
    งยนต์ เพิ่มความสนุกในการขับ และมีแฮนด์ลิ่งที่ดีกว่าเดิมด้วยการเพิ่มความแข็งแรงให้โครงสร้างตัวถังบริเวณแผงคอนโซลและแผงหน้าปัด เปลี่ยนช๊อคแอ็บซอร์เบอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เปลี่ยนสปริงและเหล็กกันโคลงหน้า ลดความสูงตัวถังลงเล็กน้อยเพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงและลดอาการโคลง ช่วยเพิ่มความสนุกในการขับ เพิ่มความมั่นคงเมื่อใช้ความเร็วสูง ให้คุณภาพการขับที่ดีขึ้น

    ระบบกันสะเทือนหน้าเพิ่มนอตลูกเบี้ยว เพื่อให้สามารถปรับมุมแคมเบอร์ได้ละเอียดยิ่งขึ้น ดุมล้อได้รับการปรับปรุงให้มีการทำงานที่เชื่อถือได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องรับแรงบิดสูงๆ จากเพลาขับขณะขับในสนามแข่ง

    เครื่องยนต์ วี6 3,800 ซีซี ทวินเทอร์โบ 550 แรงม้า ได้รับการปรับปรุงให้มีการตอบสนองที่ดีทั้งในรอบกลางและรอบสูง เพิ่มอัตราเร่งช่วงความเร็วปลายให้ดีขึ้นด้วยการเปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้น พร้อมชุดควบคุมที่มีความแม่นยำ เพิ่มวาล์วลดแรงดันที่ชุดบายพาสของตัวเทอร์โบ ช่วยลดแรงดันที่จะไปรบกวนการทำงานของหัวฉีด ส่งผลให้อัตราเร่งในช่วงรอบสูงๆ มีความสม่ำเสมอยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มอุปกรณ์รักษาแรงดันน้ำมันเครื่องติดตั้งในอ่างน้ำมันเครื่อง ช่วยให้แรงดันน้ำมันเครื่องคงที่แม้ขับสไตล์สปอร์ต

    GT-R แบ่งเป็น 2 รุ่นหลัก คือ Black Edition พวงมาลัยตกแต่งด้วยสีดำ-แดง เบาะ เรคาโร รุ่นคาร์บอนไฟเบอร์มีให้เลือกเป็นออฟชั่น ส่วนรุ่น Premium Edition มาพร้อมการตกแต่งด้วยหนังแท้ Semiarinin เย็บด้วยมือ และการตกแต่งภายในที่สามารถเลือกสีได้

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  4. #124
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Feb 2011
    User ID
    15529
    Status
    Offline
    โพส
    4,817

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ที่โคราชใครเปนตัวแทนจำหน่ายคร้าบบบบบ มีโปรพิเศษบ้างใมคร้าบบบบ

  5. #125
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 7 พฤษจิกายน 2555



    2013 Volkswagen Amarok
    ขยับสมรรถนะ เพิ่มเทคโนโลยี BlueMotion

    โฟล์คสวาเก้น อมาร็อค รุ่นปี 2013 เปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมให้ออเดอร์แล้วในสหราชอาณาจักรด้วยราคาเริ่มต้น 1.168 ล้านบาท สำหรับรุ่นพื้นฐาน 2.0 TDI 122 แรงม้า (PS) 4Motion และรุ่นสูงสุด 2.0 BiTDI 180 แรงม้า (PS) ราคา 1.55 ล้านบาท 4Motion พร้อมเทคโนโลยี BlueMotion เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ โดยรถทุกรุ่นย่อยที่ทำตลาดในสหราชอาณาจักรและยุโรป จะผลิตที่โรงงานที่ฮานโนเวอร์ประเทศเยอรมนี จากเดิมที่เคยนำเข้าจากโรงงานในอาร์เจนตินา

    การเปลี่ยนแปลงอื่นเช่น เพิ่มเทคโนโลยี BlueMotion ซึ่งประกอบด้วยยางลดแรงต้านการหมุน ระบบ Start/Stop และระบบชาร์จไฟเมื่อเบรก เพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและลดมลพิษ นอกจากนี้ยังปรับปรุงเครื่องยนต์ในรุ่น 2.0 BiTDI เพิ่มกำลังสูงสุดจากเดิม 163 เป็น 180 แรงม้า (PS) ส่วนเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่แบบ 8 จังหวะ เป็นออฟชั่นให้เลือก

    เครื่องยนต์รุ่นปรับปรุงใหม่ติดตั้งระบบ BlueMotion ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 3.9 เปอร์เซ็นต์ ด้วยอัตตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.16 กิโลเมตรต่อลิตร เทียบกับ เครื่องยนต์รุ่นก่อน ปรับปรุงที่มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 12.67 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ในไอเสียก็ลดลง 10 กรัมต่อกิโลเมตร เหลือ 199 กรัมต่อกิโลเมตร

    นอกจากนี้ยังเพิ่มขีดความสามารถในการลากจูงจากเดิม 2,800 กิโลกรัม เป็น 3,000 กิโลกรัมในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 3,200 กิโลกรัมในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานเช่น เซ็นเซอร์ช่วยถอยหลัง, หัวฉีดน้ำอุ่นล้างกระจกหน้า, ไฟตัดหมอก และล้อแม็ก 19 นิ้ว

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  6. #126
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 8 พฤษจิกายน 2555

    Ford
    รุกหน้าขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ มุ่งยกระดับการให้บริการเหนือระดับแก่ลูกค้า



    บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศแผนรุกขยายเครือข่ายโชว
    ์รูมและศูนย์ให้บริการทั่วประเทศ ตั้งเป้าขยายเครือข่ายให้ครบ 140 แห่งภายในสิ้นปี 2556 พร้อมเดินหน้าปรับปรุงภาพลักษณ์ของโชว์รูมของตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อสร้างความพึงพอใจในการบริการที่ได้มาตรฐานระดับโลกให้แก่ลูกค้า

    คุณยุคนธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด ฝ่ายขายและบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า "เราใส่ใจและให้ความสำคัญในคุณภาพของการให้บริการ เทียบเท่ากับคุณภาพของรถยนต์ฟอร์ดทุกคัน เรามีความตั้งใจที่จะเปิดตัวรถยนต์อีกหลากหลายรุ่น ทั้งรถยนต์โดยสาร และรถกระบะสู่ตลาดประเทศไทย ฐานลูกค้าของเราขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นในการพัฒนา และขยายเครือข่ายศูนย์บริการที่ดี มีมาตรฐานระดับโลก เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนี้ด้วย"

    นอกเหนือจากการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง และอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าแล้ว ฟอร์ด ยังสานต่อในการพัฒนา และปรับปรุงภาพลักษณ์โชว์รูมให้ได้มาตรฐานระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปท์ Brand@Retail ซึ่งมีการจัดวางและตกแต่งพื้นที่ๆ ให้ความสะดวกสบาย พร้อมบรรยากาศอย่างเป็นกันเอง สำหรับลูกค้าที่เข้ามารับบริการของเรา

    ส่วนหนึ่งของการยกระดับมาตรฐานโชว์รูม คือการที่ ฟอร์ด จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในแต่ละที่ เพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไปพร้อมกับพัฒนาคุณภาพของพนักงาน เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในโชว์รูม และศูนย์บริการ ฟอร์ด ทุกแห่งทั่วประเทศ

    คุณณรงค์ สีตลายน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้จำหน่ายบริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า "โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ดทุกสาขาทั่วประเทศ จะได้รับการพัฒนา ปรับปรุงภาพลักษณ์ให้อยู่ในมาตรฐาน และให้ความรู้สึกเดียวกันในแบบของ One Ford ทุกที่ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2556"



    ค่าใช้จ่ายในบำรุงรักษาตามระยะที่ประหยัดที่สุดในตลาด
    ความสำเร็จของ ฟอร์ด ในการขยายตลาดในประเทศไทยมาจาก Ford Fiesta และ Ford Ranger ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง รวมถึง Ford Focus ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้

    ฟอร์ด แต่ละรุ่นเป็นรถที่มีค่าใช้จ่ายในบำรุงรักษาตามระยะที่ประหยัดที่สุด เมื่อเทียบกับรถในรุ่นเดียวกัน ซึ่งทำให้ ฟอร์ด เป็นรถที่มีความน่าสนใจสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่ของ ฟอร์ด ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ฟอร์ด เฟียสต้า เป็นรถที่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะทุกๆ 15,000 กิโลเมตรที่ประหยัดกว่าคู่แข่งในตลาดรถขนาดเล็ก รวมถึงราคาของชิ้นส่วนอะไหล่ที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาดร้อยละ 20 โดยเฉลี่ย

    นอกจากนี้ ค่าบำรุงรักษาตามรักษาตามระยะของรถ ฟอร์ด ในระยะ 100,000 กิโลเมตร หรือ 5 ปี ก็ประหยัดกว่าคู่แข่งโดยทั่วไปสูงถึงร้อยละ 76 สำหรับ Ford Fiesta, ร้อยละ 43 สำหรับ Ford Focus และ ร้อยละ 10 สำหรับ Ford Ranger ใหม่ (Ford Fiesta 1.6 ลิตร, Ford Focus 1.6 ลิตร และ Ford Ranger Hi-Rider 1.6 ลิตร)

    "ลูกค้าฟอร์ดทั่วประเทศเริ่มรับรู้ว่า ฟอร์ดได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการบริการ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา โดยที่ลูกค้าสามารถรักษารถให้อยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยมด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า และช่วยประหยัดได้มากในระยะยาว" คุณยุคนธร กล่าวเสริม

    บริการหลังการขายระดับโลก พร้อมแคมเปญใหม่อันหลากหลาย
    baรถของ ฟอร์ด ทุกคัน ได้รับการส่งเสริมด้วยบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม และแคมเปญใหม่ๆ มากมาย ที่เพิ่งเปิดตัวไปก็คือ Ford Mobile Service Units หรือหน่วยบริการเคลื่อนที่ เป็นบริการล่าสุดที่ ฟอร์ด ได้แนะนำเพื่อเพิ่มคุณภาพของโปรแกรมการดูแลลูกค้าในประเทศไทย

    ฟอร์ด ได้เปิดตัวบริการ โมบาย เซอร์วิส ยูนิต ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยโปรแกรมนี้ ระกอบไปด้วย รถให้บริการเคลื่อนที่จำนวน 84 คัน ที่พร้อมให้บริการตรวจเช็คขั้นพื้นฐานแก่ลูกค้า ฟอร์ด ในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงการใช้เพื่อให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ Emergency Roadside Assistance แก่ลูกค้า ฟอร์ด

    นอกจากนั้น ฝ่ายบริการลูกค้าของ ฟอร์ด ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการบริการที่สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมการบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ - Scheduled Maintenance Service หรือ SSP และ โปรแกรมขับขี่อุ่นใจ - Premium Protection Plus หรือ PPP ที่แนะนำให้ลูกค้านำรถเข้าตรวจเช็คสภาพตามมาตรฐาน และแผนการบริการของ ฟอร์ด ซึ่งจะช่วยลดค่าบำรุงรักษาตามระยะยาวได้ และมอบความอุ่นใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้นนออฟชั่น ส่วนรุ่น Premium Edition มาพร้อมการตกแต่งด้วยหนังแท้ Semiarinin เย็บด้วยมือ และการตกแต่งภายในที่สามารถเลือกสีได้

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  7. #127
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 9 พฤษจิกายน 2555



    Ford
    ยอดจำหน่ายเดือนตุลาคมในประเทศไทย พุ่ง 62 เปอร์เซ็นต์

    ฟอร์ด ประเทศไทย ยังคงประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างดีเยี่ยมในเดือนตุลาคม ด้วยยอดค้าปลีกรวม 4,334 คัน เพิ่มขึ้น 62 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการที่ Ford Fiesta, Ford Focus และ Ford Ranger ใหม่ มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยยอดขาย ฟอร์ด รวมตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมอยู่ที่ 42,433 คัน เพิ่มขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    Ford Fiesta ยังคงได้รับความนิยมมอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดค้าปลีกในเดือนตุลาคมที่ 2,415 คัน เพิ่มขึ้น 49 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูงมากในประเทศไทย และยังคงได้รับความนิยมจากผู้ขับขีที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจรถยนต์ที่ทันสมัยรุ่นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    ยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลมาจากการกระแสความนิยม Ford Fiesta รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Ti-VCT พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ ซึ่งอยู่ภายใต้นโยบายส่งเสริมการเป็นเจ้าของรถคันแรกของรัฐบาล นอกจากนี้ Ford Fiesta รุ่นสูงสุด เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร Ti-VCT พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ ยังเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้า ที่ต้องการอุปกรณ์ที่หรูหราเหนือระดับ เมื่อเทียบกับรถยนตูรุ่นอื่นๆ ในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก

    "ลูกค้าในประเทศไทย ยังคงแสดงออกถึงความชื่นชอบในรถฟอร์ด เฟียสต้า ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่ล้วนน่าสนใจ" คุณยุคลธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว "เราได้วางแผนรับยอดจองฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ที่คาดว่าจะเทเข้ามาอย่างล้นหลามไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม ซึ่งเกิดจากแรงกระตุ้นสองส่วนคือ การจัดงาน มหกรรมยานยนต์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ในเดือนนี้ และการที่นโยบายรถคันแรกจะสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี"

    ยอดขายในเดือนตุลาคมของ ฟอร์ด ยังได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งของ Ford Focus ใหม่ ที่มียอดค้าปลีก 757 คัน เพิ่มขึ้นถึง 284 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดขาย Focus รุ่นก่อนหน้าในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยหลังจาก เปิดตัวในประเทศไทย อย่างเป็นทางการได้เพียง 3 เดือน มียอดจองเกือบ 4,500 คัน

    Ford Ranger ใหม่ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ด้วยยอดค้าปลีกในเดือนตุลาคมที่ 957 คัน เพิ่มขึ้น 28 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดขาย Ranger รุ่นก่อนหน้าในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ยอดขาย Ranger ใหม่ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม ยังมีจำนวนรวมถึง 15,477 คัน หรือพุ่งขึ้นกว่า 132 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    "ยอดขายที่แข็งแกร่งของฟอร์ด เฟียสต้า, ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ และฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ช่วยผลักดันให้เรามียอดขายตลอดทั้งปี ในระดับที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง และจะยังคงเป็นรถรุ่นสำคัญที่จะช่วยให้ฟอร์ดทำสถิติยอดขายในประเทศไทย ได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในปีนี้" คุณยุคลธร กล่าว


    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  8. #128
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 10 พฤษจิกายน 2555



    Honda Brio Amaze
    ประกาศชื่อซีดาน 1.2 ลิตรใหม่ ดึงสุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว เป็นพรีเซนเตอร์
    เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมมินิคอนเสิร์ต 23 พฤศจิกายนนี้

    ฮอนด้า ประกาศชื่อ รถยนต์ซีดาน ขนาด 1.2 ลิตรใหม่ ในชื่อ บริโอ้ อเมซ ซึ่งจะเปิดตัวในไทยเป็นประเทศแรก พร้อมด้วยพรีเซนเตอร์สุดฮอต บี้ - สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมมินิคอนเสิร์ต เปิดสมการความสุขโดยบี้ สุกฤษฎิ์ ในวันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน นี้ ณ เพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

    นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "หลังจากที่ฮอนด้าประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวรถยนต์ในปีนี้ไปแล้วถึง 9 รุ่น เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างครบครัน การเปิดตัว บริโอ้ อเมซ ในครั้งนี้ นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 10 ซึ่งฮอนด้าจะแนะนำออกสู่ตลาดในปีนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่ม entry-car"

    "บริโอ้ อเมซ เป็นรถยนต์ซีดานขนาดเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ที่พัฒนาขึ้นสำหรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ และจะเปิดตัวในประเทศไทยเป็นประเทศแรก บริโอ้ อเมซ พัฒนาด้วยแนวคิด 'สมาร์ท ไมโคร ลีมูซีน' คือการออกแบบภายนอกที่มีสไตล์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว คล่องตัว แต่มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบาย ตามหลักการออกแบบยนตรกรรมของฮอนด้า นั่นคือ Man Maximum Machine Minimum ที่เน้นให้ความสำคัญสูงสูดต่อผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร"

    "บริโอ้ อเมซ ยังให้การขับขี่อย่างสนุกในทุกอารมณ์ ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 90 แรงม้า แต่ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม รถยนต์ซีดาน 1.2 ลิตรใหม่นี้ สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และแตกต่างได้อย่างลงตัว จึงเป็นที่มาของชื่อ บริโอ้ อเมซ"

    เพื่อเป็นการสื่อสารภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์อันโดดเด่น ฮอนด้า ได้ดึงซุปเปอร์สตาร์ บี้ - สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว นักร้องและนักแสดงขวัญใจคนไทย มาเป็นพรีเซนเตอร์ของ บริโอ้ อเมซ ซึ่ง บี้ นับเป็นศิลปินนักร้อง นักแสดง มากความสามารถ ทั้งยังมีบุคลิกของคนรุ่นใหม่ที่คล่องแคล่ว ทันสมัย ส่งผลให้บี้ครองใจแฟนๆ ชาวไทยในทุกเพศ ทุกวัย ทั่วประเทศ โดยคุณสมบัติเหล่านี้ สามารถสะท้อนบุคลิกของ บริโอ้ อเมซ ได้เป็นอย่างดี

    ฮอนด้า มีกำหนดเปิดตัว บริโอ้ อเมซ อย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน นี้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะเริ่มเปิดตัวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกในเวลา 13:00 - 15:00 น. และหลังจากนั้น ฮอนด้า จะเปิดมินิมอเตอร์โชว์ เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจได้ร่วมสัมผัส บริโอ้ อเมซ เป็นครั้งแรกด้วย ตั้งแต่เวลา 15:00 - 20:00 น.

    และพิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง บริโอ้ อเมซ ภายในงาน รับสิทธิชมมินิคอนเสิร์ต เปิดสมการความสุขโดยบี้ สุกฤษฎิ์ รอบการแสดงวันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 19:00 - 21:00 น. ที่นั่งจำนวนจำกัด สำหรับผู้จองรถในงานเท่านั้น หนึ่งสิทธิ์รับบัตรชมมินิคอนเสิร์ต 2 ใบ

    ทั้งนี้ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ยังเป็นหนึ่งในรถที่ได้รับสิทธิ์คืนภาษีรถยนต์คันแรก ทำให้ปัจจุบัน ฮอนด้า มีรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการฯ มากถึง 6 รุ่น คือ Honda Brio, Honda Jazz, Honda Jazz Hybrid, Honda City, Honda City CNG และ Honda Brio Amaze ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม ฮอนด้า ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  9. #129
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 12 พฤษจิกายน 2555




    Mitsubishi
    ยอดขายเดือนตุลาคมสูงสุด 13,640 คัน ยอดขายรถยนต์รวม 10 เดือน ทะลุ 100,000 คัน
    พร้อมจัด Mitsubishi Happy Day สร้างความสุขให้ลูกค้าทั่วประเทศ

    มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แจ้งยอดขายรถยนต์เดือนตุลาคม สร้างสถิติใหม่อีกครั้งด้วยยอดขายสูงสุด 13,640 คัน เติบโตขึ้น 268.55% ปลื้ม มิราจ ใหม่ ยอดขายยังแรงต่อเนื่อง ช่วยหนุนยอดขาย มิตซูบิชิ รวมทะลุ 100,000 คันภายใน 10 เดือน พร้อมเชิญลูกค้าและผู้สนใจร่วมสัมผัสความสุข ความสนุกในกิจกรรม Mitsubishi Happy Day ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 80 แห่งทั่วประเทศ ไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า

    มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งยอดขายรถยนต์ มิตซูบิชิ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า มิตซูบิชิมียอดขายรวมอยู่ที่ 13,640 คัน เติบโตขึ้นถึง 268.55% ซึ่งถือเป็นสถิติยอดขายสูงสุดของบริษัท โดยเป็นผลมาจากกระแสตอบรับในรถยนต์ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ที่มียอดขายอยู่ที่ 6,740 คัน คิดเป็น 49.41% ของยอดขายรวมของในเดือนตุลาคม ตามมาด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน 4,713 คัน เติบโตขึ้นถึง 102.36% ในขณะที่ ปาเจโร สปอร์ต มียอดขายอยู่ที่ 1,989 คัน เติบโตขึ้น 79.19%% ทั้งนี้ยอดที่สูงขึ้นดังกล่าว ยังส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรวมตั้งแต่เดือน มกราคม - ตุลาคม อยู่ที่ 100,235 คัน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

    "ยอดขายของมิตซูบิชิ เติบโตขึ้นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการแนะนำรถยนต์มิตซูบิ มิราจ ใหม่ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า จนทำให้กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัท และทำให้เรามียอดขายรวมจนถึงเดือนตุลาคมกว่า 100,000 คัน ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ผมเชื่อว่า ยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในระยะสองเดือนที่เหลือ ซึ่งถือเป็นช่วงที่ตลาดรถยนต์มีความคึกคักเป็นพิเศษ และจะทำให้ยอดขายรถยนต์รวมของเราเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 126,000 คัน ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน"

    มร. มูราฮาชิ กล่าวเสริมถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ ในช่วงนี้ว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับผู้จำหน่าย เชิญลูกค้าและผู้ที่สนใจมาร่วมงาน Mitsubishi Happy Day ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจ เลือกใช้รถยนต์มิตซูบิชิ รวมทั้งเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าในพื้นที่

    "ภายในงานนอกจากจะได้สัมผัสสมรรถนะของรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่น พร้อมรับสาระความรู้จากการอบรมการใช้รถเบื้องต้น และสัมผัสประสบการณ์ทดสอบรถขับขี่ประหยัดและปลอดภัยกับ มิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิทุกรุ่นแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมบันเทิงมากมายในบรรยากาศเทศกาลญี่ปุ่น อาทิ มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ ร่วมพบปะพูดคุยกับดารานักแสดงมากความสามารถ พร้อมโชว์สุดประทับใจจาก Thailand's got Talent และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย"

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  10. #130
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 13 พฤษจิกายน 2555



    2013 Maserati Quattroporte
    เจนเนอเรชั่นใหม่เตรียมเปิดตัวต้นปี 2013

    ทำตลาดเจนเนอเรชั่นที่ 5 มาอย่างยาวนานถึง 8 ปี โดยมีการปรับโฉมเล็กๆ 1 ครั้งในป
    ี 2009 มาเซราติ เตรียมเปิดตัวรถธง ซีดานหรูฟูลไซส์ 4 ประตู Quattroporte เจนเนอเรชั่นที่ 6 ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2013 ที่งาน ----- American International Auto Show หรือ ดีทรอยท์ 2013
    ตามข้อมูลเบื้องต้น Quattroporte จะเปิดตัวด้วยรุ่นเครื่องยนต์ V8 กำลังสูงสุดมากกว่า 500 แรงม้า hp พร้อมจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะลูกใหม่ของ ZF โดยยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีรุ่น V6 ในอนาคตหรือไม่ หน้าตาขอยืมรูปแบบมาจาก GranTurismo อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะชุดกระจังหน้าและกันชน

    มาเซราติ ให้ข้อมูลว่า ระบบขับเคลื่อนสำหรับ Quattroporte ใหม่นั้น เป็นชุดระบบขับเคลื่อนเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ออกแบบและพัฒนาโดยความร่วมมือของวิศวกร มาเซราติ - เฟอร์รารี่ และสร้างขึ้นที่โรงงานในมาราเนลโล

    Mr. Harald Wester ซีอีโอของ มาเซราติ กล่าวว่า Quattroporte เจนเนอเรชั่น 6 เป็น 1 ใน 3 ของรถหรูที่ มาเซราติ เตรียมเปิดตัวในอนาคต โดยอีกอีก 2 รุ่นที่เหลือคือซีดานขนาดกลาง Maserati Ghibli ซึ่งเป็นการนำชื่อ Ghibli กลับมาอีกครั้งหลังยุค 70 เพื่อใช้แทนที่ชื่อ Maserati GranTurismo และ SUV ครอสโอเวอร์ Maserati Levante

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  11. #131
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 14 พฤษจิกายน 2555



    2012 Toyota Corolla Altis E85
    เปิดตัวรุ่น 1.8 ลิตร E85 ปรับราคาลงจากการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

    โตโยต้า เปิดตัว Toyota Corolla Altis ปรับโฉมใหม่ โดยรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้ พร้อมราคาใหม่ที่ปรับลดลง จากสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากอัตราภาษีรถยนต์ E85 พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ อั้ม - พัชราภา ไชยเชื้อ และเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสายยานยนต์ได้พิสูจน์สมรรถนะ ณ ลานอเนกประสงค์ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์

    นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่า "โคโรลล่า อัลติส ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดอีกรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถยนต์นั่งของโตโยต้า ซึ่งแนะนำเข้าสู่ตลาดประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 46 ปี และได้รับการตอบรับจากลูกค้าในฐานะรถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทย ด้วยยอดขายรวมกว่า 813,000 คัน (ยอดขายถึงเดือนกันยายน 2555) ซึ่งความสำเร็จทางด้านการขายมากมายเช่นนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า โคโรลล่าได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ทั้งด้านคุณภาพ และความคุ้มค่า สามารถครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน"


    "จากการที่โตโยต้าได้ตระหนักถึงเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม เราจึงได้ทำการพัฒนา โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ที่พร้อมใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร โดยได้มีการปรับเปลี่ยนวัสดุ และชนิดสารเคลือบของอุปกรณ์ต่างๆ อาทิเช่น แหวนลูกสูบและลูกสูบ ท่อส่งน้ำมันเข้าหัวฉีดวาล์วและบ่าวาล์ว ของทั้งไอดีและไอเสีย หัวเทียน รวมทั้ง PCV วาล์ว เพื่อให้สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้อย่างมั่นใจ ตามมาตรฐานจากโรงงานของโตโยต้า พร้อมกับได้รับสิทธิประโยชน์จากอัตราภาษีรถยนต์ที่ลดลง ทำให้เราได้มีการปรับราคาเพื่อให้ลูกค้าสามารถจับจองเป็นเจ้าของ โคโรลล่า อัลติส ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น"

    โตโยต้า ทำการปรับเปลี่ยนรายละเอียด Aitis ใหม่เพิ่มเติม ผลิตภัณฑ์ โดยรุ่น 1.8 ลิตร มีการเพิ่มรุ่น 1.8G Navi กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ภายในโทนสีเทา-ดำ ระบบนำทาง In-Car Navigator พร้อมกล้องมองหลัง

    รุ่น 2.0 ลิตร เพิ่มกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ แสดงภาพจากกล้องมองหลังผ่านทางกระจกได้ ส่วนรุ่น 1.6 ลิตร (1.6E CNG A/T, 1.6J M/T, CNG M/T (Color) และ CNG M/T) เพิ่มถุงลมและเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบรั้งกลับอัตโนมัติ นอกจากนี้ทั้งรุ่น 2.0 ลิตร และ 1.8 ลิตร ทุกรุ่น ยังติดตั้งเครื่องยนต์ Dual VVT-i ส่งกำลังด้วยเกียร์ Super CVT-i 7speed ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และประหยัดน้ำมันอีกด้วย

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  12. #132
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 15 พฤษจิกายน 2555



    Update: 2013 Toyota Avalon รุ่น 2.5 ไฮบริด 16.9 กม./ลิตร

    อัพเดทกันอีกครั้ง โตโยต้า ปล่อยข้อมูลจำเพาะและราคาของ Avalon เจนเนอเรชั่นที่ 4 ออกมาแล้ว การทำตลาดในสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2012 โดยก่อนหน้านี้ EPA ได้ประกาศผลอัตราสิ้นเปลืองของรุ่นไฮบริดอย่างเป็นทางการ แบบรวมและในเมืองออกมาที่ 16.9 กม./ลิตร เท่ากัน ส่วนไฮเวย์ตกลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 16.6 กม./ลิตร

    จุดเด่นภายนอกของ Avalon ใหม่คือโคมไฟหน้าที่ โตโยต้า เรียกว่า Quadrabeam ไฟต่ำใช้หลอด LED พร้อมเลนส์ PES หรือ Poly Ellipsoid System ทรงเหลี่ยมด้านละ 2 ดวง เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน Lexus LS รุ่นปี 2013 ส่วนไฟวิ่งกลางวัน Daytime Running Lights ใช้หลอด LED ฝั่งละ 3 ดวง รุ่นพื้นฐานสีภายนอกมีสีใหม่ 2 สีคือ Moulin Rouge Mica และ Champagne Mica พร้อมล้ออลูมิเนียม 17 - 18 นิ้ว ส่วนรุ่นไฮบริดติดตั้งล้อ 17 นิ้ว พร้อมยางลดแรงต้านการหมุนของ Michelin

    รุ่นไฮบริดนั้น เป็นการต่อยอดมาจากระบบ Hybrid Synergy Drive ที่ใช้ใน Camry Hybrid ใหม่ อาศัยกำลังจากเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 2AR-FXE แบบ Atkinson cycle กำลังสูงสุด 154 แรงม้า hp จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังรวม 105 กิโลวัตต์ (140 แรงม้า) ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT น่าเสียดายที่แบตเตอรี่แพคยังไม่อัพเกรดมาเป็นลิเธียม-ไอออนเหมือนรถรุ่นปี 2013 แบบผู้ผลิตอื่นๆ โดยยังคงใช้งานชุดแบตเตอรี่นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์เหมือน Camry กำลังรวมทั้งระบบ 200 แรงม้า hp แบ่งโหมดการขับเป็น 3 แบบคือ EV, ECO และ SPORT

    รุ่นพื้นฐานเหมือนข่าวเดิมทางด้านล่าง คือยังคงใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ V6 Dual VVT-i ความจุ 3.5 ลิตร 2GR-FE เหมือนเจนเนอเรชั่น 3 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 268 แรงม้า hp ที่ 2,600 รอบ/นาที แรงบิด 34.2 กก.-ม. ที่ 4,700 รอบ/นาที อัตราทดเกียร์ถูกปรับปรุงใหม่ให้มีความกระฉับกระเฉงขึ้น อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ต่ำกว่า 7 วินาที ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองไม่สูงเกินไปนัก โดยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากการทดสอบของ EPA อยู่ที่ 10.6 กม./ลิตร

    ราคาจำหน่าย Avalon รุ่นไฮบริดเริ่มต้นที่ 35,555 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท รุ่นท๊อปขยับไปที่ 41,400 ดอลลาร์ หรือราว 1.27 ล้านบาท ส่วนรุ่นพื้นฐานเบนซิน V6 เริ่มต้นที่ 33,195 ดอลลาร์ หรือราว 1 ล้านบาท

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  13. #133
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 16 พฤษจิกายน 2555



    Nissan
    ยอดขายประจำเดือนตุลาคม 2555 ทุบสถิติอีกครั้ง Eco Car ยังคงนำ

    บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศยอดขายประจำเดือนตุลาคม 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 12,701 คัน นับเป็นยอดขายประจำเดือนสูงสุดในรอบ 60 ปีที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ถึง 288 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน และมากกว่าเดือนที่ผ่านมา 8.5 เปอร์เซ็นต์

    "ปีนี้นับเป็นปีที่ดีมากสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการที่บริษัทฯ สามารถฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาผลิตได้อย่างเต็มกำลังอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ พร้อมการสนับสนุนที่ดีจากรัฐบาลในเรื่องนโยบายคืนภาษีรถคันแรก ที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้นด้วย" คุณประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย กล่าว

    "รถยนต์อีโค คาร์ ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของบริษัทฯ และเราก็ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดอยู่ โดย Nissan March มียอดขายในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 3,444 คัน, Nissan Almera อยู่ที่ 5,896 คัน ส่วน Nissan Sylphy ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา มียอดขายรวมอยู่ที่ 5,000 คัน ซึ่งเป็นยอดขายที่น่าพึงพอใจสำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดของรถยนต์ระดับกลาง"

    ยอดขายเดือนตุลาคมนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการเดินหน้าตามแผนธุรกิจ NMT Power Up 2016 ตามที่ได้ประกาศไปเมื่อปีที่ผ่านมาว่า เราจะเพิ่มความได้เปรียบทางด้านผลิตภัณฑ์ ด้วยการแนะนำรถรุ่นใหม่อย่างน้อย 2 รุ่นต่อปี ควบคู่ไปกับการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายและการบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

    ในปีงบประมาณ 2555 นี้ นิสสัน ประกาศตั้งเป้าการขายใหม่อยู่ที่ 132,000 คัน หรือส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจุบันนี้ มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 8.6 เปอร์เซนต์


    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  14. #134
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 19 พฤษจิกายน 2555



    Nissan Slyphy 1.6 Eco Test Drive
    ขับประหยัดสบายๆ สไตล์ท่องเที่ยว

    ในช่วงนี้ การทดสอบรถแบบขับประหยัดกำลังได้รับความนิยมจากค่ายรถยนต์ต่างๆ เพราะแต่ละบริษัทก็ต้องการโชว์ประสิทธิภาพในด้านการประหยัดเชื้อเพลิง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในยุคน้ำมันแพง ล่าสุดเป็นคิวของ นิสสัน ที่จัดขับประหยัดบนเส้นทางกรุงเทพฯ - เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ ซิลฟี เครื่องยนต์ 1,600 ซีซี เน้นการขับท่องเที่ยวสบายๆ ระยะทางที่ใช้ในการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 120 กิโลเมตร จำกัดเวลาไว้แบบหลวมๆ และไม่มีข้อห้ามใดๆ ระบุเพียงว่าเติมลมยางหน้า/หลัง 31/33 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

    จุดปล่อยตัวอยู่ที่โชว์รูม นิสสัน บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ บริษัท สยามกลการ เทรดดิ้ง จำกัด เริ่มต้นด้วยการกล่าวต้อนรับสื่อมวลชนโดย คุณชนกนันท์ เตชะภัทรพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และสรุปข้อมูลผลิตภัณฑ์โดย คุณภควัฏ ตาปสนันทน์ Assistant General Manager Commercial Car Product Marketing ซึ่งปัจจุบันดูแลในส่วนของรถยนต์นั่งด้วย นอกจากนี้ได้รับเกียรติจาก คุณกิติสร ปุณณะหิตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามกลการ เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวต้อนรับสื่อมวลชน

    นิสสัน เชื่อว่าผู้ขับทุกคนสามารถขับรถให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพียงแต่ต้องเรียนรู้วิธีการขับ ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร ก่อนการทดสอบจะเริ่มขึ้นจึงได้เชิญวิศวกรของ นิสสัน มาให้ข้อมูลว่า ต้องขับอย่างไรถึงจะประหยัดเชื้อเพลิง รวมถึงการใช้มาตรวัดอัตราสิ้นเปลือง และมาตรวัดแสดงความประหยัด ที่มีใน นิสสัน ซิลฟี ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    ตอนลงทะเบียนก็เจอกับข่าวร้ายว่างานนี้ผมต้องขับคนเดียว เพราะเพื่อนที่ขับคู่กันติดธุระด่วน ไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่ก็มีทีมประชาสัมพันธ์ คุณวิชาญ ศิลปลิขิตพร มานั่งเป็นเพื่อนพร้อมทำหน้าที่เป็นผู้นำทางให้ด้วย รถที่ใช้ในการทดสอบมีทั้งรุ่นสูงสุด 1.6V และรุ่นรอง 1.6E ก่อนออกเดินทางผู้ขับรถแต่ละคันจะต้องดูแลรถของตัวเองว่า ทีมงานของ นิสสัน ได้เติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้ถึงจุดที่กำหนดหรือยัง โดยในการเติมให้เต็มจะไม่ใช้การเขย่า แต่จะเติมแล้วรอให้น้ำมันยุบตัวลงไป และเติมเพิ่มกระทั่งน้ำมันไม่ยุบตัว จากนั้นจึงให้ คุณกิติสร ปุณณะหิตานนท์ เซ็นชื่อบนสติ๊กเกอร์ที่ปิดทับบนฝาปิดที่เติมน้ำมัน เซ็ต 0 ข้อมูลการขับบนชุดมาตรวัด และลงบันทึกเวลาออกเดินทาง

    การเดินทางช่วงแรกจาก บริษัท สยามกลการ เทรดดิ้ง จำกัด ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ไปยังร้านแม็คโดนัลที่จุดพักรถบนมอเตอร์เวย์ ระยะทางไม่ไกลแค่ 60.5 กิโลเมตร แต่ให้เวลามากถึง 80 นาที เพราะเผื่อสภาพการจราจรที่ติดขัด เนื่องจากไม่ได้ขึ้นทางด่วน ให้ใช้เส้นทางพื้นราบต่อเนื่องมอเตอร์เวย์ โชคดีที่ตอนปล่อยตัวเวลา 9.17 น. รถไม่ติดมาก คำนวณเวลาแล้วน่าจะถึงก่อน 10.37 น. พอสมควร (9.17 น. บวกกับ ?1.20 ชั่วโมง)

    แม้จะไม่ได้บังคับเรื่องการเปิดแอร์ แต่ผมก็ต้องเปิดแค่แผ่วๆ และตั้งอุณหภูมิไว้ค่อนข้างสูง ไม่ใช่เพราะคาดหวังเรื่องความประหยัด แต่เพราะไม่ค่อยสบาย ถ้าเปิดแอร์เย็นมากจะคันคอและไอ แต่ด้วยความเกรงใจพีอาร์ที่นั่งไปด้วย เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อนและรถไม่มีฟิล์ม จึงเปิดพอให้เย็นๆ และปรับช่องแอร์ไปทางอื่น ส่วนผมก็ขับแบบเหงื่อซึมไปตลอดทาง และเนื่องจากบอกว่าขับแบบสบายๆ ผมจึงไม่ได้ขับแบบเน้นประหยัดเต็มที่ แค่ขับด้วยความนุ่มนวล รักษาความเร็วให้คงที่ และไม่คิ๊กดาวน์ แต่ใช้ความเร็วไม่ต่ำมาก 100 - 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    เมื่อเข้ามอเตอร์เวย์การจราจรค่อนข้างโล่ง สามารถใช้ความเร็วนิ่งๆ ได้ ลองคำนวณอีกครั้งพบว่าด้วยระยะเวลาที่กำหนดกับระยะทางที่เหลือ สามารถขับด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ จึงลองลดวามเร็วลงมาเหลือ 60 - 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พบว่ารถพ่วงหรือรถเทรลเลอร์ซึ่งเป็นรถที่ช้าที่สุดบนถนน ยังพยายามจะแซงรถผมที่วิ่งอยู่เลนซ้ายสุด จะหลบออกไปเลนกลางก็เจอกับรถที่เร็วกว่า สุดท้ายถึงตัดสินใจใช้ความเร็วมากกว่ารถพ่วงเล็กน้อย ประมาณ 80 - 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมีช่วงที่โล่งจริงๆ จึงลดความเร็วลงเพื่อความประหยัด

    เกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT นอกจากมีการทำงานที่นุ่มนวลต่อเนื่องแล้ว ยังมีส่วนช่วยเรื่องความประหยัด ด้วยอัตราทดที่แปรผันต่อเนื่อง และมีช่วงกว้าง ช่วงออกตัวใช้อัตราทดสูงให้การตอบสนองที่ดี และเมื่อใช้ความเร็วนิ่งๆ เกียร์จะปรับอัตราทดให้ต่ำลง โดยที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้รอบแค่ประมาณ 2,100 รอบต่อนาทีเท่านั้น ส่วนการเร่งแซงจะไม่มีช่วงรอบตกเมื่อเปลี่ยนเกียร์ขึ้นสูง ช่วยให้เร่งได้อย่างรวดเร็วและทันใจพอสมควร แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาดกลางๆ 1,600 ซีซี 116 แรงม้า

    แม้จะพยายามขับแบบดึงๆ แล้ว สุดท้ายก็ยังถึงจุดหมายแรกด้วยเวลาที่เร็วกว่ากำหนดถึง 9 นาที ความเร็วเฉลี่ย 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมือนจะช้าแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับคันอื่นที่ได้ความเร็วเฉลี่ย 35 - 38 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แน่นอนว่าส่งผลถึงอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในชุดมาตรวัดด้วย คันที่ผมขับได้ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนคันอื่นเลข 2 นำหน้ากันหมด ทำเอาผมเครียดไปเหมือนกัน เพราะช่วงที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการทดสอบ มีระยะทางให้แก้ตัวเพียง 58.3 กิโลเมตรเท่านั้น แถมสภาพการจราจรแถวนั้นจะค่อนข้างหนาแน่น เพราะรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งกันเยอะ เนื่องจากอยู่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง

    ออกจากจุดพักรถในเวลา 11.00 น. เวลาที่กำหนดในช่วงนี้ คือ 1.10 ชั่วโมง ต้องถึงปั๊มที่อยู่ห่างออกไป 58.3 กิโลเมตร ในเวลา 12.10 น. เวลาอยู่ในขั้นหลวมๆ สบายๆ ใช้ความเร็วเฉลี่ย 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะถึงปลายทางตามเวลาที่กำหนด แต่ก็ต้องเผื่อรถติดด้วย

    ช่วงแรกที่ยังอยู่บนมอเตอร์เวย์ ผมเริ่มขับแบบปั้นตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองบ้าง เมื่อลดความเร็วเดินทางลง อัตราสิ้นเปลืองก็ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง คำนวณแล้วว่ายังไงก็ถึงปลายทางก่อนกำหนดแน่ แต่ก็ไม่สามารถใช้ความเร็วแบบคลานๆ ได้ เนื่องจากรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคัน ต้องใช้ความเร็วในการเร่งส่งรถเพื่อขึ้นเนินชันในบางช่วง จึงต้องใช้ความเร็วเท่าๆ กับรถที่ขับช้าที่สุดบนถนน และก็เป็นไปตามคาด คือ เส้นทางช่วงนี้ไม่สามารถรักษาความเร็วคงที่ได้ เพราะเมื่อรถใหญ่แซงกันเอง ก็ต้องขับตามหลังด้วยความเร็วต่ำมาก เมื่อรถบรรทุกหลบซ้าย ก็ต้องเพิ่มความเร็วเพื่อแซงแล้วหลบเข้าซ้ายด้านหน้ารถบรรทุก เพื่อเปิดทางให้รถด้านหลังที่ขับเร็วกว่าแซงขึ้นไป

    ในรถ นิสสัน ซิลฟี มีมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองแบบ Real-Time ที่มาพร้อมมาตรวัดความประหยัด ถ้าเลี้ยงคันเร่งให้อยู่ในโซนประหยัดได้อย่างต่อเนื่อง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็จะลดลง นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองแบบ Real-Time เปรียบเทียบกับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย เพื่อดูว่าขณะนั้นอัตราสิ้นเปลือง Real-Time ต่ำกว่าหรือสูงกว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย ถ้าอัตราสิ้นเปลือง Real-Time ต่ำกว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย ก็มีแนวโน้มว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจะลดลงได้อีก

    ในส่วนของมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองแบบ Real-Time มีประโยชน์มากในด้านการปรับน้ำหนักเท้าที่ใช้กดคันเร่ง ถ้าไม่มีมาตรวัดนี้ เมื่อกดคันเร่งได้ความเร็วที่ต้องการแล้ว ผู้ขับส่วนใหญ่ก็จะคงน้ำหนักในการกดไว้ แต่ใน นิสสัน ซิลฟี ที่มีมาตรวัดแบบ Real-Time ทำให้เมื่อได้ความเร็วที่ต้องการแล้ว สามารถผ่อนคันเร่งได้อีกนิดโดยที่ความเร็วไม่ลดลง แต่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบ Real-Time เพิ่มขึ้นมาก สามารถใช้ความเร็วที่ต้องการโดยที่เครื่องยนต์มีความประหยัดสูงสุด แต่ก็อย่าลืมเรื่องความปลอดภัยด้วย ไม่ใช่เพ่งแต่มาตรวัดจนเกิดอุบัติเหตุ

    ผมใช้วิธีการขับแบบนี้จนถึงปั๊มน้ำมันปลายทาง ที่จะต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเพื่อคำนวณอัตราสิ้นเปลือง เมื่อถึงปั๊มก็ดับเครื่องยนต์แล้วจอดรถคิว เพราะรถทุกคันจะต้องเติมที่หัวจ่ายเดียวกัน ผมถึงปั๊มก่อนเวลาประมาณ 9 นาที บันทึกข้อมูลการขับ ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 22.2 กิโลเมตรต่อลิตร ระยะทาง 121.7 กิโลเมตร ที่เหลือคือลุ้นว่าจะเติมเพิ่มกี่ลิตร และจะขยับจากตำแหน่งบ๊วยได้หรือเปล่า

    หัวจ่ายที่ใช้เติมมีลูกเล่นด้วยการนำกระดาษแข็งมาปิดช่องบอกจำนวนลิตรที่เติมเพิ่ม การเติมใช้วิธีเดิม คือ หยอดแล้วรอให้น้ำมันยุบตัว คันที่ผมขับหยอดนานมาก จนเพื่อนแซวว่าเติมเยอะเพราะขับเร็ว แซงเพื่อนคันอื่นที่ออกเดินทางไปก่อน เมื่อน้ำมันไม่ยุบแล้วจึงเปิดกระดาษแข็งขึ้น พบว่าเติมน้ำมันเพิ่ม 3.369 ลิตร เป็นเงิน 123.6 บาท อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประหยัดเหลือเชื่อ 36.12 กิโลเมตรต่อลิตร คิดเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 1.01 บาทต่อกิโลเมตร

    เฉลี่ยรถทั้ง 7 คันที่ทดสอบ ได้อัตราสิ้นเปลือง 34.58 กิโลเมตรต่อลิตร ระยะทาง 121.7 กิโลเมตร เวลาเฉลี่ย 133 นาที ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 3.53 ลิตร โดยมีรถที่ประหยัดสูงสุดถึง 40.16 กิโลเมตรต่อลิตร

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  15. #135
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 20 พฤษจิกายน 2555



    TSL Auto Corporation
    ทุ่มงบกว่า 25 ล้าน เนรมิต TSL Pavilion ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29

    ทีเอสแอล ออโต้ ร่วมฉลองความสุขส่งท้ายปีมังกรทอง ทุ่มงบกว่า
    25 ล้านบาท เนรมิต ทีเอสแอล พาวิลเลียน ยกทัพยนตรกรรมระดับพรีเมียมจากฝั่งยุโรปและญี่ปุ่น มาประชันโฉมให้ได้สัมผัสและจับจองกันอย่างใกล้ชิด พร้อมโปรโมชั่นอลังการ เป็นของขวัญพิเศษให้แก่ลูกค้าในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29

    นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร เผยว่า "สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 หรือ Thailand International Motor Expo 2012 ในครั้งนี้ ทีเอสแอลได้ทุ่มงบประมาณกว่า 25 ล้านบาท เพื่อเนรมิตพื้นที่กว่า 880 ตารางเมตร จัดสร้าง 'ทีเอสแอล พาวิลเลียน' ขึ้นภายใต้แนวคิด 'The Endless Road...อิสระเกินใคร ไกลเกินจินตนาการ' โดยเน้นให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างทีเอสแอลกับกลุ่มลูกค้า ที่มีให้กันมายาวนานกว่า 30 ปี และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีเอสแอล ในฐานะผู้นำเข้ารถยนต์อิสระอันดับ 1 ที่เพียบพร้อมด้วยยนตรกรรมอันล้ำสมัย และการบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม"

    รูปแบบของ ทีเอสแอล พาวิลเลียน เน้นความโดดเด่นและสะดุดตาด้วยโทนสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมด้วยลานขนาดใหญ่ ที่ผสมผสานระหว่างความล้ำสมัยกับความคลาสสิคไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมจัดแสดงยนตรกรรมระดับพรีเมียม 19 รุ่น รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

    ขณะเดียวกัน ทีเอสแอล ยังได้ถือโอกาสนี้ เปิดตัวชุดแต่ง VATH จากประเทศเยอรมันเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเอาใจสาวกรถดาวสามแฉกที่ชื่นชอบความสปอร์ตและความเร้าใจโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ทีเอสแอล ยังได้เตรียมโปรโมชั่นสุดอลังการเพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษให้แก่ลูกค้ามากมาย อาทิ ส่วนลดสูงสุดถึง 1 ล้านบาท หรือการรับ Warranty นานถึง 3 ปีแบบไม่จำกัดระยะทางโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

    พบกับความอลังการระดับพรีเมียมเหล่านี้ได้ที่ ทีเอสแอล พาวิลเลียน ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2555

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  16. #136
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 22 พฤษจิกายน 2555



    Hi-Kool
    เตรียมความพร้อมรับงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2012

    Hi-Kool เตรียมโชว์ศักยภาพในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 โชว์สุดยอดนวัตกรรม ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ พร้อมอัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปลายปี มั่นใจส่งผลให้ยอดติดตั้งฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ Hi-Kool ปีนี้ทะลุ 5 แสนคันอย่างแน่นอน

    นางสาวชลิฏา วณิชชากรพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีวณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสง Hi-Kool และ Super Hi-Kool เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ของวงการรถยนต์เมืองไทย ในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค.2555 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยจะขนกองทัพฟิล์มกรองแสงทุกรุ่นมาจัดแสดงภายในงาน ตั้งแต่ฟิล์ม Original Series Hi-Kool ที่มีชื่อเสียง และได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดมายาวนานกว่า 30 ปี จนถึงฟิล์มรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งนำเข้ามาทำตลาด มาให้ทดสอบประสิทธิภาพการกันความร้อนให้เห็นกับตา

    สำหรับฟิล์มกรองแสงที่ถือเป็นไฮไลท์ของบูธ Hi-Kool ในปีนี้ ได้แก่ Super Hi-Kool รุ่น Black Pearl Series ฟิล์มระดับพรีเมี่ยม ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ดีที่สุดจากโรงงานที่ดีที่สุดในอเมริกา เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เมื่อติดฟิล์มแล้วรถของลูกค้าจะดูหรูหราขึ้น แต่ยังคงทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ด้วยความโดดเด่นในการเป็นฟิล์มโทนดำ สะท้อนด้านเดียว เข้ากับรถได้เกือบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ เสริมความหรูหรา เนื้อฟิล์มกึ่งนิรภัย หนา 2 มิว ถือได้ว่าเป็นฟิล์มรุ่นแรก ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายข้อรวมไว้ด้วยกัน ซึ่งตรงกับสโลแกนที่บริษัทวางไว้ คือ 'ที่สุดแห่งฟิล์มกรองแสง'

    นอกจากนี้ยังมี Hi-Kool Handle Guard ฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตูรถ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องสีรถไม่ให้เกิดรอยขูดขีด เพราะผลิตจากโพลียูรีเทน หนา 200 ไมครอน มีความเหนียวนุ่ม ไม่ฉีกขาดง่าย ใช้ติดตั้งบริเวณที่ต้องการปกป้อง โดยไม่ทำให้สีรถเปลี่ยน แต่กลับทำให้รถมีประกายเงางาม

    "จุดเด่นที่เรานำมาเสนอในงานนี้ก็คือ การโชว์ประสิทธิภาพของฟิล์มรุ่นต่างๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย สามารถกันความร้อน และรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจากการสำรวจพบว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อฟิล์มติดรถยนต์ นอกจากกันยูวีแล้วยังต้องสามารถกันความร้อนได้ดีด้วย"

    "ขณะเดียวกัน ตลาดรถยนต์ในยุคนี้ก็มีการดีไซน์รูปลักษณ์ของตัวรถได้โฉบเฉียวมากขึ้น มีหลายสีหลายแบบให้เลือก ดังนั้นการตัดสินใจซื้อฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ก็เป็นเสมือนเครื่องประดับที่สำคัญชิ้นหนึ่งของรถ ที่จะส่งผลให้รถดูสวยยิ่งขึ้น"

    นางสาวชลิฏา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการนำเสนอฟิล์มกรองแสงที่มีหลากหลายรุ่นแล้ว บริษัทยังเตรียมเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง เรื่องพลังงานความร้อน และวิธีการเลือกฟิล์มกรองแสงที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภค รวมทั้งโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ซื้อฟิล์มกรองแสงภายในงาน ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 40% โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายจากงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ในครั้งนี้ประมาณ 600 คัน และคาดว่าจากโปรโมชั่นที่จะมีอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี น่าจะผลักดันให้ยอดติดตั้งฟิล์มกรองแสง Hi-Kool ในปีนี้ ทะลุ 5 แสนคันอย่างแน่นอน

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  17. #137
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 23 พฤษจิกายน 2555



    2014 Ford Fiesta EcoBoost
    เฟียสต้าปรับโฉมพร้อมเครื่องยนต์ใหม่

    ตามกรอบเวลาจากข่าวเดิมทางด้านล่าง ถึงกำหนดการบุกตลาดสหรัฐอเมริกาของ ฟอร์ด ด้วยรุ่นปรับโฉมของ เฟียสต้า ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 3 สูบ 1,000 ซีซี แบ่งเป็น 2 ระดับความแรง คือ 100 และ 125 แรงม้า (PS) แรงบิด20.42 กก.-ม. เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนปรับโฉมที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,600 ซีซี ไม่มีระบบอัดอากาศ 120 แรงม้า แรงบิด 15.45 กก.-ม.

    Mr. Joe Bakaj รองประธานฝ่ายวิศวกรรมเครื่องยนต์กล่าวว่า "ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ได้ทดลองขับรถรุ่นนี้ จะรู้สึกแปลกใจว่าเครื่องยนต์ 3 สูบเทอร์โบ สามารถให้การตอบสนองได้ดีกว่าที่คิด และไม่ได้สนใจว่าเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบ เพราะได้รับความพอใจในด้านความลื่นไหล ความเงียบขณะเดินเบา อัตราเร่งที่ทันใจ เสียงที่เร้าใจ และที่สำคัญคือ ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง"

    น่าเสียดายที่ ฟอร์ด ไม่ได้ระบุตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองของรุ่น 100 แรงม้า เผยเพียงตัวเลขสมรรถนะในรุ่น 125 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 9.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 196 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.25 กิโลเมตรต่อลิตร •ประสบการณ์ทดสอบรถขับขี่ประหยัดและปลอดภัยกับ มิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิทุกรุ่นแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมบันเทิงมากมายในบรรยากาศเทศกาลญี่ปุ่น อาทิ มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ ร่วมพบปะพูดคุยกับดารานักแสดงมากความสามารถ พร้อมโชว์สุดประทับใจจาก Thailand's got Talent และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย"

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  18. #138
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 27 พฤษจิกายน 2555



    Corolla Altis
    คุณภาพที่เหนือกว่าเดิม กับเทคโนโลยี E85

    หากจะพูดถึงรถยนต์ที่ครองใจพี่น้องชาวไทยมาอย่างยาวนาน แน่นอนครับ คงจะหนีไม่พ้น โตโยต้า เพราะ โตโยต้า เป็นแบรนด์รถยนต์ที่อยู่เคียงข้างกับผู้ใช้รถชาวไทยมานานถึง 50 ปี

    รถยนต์หลายต่อหลายรุ่นจาก โตโยต้า ได้รับกระแสตอบรับและความนิยมอย่างสูงจากผู้ใช้รถ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถกระบะ หรือแม้กระทั่งรถตู้ ต่างเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้รถมาแล้วทั้งนั้น โดยเฉพาะรถเก๋ง อย่าง Toyota Corolla Altis ก็เป็นรถอีกรุ่นหนึ่งที่ถูกจับตามอง และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้รถเสมอมา ไม่ว่าจะถูกพัฒนามาแล้วกี่รุ่น กี่เวอร์ชั่นก็ตาม

    ล่าสุด โตโยต้า ได้พัฒนา Corolla Altis รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง ความงามของรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งความล้ำสมัยของเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่ง Corolla Altis ตัวนี้ได้ปรับปรุงและพัฒนาในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น 1.8 ลิตร ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้ กับราคาใหม่ที่ปรับลดลง จากสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากอัตราภาษีรถยนต์ E85 ทำให้ Corolla Altis E85 เป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก

    เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า Corolla Altis โดดเด่นในเรื่องของเครื่องยนต์มานาน และครั้งนี้ก็เช่นกัน Altis ยังคงไม่ทำให้บรรดาคอคนรักรถผิดหวัง ด้วยเครื่องยนต์ 2ZR-FBE พร้อมใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ความจุ 1,800 ซีซี แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC ระบบวาล์วอัจฉริยะ Dual VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ปรับจังหวะเปิด-ปิดลิ้นไอดีและไอเสียแบบแปรผัน โดยสอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์ เครื่องยนต์จึงทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีประสิทธิภาพสูงสุด อัตราเร่งดี ขับขี่ได้ราบรื่น ช่วยลดมลพิษ และประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีเยี่ยม

    ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนวัสดุ และชนิดสารเคลือบของอุปกรณ์หลายอย่าง เพื่อตอบสนองเทคโนโลยีใหม่ของ โตโยต้า อาทิเช่น แหวนลูกสูบและลูกสูบ ท่อส่งน้ำมันเข้าหัวฉีดวาล์วและบ่าวาล์วของทั้งไอดีและไอเสีย หัวเทียน รวมทั้ง PCV วาล์ว เพื่อให้สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้อย่างมั่นใจตามมาตรฐานของโรงงาน โตโยต้า

    ในส่วนของระบบเกียร์ ครั้งนี้ Corolla Altis ยังคงโดดเด่นเหนือใคร ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i7 สปีด ซึ่งระบบเกียร์ตัวนี้เป็นแบบ Gate-Type พร้อม Sequential เป็นอีกขั้นของเทคโนโลยีที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องมีจังหวะพักเพื่อส่งกำลังขณะเปลี่ยนเกียร์ ทุกสปีดจึงนุ่มนวล ไม่สะดุด ส่งความแรงอย่างต่อเนื่อง และเร้าใจยิ่งขึ้น ตอบสนองทันใจอย่างเกียร์อัตโนมัติ แต่ขับสนุกอย่างเกียร์ธรรมดา และได้อารมณ์แบบสปอร์ต เพียงขยับคันเกียร์ไปที่ + หรือ – ได้ถึง 7 ตำแหน่ง เราก็สามารถเลือกระดับความเร็วได้อย่างแม่นยำ ตอบสนองการขับขี่ของเราได้อย่างยอดเยี่ยม

    ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะ โตโยต้า ยังใส่ลูกเล่น และเพิ่มเติมในส่วนของรายละเอียดของ อุปกรณ์ตกแต่งลงไปอีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกในรุ่น 1.8 ลิตร ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ทำให้รถดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นไปอีก

    ส่วนภายในก็ไม่เคยผิดหวัง ครั้งนี้ Corolla Altis มาในโทนสีเทา-ดำ ทั้งเบาะที่นั่ง แผงประตู คอนโซล พวงมาลัยและหัวเกียร์ ที่ให้อารมณ์สปอร์ต อีกทั้งยังเพิ่มในส่วนระบบนำทางในรถยนต์ In-Car Navigator พร้อมกล้องมองหลัง ทำให้คนขับอย่างเราๆ ปลอดภัย และสะดวกมากยิ่งขึ้น ในการเห็นสิ่งกีดขวางด้านหลัง หรือกระทั่งการถอยหลังเข้าจอด เรียกได้ว่าตอบสนองทั้งความสะดวกสบาย ความสวยงาม และมาพร้อมกับความปลอดภัยอีกต่างหาก

    คราวนี้ เราเขยิบมาที่รุ่น 2.0 ลิตร กันบ้าง รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ๆ เช่นกัน เพราะได้มีการเพิ่มกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติเข้ามาในรุ่น 2.0V NAVI ขณะที่ในรุ่น 2.0V และ 2.0G ยังสามารถแสดงภาพจากกล้องมองหลังผ่านทางมุมล่างของกระจกได้ เรียกว่าเจ๋งมากๆ

    ด้านน้องเล็ก ในรุ่น 1.6 ลิตร ก็ไม่ธรรมดาครับ เพราะทาง โตโยต้า ได้เพิมถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยสามารถช่วยลดแรงกระแทกจากการชน และยังมีเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่อีกด้วย

    จากที่กล่าวมาทั้งหมด แน่นอนว่า Toyota Corolla Altis เป็นรถที่ครองใจผู้ใช้มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ซีดาน และยิ่งเป็นรุ่นใหม่ 1.8 ลิตร E85 ที่มาพร้อมสมรรถนะของเครื่องยนต์ ให้การขับขี่ราบรื่นไว้ใจได้ แถมยังประหยัดน้ำมันสุดๆ ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่า Toyota Corolla Altis เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากแค่ไหน ถ้าไม่เชื่อคงต้องลองพิสูจน์กันแล้วละครับ

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  19. #139
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 28 พฤษจิกายน 2555



    2012 Isuzu D-MAX X-Series
    รุ่นพิเศษฉลองยอดผลิต 3 ล้านคันในประเทศไทย

    อีซูซุ ฉลองยอดผลิตครบ 3 ล้านคันในประเทศไทยด้วยการเปิดตัว เปิดตัว Isuzu D-MAX X-Series รุ่นพิเศษ ตกแต่งใหม่ทั้งภายนอกและภายใน โดยยังคงใช้ธีมแบบ X-Series รุ่นก่อนหน้า ใช้โทนสีแดง-ดำ พร้อมตราสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง

    มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า "ตลอด 55 ปีที่อีซูซุอยู่คู่สังคมไทย อีซูซุคันแรกได้เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2500 และเริ่มผลิตรถอีซูซุคันแรกในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2 506 นับเป็นเวลาถึง 40 ปี หลังการจำหน่ายรถคันแรก เราจึงได้ฉลองยอดผลิต 1 ล้านคันแรก"

    "แต่เพียง 10 ปีถัดมา อีซูซุฉลอง 50 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยยอดผลิตครบ 2 ล้านคัน และ ณ วันนี้ เพียง 5 ปีถัดมาเท่านั้น อีซูซุสามารถทำสถิติยอดผลิตครบ 3 ล้านคันได้แบบก้าวกระโดด นับเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของอีซูซุทั่วโลก ซึ่งเป็นผลจากที่อีซูซุเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมให้แก่วงการรถยนต์เมืองไทยมาโดยตลอด อาทิ การนำเครื่องยนต์ดีเซลมาใช้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นครั้งแรก จนอีซูซุได้ชื่อว่าเป็น 'เจ้าถนน' ในยุคนั้น"

    "การนำเครื่องยนต์ดีเซลมาใช้กับรถปิกอัพเป็นครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปี พ.ศ. 2521 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการรถยนต์ ทำให้ตลาดรถปิกอัพขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจนถึงปัจจุบัน และการนำรถบรรทุกขนาดกลาง Isuzu Elf ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก และสามารถครองอันดับ 1 ไว้ได้อย่างมั่นคง และด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น จึงตัดสินใจย้ายฐานการผลิตรถปิกอัพจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกในปี พ.ศ. 2545 พร้อมเปิดตัว Isuzu D-MAX เป็นครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย และป็นรถที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์วงการรถยนต์เมืองไทย ด้วยยอดจำหน่าย 1 ล้านคัน ภายในระยะเวลาเพียง 7 ปีเศษ อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดจำหน่ายอีซูซุ ก้าวทะยานสู่ 2 ล้านคัน ในระยะเวลาอันรวดเร็ว"

    "การเปิดตัว All-New D-MAX ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 ทำให้เกิดกระแสตอบรับครั้งใหม่อย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยยอดขายสูงสุดกว่า 15,000 คัน ในเวลาเพียง 3 วัน และยังคงเดินหน้าสร้างสถิติยอดจำหน่ายและยอดค้างส่งมากกว่า 2 แสนคัน ภายใน 1 ปี สูงสุดในประวัติศาสตร์ 55 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย"

    D-MAX X-Series ใหม่ แบ่งเป็น 2 รุ่นคือ D-MAX X-Series Hi-Lander ยกสูงพร้อมชุดพาร์ทรอบคัน และ D-MAX X-Series Speed ตกแต่งสไตล์สปอร์ต เน้นความปราดเปรียว คิดตั้งตราสัญลักษณ์ Isuzu สีแดงที่กระจังหน้ารถ ป้ายชื่อรุ่น Hi-Lander และ Speed ตราสัญลักษณ์ X-Series ที่กระบะท้าย พร้อมลายคาดคู่หน้า - หลัง

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

  20. #140
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2009
    User ID
    9563
    Status
    Offline
    โพส
    687

    มาตรฐาน ตอบ: Update ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ กับ Aeroklas

    ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 29 พฤษจิกายน 2555



    2012 Motor Expo: BMW/MINI
    เพิ่มทางเลือกให้ 3 Series และเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ X1, X6 และ 740Li

    บีเอ็มดับเบิลยู ถือว่าไม่มีรุ่นใหม่แบบแกะกล่อง เพราะเปิดตัว BMW 640i Gran Coupe ไปก่อนแล้วในงาน BMW Xpo 2012 งานนี้จึงเปิดบูธเพิ่มทางเลือกให้ BMW 3 Series ด้วยการเพิ่มรุ่นเบนซิน 320i ในทุกรุ่นย่อย Sport, Modern และ Luxury เสริมด้วย 328i Sport ส่วนรุ่นดีเซลมากับชุดแต่ง M Sport Package ในรุ่น 320d Touring M Sport

    BMW 320i มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo 184 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.9 กม./ลิตร และอัตราการคายคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในไอเสีย 138 กรัม/กม. ส่วน BMW 328i และรุ่นเพิ่มชุดแต่ง Sport มีกำลังให้ใช้มากกว่าด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo 218 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แต่ต้องแลกด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นเป็น 15.9 กม./ลิตร และอัตราการคายคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในไอเสีย 147 กรัม/กม.

    ส่วนรุ่นไฮไลท์ของ 3 Series อย่าง BMW 320d Touring M Sport มาพร้อมชุดแต่ง M Sport Package เพิ่มพาร์ทแอโรไดนามิครอบคัน, เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ต, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังเดินท้ายสีน้ำเงิน, paddle shift, กาบบันได M

    รุ่นปรับโฉมในงานนี้ เริ่มที่ BMW X1 แบ่งเป็น BMW X1 sDrive18i Sport ล้ออัลลอย V-Spoke 318 ขนาด 17 นิ้ว, เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ต, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแท้, พอร์ท USB ส่วน BMW X1 sDrive18i xLine ล้ออัลลอย Y-Spoke 322 ขนาด 18 นิ้ว, ราวหลังคาอลูมิเนียม, ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ Fineline Bay Matt, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง และมีพอร์ท USB

    รุ่นดีเซล BMW X1 sDrive20d xLine มากับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมฟังก์ชั่น ECO PRO อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20 กม./ลิตร และอัตราการคายคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในไอเสีย 132 กรัม/กม.

    ล้ออัลลอย Y-Spoke 322 ขนาด 18 นิ้ว, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง, ระบบ Comfort Access, iDrive พร้อมจอ 8.8 นิ้ว, Navigation system Professional, ชุดระบบเสียงแบบไฮไฟ แอมป์ฯ 180 วัตต์ ลำโพง 8 ตัว และแอพพลิเคชั่น BMW เล่น Facebook, Twitter พร้อมฟังก์ชั่น Web radio สำหรับ iPhone

    BMW X6 xDrive30d M Sport Edition ตกแต่งด้วยชุด M Sport ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังพร้อม paddle shift ติดตั้งไฟหน้าแบบ Adaptive LED ไฟท้าย LED ใหม่

    ปิดท้ายด้วย BMW 740Li เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ความจุ 3.0 ลิตร TwinPower Turbo เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม steptronic เน้นความสะดวกสบายด้วย Rear-seat entertainment Professional สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง โหมดการขับขี่แบ่งเป็น ECO PRO, Comfort, Comfort+, Sport และ Sport+ มาตรวัดดิจิตอลปรับเปลี่ยนสีตามโหมด เช่น สีส้มในโหมด Sport หรือสีฟ้าในโหมด ECO PRO ชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์ Bang & Olufsen กำลัง 1,200 วัตต์ มาพร้อมลำโพง 16 ตัว

    Credit By: www.motortrivia.com
    สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

หน้า 7 จากทั้งหมด 13 หน้า หน้าแรกหน้าแรก 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

ข้อมูลกระทู้

Users Browsing this Thread

ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)

กระทู้ที่คล้ายกัน

  1. ร่วมสนุกตอบคำถามบอลโลก 2010 กับ Aeroklas คำถามที่ 5
    โพสโดย Aeroklas ในฟอรั่ม ท่องเที่ยว / กิจกรรม
    ตอบกลับ: 16
    โพสล่าสุด: 16-08-2010, 15:37
  2. เสวนาภาษาฟุตบอลโลก ร่วมสนุกตอบคำถามกับ Aeroklas
    โพสโดย Aeroklas ในฟอรั่ม ท่องเที่ยว / กิจกรรม
    ตอบกลับ: 130
    โพสล่าสุด: 16-08-2010, 15:32
  3. ตอบกลับ: 8
    โพสล่าสุด: 02-08-2010, 09:29
  4. ร่วมสนุกตอบคำถามบอลโลก 2010 กับ Aeroklas คำถามที่ 3
    โพสโดย Aeroklas ในฟอรั่ม ท่องเที่ยว / กิจกรรม
    ตอบกลับ: 30
    โพสล่าสุด: 17-07-2010, 09:54
  5. ร่วมสนุกตอบคำถามบอลโลก 2010 กับ Aeroklas คำถามที่ 4
    โพสโดย Aeroklas ในฟอรั่ม ท่องเที่ยว / กิจกรรม
    ตอบกลับ: 44
    โพสล่าสุด: 09-07-2010, 08:59

Bookmarks

กฎการโพสข้อความ

  • ท่าน ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขข้อความโพสได้
  •  
  • BB code สถานะ เปิด
  • Smilies สถานะ เปิด
  • [IMG] สถานะ เปิด
  • [VIDEO] code is เปิด
  • HTML สถานะ ปิด