ผมขับประมาณ 110-120 กม/ชม เติมเต็มถังขับจากนนทบุรีแถวๆ แครายไปแพร่แล้วจอด พักรถที่บ้าน1 วันไม่ไปไหน แล้วขับกลับมาจากแพร่จนถึงนครสวรรค์ครับแล้วเติมน้ำมันไปแค่ 59.18 ลิตรครับ รวมการขับแล้วประมาณ900 กว่ากม.ครับ
ผมขับประมาณ 110-120 กม/ชม เติมเต็มถังขับจากนนทบุรีแถวๆ แครายไปแพร่แล้วจอด พักรถที่บ้าน1 วันไม่ไปไหน แล้วขับกลับมาจากแพร่จนถึงนครสวรรค์ครับแล้วเติมน้ำมันไปแค่ 59.18 ลิตรครับ รวมการขับแล้วประมาณ900 กว่ากม.ครับ
เติมลมยางแข็งเกินไป รถจะไม่จับถนน นะครับ ระวังจะได้ไม่คุ้มเสีย โดยเฉพาะรถเบา รถจะลื่นไถลได้ง่าย
พยายามขับจี้ตูดสิบล้อไว้คับ
จาก การใช้งานจริงครับ ผมใช้รุ่น แม็กแค็ปขับเคลื่อน2ล้อ เดิมๆมา 2 ปีกว่า ผมติด สปอร์ตลิส(ฝาปิดกระบะครับไม่ทราบเคยเห็นหรือเปล่า)เติมลมยางที่ 40 ทั้ง4 ล้อครับจะได้ลดความหนืดของหน้ายาง ผมเปลี่ยนเกียร์ที่รอบ 3000 ไม่ขับกระชาก ไม่เชนเกียร์ ออกรถที่เกียร์ 1 ครับ
ขอบคุณครับ ผมใช้มอเตอร์ไซค์ ส่วนรถเมียเป็นคนใช้ครับคริๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอขอบพระคุณทุกๆท่าน ที่หั้ยข้อมูลเป็นความรู้ใหม่ที่ดีมากๆครับ....ขอแนะนำอย่างหนึ่งครับ เรื่องการเปิดแอร์ ควรตั้งความเย็นหั้ยเหมาะสมกับอุณภูมิถายนอกครับ...เช่นข้างนอกร้อนประมาณ26-30องศา ควรตั้งอยู่ประมาณกลางๆครับ..............แต่ถ้าอากาศภายนอกเย็นอยู่แล้วก็หั้ยปรับลงมาต่ำๆเลยครับ..เอาหั้ยพอดีกับที่เราต้องการ ผมเองใช้แค่หมุนขึ้นมาหั้ยดัง แก็ก ก็พอ แค่นี้เย็นจนหนาวแล้วครับ...
แอร์ทำไห้รถเรากินน้ำมันเพิ่มขึ้นเพราะ ตัวคอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน..สังเกตุง่ายๆ จากเสียงของเครื่องจะเร่งรอบขึ้นขณะ คอมแอร์ ทำงาน ส่วนเรื่องของการปรับระดับ พัดลม ไม่มีผลทำไห้รถกินน้ำมันคัรบ ตั้งแรงยิ่งดี แต่จะเสียงดังแค่นั้น...เข้าใจกันใหม่ ยกตัวอย่าง....เช่นตั้งระดับความเย็นเท่าเดิมตามปกติที่ทุกท่านเคยตั้ง เปิดพัดลมแรงสุด..คอมแอร์ทำงาน ปกติแต่ ระยะเวลาการทำงานคอมแอร์สั้นลงเพราะลมแรงๆนั้นจะนำความเย็นจากคอยเย็นแอร์ มาสู่ห้องโดยสารอย่างรวดเร็ว เพราะฉนั้นห้องโดยสาร เย็นเร็ว คอมแอร์ก็ตัดเร็วเช่นกัน เครื่องยนต์ก็ทำงานเบาลงเช่นกัน...ตอนี้รถผมเองใช้วิ่งทำงานประมาณ120กิโลทุกวัน แต่เติมน้ำมันทุกครั้งผมจะวัดทุกครั้งเติม 300บาท วิ่งได้190-220กิโล โดยประมาณ ก็เฉลี่ย14-17โลโดยประมาณ ณ.ปัจจุบันน้ำมันบ้านผมลิตรละ..22.20บาทครับ..ขอยอมรับว่ารถไทรทันทั้งประหยัดทั้งสั่งได้ถูกใจมากเลยครับ... ด้วยความปราถณาดีจาก ช่างแอร์
ขอบคุณทุกๆท่านครับ
ขอแจมด้วยคนนะครับ ผมมีวิธีประหยัดมากมายครับ ผมทำงานที่เดียวกับพี่เขา เราผลัดกันเอารถไปคนละวันครับ ทำงานที่เดียวกันพักที่เดียวกัน อิอิ (ออกแนวกวน.....) ของผมพลัส สี่ประตู ออร์โต้ ได้ประมาณ 12นิดๆๆครับ วิ่งฉะเชิงเทรา-สัตหีบ
ผมว่าเปลี่ยนเกียร์ที่เข็มไมค์ มาเป็นที่รอบเครื่องดีกว่าครับ
ผมว่าข้อ.3 เวลาเปิดเเอร์เเรกๆๆ ควรใช้พัดลมเบอร์ 3 หรือ 4 นะ จะทำให้ไอเย็นกระจายได้เร็วขึ้น คอมเเอร์ก็จะใช้ระยะเวลาการทำงานสั้นลง (เหมือนเวลาเราเปิดเเอร์บ้านถ้าเอาพัดลมมาเปิดช่วยเเอร์ก็จะตัดเร็ว) พอเริ่มเย็นแล้วเปลี่ยนมาใช้เบอร์ 2 หรืด 1 ตามชอบ (การที่เราเร่งอุณหภูมิ = คอมเเอร์ต้องทำงานมากขึ้น=กินนำมันมากขึ้น) โดยส่วนตัวผมใช้ 2.5 glx ทุกของ 500-600 กก. วิ่ง 80-120กิน 12.5- 14 วิงอยู่ เเถวๆๆ เทพารักษ์-บางนา-ออ่นนุช ผมเปลี่ยนรอบที่2300-2500 เเตะๆปล่อยๆๆ
ปกติถ้าขับในเมืองหรือขับช้าๆ ผมจะไม่ค่อยเหยียบคันเร่งครับ ผมจะเล่นคลัชแทนครับ ใช้ได้ถึงเกียร์ 4 แต่ต้องประคองคลัชด้วยนะครับไม่งั้นดับแน่ๆ ครับ ฝึกใช้คลัชให้ชำนาญครับ คันเร่งแทบไม่ต้องแตะเลยครับ
อืม น่าเอาไปทําได้หลายวิธี
ผมขับเปลียนเกียรที่ 2000 รอบ ออกรถไม่กระชาก
ใช้เบรคให้น้อยที่สุด อย่าขับรถแซง ขับเลนกลาง..
อืม....ได้รู้ว่าควรทำยังงัยแล้วจะลองไปทำดูครับขอบคุณครับจะได้ประหยัดเงินด้วย
1.ดูรอบเครื่องกับความเร็ว ออก 2 มันก็กินกว่าปกติ
2.ลมเิติมคู่หน้า 33 หลัง 30 ก็พอถ้าไม่บรรทุก เติมล้อหลังให้น้อยๆจะได้ตะกุยทาง
3.แอร์ เร่งพัดลม4 เร่งอุณหภูมิต่ำสุด เย็นแล้วลดเหลือครึ่งหนึ่ง
4.อันนี้นิสัยส่วนตัวครับ คือว่าบางครั้งถ้าผ่อนคันเร่งแล้วรอบไม่สูงมาก ผมจะชอบเหยียบครัชครับ เพราะรู้สึกรถมันไหลลื่นดีครับ
อันนี้ไม่สมควรทำ
ผมขอแชร์นิดนึง ว่าใช้รถอย่าไปเครียดเรื่องน้ำมันครับ ราคาน้ำมันจะแพงยังไงเราก้อต้องเติม ขับประหยัดมากๆ เครียดเปล่าๆ
เอาแบบกลางๆกันนะครับ เดินทางสายกลาง พอเหมาะ พอดี ไม่ช้าเกิน ไม่เร็วเกินใช้ในชีวิตประจำวันได้ ไม่ต้องขนาด 17-18km/L หรอกครับ
ได้ซัก 12-13 km/L ก้อใช้ได้แล้วครับ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks