ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่สุดสาคร เดี๋ยวเอาภาพมาให้ชม หนุ่มใหญ่ฟ้อ หล่อเฟี้ยวที่สุดในซอย... เจอเจ้านาง ผู้ใหญ่ เขินมากเลย เพราะไม่เจอของแปลกๆ แบบเจ้านาง
พูดคุยแลกเปลี่ยนการเดินทางสักพัก ก็เดินทางต่อไปยังน้ำตกค่ะ นี่คือผู้ใหญ่สุดสาคร... ติดต่อเบอร์หลังไมค์กะเจ้านางได้นะคะ
รถผ่านเข้าหมู่บ้านผาน้ำหยด ผ่านอ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งดูแล้วงดงามมากถ้าฟ้าแจ่ม ยามนี้ฟ้าหม่น เจ้ากลัวมากกับสายฝนที่จะหล่นพรำ
ผ่านสวนขนุน สวนชมพู่ สวนสัปปะรด แล้วก็ถึงทางตัน เราเก็บสัมภาระ ดีนะที่เจ้านางเอาเป้มา ไม่ได้เอากระเป๋าสปอรต์ ไม่งั้นเดินหิ้วกระเป๋าแขนลากเชียว.. แล้วไปไหน.. ของกองกลางที่เจ้านางไม่ได้ถืออะไรเลย นอกจากสัมภาระตัวเอง และก็ ไปค่ะไป เริ่มเดิน ผู้ใหญ่ เริ่มนำ หันมาหาเจ้าว่า.. มีอะไรให้ช่วย ช่วยถือกระเป๋ากล้องก็ได้.. เลยเป็นที่อิจฉาจากเพื่อนๆ คริ คริ
ไปค่ะไป
เดินไปตามทางโล่งๆ ตัดไร่สับปะรด และเริ่มเข้าป่าที่ไม่ดิบเท่าไรเพื่อเดินเท้าไปยังน้ำตกด้านใน 3 กม. ผู้ใหญ่ค่อนข้างห่วงเจ้านางมาก เดินนำมิได้ห่างเพราะสภาพเจ้านางเหมือนมาน้ำตกเลย... รองเท้าแตะ กางเกงยีนส์ และเสื้อเปิดไปหมด เวรกรรม
ตัดผ่านไร่สับปะรด แล้ว ป่าด้านหน้าเริ่มเข้ามาคืบงำ พร้อมผ้าแดงมัดห่างกันเป็นระยะ ๆ เพราะต้องตัดน้ำตัดลำธาร แต่ดีที่น้ำยังไม่ลงมามาก ทำให้เราไม่ต้องเดินเปียกๆ เจ้าเดินไปเท้าพลิกไป ก็รองเท้าแตะนี่คะ
มันก็แค่เส้นทางน้ำตก กับต้นไม้ใส่เสื้อ สำหรับนักเดินป่า เจ้าค่อยๆ เก็บภาพจากกล้องคอมแพ็ค ที่ไม่ถนัดมือ แต่ถนัดกับการพกไปตามใจฝัน...
ขอนไม้ ก้อนหิน มอส พรรณไม้ ที่มากมายให้ศึกษา ปลามช้างร้อง ต่างๆ ออกผลให้เห็น หนามที่ทิ่มแทง ก้อนหินแหลมคม บาดลึกลงไปบนฝ่าเท้าเจ้า.. เจ็บจริงๆ แต่ยามนี้ไม่กล้าบอกใคร เพราะเกรงจะไม่สนุกกับการเดินทาง
ตรงนี้เจ้าต้องหยุด เมื่อมองเห็นสิ่งนึงเขียวใสๆ สดๆ บนกิ่งไม้เลียบพื้นดิน เพราะเจ้าก้มลงไปจับก้อนหินเพื่อพยุงตัว ข้ามลำธารเพราะกันลื่น แต่เมื่อเจ้าวิเคราะห์ แล้วความคิดพุ่งแล่น เจ้ากระโดดด้วยความตกใจอย่างยิ่งเพราะมันคือ
งูเขียวหางไหม้ ตัวหนุ่ม... ง้า............ เสียงร้องที่ลั่นป่า เพื่อนๆบางคนอยู่ไกลๆ ผู้ใหญ่กับลุงเล้งอยู่ใกล้ๆ ต่างวิ่งกลับมาดู เจ้าขาสั่นก้าวไม่ออก บอกตามตรง ตกใจฟระ.. ขนลุก
ลุงเล้งเอามือจับงูขึ้นมาบอกว่างูเขียวธรรมดา แต่พวกกเราเห้นแล้วว่างูกำลังตวัดกายหันมาฉกเอามือลุงเล้ง..ด้านขวา แล้วลุงเล้งยอกว่าไม่มีพิษ(ปลอบใจตัวเอง) พิษงูซึมซับเข้าผ่านใต้ผิวหนัง..ลุงเล้ง แล้วลุงเล้งก็เขวี้ยงออกไปอย่างไกลๆ แล้วก็เดินต่อไป...
เลยหยุดเก็บภาพกันหน่อยแต่ไม่มีงู ร้อนสุดๆเพราะอากาศอ้าวลมไม่ผ่านเลย
เจ้าเดินตามอย่างลำบากเพราะเจ็บที่ฝ่าเท้าเพราะหินบาด เลือดที่ออกมาเจ้าเห็นแล้วกลัวเชื้อโรคเข้า เจ้าจึงต้องระวังการเดินเท้าอย่างมาก คนนำทริปบอกเจ้าว่า ขอโทษที่ไม่ได้ให้เจ้าเตรียมตัวเพื่อเดินป่าเพราะเห็นแค่น้ำตกชิวๆ เท่านั้น ไม่เป็นไรไกลหัวใจ.. เหงื่อไหลท่วมกายที เจ้าก็นั่งพักที เจ้าชอบบรรยากาศแบบนี้มาก
เดินไปเรื่อยๆ ตามแนวลำธาร หลายกิโลแล้ว เหนื่อยมากมายแต่เจ้าถอยไม่ได้ เพราะหัวใจยอมเดิน ให้ถึงน้ำตกด้านหน้าที่ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงน้ำไหล ผ้าสีแดงยังคงมีตลอดรายทาง ไม่หลงค่ะไม่หลง
เมื่อลัดป่าสุดท้ายเราก็พบแอ่งกว้างๆ ไม่กี่สิบเมตร น้ำใส เขียวมรกต ไม่มีน้ำสักหยดไหลผ่าน.. " ผาน้ำหยด" ทุกคนอึ้งกับสิ่งที่เห็น.. น้ำหยดจริงๆ แต่พวกเรามองเห็นความสวยงามของผาหินปูนแห่งนี้ที่สูง สัก 70 เมตรจากด้านบน แมกไม้ปกคุลมเพราะน้ำฝนที่ยังไม่เก็บน้ำอุ้มน้ำให้ตกมาเป็นน้ำตก
แต่ชั้นร่มของหินปูนกับเหล่ามอสและบีโกเนียวเต็มหลังร่มหินปูน
เจ้าอยากเรียนเรื่องหินดินทราย สังเกตไหมว่า...มันแตกต่างกันนะ
น้ำตกที่นี่มีมากกว่า 5 ชั้นที่ต้องเดินขึ้นไปทางน้ำตกด้านขวามือสุด ตรงนี้ใหญ่กว่าสระมรกต ตอนเช้า3-4 เท่าระดับน้ำคล้ายกัน เราล้างหน้าตาด้วยน้ำเปล่าเพราะน้ำไม่ไหลริน เพื่อไม่ให้น้ำด้านหน้าปนเปื้อนสิ่งเคมี เจ้าเมื่อพักเหนื่อยแล้ว เจ้าขอตัวไปอาบน้ำ อึดอัดเพราะต้องตักน้ำมาอาบบนผืนดิน กำเลยน้ำที่นี่เราตั้งแคมป์ต้องใช้ทำอาหารและน้ำดื่ม.. แต่แล้ว.....ทู้เรดอ๊ะ พอเจ้าอาบเสร็จ พวกนั้นกระโจนลงน้ำกันหมดเลย แถมเล่นท่ากินรีด้วยค่ะ.. หง่ะ เซ็งเป็ดเลย
เต็มๆ กับผาน้ำตกร่มหินปูนด้านบน..ทำไมไม่มีน้ำอ๊ะ แล้วงี้เจ้าจะบินเป็นกินรีได้ไง... เลยผาร่มขึ้นไปยังเป็นชั้นหลั่งไหลของสายน้ำตกอีกนะคะ อาจเทียบไม่ได้กับความอยากมาแต่คุณค่าการเดินทาง เพื่อชมน้ำตก
แต่ขอบอกว่า ณ จนบัดนี้เจ้านางยังไม่เห็นกินรีตามในโฆษณา ทีวีเลยรอดูทุกวัน ไม่เห็นสักวัน..ฮ่วย..
ด้านหน้าน้ำตกไม่มีที่ให้พักแรม นอกจากไปหาด้านในกับต้นไม้ผุกเปลนอน ของเจ้านาง สีเขียวๆ ด้านหลังที่เห็น ผู้ใหญ่หาให้หน้าน้ำตกเลย แล้วเพื่อนๆไปไหน เพื่อนๆ ไปด้านหลังเจ้านางอีกหลายสิบเมตร... เวรกรรม นอนคนเดียวไม่เอาอ๊ะ
ดีที่จ้งไปนอนเต้นท์อีกฟากหน้าน้ำตกคืนนี้เจ้าเลยมีเพื่อนนอน ค่ะ นอกนั้นไปด้านในกันหมด เก็บภาพเหมือนมากางเต้นท์นอน กันเลยนะนี่
มุมเนี้ย... ที่กินรีกระโดดน้ำ อยากเห็น อยากเห็นกินรีอ๊ะ คืนนี้จะรอดูในทีวี..โย่ว
หลังอาหารมีเค้ก วันเกิดด้วยค่ะ ปุ้ยทำคืนนั้นเลย อร่อยมากๆ หวานเจี๊ยบบบบบบบบเข็ดฟันด้วย
เช้าวันใหม่.. ตืนนอน เพื่อเก็บภาพกับน้ำตกเจ้านางมาจริงๆนะ เสียดายน้ำไม่ตก สักหยด แก้ตัวใหม่ปลายตุลาค่ะ
จากในน้ำ ด้านหน้าน้ำตก มองกลับมามีที่ให้ยืนกันแค่นี้ค่ะ ไม่เหมาะกับการตั้งแคมป์แต่มาชมได้ ส่วนด้านบนมีรอยพระพุทธบาท..ซึ่งพวกเราไม่ได้ขึ้นไปค่ะ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks