อย่างนี้จะเรียกว่าคนซื้อถูกแจ็คพ็อตก็คงไม่ผิดมั้ง และคิดว่าถ้าใครได้เจอแบบนี้ก็เข็ดค่ะขอเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต ซื้อรถใหม่ๆกะว่าจะได้ใช้อย่างสบายใจให้คุ้มค่ากับเงินเสียหน่อยแต่ปรากฏว่าใช้ไป2อาทิตย์เจอข้อบกพร่อง ชำรุด 4อย่าง เริ่มตั้งแต่หม้อปรับความดันก๊าซไขน็อตมาไม่แน่นในวันแรกที่ออกรถ ตามมาด้วยน้ำมันเครื่องรั่ว น้ำมันเกียร์มีสีดำสนิทโดยไม่ทราบสาเหตุ และน้ำมันเกียร์ซึม ปิดท้ายด้วยการที่รถถูกรื้อ ถอด ล้อ เพลาชุดใหญ่ไป4รอบ (อ้างว่าเป็นขั้นตอนการการซ่อม แต่เรากลับมองดูว่าเป็นความไม่ชำนาญการของช่างเสียมากกว่าน่ะ) ....เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ..
เรื่องมีอยู่ว่าพี่สาวได้ซื้อรถMitsubishi Triton CNG 4ประตู ได้รับรถเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2556 ขับรถออกจากศูนย์เวลา 9.30น. เมื่อขับออกมาได้ประมาณ 20 -25นาทีก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังผิดปกติจากทางฝากระโปรงด้านหน้ารถ จึงต้องขับรถกลับไปศูนย์และได้พบกับผู้จัดการฝ่ายขาย จึงได้นำรถออกไปทดลองวิ่งด้วยกันปรากฏว่าได้ยินเสียงผิดปกติเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องนำกลับมาที่ศูนย์เพื่อเช็คหาสาเหตุของเสียงปริศนานั้น(ใจก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมากเพราะรถใหม่ๆบริษัทเค้าต้องQC มาเป็นอย่างดี)
ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาพักเที่ยงของช่างพอดี ก็ต้องนั่งรอถึงบ่ายโมงครึ่งจึงเห็นช่างเข้ามาตรวจดู และช่างแจ้งว่าเป็นที่ระบบกรองแก๊ส ต้องเสียเวลารอให้ช่างเบิกของและเปลี่ยนอุปกรณ์อยู่นานหลายชั่วโมง สุดท้ายก็นำรถไปทดลองขับอีกรอบ ปรากฏว่าเสียงยังไม่หาย จากนั้นช่างจึงนำรถมาตรวจสอบอีกครั้ง ครั้งนี้ได้ขันน๊อต 4 ตัวที่หม้อปรับความความดันก๊าซ CNG อาการดังกล่าวจึงหายไป ซึ่งวันนั้นกว่าจะได้รับรถกลับก็เกือบเย็น(ใจก็คิดอีกว่าไม่เป็นไรน่าแค่บริษัทผู้ผลิตไขน็อต4ตัวไม่แน่น แม้จะต้องรอนานไปหน่อย วันนั้นเลยไม่ได้กินข้าวกลางวันเพราะห่วงรถ)...
ต่อมาหลังรับรถ 1 วัน วันที่ 3 มีนาคม 2556 ขณะขับรถสังเกตเห็นไฟรูปเครื่องยนต์ติด ซึ่งก็รู้นึกเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยจึงพยายามโทรติดต่อหาเซลล์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และต่อมาไฟเตือนนั้นได้หายไป
ในวันที่ 5 มีนาคม 2556 จึงนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์อีกครั้งในเวลา 13.00 น. ทางศูนย์ได้ตรวจสอบกล่อง ECU พบ ERROR CODE “ P0170 ระบบเชื้อเพลิงผิดปกติ จากนั้นจึงทำการลบ memory ในกล่อง ECU และอธิบายว่า สาเหตุเกิดจาก รถเป็นรถรุ่นใหม่ แต่ซอฟท์แวร์เป็นรุ่นเก่า ให้รอการ UPDATE ซอฟท์แวร์ในภายหลัง ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรถยนต์ใหม่ต้องเกิด error และต้องรอ update ซอฟท์แวร์ด้วย...ในการเข้าศูนย์ครั้งนี้ก็ใช้เวลานานเช่นเดิมกว่าช่างจะมาดูให้..
และต่อมาเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2556 ไฟรูปเครื่องยนต์แสดงอีกครั้งและพบว่ามีน้ำมันเครื่องรั่วจากบริเวณเครื่องยนต์ ก็ต้องเสียเวลานำรถคันนี้เข้าศูนย์อีกครั้ง และทางศูนย์พบ ERROR CODE “ P0170 ปรากฏอีกครั้งหนึ่ง จึงได้ทำการลบ memory ไฟรูปเครื่องจึงดับ จากนั้นช่างทำการเปลี่ยนซีลท้ายเครื่องโดยการถอดเพลา ถอดเกียร์ ออกทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหา (เห็นช่างรื้อ ถอดอุปกรณ์รถใหม่ๆหลายรอบ เพื่อหาสาเหตุก็ใจเสียแล้วค่ะ)นอกจากนี้ยังพบปัญหาว่าน้ำมันเกียร์มีสีดำผิดปกติ(ไม่แน่ใจว่าสาเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้เครื่องยนต์เกิดการERROR CODE P0170 มาตั้งแต่แรก) หลังซ่อมแล้วช่างได้นำรถไปทดลองวิ่งแต่อาการน้ำมันรั่วก็ยังไม่หาย(ข้องใจเป็นอย่างยิ่งรถใหม่ๆทำไมจึงเกิดปัญหาน้ำมันเครื่องรั่วได้)วันนั้นก็เลยตัดสินใจทิ้งรถไว้ที่ศูนย์....
ตอนนี้กำลังคิดว่าตกลงรถคันนี้ๆได้ผ่านการQCมาหรือไม่ ทำไมจึงเกิดปัญหาต่างๆได้หลายปัญหาเช่นนี้ จึงตัดสินใจคุยกับผู้จัดการเพื่อขอเปลี่ยนรถคันใหม่เพราะดูแล้วรถคันนี้ไม่มีคุณภาพแน่ๆ ขืนใช้ต่อไปอาจจะมีปัญหาอื่นๆเกิดขึ้นได้เรื่อยๆแต่ทางผู้จัดการก็บอกว่าคงเปลี่ยนให้ไม่ได้แต่จะซ่อมให้แถมต่อท้ายให้เราอีกว่าจะกลัวอะไรมีประกันตั้ง3ปี.....ก็ถูกค่ะรถมีประกัน3ปีแต่ถ้าเป็นรถคุณ คุณจะเอาไหมซื้อรถใหม่ๆราคาแพง แล้วต้องคอยพาเข้าศูนย์ตลอด3ปี ในความเป็นจริงแล้วในเมื่อสินค้าที่ผลิตออกมาไม่มีคุณภาพทางบริษัทก็ต้องเปลี่ยนสินค้าที่มีคุณภาพให้ลูกค้าสิ จะให้เราต้องเสียเวลามาพารถใหม่เข้าศูนย์ซ่อมตลอดได้ไง...แถมตอนนี้ก็หมดความเชื่อมั่นและความมั่นใจทั้งหมดแล้ว..เอาไงต่อดี...
วันต่อมา 19 มีนาคม 2556 ด้วยความเป็นห่วงรถจึงเข้าไปดูรถที่ศูนย์อีกครั้ง ตอน 11 โมงเช้าปรากฏช่างได้ทำการถอดเพลา ถอดเกียร์อีกเป็นครั้งที่สองตอนเช้าเพื่อแก้ปัญหาและนำรถออกไปวิ่งทดสอบ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อีกเช่นกัน และในช่วงบ่ายวันนั้นช่างได้ทำการถอดเพลา ถอดเกียร์อีกเป็นครั้งที่สาม ไขน็อตกันจนพัง และทำการเปลี่ยนน็อตใหม่
วันที่ 20 มีนาคม 2556 นำรถไปทดลองวิ่งปรากฎว่าน้ำมันยังรั่วอยู่ คือยังซ่อมไม่ได้ จึงถอดเพลา ถอดเกียร์และอุปกรณ์ต่างๆของเครื่องเป็นครั้งที่สี่ ซึ่งในวันนั้นก็ได้แจ้งเรื่องไปยัง call center ของมิตซูเพื่อร้องเรียนปัญหาและขอเปลี่ยนรถ (หมดความอดทนแล้ว..และไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของรถที่ต้องถูกรื้อถูกถอดหลายรอบเช่นนี้) แต่ทางcall center บอกว่าถ้ารถซ่อมได้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนให้ได้ สรุปคือต้องให้ช่างรื้อและซ่อมต่อไปจนกว่าจะซ่อมได้
วันที่ 21 มีนาคม ได้เข้าไปที่ศูนย์อีกครั้ง ช่างแจ้งว่าสามารถซ่อมที่น้ำมันรั่วได้แล้ว แต่ปัญหาน้ำมันเกียร์ดำผิดปกติยังไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร ทั้งๆที่รถเป็นรถใหม่ วิ่งได้แค่ 1300 กิโล และรถใช้งานได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์หลังจากซื้อมา...เรียกว่าเซ็งสุดๆๆๆ...เลยตัดสินใจทิ้งรถไว้ที่ศูนย์ซ่อมตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้(1 กค.56) และเริ่มเจรจาขอคืนหรือขอเปลี่ยนรถกับบริษัทมิตซู ประเทศไทย..แถมระหว่างซ่อมก็ไม่มีรถให้ใช้ด้วย..
.
ในเมื่อเราซื้อรถหรือสินค้าใดๆที่มีราคาแพงมาใช้ทุกคนก็ต้องคาดหวังว่าสินค้านั้นจะคุ้มค่ากับเงินที่ได้จ่ายไป ซึ่งผู้ผลิตเองก็ควรมีความรับผิดชอบในสินค้ามากกว่านี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพอันเนื่องมาจากกระบวนการผลิตผู้ผลิตก็ควรจะเปลี่ยนสินค้าชิ้นใหม่ให้เพื่อเรียกความมั่นใจและความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับมา
หลังจากเจรจาขอเปลี่ยนรถกับมิตซูประเทศไทยไม่สำเร็จ ตอนนี้ล่าสุดก็ส่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไปยังสคบ. และผ่านการเจรจาไกล่เกลี่ยรอบแรกไปเรียบร้อยแล้วโดยระหว่างการเจรจรตัวแทนของบริษัทเองก็ยอมรับว่ารถคันนี้มีความบกพร่องจากการผลิตจริงๆแต่ไม่สามารถเปลี่ยนคันใหม่ให้ได้เพราะบริษัทไม่มีนโยบายในเรื่องดังกล่าว...อ้าวงั้นก็หมายความว่าเราต้องยอมรับสภาพที่จะใช้รถคันนี้งั้นเหรอ...แน่นอนเราไม่ยอมเพราะเราเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดปกติที่รถใหม่ๆป้ายแดงที่เพิ่งจะใช้งานได้เพียง2สัปดาห์แต่กลับพบข้อบกพร่อง ชำรุดในหลายๆจุด ก็สันนิษฐานได้เพืยงอย่างเดียวคือรถคันนี้อาจจะหลุดจากการตรวจสอบคุณภาพซึ่งหากเป็นเช่นนี้จริงๆรับรองว่าอนาคตอาจจะมีปัญหาอื่นตามมาได้อีกแน่นอน
จะว่าไปแล้วเมื่อรถที่เราซื้อมาและยังไม่ทันจะได้ใช้งานเกิดปัญหาขึ้นมา ถ้าเราขอให้บริษัทผู้ผลิตรับผิดชอบโดยการเปลี่ยนรถคันใหม่หรือขอให้รับซื้อรถคืนกลับไป บริษัทผู้ผลิตมักจะอ้างตามตำราเลยว่า..บริษัทไม่มีนโยบายในเรื่องดังกล่าว... ซึ่งในความเป็นจริงแล้วก่อนที่จะกล่าวอ้างเช่นนี้กับลูกค้าบริษัทผู้ผลิตรถควรหันกลับมาดูก่อนว่าปัญหาที่ลูกค้าเจอมันคือปัญหาที่เิกิดจากการใช้งานตามปกติ หรือว่าเกิดจากความบกพร่องในกระบวนการผลิตของคุณเอง เพราะหากเป็นอย่างหลังคำกล่าวอ้างเช่นนี้มันคือการปัดความรับผิดชอบโดยแท้จริง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมันเกิดจากความบกพร่องหรืออาจจะเกิดจากการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพของบริษัทผู้ผลิตเอง....บริษัทที่ดีไม่ควรโยนความรับผิดชอบให้ลูกค้าเป็นผู้รับกรรม...
ตอนนี้ก็ต้องรอไปอีก2เดือนกว่าๆเพื่อเข้าสู่กระบวนการเชิญอนุกรรมการยานยนต์มาร่วมตรวจสอบซึ่งถ้ายังไม่สามารถตกลงกันไม่ได้ก็คงต้องเข้าสู่กระบวนการของศาลแผนกคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป...
สุดท้าย...ตราบใดที่มิตซูยังไม่ใส่ใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นของลูกค้าและคิดที่จะแก้ไขปัญหาของลูกค้าอย่างตั้งใจและจริงใจ เชื่อว่าในอนาคตผู้ที่ใช้รถมิตซูอยู่และผู้ที่กำลังตัดสินใจจะใช้รถมิตซูคงหมดความมั่นใจและความเชื่อถือในยี่ห้อมิตซู....
http://www.oknation.net/blog/nonglek/2013/03/27/entry-1
เพิ่มเติม..3/กค./56..
ขอขอบพระคุณทุกท่าน ทุกกำลังใจ ทุกคำเชียร์ ทุกแรงสนับสนุนและทุกคำแนะนำมากๆค่ะ คิดอยู่หลายรอบก่อนเข้ามาโพสในคลับนี้ค่ะเพราะกลัวว่าจะไปสะเทือนใจคนรักมิตซูเข้า แต่ก็ตัดสินใจลองเข้ามาโพสดูเพราะอาจจะได้รับคำแนะนำดีๆ(ก็ไม่ผิดหวังค่ะ..)อีกทั้งเป็นการกระตุ้นจิตสำนึกความรับผิดชอบของบริษัทมิตซู(แต่ก็ไม่รู้ว่าข้อหลังนี่จะได้ผลไหม..)
ความจริงเราก็อยากให้เรื่องจบไวๆค่ะดังนั้นในการไกล่เกลี่ยที่สคบ.เมื่อปลายเดือนพค.ที่ผ่านมาเราจึงได้เตรียมข้อเสนอหรือทางเลือกเผื่อไปหลายๆข้อเพื่อให้บริษัทเลือกเริ่มตั้งแต่
1.ขอเปลี่ยนหรือให้บริษัทรับซื้อรถกลับคืน...บริษัทปฏิเสธ
2.ขอเปลี่ยนเป็นรถรุ่นใหม่ที่ราคาสูงกว่าโดยเรายอมจ่ายส่วนต่าง....บริษัทก็ปฏิเสธ
3.ในกรณีที่จะให้ใช้รถคันนี้ต่อบริษัทต้องซ่อมและแก้ไขรถจนสมบูรณ์ พร้อมทำหนังสือรับรองว่าหากเกิดปัญหาขึ้นมาอีกบริษัทยินดีเปลี่ยนคันใหม่ให้เรา....บริษัทก็ปฏิเสธ
4.ในกรณีที่จะให้ใช้รถคันนี้ต่อบริษัทต้องเปลี่ยนเกียร์พร้อมเครื่องยนต์ให้ใหม่ พร้อมยืดเวลารับประกันออกไป....ข้อนี้บริษัทปฏิเสธในเรื่องการเปลี่ยนเครื่องยนต์โดยอ้างว่าเครื่องยนต์ไม่ได้ชำรุดบกพร่อง (แต่ในความคิดเราการที่รถถูกรื้อหลายรอบๆอาจจะมีผลกระทบต่อเครื่องยนต์ได้ และเพื่อความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยเราจึงขอเปลี่ยนเครื่องยนต์...แต่บริษัทปฏิเสธดังนั้นจึงต้องรอการพิจารณารอบต่อไปในเดือนสิงหาคมค่ะ..เรียกว่าบริษัทแทบจะไม่ยอมลงทุนอะไรเลยทั้งๆที่เราเป็นฝ่ายเสียหายแถมไม่มีรถใช้งาน..)
รบกวนน้าๆทุกท่านที่มี facebook ค่ะ ช่วยกดแชร์ link ด้านล่างนี้อันใดอันหนึ่งก็ได้ค่ะตามแต่สะดวก...ขอขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ...
http://www.oknation.net/blog/nonglek/2013/03/27/entry-1
http://www.thaitritonclub.com/forum/showthread.php?t=55749&p=967805&mode=linear#post96 7805
Bookmarks