http://www.nationchannel.com/main/pr...322/378369296/
เครดิตมาอีกที
คือรีโมทที่ติดมากับรถยนต์นั้น มันจะมีอยู่ 2 ประเภท ก้อคือแบบรหัสคงที่ [Fixcode] กับ รหัสไม่คงที่ [Rolling Code]
รหัสคงที่ [Fixcode]นี้คือมาแบบไหนก็แบบนั้นตลอดสำหรับรถคันนั้น แต่โอกาสจะซ้ำกันกับคันอื่นน้อยมาก แต่มันไม่ปลอดภัยเท่าที่ควร คือสามารถ จูนได้ / ก๊อปได้ /ดักจับสัญญาณได้ ส่วนใหญ่จะเป็นรีโมทที่เรามาติดกันภายหลังราคาถูกๆนั้นใช่เลย แต่ถ้าราคาสูงๆอาจจะเป็นรหัสไม่คงที่ [Rolling Code]
ส่วนรหัสไม่คงที่ [Rolling Code] อย่างที่เป็นข่าวเนชั่นนั้น มันติดมากับรถซะส่วนใหญ่ รหัสจะเปลี่ยนไปทุกครั้งที่เรากดรีโมทออกไป ถ้าหากมีการถูกจูน /ถูกก๊อป / ถูกดักจับสัญญาณ ก็จะใช้กันไม่ได้เพราะมันเปลี่ยนไปแล้ว ขโมยมันเลยใช้วิธีเอารีโมทด้วยกันมากกวนสัญญาณโดยการกดของเค้าแช่ไว้ พอเรากดของเรา สัญญาณออกมาซ้อนกัน รถมันเลยไม่รู้ว่าเราสั่งล๊อคประตูแล้ว (ก็เหมือนไม่ได้ล๊อค หรือ ลืมล๊อคนั้นแร๊ะ)แต่ถ้าเราสังเกตุ หรือรอบคอบ ก็จะรู้ว่าประตูเราไม่ได้ล๊อคแค่นั้น ไอ้ที่ขโมยมันจะมาสั่งปลดล๊อครถเรา หรือ ก๊อปสัญญาณไปนั้นยังยากสักหน่อย (ไม่ใช่ทำไม่ได้นะครับ ทำได้แต่ยากอยู่ครับ....มันจะมีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้)รีโมทที่ใช้อยู่เค้าก็ออกแบบและคิดมาดีแล้วหละ เพียงแต่แนะนำให้รอบคอบขึ้นในการล๊อกรถ เช่น
-ล๊อคแล้วลองดึงประตูดูก่อนเดินจากไป
-หรือ ดูที่กระจกพับ หรือ ไฟกระพริบมั้ย
-หรือ กดล๊อคไปแล้วเว้นช่วง กดซ้ำ ทำอย่างงี้สักสองสามครั้ง (เพราะทุกครั้งที่กดโค๊ดมันจะเปลี่ยนไปได้เรื่อยๆ)
-หรือ ตอนล๊อคอย่าออกห่างรถมาก ถึงจะกดรีโมทให้ล๊อค (อันนี้ รีโมทเราอยู่ใกล้ตัวรับสัญญาณกว่าคลื่นจะแรงกว่า...ของมิจฉาชีพถ้าอยู่ไกลสัญญาณอ่อนกว่ามันเอาไม่อยู่..แต่ถ้าแบตออ่นก็มีโอกาสเอาอยู่เหมือนกันนะ)
ที่เห็นในข่าวที่ว่า ส่วนใหญ่จะเป็นรถญี่ปุ่น สามยี่ห้อ (ไม่ต้องบอกนะครับนับหัวกันได้ยี่ห้อไหนบ้าง) และรถยุโรปหนึ่งยี่ห้อ (จริงแล้วเค้าลูกครึ่ง ยุโรปเกาหลีต่างหาก)
ส่วนที่ว่า BM นั้นรบกวนสัญญาณด้วยวิธีนี้ไม่ได้ เพราะรถเจ้านี้ ช่องคลื่นสัญญาณรีโมทสูงกว่าชาวบ้านเค้าครับ
ส่วน VW นั้น (จริงแล้วต้องรวมถึง Audi,Skoda ด้วย)ของเค้าจะแยกรีโมทเป็นรหัสกลุ่มๆอีกชั้น ฉนั้นจะเอารีโมทด้วยกันมาล้มสัญญาณกัน ต้องขนรีโมทมาร่วมสิบกลุ่มกันเลย
Bookmarks