น้าได้รับหมายศาลแล้วต้องไปนะครับ
แล้วลองปรึกษาทนายครับ น้าพอมีเพื่อนที่เป็นทนายมั้ยล่ะครับ เพราะมันปรึกษาฟรี
น้าได้รับหมายศาลแล้วต้องไปนะครับ
แล้วลองปรึกษาทนายครับ น้าพอมีเพื่อนที่เป็นทนายมั้ยล่ะครับ เพราะมันปรึกษาฟรี
เป็นบทเรียนให้กับทุกคนที่มาอ่านนะครับ ทำอะไรกับพวกนี้ ใช้ปากเปล่าไม่ได้ ต้องทำเป็นหนังสือเพื่อยืนยันว่าเราได้ไปหาได้ตกลงกันแล้วว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะถ้าต้องขึ้นศาล เราไปเล่าให้ศาลฟังเป็นชั่วโมงว่าคุยกันอย่างนั้น แต่เขาเอากระดาษแผ่นเดียวให้ศาลดู ก็จบ
เอาใจช่วยนะครับ ปรึกษาอัยการจังหวัดหรือสภาทนายความก็ได้
อีกทางคือโทร.ไปปรึกษาอัยการปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ทางสถานีวิทยุ สวพ. 91 ที่โทร.ฟรี 1644 อัยการจะเข้ารายการทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลาประมาณ 14.15-14.30 น. (เรื่องเวลาไม่ค่อยแน่นอนแต่จะอยู่ในช่วงนี้) อัยการท่านนี้ตอบได้ตรงดี และพยายามช่วยผู้เดือดร้อนเต็มที่เลยครับ
มิน่าเล่าพ่อ-แม่ผมสั่งนักสั่งหนา ว่าถ้าไม่อยากเดือดร้อนห้ามไปค้ำประกันให้ใครเด็ดขาด เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ เป็นกำลังใจให้ครับ
พวกนี้ทำไมมันไม่ไปตามคนซื้อ ชอบมาตามแต่คนค้ำทั้งๆที่คนซื้อก็ตามตัวได้ไม่เข้าใจจริงๆ
การไปพบศาลตามหมายเรียกต้องเตรียม เอกสาร อะไรไปบ้างครับ? หากเราสามารถนำผู้เช่าซื้อไปด้วยคิดว่เรื่องจะจบแบบไหนครับ แต่คงยากเพราะผู้เช่าซื้อมันบอกว่าไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆจากบริษัทดังกล่าวเลย และตอนเขามายึดรถ มันก็ไม่รู้เพราะรถจอดอยู่บ้าน ดูมันพูด แล้วทางบริษัทสามารถฟ้องร้องเอากับพ่อแม่ของผู้ เช่าซื้อ ได้หรือเปล่า? ผมสืบทราบมาว่าคนค้ำคนที่หนึ่งคือพี่ชายของผู้เช่า ซื้อเอง แต่ทางบริษัทก็บอกว่าติดต่อไม่ได้เช่นกันสรุป เค้าจะตามเฉพาะคนที่ติดต่อได้ใช่มั้ยครับ? ขอบคุณครับ
มันแปลกดีนะ ตามบี้กะคนค้ำ ไม่ตามกับคนซื้อ ที่ยังมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และมีตัวตนอยู่ ทีรถไปเอาได้ ส่งเรื่องฟ้องทำไมไม่ฟ้อง คนซื้อก่อน
มันแปลกดีนะ คนค้ำ 4 คน ติดต่อกะคนค้ำคนอื่นไม่ได้ มาเล่นกะคนที่ติดต่อได้ มันแปลกดีนะ
ถ้าหมายศาลมา มันก็ต้องได้กันทุกคนนะครับผมว่า หมายศาลเนี้ย ถึงจะรับไม่รับ เค้าก็ถือว่าเรารับรู้แล้วครับ เค้าจะดำเนินคดีไปเลยนะ
คงไม่โดนแต่เราคนเดียวแน่ๆ ครับ
ไล่เรียงตามข้อเท็จจริงเลยนะครับ
- กรณีนี้เป็นเรื่องทางแพ่งครับ หากเราไม่ไปศาลตามหมายเรียกไม่มีความผิดอะไรครับ แต่เราจะเสียสิทธิ์ของเราในการต่อสู้คดี(ในการบอกความจริงให้ศาลรู้) แนะนำว่าควรจะไปและหากมีทนายความไปด้วยจะดีหรือแต่งตั้งให้ทนายความจัดการแทนเลยก็ได้
- ส่วนประเด็นเรื่องเขาเอากับเราคนเดียวนั้น มันเป็นสิทธิของเจ้าหนี้ครับ(สัญญาค้ำประกันจะระบุว่าผู้ค้ำฯ เป็นลูกหนี้ร่วม มีผลให้เจ้าหนี้บังคับเอากับเราได้เลยโดยไม่ต้องไปบังคับกับผู้เช่าซื้อหรือผู้ค้ำคนอื่นๆ ก่อน) และจะไปบังคับเอากับพ่อแม่พี่น้อง ไม่ได้ครับ เป็นเรื่องเฉพาะตัวครับ
- ข้อต่อสู้ที่มีน้ำหนัก กรณีของน้า คือ ราคาขายทอดตลาดรถราคมาต่ำเกินจริงซึ่งควรขายได้ราคาดีกว่าที่บริษัท ขาย โดยดูสภาพรถขณะที่บริษัทยึดคืนนะครับ (ราคาส่วนต่างไม่น่าจะถึง 100,500) ประเด็นนี้ศาลตัดลงเยอะอยู่แล้วครับ
- ส่วนเรื่องจะจบลงโดยไม่ต้องจ่ายเงินเลยนั้นคงยากครับ แต่จะจำนวนเท่าไหร่อันนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจา หรือผลในทางคดีครับ
- แนะนำเพิ่มเติมครับ ถ้าเราจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ไปแล้วเราสามารถไล่เบี้ยเอากับผู้เช่าซื้อได้ครับ
ปล. เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้จบเรื่องได้โดยเร็ว ใครๆก็ไม่อยากเจอครับเรื่องแบบนี้
ถ้าติดต่อบุคคลเหล่านี้ได้ พยายามให้เขารับผิดชอบ(ใช้หนี้) โดยพาเข้าไปคุยกับเจ้าหนี้โดยตรงเลยครับการไปพบศาลตามหมายเรียก ต้องเตรียม เอกสาร อะไรไปบ้างครับ? หากเราสามารถนำผู้เช่าซื้อไปด้วยคิดว่เรื่องจะจบแบบไ หนครับ แต่คงยากเพราะผู้เช่าซื้อมันบอกว่าไม่เคยได้รับการติ ดต่อใดๆจากบริษัทดังกล่าวเลย และตอนเขามายึดรถ มันก็ไม่รู้เพราะรถจอดอยู่บ้าน ดูมันพูด แล้วทางบริษัทสามารถฟ้องร้องเอากับพ่อแม่ของผู้ เช่าซื้อ ได้หรือเปล่า? ผมสืบทราบมาว่าคนค้ำคนที่หนึ่งคือพี่ชายของผู้เช่า ซื้อเอง แต่ทางบริษัทก็บอกว่าติดต่อไม่ได้เช่นกันสรุป เค้าจะตามเฉพาะคนที่ติดต่อได้ใช่มั้ยครับ? ขอบคุณครับ
1.ถ้าน้าได้รับหมายฟ้องจากศาลแล้วให้อ่านและศึกษาหมายฟ้องให้ละเอียดเพื่อที่จะได้เข้าใจ
2.แล้วตอนทำสัญญาที่บอกว่าค้ำ4คนน้ามีเอกสารยืนยันอ้างอิงไหมคับ
3.ยอดหนี้ส่วนต่างที่โดนติดตามถวงถามเป็นยอดเงินต่อคนค้ำ1คนหรือแค่ของน้าคนเดียว
4.หากเป็นยอดรวมทั้งหมดแต่เขามาเรียกร้องเอากับหน้าคนเดียวน้าต้องดูเอกสารตอนเซ็นค้ำประกันว่าเขาได้ระบุอะไรใว้หรือหากไม่ได้ระบุ เราสามารถนำข้อนี้ไปชี้แจงกับศาลได้ให้คนค้ำทุกคนร่วมกันชดใช้มันจะได้เบาลง
5.คดีนี้เป็นคดีแพ่งน้าไม่ต้องตกใจคับเพราะที่เขานัดไปศาลครั้งแรกเพื่อสืบพยาน ให้น้าไปเพื่อชี้แจงสืบพยาน ศาลจะไล่เรียงตามลำดับมา หากโจทย์จะโยนความผิดใหเราคนเดียวโดยที่ไม่ไปเอาผิดกับผู้เช่าซื้อและคนค้ำรายอื่นอีกเราก้อสามารถอธิบายได้
6.หากไปศาลครั้งแรกศาลยังตัดสินไม่ได้ น้าก้ออาจจะขอเวลาศาลเพื่อที่จะติดตามคนเช่าซื้อและตกลงกันก่อน ศาลอาจจะเลื่อนนัดไปอีก น้าจะได้มีเวลาเตรียมตัว
7.ยอดเงินที่จะชดใช้สามารถต่อรองในศาลได้เยอะเหมือนกัน สมมุติว่ายอดหนี้100,000 แล้วเราบอกว่าขอลดได้ไหมเราก้อบอกไปว่ามีเงินอยู่7หรือ8หมื่นลดได้ไหม ถ้าจะเอา1แสนไม่มีจริงๆ ไม่แน่เขาอาจจะยอมลดก้อได้
8.หากน้าไม่เข้าใจน้าลองปรึกษาทนายดูอีกทาง เพราะที่ผมบอกมาเป็นแค่ประสบการ อาจจะมีผิดมีถูกก้ออย่าว่ากันคับ
ขอให้น้าผ่านไปได้ด้วยดีน่ะคับ(ยาวไปหน่อย)
ขอแจ้งรายละเอียดเป็นข้อดังนี้ครับ
1.ครั้งแรกที่มีการซื้อขาย โดยผู้เช่าซื้อได้ให้พี่ชายเป็นคนค้ำ แต่เงื่อนไขไม่ผ่านทางเซลล์ของไฟแนนช์ซึ่งอดีตเคยเป็นลูกน้องเก่าผมที่ทำงานแนะนำ ให้ผมร่วมค้ำด้วย เป็นคนค้ำลำดับที่3 แต่คนค้ำลำดับที่1,2,และ4ส่วนใหญ่เห็นทางไฟแนนช์แจ้งว่า ทำงานโรงงานและเป็นห้องเช่า ซึ่งขณะนี้ไม่สามารถติดต่อได้ ยกเว้นผมคนเดียวที่ยังไม่เปลี่ยนที่ทำงาน และยังอาศัยอยู่บ้านตนเอง
2. ยอดเงินที่แจ้งมา คือยอดส่วนต่างทั้งหมดที่ทางไฟแนนช์ แจ้งว่าขายทอดตลาดแล้วขาดทุน ซึ่งรถคันดังกล่าวเป็นรถกะบะ mitsuฯstadraออกใหม่ป้ายแดงผู้เช่าซื้อ ดาวส์ไป79,000บาท และผ่อนได้ประมาณ5เดือน และมีการยึดรถขายทอดตลาด ในเดือนที่8 ซึ่งรถรุ่นดังกล่าวผมเช็คราคามือ2ณเวลานั้น น่าจะอยู่ที่ประมาณ280,000- 320,000ซึ่งรถคันดังกล่าวเป็นรุ่นตัวท็อปในขณะนั้น ผมดูแล้วทางบริษัทขายทอดตลาดราคา250,00บาท ต่ำเกินเหตุ เพราะรถใช้งาน8เดือน และสภาพรถยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ยกเว้นมีการติดตั้งเครื่องเสียงเพิ่มเติม
3.เป็นยอดรวมทั้งหมดครับ แต่ขณะนี้ติดต่อผมได้เพียงคนเดียว
4.หากเราสามารถนำผู้เช่าซื้อมายินยอมรับผิดชอบทั้งหมด(คิดว่าคงยาก)เราจะพ้นความรับผิดชอบนี้หรือเปล่า?ครับ เอกสารต่างๆเกี่ยวกับการค้ำประกันที่ผมไม่มีเลยครับ เพราะผมไม่ได้รับจากเซลล์เลย
5.หากผมสามารติดตามเซลล์คนที่ทำสัญญามายืนยันว่า วันที่ค้ำประกันได้มีข้อตกลงกันว่าหากผู้เช่าซื้อ ผิดสัญญายินยอมให้ผู้ค้ำประกันมีสิทธิ์ ในรถคันดังกล่าว โดยนำมาเปลี่ยนหน้าสัญญาผ่อนต่อแบบนี้พอได้มั้ยครับ?
เราต้องไปพบศาลตามวันเวลาที่นัดใช่มั้ยครับ? หากเราไปก่อนกำหนดจะมีผลดี ผลเสียอย่างไรบ้างครับ ตอนนี้เดือดร้อนจริงๆ ทะเลาะกับแฟนทุกวันเลยเรื่องเดียวแท้ๆ ขอบคุณทุกๆท่านมากนะครับ
ลอง โทรหาคนนี้ดูครับ ที่ชื่อ บอล อ่ะครับ
บอกว่า ปอง แนะนำมาครับ พอดีผมคัดลอกมาจากอีกเว็บนึงให้ครับ ถ้าเอาลิ้งค์มาน้าจะเข้าดูไม่ได้ครับ
เรื่องกฏหมาย K M Law & business Consultants , Part. ยินดีรับใช้ครับ
ก่อนอื่นต้องบอกว่า K M เป็นบริษัทของบอลเองครับ งานด้านกฏหมาย และ คดีความ ต่าง ๆ
พี่ ๆ ปรึกษา ฟรีเลยครับ คุยกันเรียบร้อยค่อยตกลงว่าจ้างได้เลยครับ เน้น ช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน
ใครมีมาก น้อย ก็ขอแบ่งชำระได้ครับ ช่วยเหลือกันไป
บริษัทของผมครับ ทำเองทุกขั้นตอน จึงสามารถทำได้ ราคาถูกครับ
*** ปรึกษาฟรี !!! จะได้สามารถเข้าใจปัญหาและวิธีแก้ (ที่อื่นไม่มีใครมานั่งอธิบายครับ รับเงินแล้วส่งศาลเท่านั้น )
*** ให้บริการ ทุกวันครับ ไม่มีวันหยุด
*** ปรึกษาไม่มีค่าใช้จ่ายครับ * * *เพราะผมทำเอง ไม่ใช่ทนายบริษัท จึงไม่ต้องมีการเก็บเงิน ยิบย่อย
*** ค่าใช้จ่ายถูก ตกลงราคาหนเดียว ไม่มีเอายิบย่อยครับอันนี้คือสิ่งที่ตั้งไว้ครับ
เมื่อตกลงและ เซ็นสัญญาแล้ว บริษัทจะเริ่มตามผล จนถึง ดำเนินคดีถึงที่สุด
เราทำเรื่องตั้งแต่ต้น จนจบ (ไม่ใช่แค่ฟ้องศาล กระดาษแผ่นเดียวครับ อันนี้ง่ายไปครับ ครึ่งวันก็เสร็จรับประกัน)
ตัวอย่างตามกรณีข้างล่าง
*** เมื่อตกลง บริษัทจะตามผลดำเนินคดีถึงที่สุด เช่น สัญญากู้ยืมเงิน ทางเราจะติดตามผล ทวงถามเจรจาเพื่อให้ง่ายต่อการชำระเงินจากลูกหนี้ ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระ ก็ดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่งฟ้องศาล ขึ้นศาลว่าคดีความ และ สุดท้ายพอศาลตัดสิน เราก็จะบังคับคดีให้ลูกหนี้ชำระตามศาล อาจมีการยืดทรัพย์ หรือ ศาลบังคับสัญญาผ่อนชำระจาก ประกันสังคม หรือ ฐานเงินเดือน ซึ่งลูกค้าจะได้เงินส่วนนั้นคืนแน่นอน 100 %
( บอกแล้วครับว่าเราทำตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่แค่ไปฟ้องศาลแล้วเก็บเงินคุณเฉย ๆ เราทำเพื่อลูกค้าให้มากที่สุดครับ )
( คุณพอใจ ผมพอใจ เราจะได้พึ่งพาอาศัยอยู่กันได้ด้วยการช่วยเหลือกันคร ับ )
*** ทนาย ของบริษัท เป็น ทนาย ระดับเกียรตินิยม เนติบัณฑิต
มีความรู้ครอบคลุมสายงานด้านกฏหมายทุกประเภทครับ ไว้วางใจได้ครับผม
เป็นระดับที่ปรึกษานะครับ ไม่ใช่ทนายทั่วไป ชั้นเชิง ความรู้ พร้อมให้บริการ
*** ถ้าสะดวก ก็ นัดแถวกรุงเทพได้เลยครับ ส่วนต่างจังหวัดจะโทรคุยได้ครับ จะได้ไม่เสียค่ารถ
(วันทำสัญญาค่อยนัดพบเพื่อเซ็น และ รับทราบเอกสารต่าง ๆ ครับ)
*** ท่านที่ไม่สะดวกชำระเงินเป็นก้อน สามารถผ่อนชำระได้ครับ
- บริษัทบอล มีทีมงานซึ่งเป็นคนของบริษัทโดยตรง เพื่อดำเนินการทุกเรื่อง ตามนี้ครับ
ทนายความ ระดับที่ปรึกษา เกียรตินิยม เนติบัณฑิต ถูกต้อง ซื่อตรง ยุติธรรม (ที่สำคัญรวดเร็วครับ)
ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับหลายบริษัท เขียนคดีความเอง ไม่ได้ไปจ้างใครครับ จึงรวดเร็วที่สุด
- ทีมงาน* มีทีมงานที่ช่วยเหลือในการทำงาน เช่น กรณียึดทรัพย์ที่ได้รับคำสั่งจากศาล
(ทีมงานนี้จะทำงานร่วมกับตำรวจครับ เราทำเฉพาะ เรื่อง ถูกกฏหมายนะครับ)
- มีระบบสืบค้นข้อมูล จึงสามารถทราบได้ว่าคู่กรณี ทำอะไร อยู่ไหน (ต้องใช้ระยะเวลาสืบค้นครับ)
เหมาะกับคดีที่ซับซ้อน (ชื่อ ทะเบียนราษฏร์ บริษัท ที่ทำงาน ประกันสังคม รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์)
- งานด้านกฏหมาย ทุกประเภท คดีความ เช็คเด้ง ติดตามทวงหนี้ตามกฏหมาย ที่มีสัญญา ไกล่เกลี่ย
และ ทุกเรื่องทางกฏหมายครับ ฯลฯ
*** ติดตาม ตั้งแต่ต้นจนจบทุกคดีครับ ตั้งแต่ติดตาม สืบทรัพย์ ที่อยู่ ฟ้องร้อง ขึ้นศาล บังคับคดี ยึดทรัพย์
เราทำให้คุณทุกขั้นตอนครับ (ไม่ใช่แค่ฟ้องขึ้นศาลแบบที่คุณเคยเจอครับ เราจัดการให้ทุกขั้นตอน จนบังคับคดี)
>สัญญากู้ยืมเงิน คดีเช็ค
>จัดการมรดก
>สืบทรัพย์ ที่ทำงาน ประกันสังคม อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
>ดำเนินคดี และ บังคับคดี ทั่วราชอาณาจักร
- บริษัทที่ต้องการ ฝ่ายกฏหมาย สามารถทำสัญญาต่อครั้งได้ ซึ่งไม่ต้องเสียเงินจ้างรายปี ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะครับ
- รับวางแผน ภาษี
-รับจัดทำบัญชีภาษีอากร
- รับจดทะเบียนบริษัท ห้างหุ้นส่วน (ทุกประเภท) และ พร้อมให้คำปรึกษา
ราคาตามความยากง่ายครับ พอใจตกลงก็ทำสัญญากัน สบายใจทั้งสองฝ่ายครับ ราคาคุณอยู่ได้ผมอยู่ได้ เกื้อกูลกันครับ
__________________
ติดต่อ มงคล (บอล) 081 4801662 เวลา 07:30 - 23:00
-----------------------
สู้ๆน๊ะครับ เป็นกำลังใจให้
สงสัยครับ ก็ผู้เช่าซื้อยังอยู่ แล้วทำไมไม่โดนหมายศาล
มาเป็นกำลังใจครับ
นี้แหละครับคือสิ่งที่ผมงงมากๆ ไม่แน่ใจว่าตอนไปยึดรถผู้เช่าซื้อกับพนง.ยึดรถมีตกลงอะไรกันหรือเปล่า? เพราะเท่าที่สอบถามเหมือนเขาไม่สนใจที่จะติดตามผู้เช่าซื้อเลย หรือเป็นเพราะผมหาตัวง่ายกว่า โทรฯมาก็เจอมาที่บ้านก็เจอ ก็เลยมาไล่เบี้ยเอากับผม ตอนนี้เลิกงานแทบไม่อยากเข้าบ้านเลย
ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจครับ ความคืบหน้าเป็นยังไงสามารถนำมาบอกเล่าให้สมาชิคคลับฟังได้นะครับ เพราะผมเชื่อว่ายังมีสมาชิคอีกหลายท่านติดตามและคอยเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้น้าอีกเป็นจำนวนไม่น้อย และผมเองได้นำเรื่องนี้ไปเล่าสู่เพื่อนและคนรู้จัก ซึ่งมีคนที่จบมาทางด้านกฏหมายแนะนำว่า
1.เก็บรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด(ศาลเชื่อพยานเอกสารและให้นำหนักมากกว่าคำพูด)
2.ปรึกษาอัยการจังหวัด(อัยการจังหวัดให้คำปรึกษาเรื่องกฏหมายและชี้แนะหาทางออกให้)
3.ติดต่อไปที่สภาทนายความขอความช่วยเหลือและยื่นเอกสารที่เรามีอยู่ให้และเล่าเรื่องความเป็นมาให้เขาฟัง ซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลประกอบในการแก้ต่างในชั้นศาล(สภาทนายความเขาจเป็นธุระเรื่องทนายความให้ครับ แจ้งทางสภาไปว่า[COLOR="blue"]เราไม่สามาที่จะหาทนายความได้[/color])
สำคัญที่สุดน้าจะต้องไปตามที่ศาลท่านเรียกเสียก่อน
เป็นกำลังใจให้ครับ (ไทรทั่นคลับอบอุ่นเหมือนญาติพี่น้องเหมือนเพื่อนสนิทที่คบกันมานาน หาจากคลับอื่นไม่มี)
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อครับ
สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
webmaster : สภาทนายความ สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศ email : admin@lawyerscouncil.or.th โทร 02-6291430
ขอขอบคุณพี่น้องและเพื่อนๆทุกท่านครับขณะนี้ผมกำลัง ดำเนินการ ติดตามผู้เช่าซื้อ เพื่อมาตกลงรับผิดชอบ มีวิธีไหนบ้างครับที่จะทำให้ผู้เช่าซื้อต้องมารับผิดชอบ โดยทีเราไม่ต้องต้องติดตาม เพราะระยะทางไกลเหลือเกิน และบริษัททนายที่เป็นโจทย์ มันก็ดันตั้งอยู่ถนนเส้นเดียวกันกับ บ้านเรามิน่ามันถึงได้มาติดตามแต่คนค้ำประกัน และผมต้องไปขึ้นศาลที่นครราชสีมา คนเช่าซื้ออยู่ชัยภูมิ หวังว่าเรื่องของผมคงจะจบลงด้วยดี เดียวจะมาเล่าให้ฟังครับ สมาชิกท่านใดมีทางออกหรือมีคำแนะนำดีๆรบกวน ตั้งกระทู้ไว้เลยนะครับ ขอขอบคุณอีกครั้งครับ ไม่คิดว่าในชีวิตจะเจอเรื่องแบบนี้ เพระผมเองก็ค้ำประกันรถมาเป็นสิบๆคันแล้ว ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้เลย ไฟแนนช์อื่นๆยึดรถมาเค้าก็จะแจ้งให้ผู้ค้ำทราบเพื่อหาทางออกแต่นี้ดัน สร้างปัญหาแล้วมาไล่เบี้ยเอากับคนค้ำเซ็งจริงๆ
ธนชาติ อีกแล้ว อยากให้มันเจ๋งจิงๆ ทำให้ปวดหัวอยู่บอกครั้ง เป็นกำลังใจให้คับ
ถ้าเค้าฟ้องร้องคุณว่าคุณเป็นผูคำ้ประกัน แสดงว่ารถคันนั้น ยังมีชื่อติดอยู่เจ้าของเดิม และคุณคือผู้ค้ำประกันร่วม เพราะคุณบอกว่า ค้ำร่วมด้วยกัน 4คน ซึ้งที่จริงทั้ง 4คน ต้องร่วมรับผิดชอบร่วมกันคับ แสดงว่ารถคันนี้ยังไม่ขาย หรือขายแล้วแต่เป็นการจำนำ หรือ เรียกอีกอย่างว่า หนีไฟแนน เอาใจช่วยคับอยากจะช่วยมากแต่ให้ได้แต่ กำลังใจคับ สู้ต่อไปคับ
เหตุการณ์เกิดตั้งแต่ปี51ครับ คือแบบว่าคนเช่าซื้อผ่อนรถได้ประมาณ5เดือน เดือนที่8รถถูกยึด ซึ่งผมเองก็ได้ ตกลงกับเซลล์ก่อนค้ำว่าหากรถถูกยึด หรือผู้เช่าซื้อผ่อนไม่ไหว ผมยินดีรับช่วงผ่อนต่อ แต่ไฟแนนช์ยึดรถมาแล้านำออกขายทอดตลาด รถ8เดือนขายได้ไง250,000บาทซึ่งราคาจริงๆณเวลานั้นมันน่าจะสูงกว่านี้ นี้แหละที่ทำให้ผมมีปัญหา เพราะตั้งแต่เกิดเหตุผมเองได้เข้าไปติดต่อที่ธนชาติเพื่อ ขอรับรถและยินดีจ่ายเงินให้เต็มจำนวนที่ทางไฟแนนช์ ตั้งราคา แต่แจ้งว่ารถขายไปแล้ว ผมไม่มายื่นคัดค้านการขายทอด ตลาดเอง และผมต้องรับผิดชอบส่วนต่างที่ทางไฟแนนช์ขายขาดทุน ที่น่าเจ็บใจวันนี้ดันเจอรถคันนี้อีก สอบถามเจ้าของรถ ซื้อมาจากเต็นท์ในราคา325,000 บาทไม่รู้ ว่าจริงหรือเปล่าแล้วทำไมไฟแนนช์มันขาย ถูกจัง รถstaraเดือนพย.ปี50ตัวทอ็ป
เมื่อวานมีไทรทันจอดไฟกระพริบใต้สะพานลอยหน้าเซฟวันไม่รู้ใช่รถน้าหรือเปล่า
เข้ามาเป็นกำลังใจครับไม่อยากให้วิตกจนเกินไปครับ เรื่องถึงศาลแล้วตัดสินไม่ได้ง่ายๆแน่ครับ ทางที่ดีควรปรึกษาอัยการ/ทนายก่อนไปศาลครับ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks