ถ้าพ่อผมเหลือนาไว้ให้ผมทำ ผมไม่มาเป็นขี้ข้าเขาหลอก
บังเญขายหมดตอนส่งผมเรียนนะซี่ wow
เคยอ่านงานสำรวจในต่างประเทศ เขาทำนายว่า อาชีพในอนาคตที่ทำเงินได้ดีมีอาชีพเกษตกรรวมอยู่ด้วยเพราะคนยิ่งเยอะอาหารยิ่งแพงขึ้นแน่ แต่ในอนาคตการจะทำนาแบบเดิมๆคงไม่ได้คงต้องเอาเทคโนโลยีการเพาะปลูกเข้ามาช่วย ถึงจะมีรายดีดีและผลผลิตต่อไร่เยอะ
กำลังหาช่องทางเหมือนกัน กะว่าผ่อนรถหมดก็จะไปทำไร่อ้อยแล้ว
ว่ากันไป..แค่ใหนก็แค่นั้นหละครับ..
มันต้องมองกันหลายๆมุมครับ ต้องใจกว้างๆกันนิด มรรคมีอง8 อาชีพชอบ คือหนึ่งในนั้น ผมสนับสนุนทุกๆ อาชีพสุจริตครับ
ผมก็ขี้ข้าเงินเดือน เสาร์อาทิตย์เป้นนายตัวเองเหมือนกัน มองในมุมกลับ พี่คนนี้เขาก็มีปรัชญาที่ดี
ผมถามคำเดียว ถ้า หมอหรือแพทย์ทุกคนที่จบมา อยากไปเป็นายตัวเองโดยการเปิดคลีนิคหมด(รายได้มันดีมากๆเลย) แล้วชาวนาที่จะไปใช้สิทธ์รักษา เงิน 30 บาท ทีรพ รัฐ ผมถือว่าเป้นมนุษย์เงินเดือนเหมือนกันนะ จะไปพบแพทย์ที่ไหน ในเมื่อแพทไปอยู่ คลีนิค รพ.เอกชนหมดแล้ว
ผมอาจยกตัวอย่างได้ไม่ดี แต่ สมดุล มันก็คงต้องเดินไปตาม สมดุลของมัน
ผมเป็นขี้ข้าเงินเดือน แล้วไงครับ ชีวิตผมมีความสุขดี อยู่ที่ว่า เราจะปรับ และใช้ชีวีตอย่างไรให้อยู่กับมันได้ ตรงจุดนี้ผมว่านี่ละ ยอดคนมากกว่าครับ
ผมขอเป็นขี้ข้าเมียคนเดียว ตอนนี้ก็จะแย่แล้วอ่ะคร๊าบบบ...!!! ขำๆ กันนะครับ แก้เครียดๆ ครับ
ด้วยความเคารพครับ
แต่ก็อย่างว่าอ่ะครับ บางคนมีธุรกิจส่วนตัวของเตี่ย ของม๊าของพ่อของแม๋ของครอบ
ครัวมาอยู่แล้ว จบมาก็มารับช่วงกิจการต่อได้เลย บางคนพ่อแม่ก็มีมรดก มีที่ มีนาให้หลายสิบไร่ ก็สบายไป ไม่ต้องไปเช่าที่เค้ามาทำ แต่อย่างพวกผม ยกตัวอย่างใกล้ๆ เลย ตัวผมเองนี่แหล่ะ พ่อแม่ไม่มีมรดกอะไรให้แม้แต่ชิ้นเดียว พ่อแม่ผมเลิกกัน ตั้งแต่ผมอยู่ ป.6 พ่อผมไม่ได้เอาอะไรมาเลยจากแม่ นอกจากปืนพกประจำตัวพ่อ และก็ผมกะน้องชาย แต่พ่อผมก็ส่งเสียผมกะน้องให้ได้เรียนจนจบปริญญา ผมก็เลยต้องตั้งใจเรียน เพราะเรามันไม่ได้มีมรดก หรือธุรกิจครอบครัวอ่ะไรอย่างคนอื่นเค้า จนทุกวันนี้ได้มาอยู่จุดนี้ ได้มีงานทำ แค้นี้ผมก็ภูมิใจแล้วอ่ะครับ
ด้วยความเคารพครับ
ทุกวันนี้ พอเจอเด็กที่ถูกจับมา ติดยาบ้าง จี้ปล้นวิ่งราวทรัพย์บ้าง แล้วมาอ้างว่า ที่เป็นแบบนี้ เพราะครอบครัวแตกแยก ขาดความอบอุ่น ผมเถียงขาดใจเลยครับว่า มันไม่เกี่ยวหรอก มันขึ้นอยู่กะตัวเรามากกว่า ตอนนั้นผมอยู่กับพ่อ ก็อยู่แบบเด็กครอบครัวแตกแยก พ่อแม่เลิกกันเหมือนกัน แล้วแถว ม.บ้านที่อยู่ก็มีขี้ยาเพียบ แต่มันขึ้นอยู่ที่ตัวเราอ่ะครับ แต่ผมคิดแบบว่า ในเมื่อครอบครัวเรามีปัญหา แล้วเราจะไปทำตัวให้มีปัญหาเพิ่มทำไม สมัยอยู่ ม.3 เย็นเลิกเรียนมา เพื่อนๆ บางคนอาจไปทำอะไรที่ไม่ดีกัน แต่ผมเลือกกลับบ้าน คว้าสตั๊ดออกไปเตะบอลกับเพื่อนๆ พี่ๆ ข้างบ้านดีกว่า พอกลับมาก็นั่งเล่นกีตาร์ ตีกลองตามประสาของผมไป ผมใช้ชีวิตแบบนี้จนถึงตอนเรียนจบปริญญา... ..ชีวิตคนเรามันอาจต้องดิ้นรนกันไปทุกคน ทุกท่านอยู่แล้ว ดังนั้นเราก็ต้องมีแนวทางชีวิตที่เราต้องสู้ต้องดิ้นรนกันต่อไปครับ
ด้วยความเคารพครับ
ตอบแบบนี้.....ถึงกะเถียงไม่ออก ถูกของเค้า
อืม น่าคิดคับ ... และรายการคนค้นคน เนี๊ยะผมชอบจิงๆ
ขอแชร์นิดนึงนะครับ ปัจจุบันผมเป็นเกษตรกร อายุเพิ่งจะครบ 30 มาเมื่อไม่กี่วันนี่เอง
ผมเรียนจบ ป.ตรี สายโฆษณา ทำงานอยู่ในแวดวงโฆษณาและบันเทิง งานสาย Designer / Creative / Strategic Planner
และเบื่อมายาผันไปอยู่ในระบบโรงงานเป็น Product Designer อยู่ฝ่าย R&D
ที่สุดท้ายผมทำโปรเจกท์ลดต้นทุนให้ทางบริษัทปีละ "ร้อยกว่าล้านบาท"
ผู้ใหญ่เห็นผลงานที่โดดเด่น เตรียมโปรโมทให้เป็นหัวหน้า
แต่สุดท้ายผมโดนหัวหน้าและผู้จัดการฝ่ายบีบออก ด้วยอ้างเหตุผลว่าผมไม่ดึงสายโทรศัพท์ในฝ่าย
เรียกผมเข้าไปคุยหลายเรื่อง แต่ยกประเด็นโทรศัพท์เป็นสำคัญ
ซึ่งก่อนหน้านั้นผมเริ่มรู้สึกถึงความไม่มั่นคงของตัวเองอยู่ก่อนแล้ว เลยวางแผนลาออกอยู่ครึ่งปี
ผมเริ่มเห็นระบบการเมืองภายในแย่ๆ แล้วรู้สึกสะอิดสะเอียนมากๆ
หลายๆครั้งที่รู้สึกแย่ด้วยคำว่าอยู่ภายใต้ผู้บังคับบัญชาเฮงซวย
ผมตกผลึกความคิดเป็นประโยคนึงว่า "ลูกน้องหรือหัวหน้าขี้ข้าเหมือนกัน"
พอเริ่มคิดได้ว่าเป็นขี้ข้าเค้าที่ทำให้บริษัทรวยเอาๆ แต่ตัวเองกลับไม่ได้ดิบได้ดีอะไรผมก็จากมาแบบเงียบๆ
ไม่ได้เขียนใบลาออก ไม่ได้อะไรเลย เคลียร์ทุกอย่างเสร็จก็กระซิบเพื่อนสนิทที่ทำงาน บอกไปก่อนนะ
เดินออกจากประตูนรกตอนบ่ายสอง โดยลา รปภ. เพื่อนซี้อีกหนึ่งคน เดินออกมาแบบผู้มีอิสรภาพเต็มหัวใจ
แล้วก็แพคกระเป๋าไปหัวหินคนเดียว เกือบอาทิตย์โดยที่ไม่มีใครโทรตามผมเลย
...
นี่แหละเรื่องราวดราม่าของผม ก่อนที่จะกลับมาช่วยที่บ้านทำสวนเพราะพ่อแม่เริ่มแก่ตัวแล้ว
ถ้าผมไม่เริ่มตอนนี้ อีกหน่อยก็คงไม่มีใครดูแลสวนของที่บ้าน
แต่ตอนนี้ พ่อแม่ผมก็ยังไม่ค่อยอยากให้กลับมาทำสวนสักเท่าไหร่ เค้ากลัวเราเหนื่อยจะสู้ไม่ไหว
ก็คงต้องดูกันต่อไปครับ
...
มุมมองรายได้ของอาชีพเกษตรกรของผมให้เห็นภาพแบบตอนทำงานออฟฟิตเหรอ???
ตอนนี้ผมเปรียบมะนาวเป็นเงินเดือน.. กล้วยไข่กับฝรั่งเป็นโอที.. สารพัดมะม่วงคือโบนัสรายปี
ฟรีแลนซ์ทำมั่งไม่ทำมั่งทิ้งขว้างได้ตามอารมณ์ก็พวก กล้วยน้ำว้า มะพร้าว มะละกอ
ซึ่งอีกไม่กี่เดือนมะละกอชุดใหม่จะขยับเป็นร้านกาแฟสดรายได้เสริมหลังเลิกงาน
แต่รายได้ทั้งหมดคือเอาไปคูณ 10 เท่าของตอนเป็นมนุษย์เงินเดือนนะ(เงินเดือนที่สุดท้ายแค่ไม่กี่หมื่น)
ซึ่งรายได้ที่ก้าวกระโดดขึ้นมาก็หักไป 40% สำหรับลงทุนเอง
ถามว่าเหนื่อยมั๊ย ก็เหนื่อยนะแต่ไม่เครียดเลย ตื่นมาคือรู้ว่าวันนี้ต้องทำอะไร
ไม่ใช่ว่าลืมตาขึ้นมาแล้วถามตัวเองว่าวันนี้จะต้องเจออะไร แบบตอนเป็นลูกจ้างเขา
...
รายละเอียดอื่น ๆ มันมีอีกเยอะครับ ต่างคนต่างความคิดต่างอาชีพกันไป
เอาแค่นี้ก่อนดีกว่าเริ่มยาว เดี๋ยวไม่มีอะไรแลกเปลี่ยนในวงเหล้า เอิ๊กๆ
สู้ๆ ทุกคนทุกอาชีพครับ
บร๊ะ ผมก็เป็นอีก 1 คน จบตรี วิศวะไฟฟ้า แต่....กลับมาช่วยแม่เลี้ยงไก่ เนื้อ
รายได้ ดีกว่า ทำงาน วุฒิ ป.ตรี หลาย2-3เท่าตัว แถมมีเวลา เทรด Forex อีก
เคยเป็นขี้ข้า บริษัท ทำยางรถยนต์ ค่ายที่ฝรั่งเศษมาหุ้นด้วย ที่หนองแค ตอน จบ ปวส.
คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก คำนี้แหละ ที่ผมไม่คิดจะไปสมัครงานที่ไหนอีกหลังจากจบมา
แต่...ยังไม่รวยซะทีนี่สิ เฮอะๆๆ
เพื่อนผมจบป ตรี มาพร้อมกัน เคยเป็นพนักงานบริษัทอยู่ประมาณ 5 ปีที่กรุงเทพ กลับมาไม่มีเงินเหลือ
เลยคิดกลับไปทำอาชีพทำนาของพ่อแม่ ที่ทำส่งเรียน เริ่มต้นจาก10ไร่ รุ่นแรกเสมอตัว ลงทุน2แสน ได้กลับมา2แสน( รุ่นแรกเป็นครูยังไม่รู้อะไรเท่าไหร่)
พอรู้เทคนิคของการทำนาเลยลุยเช่าเพิ่มที่เป็น40ไร่ 4เดือนได้กลับมา 4แสน
ปัจจุบันเพิ่มเป็น80ไร่ รุ่นล่าสุดเพิ่งได้เงินจากการจำนำข้าว เกือบๆ9แสน (ใน1ปีทำนา3รอบ 80ไร่นี่เป็นรอบแรก แล้วหลังจากนี้ล่ะ คิดเอาเองล่ะกัล)
ถามเพื่อนว่าที่ทำมา2ปีเนี่ยได้เงินประมาณเท่าไหร่ มันบอกว่าปีแรก รอบล่ะ4แสนทำ 3รอบ เท่ากับ1.2ล้าน
ปีสอง 4แสนสองรอบก็ แปดแสน และรอบสุดท้าย เกือบ9แสน คิดเอาเองร่ะกัลนะ ทำนา2ปีมีเงินเกือบ3ล้าน สุดยอดเลย(ลงทุนแค่ไม่กี่หมื่นครับ)
ปีหน้าผมก็เริ่มลงทุนทำนาแล้วครับ มีที่ปรึกษาที่ดีแล้ว จัดเต็ม
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย p_siri : 08-10-2012 เมื่อ 21:52
บางทีเราต้องทำบางสิ่งเพื่อให้ได้เริ่มอีกบางสิ่งที่เราต้องการ บางคนมีทุกสิ่งอยู่แล้วเพียงแต่มองข้ามไป แต่บางคนต้องเริ่มใหม่หมดทุกสิ่งทุกอย่าง ในชีวิตมีสองสิ่งที่เราต้อทำคือสิ่งอยากทำและสิ่งที่ต้องทำ ตอนนี้อดทนทำงานเป็น (ขี้) ข้าราชการชั้นผู้น้อยไปก่อน ทำงานเก็บเงินซื้อที่ไว้แล้วห้าไร่ล้านกว่าบาท กำลังจะดำเนินการให้ออกดอกออกผลต่อไป งานประจำอาจไม่ใช่ที่มาของรายได้ทั้งหมด แต่หากเรามีรายได้ทั้งจากงานประจำคือสิ่งที่ต้องทำ และรายได้จากสิ่งที่อยากทำ ท่านคิดว่าเราจะมีความสุขแค่ไหน จงมีสุขกับการทำงาน งานหนักดีกว่าตกงานคับ
จริงตรงได้ใจจริงๆๆๆ
ทำอะไรก็ได้ที่สุจริต พี่เค้าทำได้ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ
ส่วนคนที่ไม่มีทางเลือกหรือทางเลือกมีไม่มาก ก็ทำให้ดี ก็พอแล้ครับ น้าๆๆ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks