ให้ร้านล้างระวังร้านที่ใช้สเปรย์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน จะทำให้อุปกรณ์พวกที่เป็นยางเสียหายครับ
ให้ร้านล้างระวังร้านที่ใช้สเปรย์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน จะทำให้อุปกรณ์พวกที่เป็นยางเสียหายครับ
เครื่องเบนซินเป็นแบบไดเร็กคอยล์ไม่มีจานจ่ายแล้ว น่าจะกันน้ำได้พอสมควรแต่ไม่ควรฉีดน้ำแรงๆไปตรงๆ ค่าคอยล์แแพงเหมือนกันนะครับ
ร้านล้าง เพิ่ม 50 บาทครับ ผม สองเดือนล้างห้องเครื่องที
ล้างจากสายยางแบบน้ำไหลจะดีกว่าครับ ถ้าอัดฉีดมีความเสี่ยงสูง ในจุดสำคัญที่เกี่ยวกับระบบไฟใช้พลาสติคคลุมครับ
ให้ คุณภรรยาล้างครับ สะอาดหมดจด
ที่ 0 ใช้น้ำมันก๊าด เหม็น และเป็นตัวเกาะฝุ่นแย่างดี
ล้างได้ทั้งเบนซิลและดีเซล แต่มันก็มีเทคนิคการล้างรายละเอียดปลีกย่อยออกไปตามที่น้าๆท่านอื่นกล่าวมาแล้ว และที่สำคัญคือ การฉีดน้ำ โดยเน้นฉีดจากมุมสูง ท็อปวิว ลงไป ไม่ฉีดซอกแซก ซ้าย ขวา คันเก่าผมแสนกว่าโล ล้างห้องเครื่องที่คาร์แคร์แทบทุกเดือน ไม่เห็นจะเป็นอะไรครับ
การล้างห้องเครื่องมีหลายระดับ
1.ล้างเฉพาะที่มองเห็นชัดๆ จะมีค่าบริการตั้งแต่ 50-80-100-120-150บาท
2.ล้างที่ลงลึกในรายละเอียดตามซอกตามมุมที่อยู่ลึกๆ ค่าบริการจะเริ่มแถว 150-200-300บาท
3.ล้างแบบให้ใหม่เหมือนออกห้าง หรือ ล้างแบบเต็นท์รถล้างเพื่อขาย จะมีค่าบริการตั้งแต่ 300-400-500บาท
จะมีคนเห็นด้วยกับผมหรือเปล่า แต่ละแห่งจะมีมาตรฐานไม่เหมือนกัน
ปัญหาการล้างห้องเครื่องรถยนต์
1.ต้องการมาตรฐานระดับไหน ราคาค่าบริการจะกำหนดมาตรฐาน เช่น เสีย 50บาทจะได้ความสะอาดแบบง่ายๆ
2.มาตรฐานคุณภาพขึ้นอยู่กับคนล้าง แม้จะล้างที่เดิมแต่ถ้าคนล้างเปลี่ยนไปคุณภาพอาจจะไม่เหมือนเดิม
3.หาช่างล้างแบบเนียบๆ ยากมากเพราะ
3.1.ส่วนใหญ่ใช้น้ำยาเคมีที่มีฤทธิ์กัดรุนแรงหรือสารละลายพวกน้ำมันก๊าด-โซเว้นท์ต่างๆ มีกลิ่นฉุนจัด
3.2.การล้างให้สะอาดจะต้องใช้คนที่มีสมาธิดีหรือคนที่มีความตั้งใจสูงเพราะรายละเอียดเยอะมาก
3.3.ตามซอกมุมที่อยู่ลึก แคบ การล้วงเช็ดถูอาจทำให้เกิดบาดแผลได้ง่าย
3.4.จุดบางจุดจะให้สะอาดต้องมีการถอดอุปกรณ์บางอย่างออกก่อนจึงต้องอาศัยที่มีทักษะช่างสูง
3.5.การล้างมีความเสี่ยงที่จะทำให้ระบบรถยนต์เกิดความเสียหายได้ จึงไม่มีช่างกล้าทำเพราะกลัวจะต้องรับผิดชอบ
4.การล้างแบบนี้ต้องใช้เวลานาน อาจจะต้องทิ้งรถไว้ที่คาร์แคร์นานๆ อาจจะมีปัญหาอื่นตามมา เช่น ของหาย เป็นต้น
รายละเอียดเยอะมาก
คาร์แคร์ส่วนใหญ่จะกลบรายละเอียดส่วนที่ทำความสะอาดยากด้วยการพ่นแว๊กซ์ทับส่วนที่ทำได้ไม่เรียบร้อย
หากเราไม่ตรวจรับรถแบบพิถีพิถัน ก็จะได้งานแบบลวกๆ
แล้วจะล้างแบบไหนให้ได้งานที่เรียบร้อย(สมราคา)กับไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายกับรถยนต์
ขอแนะนำการล้างรถแบบมืออาชีพด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม "เครื่องล้างห้องเครื่องด้วย Dry ice"
เป็นการทำความสะอาดแบบใหม่ที่แก้ปัญหาการทำความสะอาดด้วยวิธีเดิมๆได้อย่างหมดจด รวดเร็วและปลอดภัย
โดยใช้ความเย็นของน้ำแข็งแห้งที่อุณหภูมิ -79 องศา C ทำให้สิ่งสกปรกและพื้นผิวงานเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วเกิด
การหดตัวและแตกหลุดออกจากกัน อนุภาคของเม็ดน้ำแข็งขนาดเล็ก (มีความแข็งเพียง 1.5)จะขัดเจาะสิ่งสกปรกให้หลุดออก
ประกอบกับการพุ่งชนของเม็ดน้ำแข็งด้วยแรงดันและความเร็วทำให้เกิดการถ่ายเทความร้อนระหว่างพื้นผิวกับน้ำแข็งแห้งเกิดการขยายตัว(ระเบิด)
เป็นก๊าซเกือบ 500 เท่า ทำให้สิ่งสกปรกเพิ่มการแยกตัวแตกตัวกลายเป็นผงเล็กๆ และถูกเป่ากระจายออกไปจากชิ้นงานอย่างรวดเร็ว
ประโยชน์ของการล้าง Dry ice(น้ำแข็งแห้ง) รองรับประโยชน์มากมาย
1. ทำความสะอาด ด้วยสารจากธรรมชาติ
เม็ดน้ำแข็งแห้งใช้เกล็ดน้ำแข็งแห้งที่ทำจากสารเดียวกันที่
ใช้ทำเครื่องดื่ม Carbonate (โค้ก) วิธีนี้ไม่ทำให้เกิดขยะเป็น ทรายโซดา น้ำ
สารเคมีและตัวทำละลายใช้ทำความสะอาด(มีพิษ)
2. ปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า
โดยไม่มีความเสียหายอุปกรณ์Electronic พื้นที่สำคัญ
เช่นส่วนประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้า สวิทช์ เซ็นเซอร์ไฟฟ้า
3. ทำได้อย่างละเอียด
เนื่องจากน้ำแข็งแห้งเข้าไปจัดการถึงทุกส่วนลึกและมุมอุปกรณ์
มันทำความสะอาดอย่างล้ำลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. ไม่เสียหาย
น้ำแข็งแห้งจะแห้งสนิทไม่มีทราย ไม่เป็นพิษ และ
ไม่กัดกร่อน ตัวสวิตช์ แผงวงจร ท่อน้ำมัน สายไฟฟ้า เข็มขัดพลาสติก
และปลอดภัยต่อระบบไฟฟ้า
5. ไม่มีปัญหาเรื่องระยะเวลา (ทำให้แห้ง)
กระบวนการได้อย่างรวดเร็วและแห้ง น้ำแข็งแห้งหายไปในทันที
และสามารถทำโดยไม่ต้องถอดชิ้นส่วนและโดยไม่ต้องทิ้งช่วงรอเวลาในการแห้ง
สรุปการล้างด้วยเครื่องพ่น Dry ice จะได้รับความแตกต่างคือ
1.สะอาดแบบลึกในรายละเอียดที่หาช่างคาร์แคร์ไหนทำได้
2.ไม่ใช้น้ำ ไม่ใช้เคมี
3.มีมาตรฐานที่เท่ากันเพราะเป็นความสามารถของเครื่องพ่น
4.มีความปลอดภัยสูงสุดเพราะไม่มีความชื้น ไม่ต้องถอดชิ่้นส่วนใดๆออกเพื่อจะล้างได้ลึก
5.ใช้เวลาในการล้างน้อยมาก เพียง 10-20 นาที สามารถรอรับรถได้เลยโดยไม่ต้องทิ้งรถไว้คาร์แคร์นานๆ
ผมเข้าศูนย์ปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครือง ที่มิตซูบิชิ สแกนอินเตอร์ตรงปากเกร็ด ล้างห้องเครื่องฟรีครับ (ตอนนี้อยู่ในประกันครับ)
เพิ่งล้างเองเมื่อไม่กี่วันครับ เอาน้ำยาล้างรถผสมโซแน็กผสมน้ำ อัตราส่วนก็กะเอาครับ
เขย่าๆให้เข้ากันแล้วฉีดให้ทั่วๆเครื่อง
วิธีการ
1 สตาร์ทเครื่องก่อนสักไม่เกิน5นาที พออุ่นๆ
2 ฉีดน้ำที่ห้องเครื่องแค่พอพรมๆน้ำ
3 ฉีดน้ำยาที่ผสมไว้ให้ทั่วๆ ตรงไหนสกปรกเยอะก็เน้นๆหน่อย
4 ทิ้งไว้สัก5นาทีแล้วฉีดน้ำล้างออก
5 ถ้าใครมีโบลวเว่อร์เป่าให้แห้งจะดีครับ สตาร์ทเครื่องทิ้งไว้5นาที (ควรปิดฝากระโปรงไว้ด้วย)
6 ดับเครื่องแล้วเช็ดๆถูๆตามอัธยาศัย ฉีดด้วยโซแน็กแล้วเช็ดอีกที
ทีนี้คุณจะได้ห้องเครื่องยนต์สะอาดๆเงาๆไว้ภูมิใจคนเดียวแบบสบายกระเป๋าเงินแล้วครับน้า
ไม่ควรล้างบ่อยเกินนะครับ ถ้ามีแค่ฝุ่นๆเกาะ เอาลมเป่าๆก็พอ
การล้างห้องเครื่องควรทำในกรณีที่ห้องเครื่องไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆนะครับน้าๆ
เนื่องจากการมองที่แตกต่างเพราะการล้างด้วย Dry ice Blasting ได้ผลงานที่แตกต่างแบบคนละระดับ
ผมจึงขอเรียกการล้างห้องเครื่องแบบนี้ว่า"ล้าง-พ่นขัดห้องเครื่อง Dry ice"
เปรียบเทียบก่อนล้าง-หลังล้าง
ล้าง ไดร์ไอ๊ส์ ต้องทำยังไงบ้างครับ ต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้าง
ช่วยแชร์ๆเพื่อความสุขของชาวไทรทันด้วยนะครับ
ต้องใช้เครื่องพ่น Dry ice ที่ออกแบบมาเฉพาะ ใช้เวลาล้างเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น
หากจะแบ่งคุณภาพการล้างออกเป็น 5 ระดับ การล้างห้องเครื่องทั่วๆไปในคาร์แคร์หรือศูนย์บริการฯจะได้ไม่เกินระดับ 2 ระดับ 3
แต่การล้างด้วยเครื่องพ่น Dry ice จะได้ระดับสูงสุดจึงอยากเรียกให้แตกต่างออกไปว่าเป็น"การล้าง-พ่นขัดห้องเครื่องยนต์"
เพราะจะสะอาดทุกรายละเอียด สะอาดลึกแม้ที่ๆมือเอือมไม่ถึงจนสามารถบอกได้ว่า"สะอาดเท่าที่ตามองเห็น"
แจ่มจังเลย ล้างที่ไหน ค่าบริการเท่าไหร่ครับน้า
ฉีดได้ทุกซอกทุกมุมเลยป่าวครับ จะมีปัญญหากับระบบไฟหรือไม่ อยากทำเองเหมือนกัน
ตอบที2ท่านเลยนะครับ
อัตาค่าบริการ[อยู่ที่ความสกปรกแบ่งเป็นS, M, L ราคา 500,700,1000บาท
ปัจจุบันยังมีที่Wash@41 เชียงใหม่แห่งเดียว
ส่วนอีกท่านหนึ่งเครื่งพ่นขัดล้างห้องเครื่องยนต์ด้วยDry ice
สามารถทำความสะอาดได้ทุกซอกมุม หลืบลึกได้อย่างง่ายดาย จ
นสามารถพูดได้ว่า"สะอาดเท่าที่ตามองเห็น"
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย dj-box : 29-01-2015 เมื่อ 19:25 เหตุผล: ใส่รูป
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks