เพื่อเป็นการให้ได้เห็นกันแบบชัดๆกัน บ่ายนี้ผมจะออกไปทดสอบและเก็บข้อมูลมาให้ได้รู้กันครับ ใครอยู่ใกล้คลองสามถ้าว่างไปร่วมเก็บข้อมูลด้วยครับจะได้ไม่ได้เป็นที่ครหา
ผมมีอุปกรณ์วัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดอยู่ 1 ตัวครับการทำงานของมันแค่ชี้ไปยังจุดที่ต้องการทราบค่าความร้อน แค่ห่างประมาณ 1 นิ้วผลที่ได้ก็ค่อนข้างแม่นยำมากครับ จุดที่จะวัดมีดังนี้ครับ
1.บริเวณฝาสูบของเครื่องยนต์
2.บริเวณโข่งไอเสียเทอร์โบและคอท่อไอเสียในจุดที่ใกล้เสื้อสูบ
3.ท่อยางท่อน้ำด้านบนซึ่งเป็นส่วนที่น้ำร้อนก่อนเข้าไปยังรังผึ้งหม้อน้ำ
และยังอ่านค่าต่างๆจากสมาร์ทเกจด้วยอีกตัวนึง ทุกๆจุดจะถ่ายภาพและจดเป็นข้อมูลทุกขั้นตอนครับ แต่ก่อนอื่นผมจะเซ็ทรถให้เดิมทุกอย่าง แต่เทอร์โบผมบูทไว้ 18 ปอนด์ถือว่าต่อให้หน่อยนึงครับ สำหรับข้อมูลในส่วนรถเดิมๆ
ส่วนขั้นตอนการปรับใช้แก๊สผมจะปรับให้เหมือนๆกับที่ได้ติดตั้งและปรับจูนให้กับสมาชิกไปทุกอย่างครับ แต่จะยังเพิ่ม Hydrogen ซึ่งมีพลังงานมากกว่า LPG และให้ความร้อนที่สูงกว่า และยังพ่วงด้วยไอของน้ำมันเบ็นซิล 95 เข้าไปอีก เสริมด้วยชุดสร้างอ๊อกซิเจนเข้าไปอีกซึ่งก็ทราบกันดีว่ามันจะเข้าไปส่งเสริมในการเผาไหม้ให้ดีขึ้นไปอีก นั่นหมายถึงระเบิดรุนแรงและความร้อนสูงขึ้นครับ ส่วนความเร็วที่ใช้คงจะสัก 3 ช่วงก็พอครับ 90, 120, 140 ก็น่าจะเพียงพอครับสำหรับคนที่ใช้งานทั่วๆไป แค่นี้ก่อนขอไปเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนครับ
สวัสดีครับน้า แต่ก่อนผมใช้มิวเซเว่นตัวไมเนออรืเชนจ์ที่2 ตอนน้ำมันแพงผมคิดจะติดตั้งlpgเพิ่มเหมือนกันแต่ต้องล้มเลิกความคิดเพราะเห็นเขาติดแบบหัวฉีดอัดlpgลงไปมากเพื่อจะทดแทนดีเซลในที่สุดเครื่องยนต์ชิงจุดระเบิดก่อนพังครับ แต่มาพบการทำงานของlpgที่อ.ต้นติดตั้งผมใช้ดีเซล+lpgตั้งแต่10มค 54 อิสานไปอุบล ทางใต้ไปชุมพรบ้านน้องเมียหลายครั้งยังโดนถ่ายรูปส่งมาให้ตั้ง400บาทผลงานทางหลวงเพชรบุรี ไปตากสายพานราวลิ้นรูดไป3-4ร่องสายพานน้ำมันเครื่องรูดผมขับกลับมาจาก จ.ตากโดยไม่พังความร้อนไม่ฮีต ผมมาทำที่อู่ มนต์ชัย ไร่ขิง ช่างที่อู่ยังถามเลยว่าพี่ขับมาจากจ.ตากจริงหรือมันน่าจะพังอาจจะถูกของช่างแต่ผมขับไม่พัง แถวไร่ขิงมีสมช ไทรทั่นหลานท่าน ถ้าใครอยู่ใก้ลลองไปสอบถามดู ถ้าติดlpgแล้วความร้อนมากผมพังไปแล้วทางอู่มนต์ชัยเขารู้จักผมดีเพราะเมื่อไม่นานก็นำ civic fd โฉมก่อนไมเนอร์เชนต์ไปทำสีลูกสาวขับไปเสยท้ายฟอนเทียมาและล่าสุดเพิ่งไปเปลี่ยนลูกปืนล้อหลังมา สว่นความประหยัดผมว่าของผมประหยัดแต่ของหลานลูกชาย "ตีํใหญ่หม้อน้ำ" ปากทางสาย4 หลานมันบอกว่าแค่กดโชว์ แล้วปิดแค่นี้ก็ความแรงติดใจแต่เกน้ำมันลงติดตาเลยน้า แต่ผมว่าผมเลือกเดินทางแรงแบบประหยัดดีกว่าดีเซลเฉลี่ย17/18โลลิตร lpg ใกล้40โลลิตรพอใจแล้วครับน้ำมัน1ถังวิ่งเกิน1000กม ถูกใจแล้วครับ ของผมดีเซล+LPG+ไอเบนซิน+เซพพลัสเพิ่มออ๊กซิเจน+ตัวต้มน้ำมัน+ท่อสูตรน้าปรีชาความร้อนปกติ ไม่เป็นหวัด ไม่มีไข้เลยตัวไม่ร้อน ผ่านการคัดกรองไข้หวัด 2009แล้วผ่านได้ครับ
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย chaiyos-triton6299 : 08-09-2011 เมื่อ 14:38
พี่ที่ออฟฟิศ มีแท็กซี่หลายคัน ทั้ง lpg และ ngv ติดตั้งเองอูนอกทั้งสิ้นไม่ได้มาจาก 0 แต่ละคัน 3-5 แสนโลทั้งนั้น ไม่เห็นมันพัง เปลี่ยนหัวเทียน ถ่ายน้ำมันเครื่อง ตามระยะ อีก 1 ข้อมูลที่ผมรับทราบมาครับ
สวัสดีน้าcivic fdปี2006โฉมปัจจุบันก่อนไมเนอร์เป็นไฟท้าน8เหลี่ยมติดlpgตั้งแต่ปี2551จากช่างโอ พระราม5ออโต้แก๊สวิ่งใกล้ทะลุแสนแล้ว ของญาติaltis 1.8 G คันนี้วิ่งเกินแสนไปไกลแล้้วนครปฐม-สุราฐธานี ไม่มีเรื่องความร้อนมีแค่ นานๆรอบไม่นิ่งเนื่องจากลินปีก สกปกเพราะเล่นกรองสแตนเลส ผมถอดมาล้างก็เป็นปกติ LPGไม่ใช่ผู้ร้ายแต่เป็นผู้ให้สำหรับผม กิโลเมตรละ1-1.20บาท แต่ถ้าใส่เซพพลัสจะเหลือ.90-1บาทครับแฮบ"ปี้"ครับ
มาแล้วครับ ทีแรกตั้งใจเป็นข้อมูลสดเมื่อตอนบ่ายสี่โมงกว่า ฝนตกลมแรงครับกำลังจะ Enter ไฟดับเสียก่อนเลยเป็นข้อมูลเย็นๆค่ำๆกันครับ
มาดูแบบไม่มี LPG คือแบบเดิมๆกันก่อนครับ ที่ 90 กม./ชม.อ่านค่าได้ดังนี้ครับ อากาศขาเข้า 38 องศา ผ่านอินเตอร์แล้วได้ 48 องศา อุณหภูมิน้ำ 88 องศาครับ
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. เรียงกันเลยครับ 42 63 89
ที่ความเร็ว 140กม./ชม. 42 71 90 ผมใช้ความเร็ว 140 ต่อเนื่องประมาณ 4 กม.แล้วเข้าซ้ายรีบจอดรถทำการวัดค่าอย่างเร็วเท่าที่จะทำได้ครับ ที่ฝาสูบ 113.6 องศา ท่อยางหม้อน้ำ 77.2 องศา ส่วนบริเวณโข่งเทอร์โบกับท่อไอเสียวัดไม่ได้ครับเครื่องมือไม่สามารถอ่านได้เนื่องจากน่าจะประมาณ 200 องศาขึ้นไป เลยไม่รู้เลยว่ามันเท่าไรกัน ดูรูปแล้ววิเคราะห์กันครับ
คราวนี้มาดูกันให้หายข้องใจกันเสียที ผมวนรถกลับและเปิดระบบ LPG และตัวช่วยตามที่ได้กล่าวไว้ ถ่ายที่ 90 กม./ชม.ก่อนเลย จึงเพื่มความเร็วเป็น 130 กม./ชม.เมื่อเห็นว่าระยะทางพอประมาณจึงเริ่มถ่ายภาพที่ความเร็วช่วงต่างๆดังนี้ครับ
90กม./ชม. อากาศ 39 องศา อากาศผ่านอินเตอร์ 50 องศา อุณหภูมน้ำ 87 องศา
120 กม./ชม. = 41 64 88
140 กม./ชม. = 43 72 89 และแถมที่ความเร็ว
150 กม./ชม. = 44 73 91
หลังจากนั้นจอดรถแล้ววัดที่ฝาสูบได้ 106.6 องศา ที่ท่อยางน้ำวัดได้ 76.8 องศา หน่วยเป็นเซลเซียสครับ
จากข้อมูลก็ดูเอาครับว่ามันมีความต่างกันไหม มันยังมีความน่ากลัวหลงเหลืออยู่อีกไหมนั่น แก๊ส LPG เป็นแค่พลังงานที่เข้าไปเสริมเท่านั้นครับอย่าให้มันเป็นแพะเลยครับ และอย่าเอาความเป็นจริงในเครื่องเบนซินที่ใช้ Gas มาเป็นแนวคิดครับเพราะมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับดีเซลติดแก๊ส (อย่างถูกวิธีและปลอดภัย) ลองพิจารณากันดูครับ
ชัดเจน ครับ
นานาจิตตังครับอาจารย์ ให้กำลังใจอีกคนครับ มาทำการวิจัยและพัฒนาเพื่อต่อยอดผลงานของอ. ต่อดีกว่าครับ ผมรออัพผลงานอ.เพิ่มอยู่ครับ เพราะต่างคนต่างความคิด ไม่ได้ใช้จริงก็ไม่รู้ หรืออีกอย่างก็โดนร้านหมกเม็ดให้ อะไรทำนองนั้นครับ ลุยโปรเจ็คของอาจารย์ต่อดีกว่าครับ ขอบคุณครับ
ใชแล้วซิ นี่แหละขอ้มูลที่ดีผมถึงมาติดตั้งlpgเสริมจากอ.ต้น พอโทรคุยกับอ.ต้น อาจารย์อธิบายว่าlpgเสริมการเผาไหม้ทำให้น้ำมันที่ฉีดเข้าไปเผาไหม้เต็มประสิทธิภาพ เครื่องยนต์จึงแรงขึ้นทำให้เรากดคันเล่งน้อยลง ไม่เมือนกับข้อมูลที่ผมไปเจอมาเล่นแล้วพัง อัดlpgลดดีเซลลงเพื่อจะให้ประหยัด ในที่สุดก็เจ้งครับ สว่นเบนซินcivic fdของผมก็ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนครับช่างโอจูนแบบน้ำมันlpgต้องหนากว่าน้ำมันเครื่องจึงไม่ร้อน ตั้งแต่ปี2551-2554ผมเช็ควาวล์ไปครั้งเดียวที่ ฮอนด้าสาย4 ค่าเช็ควาวล์380บาท สรุปLPGไม่ใช่แพะ ใม่ใช่ผู้ร้ายแต่เป็นผู้ช่วยให้เงินเหลือเก็บถ้าไม่ดีน้า"เจมบอลKAMO 007" คงถอดทิ้งไปแล้วครับท่าน ส่งแรงใจอีกหนึ่งดวงไปเป็นกำลังใจให้ อ.ต้นครับ
เออก็ว่ากันไปเนาะ หลากหลายความคิค
ที่ติดแก้สร่วมนี่ก้อต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ต่อเที่ยว ต่อรอบ
ไอ้ที่ว่าแรงๆ เป็นส่วนที่แถมมา (จริงๆผมก็ไม่ค่อยได้ใช้ัสักเท่าไร)
ผมไม่ติดแก้สมาเพื่อไปแข่งกับใคร ผมติดเพื่อค่าใช้จ่ายของผมเอง
นอกเรื่องนิด ผมเหนื่อยในการขับรถ เลยเปลี่ยนให้ญาติภรรยา มาขับแทน จากสารคาม เดินทางกลับ บ้านนา ผมบอกแวะเมืองพลด้วยจะซื้อหม่ำฝากเพื่อน แล้วผมก้อนอน (รถเปิด gps) รถจอดผมก็ตื่นคิดว่าถึง เมืองพล พอลงรถเฮ้ยนี่มันปั้ม ปตท โคราช นี่หว่า มาดู gps ญาติเล่นขับ 180-190 up 35 นาทีจาก มหาสารคาม จะว่าไปรถมันก้อแรงขึ้นล่ะ
ผมคนหนึงที่ใช้รถค่อนข้างมากในการเดินทางไกลเป็นประจำ ไปทั่วไทย
ไปใหนมาใหนต้องมีครอบครัวไปด้วยเกือบทุกครั้ง ค่าใช้จ่ายเป็นเรื่องสำคัญ
สันดานผมไม่ใช่คนขับรถเร็ว เน้นขับปลอดภัย ยังไงๆก็ถึงจุดหมาย
แต่มีบางครั้ง ที่เพื่อนร่วมทางอยากจะเล่นด้วย ผมหลบให้ครับ ชีวิตผมมีค่ามากกว่า ที่จะมาเสียเวลา ให้กับพวกบ้าพลัง
วางแผนการเดินทางดีๆให้เหมาะสม ไม่ใช่ตาลีตาลานขับรถไปแบบร้อนลน
ความร้อนของรถ ผมไม่เคยวัดว่ามันร้อนขนาดใหน การเดินทางไกล ผมไม่เคยดับเครื่อง แถมยังติดเครื่่องพาลูกนอนในรถอีก ครั้งล่ะหลายๆชั่วโมง (ไม่ดีนะครับ)
เครื่องจะพังมั้ยมั้ย ถึงเวลามันก้อคงจะพังเองล่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่พัง
ผมเป็นเพียงผู้ใช้ครับ ดูแลรักษา ตามระยะเวลาที่กำหนด เท่าที่ทำด้วยตัวเองได้ เข้าใจรถ เข้าใจคน พอล่ะครับ
ต่อความยาว สาวความยืด
อ่านไปซึ้งไปครับ น้านัท ของผมเน้นที่ประหยัดและค่อยแรงทีหลัง มีน้านัทเป็นแบบอย่างในเรื่องการใช้งานจริงไม่อิงนิยายสวยหรู หลอกหลอนความจริงครับ ไม่งั้นป่านนี้อ.ต้น คงไม่อยู่ห้องพลังงานทดแทนมานานขนาดนี้ และไม่ใช่อยู่ๆก็หายไป แถมยังมีนวัตกรรมใหม่ๆมาให้ชมและทดสอบความประหยัดเพิ่มเติมความรู้ซะอีก ว่าไปเหมือนชมกันเองน่ะ แต่ขอบคุณมากๆครับ อิอิ
วันนี้หยุดงาน ก็เลยลองจูนแก๊สดีกว่า เผื่อจะประยัดเหมือนไทรตั้นบ้าง วิธีการจูนของผมดัดแปลงมาจากเครื่องเบนซินครับ... ลงมือเลย ลองทำการปรับส่วนผสมดีเซลกับlpg ใหม่ จะลองแยกอาการของเครื่อง ระหว่างน้ำมันเพียวๆ กับแบบมีlpg ผสมด้วย โดยให้น้องชายกดคันเร่งนิ่งๆที่2500รอบ/นาที(เฉพาะดีเซล)และก็ปล่อยlpgเข้าไป และปรับจูนจนคิดว่ารอบขึ้นมากและไวที่สุด ยกตัวอย่างของผมนะครับ เร่งเครื่องไว้ที่2500รอบ/นาที และปล่อยlpg เข้า รอบจะโดดขึ้นมาเป็น3300รอบ/นาทีเลยล่ะครับ แต่ถ้าlpgมากไปก็จะขึ้นช้ากว่า น้าๆที่ลังเลว่าไม่ประยัดลองดูนะครับ รอบต่างกันตั้ง800รอบ/นาที ในน้ำมันเท่าๆกัน
ส่วนน้าๆที่ติดมาแล้วลองจูนแบบผมดูก็ได้นะครับ อย่าลืมมาร์คของเดิมไว้ก่อนเดี๋ยวจะงงนะคร้าบ....
สวัสดีน้าchaiyos สถานะการณ์น้ำท่วม สาย5 อ้อมน้อย เป็นไงบ้างครับ
Deisel + LPG ถ้าใส่ lpg เข้าไปน้อย ก็ไม่ค่อยจะประหยัด ใส่มากหน่อย พอเหยียบเร่งหน่อย ก็น๊อก
ถ้าคนที่ฟังเสียงน๊อกไม่เป็น เหยียบให้น๊อกมากๆ เดี๋ยวเครื่องก็ลาโลกก่อนเวลาอันควร
ถ้าเราประยุกต์ ใส่ knock sensor มีใช้ใน เครื่องเบนซิน มาใส่ดู น๊อกเมื่อไร ก็ตัดระบบแก๊ส หรือ ลดระดับแก๊ส
น่าจะทำให้ขับได้สบายใจ แต่ว่าข้อมูล จาก knock sensor มันออกมาเป็นแรงดัน หรือ ความถี่ หาอ่านดูแล้วยังงง
ถ้าออกมาเป็นแรงดัน น่าจะเอามาขับ transistor ให้ควบคุมการปิดเปิดวาล์วแก๊สได้
น้าๆ คิดว่าพอมีทางจะทำได้ไหม
สัสดีเพื่อนสมาชิก แก๊สที่ติดตั้งโดยอ.ต้น ถึงแม้ว่าเครื่องจะน๊อก หรือเขก หรือชิงจุดระเบิดกอ่นศูนย์ตายบน ก็ไม่ทำให้เครื่องเสียหายหรอกครับเพราะอ.ต้นใช้แค่เสริมการเผาใหม้ ถ้าเป็นยุกก่อนหรือบางค่ายเขาจะลดดีเซลลง30%เพราะฉะนั้นดีเซลก็จะเหลือ70%และอัดlpgเข้าไปแทน30%เครืองจึงเขก ถ้าจ่ายlpgมากไปเมื่อลูกสูบอัดจนแน่นถึงศูนย์ตายบนlpgจากก๊า๊ซก็จะเปลี่ยนเป็นของเหลวทำให้สูบติดเจ้งบ้งครับ
น้าน้า....งานค่ายคลอง3 ไม่มีหรอกครับ เครื่องน็อก หรือเขกเพราะอาการชิงจุด อุตส่าทุ่มเทค้นคว้ากับมันมากว่า 4 ปีเข้าไปแล้วแบบไม่เคยหยุดนิ่ง มีไม่ได้เลยครับ ถ้ามีมันก็เกินคำว่าเสริมการเผาไหม้ซิครับ ส่วนที่อื่นๆเขาจะเน้นเอา lpg เข้าให้มากเพื่อจะได้ทดแทนดีเซล อันนั้นก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของผู้ใช้กันครับ ถ้ามีผ่านเข้ามาผมก็แก้ไขให้ไป
ส่วนการที่จะติดตั้งเซ็นเซอร์เพิ่มเติม คงไม่ต้องครับเพราะดีเซลคอมมอนเรียวมันมีมาทุกค่ายแล้วครับ และถ้ากรณีติดเพิ่มเติมมันก็ไม่อาจสามารถช่วยได้มากเพราะมันจะเตือนก็ต่อเมื่อมันน็อกหรือชิงจุดเข้าให้แล้ว ยิ่งในกรณีเทอร์โบกำลังบูทด้วยแล้วกว่าจะลดการจ่ายแก๊สได้ก็เล่นไปหลายเป๊กแล้วครับ ผมเคยให้ข้อมูลวิธีการเทสรถที่ติดร่วมดีเซล สำหรับผู้ที่ติดตั้งมาแล้วหรือคิดจะติดตั้ง ให้ออกตัวแรงเลยตั้งแต่เกียร์ 1,2,3 รากรอบไปให้ถึง 3500 รอบแล้วค่อยเปลี่ยนเกียร์ ถ้าไม่มีเสียงเขกตามมาในช่วงที่เราเหยียบครัช นั่นคือผ่านครับ ใช้ได้เลย ส่วนจะประหยัดมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการจูนของผู้ติดตั้ง และวิธีการขับขี่ของผู้ใช้เป็นสำคัญครับ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks