ฮุนไดคันนี้เทสครั้งแรกน้ำมันได้ 14 โลลิตร ส่วนแก๊สเหลือเชื่อ 106 กม./ลิตร ปรับปรุงอุปกรณ์จนเหมาะสมเทสใหม่อีกรอบ ดีเซล 17 กม./ลิตร ส่วนแก๊สไม่ได้วัด เด็กเติมแก๊สเขาจะว่าเอา กะประมาณสัก 80-90 กม./ลิตรก็ไม่ต้องสนใจแล้ว เติมเต็ม 58 ลิตรใช้ลืมเลย
ฮุนไดคันนี้เทสครั้งแรกน้ำมันได้ 14 โลลิตร ส่วนแก๊สเหลือเชื่อ 106 กม./ลิตร ปรับปรุงอุปกรณ์จนเหมาะสมเทสใหม่อีกรอบ ดีเซล 17 กม./ลิตร ส่วนแก๊สไม่ได้วัด เด็กเติมแก๊สเขาจะว่าเอา กะประมาณสัก 80-90 กม./ลิตรก็ไม่ต้องสนใจแล้ว เติมเต็ม 58 ลิตรใช้ลืมเลย
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ครับ เพื่อนสมาชิกทุกท่าน
เช้าวันนี้ได้มีโอกาสเดินทางมาทำงานที่สนามบินดอนเมืองครับ เลยลองจับอัตราการกินน้ำมันดูซะหน่อย
เส้นทางก็ทางด่วนจากบางนา- ดินแดงละครับ ระยะทางทั้งหมด 38.5 กิโลเมตร เส้นทางที่เหมาะสมเป็นช่วงที่เลย
จากด่านซอย62 มาหน่อย เป็นทางที่ไม่ลาดชันครับ เหมือนเดิมทำความเร็วที่ 100 กม/ชม กดรีเซ็ท RV แล้วก็รอ
พร้อมคันเร่งนิ่งๆ ได้ผลมาที่ 24.2 กิโลเมตร/ลิตร โอว...ยังแจ่มเหมือนเดิมครับ แต่ที่ระยะต่อมา ได้เฉลี่ย 26.1 กม/ลิตรครับ วันนี้ไม่มีการหยุดนิ่ง ความเร็วที่ทำได้ค่อนข้างคงที่ รักษาระดับคันเร่งได้ตามมาตรฐานครับ
*หมายเหตุ*
ลืมเอากล้องคู่ชีพมาด้วยครับ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ของจริงตลอดมาและตลอดไปครับ
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ขอข้อมูลใช้งานเน้นในเมืองหน่อยครับ ปกติใช้รอบเครื่องตามไมล์ ที่ 800-1200 รอบ(รถติดตลอดปล่อยไหลตลอดทาง) มีรอบเกินบ้างส่วนมากไม่เกิน 2000-2500 รอบ (ตอนออกตัวถนนว่าง)
*อันนี้ในเมืองแท้ๆครับ รถติดแบบมหาโหดเลยครับ ข้อมูลอยู่หน้าที่ 10 ครับ*
ได้ข้อมูลการเติมน้ำมันจากน้ากาโม่แล้วครับ วิ่งใช้งานทั่วไปทั้งในเมืองและนอกเมืองในรอบวันที่ผ ่านมา ได้ระยะทางตาม Gps 260 กิโลเมตร เติมน้ำมันไป 15.77 ลิตร เฉลี่ยการสิ้นเปลือง 16.487 กม./ลิตร คิดเป็นจำนวนเงินที่ 1.69 บาท/กิโลเมตร (ราคาน้ำมันลิตรละ 27.89 บาท) และมีค่าแก๊ส ประมาณกิโลเมตรละ 98 สตางค์ (ค่าอาจสูงไปนิดเพราะเด็กเดิมแก๊สอัดจนเต็มซึ่งก่อนห น้านี้เราเติมแค่วาวล์ตัดเท่านั้น) ดังนั้นค่าใช้จ่ายรวมจะอยู่ที่ 2.67 บาท/กิโลเมตร ซึ่งเทียบจากข้อมูลเดิมน้ากาโม่มีค่าการสิ้นเปลืองที ่ 7.5-8 กม./ลิตร เท่ากับ ประมาณ 3.71 บาท/กิโลเมตร ดังนั้นลดค่าใช้จ่ายไป 1.04 บาท/กิโลเมตร ส่วนเรี่ยวแรงที่เพิ่มขึ้นจากเดิมมากคือของแถมครับ แต่ถ้าคิดตามระยะทางที่วิ่งจริงจะได้ค่าที่งามกว่านี ้อีกครับ เพราะระยะจาก Gps จะแก่กว่าระยะจริงของรถเดิมๆอยู่ประมาณ 3.5 % ครับ ส่วนน้ากาโม่ปรับลดแก๊สลงอีกนิดนะครับ มันประหยัดไปหน่อย เอาแค่ในเมืองสัก 14-15 โลลิตรก็พอครับแต่ถ้าทางไกลน่าจะประมาณ 18 ได้ เอาแค่พอประมาณพอครับ.......
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ประหยัดขึ้นเกือบเท่าตัวเลยนะนั่น เดิม 7.5-8 กม/ลิตร ติดตั้งแล้วได้ 14-15 กม อย่างนี้ของผม ตัว 116 เดิมวิ่งอยู่ 12-13 กม หากติดตั้งแล้วก็น่าจะได้อยู่แถวๆ 20 กม/ลิตร ใช้งานในเมือง ถูกต้องหรือป่าวครับ ถ้าใช่อาทิตย์หน้าผมจะนัดเพื่อติดตั้งเลยครับ
ว่าแต่ยังไม่มีข้อมูลของ Desel-Hydrogen บ้างหรือครับ
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย wutt : 06-06-2010 เมื่อ 13:03
น้า wutt ติดต่อโดยตรงที่ อ.ต้นเลยครับ ได้ข้อมูลแบบเนียนๆเลยครับ
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
hho ผลิตได้กี่ลิตร/นาที ครับ
ที่เคยทำตัวทดสอบในรุ่นแรกๆขนาด 4x5 นิ้ว กระแสไฟ 15 Amp. สามารถผลิตได้ 1.3 ลิตร/นาที แต่ปัจจุบันพัฒนาเซลที่สามารถผลิตได้มากพอต่อการใช้งาน แต่ใช้กระแสเพียง 7-8 Amp. ครับ แต่สิ่งที่จำเป็นที่สุดวิธีการนำไปใช้กับเครื่องยนต์เท่านั้น ถ้าเน้นเรื่องปริมาณการผลิตก็จะพบกับทางตันครับ ถ้าไม่เชื่อลองผลิตสัก 1 ลิตร/นาที แล้วนำมาใช้กับไทรตั้นดูแล้วท่านจะทราบว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยครับ....
ตามที่ผมเข้าใจ แสดงว่า Oxy-Hydrogen เป็นตัวเสริมยอด แต่ยังใช้แทน แก๊ส อย่างเดียวไม่ได้ไม่ได้
สวัสดีครับ เพื่อนสมาชิกผู้แสวงหาพลังงานทดแทนที่รักทุกท่าน
เมืื่่อวาน(10 มิถุนายน 2510)ได้มีโอกาสนำเจ้าตั้น ออกวิ่งทางยาว ย้าว ยาว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ติดตั้ง พลังงานแก๊สมาได้เกือบ 2 เดือน
ประสิทธิภาพที่ได้ ยอมรับกันไปเลยครับว่า คิดไม่ผิดเลยที่หันมาคบกับแก๊สแบบร่วมกับดีเซลครับ
อัตราเร่ง รอบมาตามเท้าเลยครับ ขากลับจากโคราช ช่วงขึ้นเขา ทางชันหน้าที่เราก็เพียงกดเท้าลงไปแผ่วๆเท่านั้น
รถของเราก็จะทะยานไปตามที่ใจปรารถนาเลยเชียว แซงไล่เก็บทีละคันๆ ในช่วงที่การจราจรคับคั่งทำได้ดี เกียร์ไม่ต้องกด Overdrive เลยครับ ใจอยากไปอย่างไร รถก็ไปได้อย่างที่ต้องการเลยเชียว อัตราการบริโภคน้ำมัน
เติมเต็มถึงตั้งแต่เมืื่่อวานตอนแข่งแรลลี่ ที่ปั๊มบางจากริมทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา (ซอยสุคนธสวัส)
จนมาถึงวันนี้วิ่งไปแล้ว 736.3 กิโลเมตร ซึ่งปรกติที่ผมเปรียบเทียบระยะทางกับ GPS จะต้องบวกระยะทางจริงเพิ่มไปอีก ประมาณ 100 กิโลเมตรละ 10 กิโลเมตรครับ ฉนั้นระยะทางจริงๆ ที่วิ่งน่าจะเป็น =736.3 + 10%
จะได้ระยะทางจริงๆ ที่ยังไม่เปลี่ยนยาง = 809.93 กิโลเมตรครับผม และยังเหลือน้ำมันในถังอีก 1 ขีด จะพารถวิ่งไปได้อีก 140 กิโลเมตร (ยังไม่ได้บวกเพิ่มอีก 10% ครับท่าน)
จะเห็นได้ว่าได้ระยะทาง ประมาณ 1000 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ถังกันเลยเชียวครับ คุ้มครับ ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรแล้วครับ มาชมรูปถ่ายกันดีกว่าครับ
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย Kamo_007 : 11-06-2010 เมื่อ 20:54
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
อันนี้ที่ความเร็ว 100 กม/ชม ความเร็วนี้หลังจากที่ได้ทำความเร็ว 171 กม/ชม มาหมาดๆครับ สังเกตุมาตรวัดตัวบน
Gps นะครับ
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย Kamo_007 : 11-06-2010 เมื่อ 20:45
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ภาพต่อไป เป็นภาพที่ผมได้แจ้งไว้ข้างบนนะครับ ถึงอัตราการบริโภคน้ำมัน กับระยะทางที่วิ่งได้ต่อการใช้น้ำมัน 1 ถังครับ ดูเวลาที่หน้าปัดนะครับ เป็นจุดสุดท้ายที่บ้านผมเองครับ
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ถ้าจะเปรียบเทียบกับสมัยหนุ่มๆ ที่ยังไม่ได้ติดแก๊สนะครับ
น้ำมัน 1 เต็มถัง Rv จะคำนวณได้ 610 กม + อีก 10% จะได้ระยะทาง = 671 กมครับ
ปัจจุบัน ณ วันนี้ วิ่งไปแล้ว 736.3 + 10% = 808.93 กิโลเมตร แต่ยังมีน้ำมันวิ่งได้อีก 140 กม
ตกลงว่าผมจะรอให้น้ำมันถังนี้ขึ้นไปเตือนหรือว่าใกล้เคียงหมดถังมากที่สุด แล้วจะมาอัพเดทนะครับ
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ซึ่งปรกติที่ผมเปรียบเทียบระยะทางกับ Gps จะต้องบวกระยะทางจริงเพิ่มไปอีก ประมาณ 100 กิโลเมตรละ 10 กิโลเมตรครับ ฉนั้นระยะทางจริงๆ ที่วิ่งน่าจะเป็น =736.3 + 10%
น้ากาโม่ หมายความว่า 100กม. จริง วิ่งได้ 90กม.ถึง+10กม. ได้เต็ม 100 กม.หรือ
100 กม.จริง วิ่งได้ 110 กม.ครับ
รถผม เติมเต็มถัง Rv จะขึ้นวิ่งได้ 1200 กม. ครับ
อีซูซุ 2800 4x4 คันนี้ติดแบบเต็มอ็อปชั่นครับ 1.ชุดเซฟพลัสดีเซล ซึ่งมีตัวเพิ่มความร้อนน้ำมันดีเซลก่อนเข้าหัวฉีด และ ตัวเพิ่มอ๊อกซิเจนให้กับอากาศที่ดูดเข้าไป 2.ชุดผลิต Oxy-Hydrogen ที่ทำงานสูงสุดที่ไม่เกิน 15 Amp. ส่วนรอบเดินเบาประมาณ 4.5-5 Amp. 3. ติดตั้ง LPG เข้าไปอีกโดยใช้ถังขนาด 25 ลิตรวางใต้รถแทนยางอะไหล่ หม้อต้ม Shap ตัวเก่งครับ ตั้งเป้าให้ได้ 17-18 โลลิตรครับ เพราะเคยทำเครื่องตัวเดียวกันแต่เป็น 4 ล้อเล็กบรรทุกของได้ถึง 17 โลลิตรมาแล้วโดยไม่มีชุดผลิต Oxy-Hydrogen ปรับจูนแบบคร่าวๆในครั้งแรก กดคันเร่ง 1500 รอบนิ่งๆแล้วเปิดระบบปรากฏว่ารอบขึ้นไปถึง 2500 รอบ ซึ่งแรงไปมากสำหรับการปรับจูนแก๊ส จึงต้องเปลี่ยนอุปกรณ์คุมเก๊สใหม่ให้จ่ายน้อยกว่านี้อีก ก็ได้ดังคาดครับ ในครั้งที่สอง รอบเครื่องขึ้นมาแค่ 2000 รอบต่อนาที ในขณะที่เราได้ทำการลดน้ำมันไว้แล้ว ลองเปิดแอร์แล้วขับรอบหมู่บ้าน คันเร่งเบามากกดนิดเดียวพุ่ง ไม่มีเสียงแกร๊กของเครื่อง และไม่มีกลิ่นแก๊สออกท่อไอเสียครับ เอาไว้รอผลความประหยัดครับ อาจใช้เวลาสักหน่อยเพราะ Oxy-Hydrogen เป็นตัวแปรสำคัญมาก ถ้าปรับจนพอดีมันจะประหยัดทั้งน้ำมันและแก๊สและได้กำลังเครื่องยนต์ที่ดีมากครับ
ฝาสีฟ้าเป็นถังน้ำสำรองของชุดผลิต Oxy-Hydrogen ครับ มีเซฟพลัสและหม้อต้มแก๊สซึ่งติดตั้งไว้ใกล้ๆกัน
เซลล์ผลิตไว้กันชนหน้าครับเพื่อระบายความร้อนได้ดี ระยะการเปลี่ยนน้ำนานขึ้นอีกเยอะเลย
ชุดลีเลย์และตัวบอกโวลล์-แอมป์ พร้อมตัวดักน้ำก่อนเข้าเครื่องยนต์
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks