แล้วของเหลวภายในกระโปกเพลายังอยู่ในระดับปกติมั้ยครับ
แล้วของเหลวภายในกระโปกเพลายังอยู่ในระดับปกติมั้ยครับ
ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์นะคะ.....ถ้ารถเดิมๆไม่ได้เพิ่มความสูงจนทำให้เพลาท้ายมีมุมเงยที่ผิดปกติ
.
จอดรถในที่ปลอดภัย และ มีพื้นที่เรียบเสมอกัน
ถอดน๊อตเติมน้ำมันเฟืองท้าย ใช้นิ้วมือสอดเข้าไปถ้าสัมผัสน้ำมันเฟืองท้ายในระดับเดียวกับปากรูเติม ถือว่าปกติ แต่ถ้าต้องงอนิ้วล้วงลงไปถึงจะเจอ แสดงว่า ผิดปกติค่ะ
รถผมก็เคยเป็นครับเสียงแบบนี้ดังแบบนี้เลย พอวิ่งไปศูนย์โยกดูเงียบกริป รถมันกลัวช่าง
พอถึงช่วงเข้าเช็ค 20000 โล ผมเลยบอกช่างว่าเฟืองท้ายดัง ช่างขันน๊อตดู อ้าวน้ำมันขาดครับ
ช่างเลยถ่ายออกแล้วเติมให้ไหม่ ตอนนี้ไม่ได้ยินเสียงแล้ว
ฝากความห่วงใยถึงสมาชิคที่ปรับมุมเงยเพลากลาง จะยกเท่าไหร่ไม่สำคัญ สำคัญตรงมุมเงยเพลากลางได้องศาเหมาะ เพราะกระดกคานรับกัน ปัญหามันอยู่ตรงปริมาตรน้ำมันเฟืองท้ายในระบบผิดปกติค่ะ จริงอยู่คลายน๊อตเติมเช๊คระดับเสมอปากรู แต่อย่าลืมนะคะ ปากรูมันต่ำลงกว่าที่เคยเป็นเนื่องจากเรากระดกเพลาให้ได้องศา ดังนั้น ยึดปริมาตรน้ำมันเฟืองท้ายตามคู่มือเป็นดีที่สุดค่ะ ของหนูคนที่บ้านถ่ายเอง แกถิยหลังขึ้นแลมป์ชันๆแล้วก็ เช๊คปริมาณน้ำมันที่ใส่เข้าไปตามคู่มือให้ได้ปริมาตร. ......กันไว้ก่อนค่ะ ขับแบบแก น่ากลัว อิ อิ
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย kro sang : 19-06-2013 เมื่อ 17:54
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่า่นมา ไม่รู้จะทำอะไร เลยเข้าเว็ป Thaitritonclub.com เปิดไปเจอกระทู้หนึ่ง มีเมลล์ ติดต่อฝ่ายช่างเทคนิค สำนักงานใหญ่ คือ customer.plus@th.mitsubishi-motors.com เลยนึกขึ้นได้ว่า ลองส่งคลิปนี้ไปตามเมลล์นี้ดู บางทีอาจจะให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาได้ ปรากฎว่า
อีกสองวัน ช่างเทคนิคจากมิตซู สำนักงานใหญ่โทรมาถามเกี่ยวกับปัญหานี้ และได้ทำการประสานงานกับศูนย์บริการใกล้บ้านเพื่อให้ผมนำรถเข้าไปทดสอบ
พอดีวันพรุ่งนี้ก็ว่างพอดีเลย เดียวจะลองดูอีกสักครั้ง ก่อนที่จะหมดประกันสามปี หรือ หนึ่งแสนกิโลเมตรในเร็วนี้ นี่ก็ ปีครึ่งแล้วกับปัญหานี้ แต่ก็ขับได้ปกติทุกเส้นทาง
ก็มีแต่ปัญหายางกินขอบด้านนอกล้อหน้าทั้งซ้ายและขวา แต่ซ้ายจะกินเยอะหน่อย ส่วนตัวก็คิดว่าน่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน คงเป็นเพราะเรื่องของศูนย์ล้อมากกว่า
เคยไปตั้งศูนย์ ก็ไม่หาย เลยไม่ทำอะไร เพราะยางห้าหมื่นกว่าโลแล้ว คงถึงเวลาเปลี่ยนยางใหม่แล้ว นี่ก็กะว่า มกราคม 58 ค่อยเปลี่ยนยางใหม่ แล้วขยันสลับยาง
ตั้งศูนย์ทุกหมื่นโล คงจะช่วยได้
พรุ่งนี้จะเข้าศูนย์ตามคำแนะนำของช่างเทคนิคดู แต่จอดทดสอบที่ศูนย์ คงไม่ปรากฎเสียง ดังกล่าว คงต้องรบกวนช่างที่ศูนย์นั่งรถออกไปข้างนอกหาพื้นที่เนิน หรือเอียง
เหมือนในคลิป ช่างจะได้วิเคราะห์สาเหตุถูก เหตุการณ์จะเป็นยังไง เดี๋ยวจะมารายงานผลที่นี่ ต่อไป
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย kro sang : 25-11-2014 เมื่อ 21:26
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย Surachart : 13-12-2014 เมื่อ 10:45 เหตุผล: พิมพ์ผิด
รายงานความคืบหน้าครับ หลังจากได้รับคำแนะนำให้นำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์ใกล้บ้าน วันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ได้นำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่งทางภาคอีสานตอนบน ช่างก็เริ่มทำการแก้ไขใช้เวลาประมาณเดือนกว่าๆ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้(ใช้วิธีแก้ไขแบบเดาอาการไปเรื่อย รื้อๆ ถอดๆ จนไม่รู้จะรื้อจะถอดตรงไหนแล้ว) จึงส่งรถเข้าศูนย์บริการสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ เมื่อวันที่12 มกราคม 2558 แล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ผมได้โทรไปถามศูนย์ใหญ่มิตซูว่ารถซ่อมเสร็จหรือยัง ศูนย์ใหญ่มิตซูบอกว่าเสร็จแล้ว รอส่งรถคืนลูกค้า แต่ ณ ปัจจุบัน วันนี้ 9 กุมภาพันธ์ 2558 จนจะครบ 1 เดือนแล้วยังไม่ได้ส่งรถคืนมาเลย โทรไปถามอีก ก็บอกว่ายังไม่ได้ส่งต้องรอบริษัทเทรลเลอร์ รวมแล้ว การซ่อมอาการเพลาดัง หลวม ใช้เวลาไปแล้ว ณ วันนี้ ก็ 2 เดือนกว่าแล้ว และนี้ก็ไม่รู้ว่าวันไหนจะได้รถคืน แล้วอาการที่ซ่อมก็ไม่รู้จะจบหรือเปล่า คงต้องทำใจครับ
ท่อหายใจนี้หรือเปล่าครับที่ ตอนลุยน้ำหนักๆน้ำจะเข้าเฟืองท้าย จะลุยหนักต้องอุดก่อน หรือเปล่าครับ สงสัยมาก
รายงานผลต่อครับ หลังจากที่รอแล้วรอเหล่า เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ได้รับโทรศัพท์จากศูนย์บริการมิตซู นครพนม ว่ารถของท่านมาแล้ว ให้เข้ามารับรถได้เลย ผมจึงเข้าไปรับรถ ดูสภาพรถจากภายนอก ก็ปกติดี จากนั้นก็ไปทดสอบรถกับช่างที่ศูนย์บริการ ว่าอาการ ล้อหลังมีเสียงดังเวลาจอดถนนเอียง หรือทางชัน เนิน หายหรือเปล่า ก็เป็นที่น่าพอใจ ว่าอาการดังกล่าวได้หายแล้ว ไม่ดังแล้ว ก็ได้รับรถเป็นที่เรียบร้อย ตอนรับรถ ผมได้ถามช่างที่ศูนย์บริการนี้ว่า สำนักงานใหญ่ได้ซ่อม เปลี่ยน อะไรบ้าง ช่างศูนย์ตอบว่า จากการสอบถามไปทางสำนักงานใหญ่ แจ้งว่า ได้เปลี่ยนเฟืองท้ายใหม่ และแก้ไขระบบเบรคหลังให้ใหม่ ซึ่ง คำตอบทำไมไม่ตรงกับที่ผมโทรไปสอบถามกับทางมิตซูสำนักงานใหญ่ก่อนหน้านี้ สำนักงานใหญ่ตอบว่า ได้ทำการปรับแล็คเฟืองท้าย และลองซิมเพลา แค่นั้น ผมก็แอบส่งสัยในใจ ว่า ทำไมได้รับคำตอบไม่เหมือนกัน ตกลง เขาทำอะไรกับรถคันนี้บ้างกันแน่ ก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะอาการที่ส่งซ่อมหายก็โอเคแล้วสำหรับผม จากนั้นก็นำรถไปใช้งานตามปกติ
เช้าวันต่อมา จะเดินทางไกล จึงเปิดฝากระโปงหน้ารถเพื่อดูระดับของเหลวในห้องเครื่องว่าปกติหรือไม่ ผมมองดูสภาพโดยรวม สายตาก็ต้องไปสดุดที่หม้อลมเบรค เลยเข้าไปดูใกล้ๆ จึงเห็นได้ชัดเจนเลยว่าสีของหม้อลมเบรคลอก หลุด ร่อน ออก เนื่องจากน้ำมันเบรคกัดสีหม้อลม ตอนแรกนึกว่า หม้อลมเบรครั่วแน่ๆ แต่ลองเช็คดูคราบน้ำมันก็ไม่มี แล้วสีหม้อลมเบรค ลอก หลุด ร่อน ได้อย่างไง เลยขับรถเข้าศูนย์ไปให้ช่างดู ช่างบอกว่า โดนน้ำมันเบรคกัดสีหม้อลมอาจจะเกิดจากช่างทำหกใส่เวลาเติมหรือเติมเต็มจนล้น แล้วไม่ได้ล้าง ทำให้น้ำมันเบรคกัดสีหม้อลมอย่างที่เห็น ศูนย์บริการจึงทำการถอดหม้อลมเบรคออกไปทำสีให้ใหม่ กลับมาใช้แล้วลองสังเกตดูก็ปกติ ไม่รั่ว แสดงว่าเป็นความบกพร่องของช่างสำนักงานใหญ่ ที่สะเพร่า ไม่รอบคอบเวลาเติมน้ำมันเบรค นี้คือมาตรฐานของศูนย์บริการมิตซูแล้วหรือ ขนาดสำนักงานใหญ่ยังเป็นถึงขนาดนี้ แล้วศูนย์บริการตามต่างจังหวัด จะไม่แย่กว่านี้อีกหรอ
สรุปแล้วการแก้ปัญหาของมิตซู ผมต้องตามงานเองตลอด ต้องเสียเวลา ถ้าผมไม่ตามงานก็จะไม่คืบหน้า ก็จะปล่อยๆ ไปรอให้หมดประกัน ซึ่งปัญหาที่รถผมเจอ คือ ช่วงล่างตรงล้อหลังมีเสียงดังเวลาจอดทางลาดชัน ทางเอียง ซึ่งถ้าผมหลงเชื่อช่างที่ศูนย์บริการ ที่บอกว่า อาการนี้ ปกติ คงไม่ได้แก้ไขแล้ว แต่ผมคิดได้ว่า มันไม่ปกติแน่นอน ถึงแม้ว่ารถจะใช้ได้ปกติก็ตาม ผมจึงตามเรื่องให้ถึงที่สุด ตามจี้ ให้ช่างแก้ไขให้เป็นปกติเหมือนรถคันอื่นๆ ยอมทำใจกับการแก้ปัญหาของช่างที่แก้ปัญหาแบบไม่ใช่มืออาชีพ เดาอาการไปเรื่อย ถอด เรื้อ ไปเรื่อยๆ ทำเหมือนรถผมเป็นหนูทดลอง จนผมคิดว่า เรามาไกลถึงขนาดนี้แล้ว จะถอยไม่ได้แล้ว ต้องเอาให้ถึงที่สุด เอาจนกว่าจะหาย ยอมรับว่าเสียเวลามากที่สุด เสียความรู้สึกมากที่สุด ใครไม่เจอกับตัวเองจะไม่รู้หรอกครับ ณ ตอนนี้ รถผมปกติทุกอย่าง ระบบช่วงล่างกลับมาฟิสดังเดิม ทุกวันนี้ไม่เข้าแล้วศูนย์บริการมิตซู รู้สึกว่าช่างไม่ค่อยเก่ง และอีกอย่างรถผมก็หมดประกันแล้ว ใช้บริการอู่ ร้าน เฉพาะทางข้างนอก ดีกว่า ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพงด้วย สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณน้าๆ ทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ให้คำแนะนำ ขอบคุณครับ
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย kro sang : 24-04-2015 เมื่อ 07:12
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks