ยังงี้อายุประกันก็เสียเปล่าๆไป 5 เดือนเลยซิ
เมื่อวาน 26 พฤษภาคม ได้ไปติดต่อที่ศูนย์มิตซู เพชรบูรณ์ โดยนำรูปไปให้ดู เพื่อจะตรวจสอบดูว่า ทางอู่ได้สั่งอะไหล่จริงหรือไม่ และศูนย์ไม่มีอะไหล่จริงไหม ปรากฏว่า พอเอารูปให้ดู เจ้าหน้าที่ก็ไปหยิบอะไหล่ชิ้นนี้ให้ทันที ราคาชิ้นละ 120 บาท และเจ้าหน้าที่บอกว่าอู่ชื่อนี้ไม่ได้สั่งอะไหล่กับทางศูนย์ เจ้าหน้าที่ยังบอกว่า โดยปกติ ถ้าทางศูนย์ไม่มีอะไหล่ชิ้นที่ต้องการจริง ถ้าสั่งก็ไม่นานเกิด 15 - 20 วัน ก็ไม่อยากคิดอะไรมาก ก็ซื้อทันที แล้วให้เพื่อนที่เราอาศัยเขาไปช่วยพาไปที่อู่ เพื่อนำอะไหล่ไปให้ ไปถึงที่อู่ก็พบว่าได้จัดการใส่เรียบร้อยแล้ว ซื้อฟรีไป เรายื่นอะไหล่ที่ซื้อให้ อู่ไม่พูดถึงซักคำ วันนี้ทางอู่บอกว่าจะนำรถไปเช็คเครื่องยนต์ ระบบไฟต่างๆที่ศูนย์เพชรบูรณ์ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า จะเสร็จวันไหน ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับที่เป็นห่วงเป็นใย
อู่แบบนี้ไม่มีจรรยาบรรณความเป็นช่างเลย การโกหกเพื่อให้ลูกค้าสบายใจทำได้ แต่นี่มันเกินขอบเขต ถ้าไม่อยากมีเรื่องราวอะไรเพิ่ม ผมว่าประกาศซักหน่อยไหมว่าอู่นี้ชื่ออะไร เอาชื่อไปใส่ตามเว็บบอร์ดซัก 10 ที่ ซักพัก ฝ่ายการตลาดของอู่ต้องทบทวนนโยบายล่ะ ซ่อม 5 เดือนนะครับ มันไม่ธรรมดาแล้ว ปกติจะหนักขนาดไหนก็ไม่เกิน 3 เดือน
บ้าไปแล้ว สงสัยจะได้ข่าวว่าไปซื้อมาเองเลยรีบเอาออกมาใส่ให้แน่ๆเลยครับ 555 อู่อย่างนี้แย่มากๆ แค่ 120 เสียไปฟรีๆ ตั้ง 5 เดือน แล้วจะได้ขับรถใช้รถตอนไหนละเนี่ยครับ แย่มากๆ ไม่มีจรรยาบัน อะไร่ของไตรตั้น บอกไว้เลยครับ สินค้ามีปริมาณเยอะและราคาถูกครับ เท่าที่ผมตรวจสอบเปรียบเทียบกะ ยี่ห้ออื่นมาน๊ะครับ อะไหร่ รับรองว่าไม่มีคำว่าไม่มีเด็จขาดครับ ขนาดของผมกระบะท้ายทั้งกระบะ สั่งไม่ถึงเดือน ทำไม่ถึง 3 วัน เพราะแค่เอารถไปเช็คสี และ รออีก 3 วัน แล้วแวะไปเปลี่ยนของใหม่ใส่ แต่มีอีกประเด็นครับ ที่เคยได้ยินจากทางอู่พูดมา บางครั้งเป็นเพราะ ทำเรื่องเบิกกับประกันไม่ได้ (หรือเบิกยาก) ครับ ที่แน่ๆ อย่าลืมแจ้งทางประกันให้รับทราบด้วยน๊ะครับ ถ้าผิดจากทางอู่จริง ประกัน คงจะไม่จ้างอู่นี้ต่อเพราะทำให้ทางประกันเสื่อมเสียชื่อเสียงและเสียลูกค้า แต่ถ้าเป็นความผิดของทางตัวประกัน เลิกใช้ไปเลยครับ หาเปลี่ยนประกันอย่างอื่นแทนเถอะครับ ขอให้ได้รถมาขับไวๆน๊ะครับ อย่าลืมโทรไปตรวจเช็คและเร่งทางประกันของท่านด้วยน๊ะครับ
เมื่อวาน วันที่ 31 พฤษภาคม 2552 อู่ได้นัดไปรับรถที่หล่มสัก ก็ลองทดสอบขับดูในระทางประมาณ 2-3 กิโลเมตร ก็ไม่ผิดปกติอะไร แต่พอจอดซักพัก เพื่อเซ็นเอกสารต่างๆ เมื่อจะมาสตาทรถ ปรากฏว่า ไม่ติด ช่างบอกว่าจอดไว้นานเกิน ต้องชาทแบต เดี๋ยวแบ็ตเต็มก็ใช้ได้เหมือนเดิม ด้วยความที่เบื่อกับการรอรถเต็มทนแล้ว ก็คิดว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับไปชาทแบตที่อู่แถวบ้าน ขับมาประมาณ 20 กิโลเมตร แอร์ไม่เย็น ก็คิดว่าน้ำยาแอร์คงหมด เดี๋ยวไปเติมน้ำยาแอร์ที่เพชรบูรณ์ ไปที่ร้านแอร์ก็เช็ค บอกว่าน้ำยาแอร์ยังมีอยู่ แต่ที่ไม่เย็นเพราะไดชาทเสีย ต้องซ่อมก็จะใช้ได้เหมือนเดิม พยายามไม่คิดอะไร ไม่อยากกลับที่อู่อีกแล้ว จะชับไปทำอู่ใกล้บ้าน ก็เลยขับรถกลับบ้าน ระหว่างที่ขับอยู่บนเขารัง (ใครเคยผ่านคงนึกภาพออก) ไฟเอ็นจิ้นก็โชว์ขึ้นมา ก็กำลังนึกหาสาเหตุอย่ในใจ แต่ก็คิดว่าไม่เป็นอะไร คงเกี่ยวกับแบต ขับมาอีกประมาณ 2 กิโล เครื่องก็ดับบนเขา ก็เดินเลาะหาที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ ระหว่างนั้นก็มีรถที่ผ่านไปมาแวะจอดรถสอบถามเพื่อจะช่วยเหลือ ก็ไปเปิดกระโรงรถ มีกลิ่นไหม้ มีควันบริเวณเครื่อง ก็โทรแจ้งอู่ประกัน ในระหว่างรอรถ ก็มีน้องที่มีความรู้เรื่องช่างยนต์บ้างผ่านมา ก็ก้มดูที่ใต้เครื่อง ก็พบว่าท่อน้ำหม้อนำที่ด้านล่าง บริเวณล้อหน้าฝั่งคนขับ ไม่ต่อไว้ (หรือต่อแต่หลุดก็ไม่ทราบ) น้องก็เลยบอกว่าเครื่องเรียบร้อยไปแล้ว คงได้ซ่อมใหญ่แน่ ดูที่เช็คนำมันเครื่อง มีนำมันเครื่อง ติดอยู่ที่ปลายก้านวัดนิดเดียว เมื่อช่างจากอู่ประกันมาถึง ก็เล่าให้ฟัง ช่างดูแล้ว ก็รีบโทรหาเจ้าของอู่แล้วบอกว่าเครื่องพัง ชาฟละลาย เซ็ง เบื่อมากเลย อู่ก็ลากรถกลับไปที่หล่มสักอีกครั้ง ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว อุตส่าห์ทำใจกับการรอคอยใช้รถมา 5 เดือน ก็มาเป็นอย่างนี้อีก โทรไปหาตัวแทนประกันเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ตัวแทนบอกว่าถ้าอย่างนี้ เป็นความบกพร่องของอู่ ประกันอาจไม่รับผิดชอบ อู่ต้องรับผิดชอบเอง ได้ฟังอย่างนี้ก็ยิ่งเซ็งไปใหญ่ เพื่อนสมาชิกใครพอวินิจฉัยอาการ ความหนักเบาได้บ้างครับ แล้วจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับอู่และประกันดีครับ
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ ที่รถไม่สามารถใช้งานได้
จริง ๆ เรื่องแบบนี้มันไม่ค่อยเกิดหรอกครับ
หากอู่ซ่อมเขาตรวจสอบซักนิด ไม่ทราบว่าเลิ่นนิ่งผ่านได้อย่างไร
บอกว่าเข้าศูนย์ตรวจสอบ ผมว่าเขาไม่เข้าศูนย์แน่เลย
ข้อบกพร่องจากการไม่ได้ตรวจสอบ อาจจะมักง่าย ความรับผิดชอบก็ควรอยู่ที่อู่ครับ
เพราะอู่เขามีการรับประกันการซ่อมอยู่
พี่ไม่น่าเซ็นต์รับรถเร็วเกินไป ควรจะเอาไปทดลองขับดูก่อนครับ
ผมว่าเรื่องชาฟละลาย เรื่องใหญ่มาก ๆ ครับ หลังจากนี้ต้องผ่าเครื่องอย่างเดียว
ความฟิตของเครื่องลดลงแน่นอน ตรงนี้ปรึกษาช่างที่ศูนย์เลยครับ ว่ารู้ได้อย่างไรว่าเครื่องดีเหมือนเดิม
การซ่อมนานขนาดนี้ ถ้าเป็นผมจะคุยกับตัวแทนประกัน บอกว่าจะฟ้องบริษัทนะ
ไปร้องเรียนที่สำนักงานใหญ่เลย เพราะประกันไม่ได้ดูแลเราเลย
แนะนำว่าปรึกษาสำนักประกันภัยประจำจังหวัดครับ
ครับ ยอมรับว่าผิดพลาด และไว้ใจเกินไป ไม่คิดว่าอู่จะบกพร่องอย่างนี้ เมื่อวานได้โทรคุยกับประกันภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของอู่ ซึ่งอยู่นอกเหนืองานประกันของบริษัท เขาแนะนำให้ไปปรึกษา สคบ. ส่วน สคบ. ก็ให้มาแจ้งเรื่องไว้ แล้วเขาจะดำเนินการต่อไป ส่วนผมก็ได้โทรติดต่อกับ ประกัน ประกันเขาบอกว่า เป็นความผิดของอู่ ไม่ใช่เรื่องของประกันแล้ว ตอนเย็นทางประกันได้บอกว่า ตัวแทนฝ่ายเครม ได้ไปที่อู่ หล่มสัก เชิญเราไปด้วย ก็เดินทางไป ทางตัวแทนก็พยายามถามเรื่องต่างๆ แต่ผมว่าเขาสามารถสรุปได้ว่า เป็นความผิดของอู่ แต่เขาจะทำเรื่องไปพยายามช่วยเหลือให้ประกันช่วยดูแล แล้วให้รื้อเครื่องยนต์ เพื่อจะได้ส่งรูปไปสำนักงานใหญ่ต่อไป ประมาณ 3-4 วัน จะทราบเรื่องว่า ทางประกันจะรับผิดชอบหรือไม่ เบื้องต้นช่างบอกว่า ฝาสูบโก่ง ส่วนข้างในต้องรื้อออกมาดูก่อน คิดว่าจะได้ใช้รถแล้วก็ไม่ได้ใช้ ไม่ทราบว่าถ้าประกัน และอู่ไม่รับผิดชอบ เราต้องนำไปซ่อมเอง จะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรครับ ไม่อยากมีเรื่องมีราวกับใคร ถ้าไม่แพงมากอาจตัดใจซ่อมเอง ขอบคุณครับ
คนช่วยตอบไม่มีเลย ไทรทันคลับ
พี่คงจะเป็นคนใจเย็นจริง ๆ หรือดีเกินไปนะครับ
ซ่อมนาน ก็ยังอดทนได้
ขนาดเครื่องพี่พังแล้ว ยังจะซ่อมเอง ผมล่ะนับถือจิตใจพี่จริง ๆ ในโลกนี้จะมีคนแบบพี่กี่คน
(ผมไม่ได้ประชดนะครับ จากใจจริง)
พี่ครับ กลับมาคิดใหม่แบบนี้ครับ
ก่อนอื่นเราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร คิดแบบนี้ก่อน
ต่อไปเราเสียหาย เราแค่รักษาสิทธิ์ที่พึงมี เพราะเราทำประกันก็เพื่อให้เขามาดูแลเรา
ประกันผิดในเรื่องไม่ดูแลลูกค้า ปล่อยปะละเลย ไม่ทำหน้าที่ของตนเอง ทำให้การซ่อมครั้งนี้ยืดยาวไปนาน
อู่ผิดในความบกพร่องต่องานซ่อม ไม่ได้ทดสอบรถยนต์ทั้งระบบ ก่อนส่งถึงมือลูกค้า
พี่ก็ผิดที่ไม่ได้ติดตามการซ่อมของอู่อย่างสม่ำเสมอ ตรงนี้อู่เขาเลยไม่ค่อยใส่ใจในการซ่อมเท่าที่ควรจะเป็น
อาจจะระยะทางไกล ผมเข้าใจครับ
เอาล่ะเรื่องมันผ่านไปแล้ว อดีตแก้ไขอะไรไม่ได้ เรามามองปัจจุบันดีกว่าครับ เดี๋ยวนอนไม่หลับ
ผมว่าอู่เขารับผิดชอบ ในการข้อบกพร่องในการซ่อมของเขาครับ แน่นอน ประกันผลักภาระแน่
หากแต่ว่าตัวแทนประกัน จะมีน้ำใจ เป็นทุกข์เป็นร้อนแทน คอยตามเรื่องให้ เพื่อชดใช้ที่ไม่ได้ดูแลลูกค้า
หากเขาคิดอะไรได้บ้าง (น้ำใจคงหายากสมัยนี้)
ตอนนี้พี่ได้เปรียบผมว่า เพราอะไร
เครื่องยนต์มันเสีย ให้อู่เขาเปลี่ยนเครื่องให้เลยครับ
พร้อมกับบอกประกันว่า ผมจะไปฟ้องศาล เรียกร้องค่าเสียหายจากการไม่ได้ใช่รถ ระยะเวลา 5 เดือน
ผมว่ามันคุ้มครับ โอกาสเป็นของพี่แล้ว คิดเป็นวันเลยชนะแน่ ถึงตรงนี้ประกันจะง้อพี่แล้วล่ะ ผมว่า
เพราะประกันกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายตรงนี้มาก
ตัวแทนต้องรักษาผลประโยชน์ของบริษัท
ขอให้อดทนนะครับ เป็นหน้าที่ประกันจะดูแลเรา ไหน ๆ ก็ ไหนๆ รอให้เขาไปเคลียกันเอง
หายไวๆ ครับ ไม่ต้องกังวล
ขอขอบคุณ น้องwattana ครับ ความจริงแล้วมีรายละเอียดอีกมากที่ผมได้รับจากทั้งตัวแทนประกัน ประกัน และอู่ แต่ด้วยความที่ไม่อยากมีอะไรมากไปกว่านี้ ผมแค่อยากให้มันจบสิ้นไป ไม่อยากเอามารบกวนจิตใจ ซึ่งมันจะส่งผลต่อการทำงานของเรา เลยทำไม่รู้ไม่ชี้จนถึงทุกวันนี้ อะไรไม่มีก็ปรับไปตามสภาพ แม้จะมีข้อเสนอแนะให้ร้องเรียนประกันภัยจังหวัด ให้บอกชื่ออู่ แต่ผมก็ไม่เคยเอ่ยถึงเลย เพราะเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดทีทำให้การซ่อมครั้งนี้ยาวนานเป็นความบกพร่องของใคร อู่พูดกับเราจริงหรือเปล่า ประกันป็นอย่างนั้นจริงไหม ถ้าอู่ไม่ผิด แล้วเราไปโทษเขา เราคงไม่สบายใจที่ทำให้เขาเดือดร้อน แม้แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้แล้ว ผมยังไม่อยากคิดเลยว่าอู่จะไม่ใส่ท่อน้ำให้ผม พยายามคิดว่ามันคงหลุดไปเอง หรือแม้แต่คิดว่าเราบกพร่องเองที่เมื่อมีไฟเอนจิ้นแสดงขึ้น ทำไมเราไม่หยุดรถ แต่จริงๆผมก็อยากหยุด แต่ถ้าใครเคยไปเขารัง จะรู้ว่าสภาพบนเขาเป็นอย่างไร ผมอยากหาที่จอดที่ไม่เป็นอันตราย และมีคลื่นโทรศัพท์ เพื่อที่ผมจะได้ติดต่อหาคนมาช่วยเหลือได้ เพราะรู้ว่าจอดเมื่อไร รถก็สตาทไม่ติด แต่ชั่งมันเถิดครับ มันผ่านไปแล้ว ตอนนี้คงต้องรอว่าประกันจะรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าไม่รับผิดชอบ ผมคงนำรถไปซ่อมที่ศูนย์เอง อย่างอื่นตามคำแนะนำของน้องwattana ผมคงค่อยๆคิดครับ อาจจะดำเนินการไปตามนั้น ขอขอบคุณมากครับ ทำใจได้แล้วครับ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks