ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวมาต่อ
ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวมาต่อ
ภาพสวยจังเลยขอบคุณที่เอามาให้ชมกัน ซักวันจะไปชมของจริงให้ได้
น้องนั่งมองทะเล อยากถ่ายภาพซิลลูเอท.. เป็นภาพตัวเอง แต่ไม่มีขาตั้งกล้องไป นอนกับพื้นทรายก็เปื้อน... หงิง หงิง
เลยได้เรืออีกลำ( ลำเดียวกันมั๊ง งง) โย่วววววววววววว ถ่ายภาพได้แบบนี้.. ครั้งแรกหรือเปล่าหนอเรา...
เจ้ายืนมองฟ้า แต่เมื่อแหงนคอขึ้นไป พบอะไรสุดสายตา...แนวมะพร้าวที่ลู่ลมหาทะเล ใกล้ดวงจันทร์ ที่เจ้าคว้าไม่ถึง... หูยยยยยยยยย ทำไมถ่ายพระจันทร์ไม่เป็น
ยามถอดรองเท้า ให้พื้นผิวกายแนบกับผืนทราย..มันเหมือนอะไรยิ่งใหญ่.. ทรายละเอียดยิบ นิ่ม นุ่ม.. สาดแสงสีทองสะท้อน ความรู้สึกอ่อนไหว...
รองเท้า 90 บาท..แพงจัง..
ผักบุ้งทะเล...แซมสีให้สดใส (พยายามดูให้สดใสนะคะ) พวกเราไปหัดชัดลึกชัดตื้น ไปหัดถ่ายภาพย้อนแสง ไปหัดเปลี่ยนนั่นเปลี่ยนนี่กล้อง เปลี่ยนจนงง ทำไรไม่ถูก ได้เท่านี้...
หลังอาหารเช้าเราไปไหน..เดินไปตามถนนดำบนเกาะ...ไม่มีเสียงรถ ไม่มีเสียงเกวียน เห็นแต่ทุ่งโป๊ะ ดอกหญ้า แนวสน ยางพารา และป่าเขา...
พ้นแนวไปพบป่าชายเลน ที่สมบูรณ์ แต่ภาพที่ถ่าย..ไม่ได้สมบูรณ์ จึงได้แค่ นั่งริมทางแนวเดิน... และได้ภาพนางไม้..จากต้นโกงกาง...
เลยป่าโกงกาง เราออกไปฝั่งซีกตะวันตก ตรงข้ามกับหาดที่เราพัก พบศาลากลางน้ำของอีก 1 รีสอรท์ ที่ปิดไว้ พบท้องทะเลและฟ้าสีคราม..
แค่เห็นก็ตื่นตา เราห้าคนไม่อยากไปไหน..อยากอยู่ตรงนี้..ที่ที่เหมือนฝันเลย
แล้วซีรีส..ของพวกเราก็ก่อเกิด เป็นเรื่องราว ณ ขอบสาย ปลายฟ้า...
ไปที่ไหนก็ไม่สุขใจ เท่ากับไปกับเพื่อนๆ ที่รู้ใจ จริงๆนะ..
วุ๊ยยยยยยยยยยยยยย สวยม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ทะเลสวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เจ้านางเริ่มหลงรัก เริ่มอยากจะมองให้ได้แบบ เบิรด์ อายวิว... เพราะงั้น เจ้านางต้องบิน ปีนขึ้นไปตั้งท่าบิน...
แต่มันไม่เหมือนบินเลย เหมือนตกแอ๊ก แต่ปอแน..ทำไมบินได้สวยกว่าเรา
ขอชมด้วยใจจริงเลยนะครับ การเล่าเรื่องกับภาพถ่ายเจ๊นี่สุดยอดจริงๆครับ
ป.ล.ก็ยังไม่ได้ชมคนถ่ายอีกอยู่ดีๆ
v
v
v
v
v
คนถ่ายก็........สุดยอดเช่นเดียวกันครับ ...สุดยอดอะไรเลือกเอาเองเลยนะครับ
ป.ล.อีกครั้ง คนหระรีเหรอครับ อยู่แถวใหนครับเนี่ย...
หูยยยยยยย งานนี้มีรุมอ๊ะ..... ไม่ง้อ ไม่บอก ..ฮึ...
เบื้องหลังการถ่ายทำ ไม่มีใครยอมออกแดดสักคน.... ไปต่อที่ถ้ำค้างคาว....
ร้อยเรียงเรื่องราว กับคำบอกเล่าที่น่ารักมากมายค่ะ
เกาะสมุยมีมนต์ขลังอย่างนี้นี่เอง สักวันเราจะไปเยี่ยมเยียน
ปอลอ.เจ้าของรูปน่ารักมากค่ะ
ท่ามกลางแสงแดดที่แผดจ้า ครีมกันแดดอย่างดีก็เอาไม่อยู่....
เดินไปเดินมา ร้อนนักก็พักใต้ร่มมะพร้าว..อยากจะปีนก็ทำไม่ได้..ไม่ใช่ลิง
โย่วววววววววววววว มีคนชมแล้วค่ะ... เสาร์นี้เจ้านางว่าง...พาไปกินไอติม..โย่ว..
ต่อๆ
เมื่อเดินกันจนสุดหาดก็ไม่พบถ้ำค้างคาว... พวกเราตัดสินใจเดินกลับกัน แต่ทว่า เราอ้อยอิ่งๆ กันเรื่อยเปื่อย.. 2 กิ๊กของเจ้านางจะหมดแล้ว.. ดีที่เป็น ดิจิตอล.. ถ้ากล้องฟิลม์ อย่างมากก็ 2 ม้วน เด้อ ค่ะ.... ทะเลสวยจัง... หงิง หงิง
เรารีบเดินกลับเพราะ หิวมาก ตอนเช้าทานมาม่าเพราะคิดว่าเกาะจะไม่มีร้านอาหาร ซื้อมาแล้วต้องทานให้หมด....
เดินตัดทุ่งโป๊ะเส้นเดิม ผ่านบ้านชาวเล ผ่านโรงเรียนรกร้างที่ไร้ผู้คน ผ่านชมรมอนุรักษ์เกาะแตนที่รอคนมาสานต่อ และผ่านบ้านพ่อเฒ่าแม่เฒ่า ทียังคงรักวิถีชีวิตเงียบๆ บนเกาะแตนแห่งนี้
เดินกลับมายังหน้าบังกะโลทีพัก ไม่หยุดอีก ทำไมเดินกันอึดจะรอบเกาะอยู่แล้วนี่ขนาดไม่ได้ลงภาพจุดชมวิวนะ....
เอ๊ะ..ศาลพระภูมิ...
เกาะแตนไม่มีสุนัข เพราะอะไรเจ้านางไม่รู้ เลยไม่กล้าเอาเจ้ากีวี และเจ้าไข่ตุ๋นมา แต่ปอแน เอาเจ้าชูการ์ไรเดอร์มา ไม่เป็นไรค่ะ..
เกี่ยวกันไหมกับศาลพระภูมิ
เดินตามทางเท้าเลียบชายทะเลด้านหน้า อีกรีสอรท์ของท่านผู้ใหญ่บ้านเกาะแตน มองเห็นเกาะฟานด้านหน้าเป็นเกาะร้าง...สำนักสงฆ์เก่า
เจ้ามองผ่านช่องใบมะพร้าวที่พาดผ่าน ด้วยความขี้เกียจ.. แต่เจ้าชอบนะ มุมแบบนี้
ทะเล แสงแดดที่จัดจ้าน ทำให้ต้องสวมแว่นกันแดด..นักท่องเที่ยวที่เริ่มมาทานอาหารกันที่รีสอรท์ ที่นี่เจ้าอยากอนุรักษ์ไว้... จริงๆ กับความสมบูรณ์ มันแตกต่างจากเกาะสมุยโดยสิ้นเชิง...
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks