กำลังจะตั้งกระทู้พอดีเลยน้า
รมว.พลังงานเล็งผลักดันยกเลิกจดทะเบียนรถยนต์ใช้ก๊าซแอลพีจี
By สำนักข่าวไทย TNA News | 13 ก.พ. 2556 13:07 | 328 views | กรุงเทพฯ 13 ก.พ. – รมว.พลังงานเตรียมศึกษายกเลิกจดทะเบียนรถยนต์ใช้ก๊าซแอลพีจี หลังพบเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบ่อยครั้งและลักลอบใช้ก๊าซผิดประเภท พร้อมปิ๊งไอเดียลงทุนสร้างท่อน้ำมันไปภาคเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ประชาชนใช้น้ำมันราคาเดียวกันทั่วประเทศ
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “พลังงานสัญจร สะท้อนความเห็นผู้ประกอบการ ปี 2556” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเข้าร่วม อบรม โดยกล่าวว่า รัฐบาลมีแผนจะลดปริมาณการใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในรถยนต์ ซึ่งได้มีการหารือกับกระทรวงคมนาคมและกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการศึกษา เรื่องการยกเลิกการจดทะเบียนรถยนต์แอลพีจีในอนาคต ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะสร้างปัญหาด้านความปลอดภัย จะเห็นได้จากจำนวนอุบัติเหตุรถชนแล้วเกิดการระเบิดเกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมทั้งเกิดปัญหาการลักลอบนำก๊าซแอลพีจีไปใช้ผิดประเภทและส่งออก ทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียเงินจากกองทุนน้ำมันในการอุดหนุน
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะเร่งขยายสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี การดูแลความปลอดภัยของรถยนต์และสถานีบริการก๊าซแอลพีจี ขณะเดียวกันได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบสถานีบริการแอลพีจีทั่ว ประเทศไม่ให้บรรจุเกินปริมาณที่แจ้งไว้ หากพบว่ามีการดำเนินการจำหน่ายผิดวัตถุประสงค์จะถูกดำเนินคดี โดยหากพบว่ากระทำผิด 1 บิลการค้า จะถูกดำเนินคดี 1 คดี รวมกันแล้วทุกบิลจะถูกหลายคดี ซึ่งโทษทางกฏหมายจะปรับ 30,000 บาท จำคุกไม่เกิน10 ปี ต่อ 1 คดี
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงพลังงานมีแผนจะสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและปรับโครงสร้างราคา น้ำมันให้มีราคาใกล้เคียงกันทั่วประเทศผ่านโครงการสร้างท่อขนส่งน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ท่อน้ำมันไปถึงจะได้ใช้น้ำมันในราคา เดียวกันกับกรุงเทพมหานคร ลดความเหลื่อมล้ำ โดยแผนดังกล่าวจะมีการสร้างท่อน้ำมันจากโรงกลั่นในจังหวัดระยองต่อท่อไป อำเภอกบินทร์บุรี ฉะเชิงเทรา แล้วแยกเป็น 2 เส้นทาง ต่อท่อไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยไปยังจังหวัดนครราชสีมาและขอนแก่น ส่วนอีกเส้นทางจะไปทางภาคเหนือต่อท่อไปยังจังหวัดสระบุรีและพิษณุโลก โดยทุกจังหวัดจะมีคลังน้ำมันตั้งอยู่ ระยะทางท่อรวม 1,000 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 19,000 ล้านบาท เริ่มลงทุนในปีนี้ ก่อสร้างเสร็จภายในระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้า หากทำได้ต้นทุนการขนส่งน้ำมันจะลดลงได้ 30 สตางค์ต่อลิตร ส่วนผู้ลงทุน ขณะนี้รัฐบาลกำลังศึกษาว่ารัฐบาลจะลงทุนเอง หรือร่วมทุนกับเอกชน โดยโครงการนี้ไม่ได้ให้ทางบริษัทท่อส่งปิโตรเลียมไทย หรือแทปไลน์ เป็นผู้ลงทุนแต่อย่างใด เนื่องจากคิดค่าบริการสูง
“ปัจจุบันราคาน้ำมันกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ต่างกัน 90 สตางค์ต่อลิตร หากสร้างท่อน้ำมันไปพิษณุโลกเสร็จสิ้นรถน้ำมันก็จะมารับที่พิษณุโลกไป เชียงใหม่ ราคาน้ำมันที่เชียงใหม่จะลดลงได้ประมาณ 30 สตางค์ต่อลิตร ส่วนราคาพิษณุโลกก็จะเท่ากับกรุงเทพฯ” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า ในเดือนมีนาคมนี้กระทรวงพลังงานจะจัดซ้อมพร้อมรับวิกฤติการขาดแคลนพลังงาน รวมทั้งจัดทำแผนแคมเปญรณรงค์ขอความร่วมมือประชาชนประหยัดพลังงานครั้งใหญ่ เนื่องจากประเทศไทยมีความเสี่ยงจากการใช้ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าถึงร้อยละ 70 โดยในเดือนเมษายนนี้ก๊าซพม่ามีแผนจะซ่อมบำรุง ทำให้ไทยไม่สามารถรับก๊าซได้ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขณะที่ก่อนหน้านี้ท่อก๊าซเจดีเอ ก็ถูกเฉี่ยวชนจากสมอเรือประมง ทำให้ต้องใช้ก๊าซแอลเอ็นจีในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย
พวกมันขึ้นราคาไม่ได้ ก็เลยหาทางตอนไข่ LPG เลย
เพื่อที่มันจะได้เหลือ LPG ไว้ป้อนโรงงานปิโตรเคมีเยอะๆ แล้วยังเหลือส่งออกไปขาย ตปท. ได้กำไรมากกว่าอีก
เยี่ยมจริงๆ ประเทศไทย(ยุค)แลนด์ครองเมือง
ถุย....รัฐบาลไทยแม่งก็ดีแต่คิดไปเรื่อยๆ
อันที่จริงนะ รัฐมนตรีอะรับเงินจาก ปตท. มาแล้วอะดิก็เลยต้องทำ นี่แหละเมืองไทย
ระวังครับน้าอย่าด่าแบบระบุตัวเด๋วจะโดนฟ้องเอา...แต่ว่า...แม่งเหี้ยจริงๆรวยจนไม่มีที่จะเก็บแล้วแม่งก็หาแต่เรื่องจะแดก...อยู่ตลอด ตายไปแล้ว ที่ยัดปากอยู่ บาทนึงก็ยังเอาไม่ได้เลยเด้อบักหำ...กรั่กกกกกก
ของดีจริง มันไม่ต้อง ชวนเชื่อ ไม่ต้องมาบังคับใช้กันมากมายหรอก คนใช้เท่านั้นที่รู้
และเค้าก็รู้กันทั้งนั้นแหละ จะมาบิดเบือนทำไมนิ
รสนา โตสิตระกูล
เป็นวิธีต้อนประชาชนเข้ามุม ให้ใช้แต่ของแพงโดยไม่มีทางเลือก ประกาศเลิกเบนซิน91 เพื่อต้อนคนไปใช้เบนซิน95 และขยับราคาแก๊สโซฮอลล์91 มาแทนเบนซิน91 จะได้ไม่มีราคาเบซิน 91มาเปรียบเทียบ
บีบรถยนต์ไม่ให้ใช้ก๊าซแอลพีจี โดยไม่สนใจว่ารถแท็กซี่หลายหมื่นคันใช้ก๊าซแอลพีจี รถสามล้อ รถตู้โดยสารที่หนีราคาน้ำมันแพงมาใช้แอลพีจี เพราะนโยบายล่อลวงแท็กซี่เปลี่ยนมาใช้เอ็นจีวีไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าเลิกให้รถใช้แอลพีจี ก็คือการต้อนรถที่หนีราคาน้ำมันแพงมาใช้เอ็นจีวี
เมื่อเหลือแค่เอ็นจีวี ก็เป็นโอกาสให้ขึ้นราคาตามต้องการ เพราะประชาชนไม่มีทางเลือก
ส่วนก๊าซหุงต้มก็ปั้นตัวเลขให้แพงขึ้นโดยไม่สามารถตรวจสอบต้นทุนที่แท้จริง ให้เหลือแค่ผู้ใช้อยู่2รายใหญ่ๆคืออุตสาหกรรมปิโตรเคมี กับประชาชนที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นก๊าซหุงต้ม ภาคครัวเรือนจึงเป็นเนื้อก้อนใหญ่ที่นักธุรกิจการเมืองหวังจะกลืนลงคอแบบหวานคอแร้ง
เป็นนโยบายเพิ่มกำไรให้ปตท.ทั้งกันคนอื่นไม่ให้มาใช้แอลพีจีแข่งกับปิโตรเคมี ส่วนประชาชนที่ต้องใช้เป็นก๊าซหุงต้ม ก็ต้องซื้อราคา"ตลาดโลภ " ส่วนปิโตรเคมีใช้ต่ำกว่าตลาดโลก 50% และผลได้อีกข้อคือช่วยปั่นหุ้นในตลาดลักทรัพย์ให้พุ่งกระฉูด
ที่สำคัญคือปั่นหัวประชาชนให้แตกกันระหว่างกลุ่มใช้น้ำมันกับประชาชนที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นก๊าซหุงต้ม โดยอ้างว่าคนใช้น้ำมันถูกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันมาชดเชยให้คนใช้ก๊าซหุงต้ม เพื่อเป็นการปั่นหัวประชาชนให้แตกกัน เป็นวิธีแบ่งแยกเพื่อปกครอง
นี่หรือคือนโยบายสาธารณะของรัฐบาล ที่จะกระชากค่าครองชีพให้ประชาชน นี่หรือคือนโยบายสร้างความเป็นธรรมในโครงสร้างราคาพลังงาน ?? ควรเรียกว่าเป็นนโยบายมัดมือชกแล้วล้วงกระเป๋าชนิดไม่สามารถปฏิเสธ
นี่คือการกินรวบแบบไร้รอยต่อ ของแท้ ของขวัญวันวาเลนไทน์ปีนี้จากรัฐบาล
ปั๊ม ปตท เพิ่งเปิดแถวบ้าน ตอนแรกมีทั้ง 91 และ lpg ตอนนี้ยกเลิก 91 หันกลับมาขาย 95 ลิตรละ 47 บาทกว่าๆ เพราะเห็นปั๊มตราดาวขายอยู่เจ้าเดียวแล้วได้กำไรดี มันเป็นอย่างที่คุณรสนาพูดจริงๆ ต้อนให้เราเข้ามุมไปใช้ของแพงกว่า
ปล. เมื่อก่อนราคา lpg ที่ปั๊ม ปตท จะ 12.85 แต่ตอนนี้ต้องลดราคามาเหลือ 12.49 เพื่อให้เท่ากับคู่แข่งที่เป็นปั๊มใหม่ที่เพิ่งใหม่ 2 ปั๊มบนเส้น ถนนลาดกระบัง
กรรมเวรของประเทศไทยจริงๆ
เราจะทำไงดีคับน้าๆๆ แม่งขอให้เงินทับมันตายทั้งโครต
ตรูกำลังจะเก็บตังค์ติด city อยู่เลย แม่ม
บอกแล้วว่าอย่าเอาควายยปบริหาร ...
ขอโทษควายซะหน่อยเพราะเอาชื่อมันมาทั้งที่มันมีดีกว่าไอ้พวก...
เข้าแก๊บการเมียง ระวังโดนอุ้มหายเข้ากลีบ(เหนือ)เมฆ นะคร้าบบบ อิอิ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks