รายงานครับ ตั้งแต่ติดแก๊สมาไม่เคยเติมน้ำมันเต็มถังเลย...(ช่วงนี้ค่าใช้จ่ายเยอะ) แต่เมื่อคืนเดินทางกลับมาทำงานดูรายงานจาก Rv ความประหยัดอยู่ที่ 18.8 ก.ม ต่อลิตร เอาไว้มีตังค์เมื่อไหร่จะเติมเต็มให้สะใจไปเลย...(แล้วมาดูความประหยัดกันใหม่) เหอๆๆๆๆ
ถามก่อนครับว่าติดตั้งจากที่ไหนมา จุดที่เข้าแก๊สตรงไหนครับ หม้อต้มและการปรับจูน อุปกรณ์คุมการจ่ายแก๊สแบบใด คือถ้าผมมีข้อมูลคร่าวๆหรือได้เห็นรูปการติดตั้งก็สามารถวิเคราะห์ได้บ้างครับ แต่ความประหยัดที่แจ้งมาก็ดีนี่ครับแค่ 2.1 บาท/กม.เอง แล้วความเร็วที่ใช้ประมาณเท่าไรครับ ขอรายละเอียดมากกว่านี้หน่อย หรือผ่านมาแถวคลองสามแวะมาหน่อยก็ได้ครับ ถ้าปรับปรุงให้ได้ก็จะทำให้ครับ ถือว่าเป็นผู้กล้าอีกคนหนึ่งที่กล้าเสี่ยงกับอะไรใหม่ๆโดยที่ยังไม่รู้ว่าผลดีผลเสียมันจะคุ้มกันหรือไม่ (เมื่อ 2 ปีกว่าๆที่ผ่านมา)
ขับความเร็วส่วนใหญ่ 100-110 กม/ชม.ครับ เป็นเส้นทางสวนทางกันสลับกับทาง 4 เลน มีทางขึ้นลงภูเขา เมื่อปีแรกที่ติดมาระยะทาง 433 กม.ขนาดนี้ใช้แก๊สประมาณ 11-12 ลิตรครับ น้ำมัน 22 ลิตร ตำแหน่งติดตั้งตามรูปครัยผม
จากข้อมูลแก๊ส แรกๆได้ 36 กม./ลิตร มาเป็นที่ประมาณ 19 กม./ลิตร เห็นได้ชัดว่าสัดส่วนเชื้อเพลิงมันมากไปในขณะที่อากาศลดลงเพราะโดนแทนที่ด้วยแก๊สครับ ดังนั้นอันดับแรกควรปรับลดแก๊สให้จ่ายน้อยลงจนเกือบเท่าเดิมครับ แล้วดูผลที่ได้ว่ากลับมาดังเดิมหรือไม่ ผมทราบคร่าวๆว่าเครื่องรุ่นใหม่ๆที่เป็นคอมมอนเรียวมันสามารถเปลี่ยนองศาการฉีดน้ำมันได้ เพื่อความทนทานของเครื่องยนต์ ซึ่งมันอาจจะฉีดทิ้งฉีดขว้างตอนไหนก็ไม่รู้ขอให้เครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ได้อย่างปลอดภัยก็พอ ดังนั้นการใส่แก๊สให้มันอย่างเดียวถ้าคอนโทลไม่ได้ 100 % อาจจะไม่ประหยัดอย่างที่คาดไว้ก็ได้ครับ
ดีเซลมันใช้น้อยกว่าเบนซินมากนะ ยกตัวอย่างเครื่องเบนซินติดแก๊สจะกินอยู่ประมาณ 8-10 กม./ลิตร ระยะการเปลี่ยนกรองประมาณ 2-5 หมื่นโลขึ้นกับความสะอาดของแก๊สที่เติมในแต่ละปั้มด้วย ส่วนดีเซลใช้ร่วมจะกินประมาณ 25-36 กม./ลิตร ลองคาดคะเนระยะทางดูครับว่ามันจะไกลกว่ากันอีกเท่าไรครับ
ผมมีข้อมูลลูกค้าที่ติดไป 1 ปีเต็มใช้งานทั้งหมด 168000 กิโล ถอดหม้อออกดูปรากฏว่าขี้แก๊สมีอยู่เกือบครึ่งหม้อ ส่วนกรองแก๊สยังใช้ได้อยู่แต่สีคล้ำแล้ว ขี้แก๊สที่เห็นมันเป็นน้ำมันไฮโดรลิคที่ลอดมาจากปั้มที่เติมแก๊สเมื่อสะสมนานๆมันจะทำให้ไดอะเฟรมแข็งแล้วจ่ายแก๊สได้ไม่เนียนเหมือนเดิมครับ
สุดยอดครับยิ่งอ่านยิ่งได้ความรู้ครับ
ขอบพระคุณอ.ต้นครับผมสำหรับคำแนะนำพร้อมเกร็ดความรู้
น้ำมัน 1ถังกับแก๊สเติม 2 ครั้ง เติมน้ำมัน(1580บาท)เติมแก๊สครั้งแรกที่กทม.(210บาท) เติมครั้งที่2ที่เพชรบูรณ์(300บาท)เส้นทางของการเดินทาง
กทม-สระบุรี-โคราช-ชัยภูมิ-สู่ชุมแพ(พักเอาแรง)เพื่อที่จะเดินทางระยะที่2
ชุมแพ-หล่มสัก-เพชรบูรณ์-มุ่งหน้าสู่พิจิตร(บางมูลนาก)
น้ำมันถังเดียว วิ่งได้เป็น 1000 กม.เลยนะเนี่ยะ...
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
เติมน้ำมันกับแก๊สก่อนออกเดินทางไม่ต้องนำมาคิดครับ วิ่งไปทั้งหมดกี่กิโลหลังจากนั้นเติมทั้งแก๊สและน้ำมันให้เต็มเท่าเดิม ถึงเอาค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาคิดหาอัตราความสิ้นเปลือง/กิโลเมตรครับ แต่ที่แน่ๆน้ำมันครึ่งถังเลย 700 กม.ไปแล้วอัตราสิ้นเปลืองน่าจะป้วนเปี้ยนแถวๆ 20 กม./ลิตร Up ยินดีด้วยครับ
ถามอ.ต้นอีกครับคือรถผมจะจ่ายแก๊สเมื่อรอบเครื่องยนต์ประมาณ 1500 รอบ ซึ่งแก๊สจะมาน้อยและจะมากขึ้นเมื่อรอบสูงขึ้น ซึ่งตรงนี้เวลาใช้รถเมืองที่ใช้ความเร็วต่ำรอบต่ำมีการจอด/ออกตัวบ่อย ทำให้การจ่ายแก๊สมาช่วยดีเซลน้อยมาก จะถามว่ามีวิธีปรับให้แก๊สจ่ายเข้ามาในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่านี้ได้มั๊ยครับ เราสามารถทำได้เองหรือต้องเข้าร้านติดตั้งครับ ขอบคุณครับผม
ลองดูซิว่าเขาใช้อะไรเป็นตัวคุมในการเริ่มทำงานที่ 1500 รอบ ถ้าเป็นลีมิตสวิทก็ปรับตั้งได้เลย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้แรงดูดของเครื่องยนต์เป็นการควบคุมการปิดเปิดแก๊สก็ต้องดูว่าจะมีการปรับตั้งสปริงได้หรือไม่ และก็ต้องดูด้วยว่าถ้าปรับสปริงให้ทำงานเร็วแล้วในรอบสูงๆมันจ่ายแก๊สมากเกินความต้องการหรือเปล่า
โดยปกติที่ผมทำไปถ้าเร่งคันเร่งเปล่าๆจะเริ่มทำงานประมาณ 1400 รอบ แต่ถ้าใช้งานจริงในการขับขี่จะเริ่มทำงานที่ประมาณ 1000-1200 รอบเท่านั้นครับ
ส่วนตัวคุมการจ่ายแก๊ส แยกต่างหากครับ ให้ถามข้อมูลหลักการทำงานของชุดคุมการจ่ายแก๊สจากช่างที่ติดตั้งดูครับว่าทำงานยังไงจะได้แก้ไขได้ถูก
อ.ต้นคับผมสนใจมากคับขอจองก่อน1 ชุดได้ไหมคับ แล้วถ้าวิ่งในเมืองจะประหยัดมากไหมคับ
ถ้าวิ่งด้วยความเร็วสูงจะประหยัดกว่าความเร็วต่ำใช่ไหมคับ อ.ต้น
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks