หน้า 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 1 2 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
สรุปผลการค้นหา 1 ถึง 20 จากทั้งหมด 24

กระทู้: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

  1. #1
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jul 2012
    User ID
    35475
    Status
    Offline
    โพส
    153

    มาตรฐาน เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    ไทรทัน พลัส 4 ประตูธรรมดาควรปรับเปลี่ยนช่วงล่างยังไงบ้างหรือเปล่าครับ เพราะมันส่ายๆยัังไงไม่รู้ครับ
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดย Goo_AOF@hotmail.com : 03-08-2012 เมื่อ 22:09

  2. #2
    TTC 02985 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2011
    User ID
    26104
    Status
    Offline
    โพส
    1,210

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    ลองตั้ศูนย์ใหม่หรือยังครับ
    รอผู้เชี่ยวชาญครับ

  3. #3
    สมาชิกถาวร: TTC-00434 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Sep 2008
    User ID
    3623
    Status
    Offline
    โพส
    5,626

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    เช็คลมใหม่เลยครับ ออกมาใหม่ๆลมไม่เท่ากันสักล้อนึง เอาแค่34-35พอล่ะ
    ด้านหลังหาโช๊คใหม่ที่โตขึ้นมาใส่แทนตัวเดิม อาการจะเชื่องขึ้นมาเห็นๆครับ

  4. #4
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jun 2011
    User ID
    19137
    Status
    Offline
    โพส
    1,443

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    ร่อนๆเนี่ย พอจะเหลาเพิ่มได้มั๊ยคะ ช่วงไหนมั่ง เช่น วิ่งรูดผ่านเนินชลอความเร็วในซอยด้วยความเร็วพอประมาณแล้วร่อน......วิ่งด้วยความเร็วบนทางด่วน โดนรถใหญ่แซง(แซงรถใหญ่)แล้วแถๆหน้าเหมือนจะวูบเล็กหรือแถหน่อยๆ......วิ่งบนทางยกระดับ(ด่วนบางนา-ชลบุรี)ด้วยความเร็วเกิน120แล้วเหมือนร่อนๆโคลงควบคุมรถไม่อยู่.............วิ่งซิกแซกบนถนนหรือเปลี่ยนเลนกระทันหันควยคุมรถลำบากเหมือนร่อนๆ.........วิ่งผ่านรอนเล็กๆที่ใช้เตือนเมื่อกำฝังจะเข้าโค้งหรือหลุมตื้นๆต่อเนื่องด้วยความเร็วพอประมาณแล้วร่อน คร่าวๆนะคะจะได้ตีวงปัญหาเข้ามาค่ะ

  5. #5
    TTC-03408 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jul 2011
    User ID
    20285
    Status
    Offline
    โพส
    1,731

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ rmd ดูโพส
    ร่อนๆเนี่ย พอจะเหลาเพิ่มได้มั๊ยคะ ช่วงไหนมั่ง เช่น วิ่งรูดผ่านเนินชลอความเร็วในซอยด้วยความเร็วพอประมาณแล้วร่อน......วิ่งด้วยความเร็วบนทางด่วน โดนรถใหญ่แซง(แซงรถใหญ่)แล้วแถๆหน้าเหมือนจะวูบเล็กหรือแถหน่อยๆ......วิ่งบนทางยกระดับ(ด่วนบางนา-ชลบุรี)ด้วยความเร็วเกิน120แล้วเหมือนร่อนๆโคลงควบคุมรถไม่อยู่............เป.วิ่งซิกแซกบนถนนหรือลี่ยนเลนกระทันหันควยคุมรถลำบากเหมือนร่อนๆ.........วิ่งผ่านรอนเล็กๆที่ใช้เตือนเมื่อกำฝังจะเข้าโค้งหรือหลุมตื้นๆต่อเนื่องด้วยความเร็วพอประมาณแล้วร่อน คร่าวๆนะคะจะได้ตีวงปัญหาเข้ามาค่ะ
    สุดยอดครับ...

  6. #6
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Mar 2009
    User ID
    5724
    Status
    Offline
    โพส
    1,177

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    ถ้าเรื่องศูนย์ลองขับซัก 80 ทางตรงแล้วเบรคดูครับ..ถ้าดึงๆ คงต้องตั้งศูนย์ใหม่..(หังเค้ามาอีกทีครับ..)

  7. #7
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jul 2012
    User ID
    35475
    Status
    Offline
    โพส
    153

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ rmd ดูโพส
    ร่อนๆเนี่ย พอจะเหลาเพิ่มได้มั๊ยคะ ช่วงไหนมั่ง เช่น วิ่งรูดผ่านเนินชลอความเร็วในซอยด้วยความเร็วพอประมาณแล้วร่อน......วิ่งด้วยความเร็วบนทางด่วน โดนรถใหญ่แซง(แซงรถใหญ่)แล้วแถๆหน้าเหมือนจะวูบเล็กหรือแถหน่อยๆ......วิ่งบนทางยกระดับ(ด่วนบางนา-ชลบุรี)ด้วยความเร็วเกิน120แล้วเหมือนร่อนๆโคลงควบคุมรถไม่อยู่.............วิ่งซิกแซกบนถนนหรือเปลี่ยนเลนกระทันหันควยคุมรถลำบากเหมือนร่อนๆ.........วิ่งผ่านรอนเล็กๆที่ใช้เตือนเมื่อกำฝังจะเข้าโค้งหรือหลุมตื้นๆต่อเนื่องด้วยความเร็วพอประมาณแล้วร่อน คร่าวๆนะคะจะได้ตีวงปัญหาเข้ามาค่ะ
    เป็นแบบวิ่งผ่านรอนเล็กๆที่ใช้เตือนเมื่อกำฝังจะเข้าโค้งหรือหลุมตื้นๆต่อเนื่องด้วยความเร็วพอประมาณแล้วร่อนก็เป็น วิ่งบนทางด้วยความเร็วเกิน120แล้วเหมือนร่อนๆโคลงควบคุมรถไม่อยู่ก็เป็นครับ

  8. #8
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jun 2011
    User ID
    19137
    Status
    Offline
    โพส
    1,443

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ Goo_AOF@hotmail.com ดูโพส
    เป็นแบบวิ่งผ่านรอนเล็กๆที่ใช้เตือนเมื่อกำฝังจะเข้าโค้งหรือหลุมตื้นๆต่อเนื่องด้วยความเร็วพอประมาณแล้วร่อนก็เป็น วิ่งบนทางด้วยความเร็วเกิน120แล้วเหมือนร่อนๆโคลงควบคุมรถไม่อยู่ก็เป็นครับ
    เอาหล่ะค่ะแบบนี้ก็ไม่ต้องพากันออกทะเลละ
    ร่อนหรือแถหรือรู้สึกว่าท้ายรถอยู่เหนือการควบคุมชั่วขณะเมื่อผ่านรอนเตี้ยๆต่อเนื่องบนผิวทาง...........ก่อนอื่นต้องขอโฟกัสไปที่ช๊อคอัพก่อนเลยค่ะซึ่งจำเลยร่วมกันมีทั้งหน้าและหลัง คืองี๊ค่ะเวลาที่เราผ่านรอนเตี้ยๆหรือหลุมตื้นๆด้วยความเร็วด้านหน้าซึ่งใช้สปริงเป็นตัวรับนน.จะคอยต้านแรงประทะที่ส่งขึ้นมาผ่านล้อหน้าและปีกนกเมื่อยุบก็ต้องมียืด ยุบเร็วยืดเร็วตัวรถก็รักษาระดับอยู่ได้แต่ถ้ายุบช้าก็กลายเป็นเด้งยืดช้าก๊กลายเป็นกระแทก ซึ่งกระบวนการพวกนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นมากและที่มากไปกว่านั้นการเต้นดังกล่าวเกิดขึ้นแบบไม่เท่ากันระหว่างซ้าย-ขวาตามสภาพถนนและความเร็วามี่เข้าประทะ อาการเต้นของช่วงล่างด้านหน้าจนส่งผลให้ควบคุมรถได้ยากจึงเกิดมาจากสมรรถนะยองช๊อคอัพไม่สามารถรองรับการดีดของสปริงได้ทัน ส่วนด้านหลังที่เป็นแบบคานแข็งรองรับน้ำหนักด้วยแหนบแผ่นซ้อน..........ลักษณะทางกายภาพของแหนบคือต้านการหดตัวด้วยคุณสมบัริความเป็นสปริง แหนบทีทำงานได้ดีต้องมีความโค้งพอที่จะรองรับนน.เมื่อเข้ามากดชั่วขณะและต้านด้วยการดีดกลับสู่ตำแหน่งเดิมได้ ดังนั้นความโค้งจึงสำคัญปัญหาที่พบเมื่อใช้ความเร็วผ่านรอนถนนเตี้ยๆหรือหลุมต่อเนื่องจนทำให้ท้ายเกิดอาการแถจนรู้สึกได้หรือร้ายหน่อยตรงสูญเสียการควบคุม นอกจากสมรรถนะของช๊อคอัพและระยะยุบยืดของแหนบ(รถที่ดัดแปลงช่วงล่างหรือรถที่ผ่านการใช้งานมามากจะชัดเจน) ก็จะมีอีกปัจจัยคือการเคลื่อนตัวของเพลาทั้งแนวดิ่งและแนวนอน กล่าวคือในระหว่างการเคลื่อนที่เพลาจะถูกแขวนอยึ่บนแหนบแผ่นซึ่งปลายด้านนึงของแหนบอยู่บนจุดหมุนที่ควบคุมตำแหน่งเอาไว้ แต่ปลายอีกด้านนึงเป็นแบบกึ่งอิสระ กล่าวคือเมื่อเพลาเคลื่อนที่ขึ้นลงเนื่องจากการประทะผิวถนนยองล้อแหนบจะยืดหดตัวโดยมีโตงเตงควบคุมความเป็นอิสระเอาไว้ เพลาเมื่อดูเผินๆจะคล้ายกับการเคลื่อนที่ของตุ้มนาฟิกาแต่ต่างกันตรงตุ้มนาฟิกาจะหมุนรอบแกนด้วยระยะเดียวแต่เพลาจะหมุนรอบแกน(หูแหนบหน้า)ในลักษตะยืดเข้าออกตลอดเวลา ทีนี้ลองมองภาพการเคลื่อนที่ของเพลาทั้งสองด้านแบบสามมิติดูค่ะ ยิ่งสภาพถนนต่างกันระหว่างซ้าย-ขวาลักษณะการเคลื่อนที่ดังกล่าว"จึงคล้ายกับการเต้นไปมาระหว่างปลายเพลาทั้งสองฝั่ง" ซึงหน้าสัมผัสของยางกับถนนมีผลโดยตรงกับการยึดเกาะถนนอย่างที่เรารู้ๆกันใช่มั๊ยคะ ลองนึกเล่นๆตามนะคะ หน้ายางทีแต่เดิมเคยเรียบสัมผัสถนนกลับถูกดึง(ยก)จนเหลือพื้นที่ไม่เท่าไหร่กับผิวถนนเนื่องจากการเคลื่อนที่ตามลักษณะเพลาแข็ง กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำๆอย่างรวดเร็วทั้งซ้ายและขวา การแถหรือร่อนจึงมาจากตรงนี้ ถ้าเราเนย้าไปควบคุมความ(กึ่ง)อิสระของเพลาเช่นบังคับให้มันขั้นลงเป็นแนวดิ่งอย่างเดียวโดยไม่ยอมให้ขยับเดินหน้าหรือถอยหลัง...ทำได้ไหม ทำได้ค่ะนั่นคือรูปแบบของระบบคานแข็งกึ่งอิสระรองรับน้ำหนักด้วยสปริงซึ่งประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันแม้หน้าตาจะเหมือนกันเช่นปาร์เจโรสปอร์ตกับฟอร์จูนเนอร์เป็นต้น ฟุ้งไปไกลเลย55555 วิศวกรของมาสดา(ฟอร์ด)ก็เลยคิดว่าทำไงให้แหนบที่เต้นอยึ่แลเพลาที่ขยับตำแหน่งไปมาเนี่ยมันควบคุมได้บ้าง.....ก็เลยเป็นที่มาของเหล็กกันโคลง(สเตบิไลซ์เซอร์ บาร์)ใส่ไว้เพื่อคอยรั้งและดึงให้เพลาอีกข้างขยับตามหรือสร้างแรงกดให้ปลายเพลาอีกฝั่งนึงในทิศทางตรงกันข้ามนั่นเอง สำหรับคนไทยเราก็ใบ่ย่อยด้วยความช่างสังเกตุ....เอแบบนี้ลอกเอาอุปกรณ์ของระบบคานแข็งกึ่งอิสระมาใช้ได้มั๊ย โดยยังคงการรับน้ำหนักด้วยแหนบแผ่นเหมือนเดิม นั่นคือจุดเริ่มต้นของ"ทวินอาร์ม) แต่เดิมระบบคานแข็งกึ่งอิสระจะประกอบไปด้วย"ทอร์คอาร์ม" "สเตบอไลซ์เซอร์บาร์(เหล็กกันโคลง)" "ปังอาร์ร๊อด" ซึ่งทั้งสามตัวมีการนำมาใช้ในระบบแหนบทั้งหมด.....ทอร์คอาร์มหลักการทำงานก็พยายามรักษาการเคลื่อนที่รอบจุดหมุนเอาไว้ซึ่งในระบบแหนบก็จะมีแหนบและหึแหนบด้านฟกน้าทำหน้าที่อยู่แล้ว ติดตั้งซ้ำซ้อนเข้าไปจะทำงานขัดกันซะปล่าวๆ อาจารย์ตู่เลยจับกลับหัวมาไว้ด้านหลังซะเลยดัดแปลงจุดยึดด้านหลังซะใฟกม่โดยกำหนดองศาตามโตงเตงจังกลายมาเป็นแทรคชั่นบาร์(อันนี้สามีเรียกนะคะ)สังเกตุได้รถจากสำนักนี้เค้นช่วงล่างเดิมๆไม่เกิน3นิ้วโดดปุ๊บไม่มีเป่..เพียงแต่วต้องแลกกับความกระด้างบ้างเนื่องจากแหนบให้ตัวไม่อิสระ ส่วน"ปังอาร์ร๊อด"ที่มีสภาพเหมือนไม้ค้ำยันระหว่างเพลาด้านนึงกับแคสซี พอจะนึกภาพออกมั๊ยเอ่ย ก็เลยเป็นที่มาของเหล็กแท่งๆที่มีสปริงและช๊อคคอยต้านเอาไว้เอามาริดทแยงมุมแบบเดียวกันนั่นแหละค่ะ.........รวมๆที่ฟุ้งมาซะไกลไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ สามี(คนต้นเรื่อง)พยายามจะจำลองการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกันให้เห็นด้วยตัวหนังสือ(พิมพ์จนมึน)เพื่อที่เวลาจะเสริมสมรรถนะอะไรเข้าไปจะได้ไม่หลงสมางลงทุ่งออกทะเล. ?..................ปัญหาของจขกท.ก็ไม่มีไรมากหรอกค่ะ ถ้าชอบหรือพอใจยางขนาดนี้(หรือชุดนี้)การแก้ปัญหาหรือทุเลาปัญหาก็มีไม่มากและไม่ยุ่งยากค่ะ
    1. ตรวจเช๊คลมยางและตำแหน่งของช่วงล่างด้วยการปรับตั้งศูนย์ล้อเมื่อพบว่านยับขี่ผิดปกติหรือได้ระยะเวลา
    2. หาช๊อคดีที่มีค่าคอมเพรสและรีบราวน์ที่มากกว่าเดิมเปลี่ยนแทนของเดิมติดรถ
    เพียงแค่นี้ก่อนแล้วลองดูความพึงพอใจระหว่างใช้งาน ซึ่งหนทางยังมีอีกยาวค่ะ ไม่ว่าจะยกขึ้นอีกหน่อย เปลี่ยนแมกซ์เปลี่ยนยาง ซึ่งปัจจัยแวดล้อมพวกนี้มีผลโดยตรงทั้งสิ้นกับการ"ทำรถ"............ขอให้มีความสุขกับการ"ทำ"และ"ใช้รถ"นะคะ ขอบคุณที่ทนอ่านมาตั้งนานค่ะ5555555

  9. #9
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Nov 2011
    User ID
    26131
    Status
    Offline
    โพส
    3,912

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    ตาลาย

  10. #10
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jul 2012
    User ID
    35195
    Status
    Offline
    โพส
    17

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส


  11. #11
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Dec 2011
    User ID
    27186
    Status
    Offline
    โพส
    112

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    ตาลาย

  12. #12
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Oct 2011
    User ID
    25116
    Status
    Offline
    โพส
    830

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ rmd ดูโพส
    เอาหล่ะค่ะแบบนี้ก็ไม่ต้องพากันออกทะเลละ
    ร่อนหรือแถหรือรู้สึกว่าท้ายรถอยู่เหนือการควบคุมชั่วขณะเมื่อผ่านรอนเตี้ยๆต่อเนื่องบนผิวทาง...........ก่อนอื่นต้องขอโฟกัสไปที่ช๊อคอัพก่อนเลยค่ะซึ่งจำเลยร่วมกันมีทั้งหน้าและหลัง คืองี๊ค่ะเวลาที่เราผ่านรอนเตี้ยๆหรือหลุมตื้นๆด้วยความเร็วด้านหน้าซึ่งใช้สปริงเป็นตัวรับนน.จะคอยต้านแรงประทะที่ส่งขึ้นมาผ่านล้อหน้าและปีกนกเมื่อยุบก็ต้องมียืด ยุบเร็วยืดเร็วตัวรถก็รักษาระดับอยู่ได้แต่ถ้ายุบช้าก็กลายเป็นเด้งยืดช้าก๊กลายเป็นกระแทก ซึ่งกระบวนการพวกนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นมากและที่มากไปกว่านั้นการเต้นดังกล่าวเกิดขึ้นแบบไม่เท่ากันระหว่างซ้าย-ขวาตามสภาพถนนและความเร็วามี่เข้าประทะ อาการเต้นของช่วงล่างด้านหน้าจนส่งผลให้ควบคุมรถได้ยากจึงเกิดมาจากสมรรถนะยองช๊อคอัพไม่สามารถรองรับการดีดของสปริงได้ทัน ส่วนด้านหลังที่เป็นแบบคานแข็งรองรับน้ำหนักด้วยแหนบแผ่นซ้อน..........ลักษณะทางกายภาพของแหนบคือต้านการหดตัวด้วยคุณสมบัริความเป็นสปริง แหนบทีทำงานได้ดีต้องมีความโค้งพอที่จะรองรับนน.เมื่อเข้ามากดชั่วขณะและต้านด้วยการดีดกลับสู่ตำแหน่งเดิมได้ ดังนั้นความโค้งจึงสำคัญปัญหาที่พบเมื่อใช้ความเร็วผ่านรอนถนนเตี้ยๆหรือหลุมต่อเนื่องจนทำให้ท้ายเกิดอาการแถจนรู้สึกได้หรือร้ายหน่อยตรงสูญเสียการควบคุม นอกจากสมรรถนะของช๊อคอัพและระยะยุบยืดของแหนบ(รถที่ดัดแปลงช่วงล่างหรือรถที่ผ่านการใช้งานมามากจะชัดเจน) ก็จะมีอีกปัจจัยคือการเคลื่อนตัวของเพลาทั้งแนวดิ่งและแนวนอน กล่าวคือในระหว่างการเคลื่อนที่เพลาจะถูกแขวนอยึ่บนแหนบแผ่นซึ่งปลายด้านนึงของแหนบอยู่บนจุดหมุนที่ควบคุมตำแหน่งเอาไว้ แต่ปลายอีกด้านนึงเป็นแบบกึ่งอิสระ กล่าวคือเมื่อเพลาเคลื่อนที่ขึ้นลงเนื่องจากการประทะผิวถนนยองล้อแหนบจะยืดหดตัวโดยมีโตงเตงควบคุมความเป็นอิสระเอาไว้ เพลาเมื่อดูเผินๆจะคล้ายกับการเคลื่อนที่ของตุ้มนาฟิกาแต่ต่างกันตรงตุ้มนาฟิกาจะหมุนรอบแกนด้วยระยะเดียวแต่เพลาจะหมุนรอบแกน(หูแหนบหน้า)ในลักษตะยืดเข้าออกตลอดเวลา ทีนี้ลองมองภาพการเคลื่อนที่ของเพลาทั้งสองด้านแบบสามมิติดูค่ะ ยิ่งสภาพถนนต่างกันระหว่างซ้าย-ขวาลักษณะการเคลื่อนที่ดังกล่าว"จึงคล้ายกับการเต้นไปมาระหว่างปลายเพลาทั้งสองฝั่ง" ซึงหน้าสัมผัสของยางกับถนนมีผลโดยตรงกับการยึดเกาะถนนอย่างที่เรารู้ๆกันใช่มั๊ยคะ ลองนึกเล่นๆตามนะคะ หน้ายางทีแต่เดิมเคยเรียบสัมผัสถนนกลับถูกดึง(ยก)จนเหลือพื้นที่ไม่เท่าไหร่กับผิวถนนเนื่องจากการเคลื่อนที่ตามลักษณะเพลาแข็ง กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำๆอย่างรวดเร็วทั้งซ้ายและขวา การแถหรือร่อนจึงมาจากตรงนี้ ถ้าเราเนย้าไปควบคุมความ(กึ่ง)อิสระของเพลาเช่นบังคับให้มันขั้นลงเป็นแนวดิ่งอย่างเดียวโดยไม่ยอมให้ขยับเดินหน้าหรือถอยหลัง...ทำได้ไหม ทำได้ค่ะนั่นคือรูปแบบของระบบคานแข็งกึ่งอิสระรองรับน้ำหนักด้วยสปริงซึ่งประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันแม้หน้าตาจะเหมือนกันเช่นปาร์เจโรสปอร์ตกับฟอร์จูนเนอร์เป็นต้น ฟุ้งไปไกลเลย55555 วิศวกรของมาสดา(ฟอร์ด)ก็เลยคิดว่าทำไงให้แหนบที่เต้นอยึ่แลเพลาที่ขยับตำแหน่งไปมาเนี่ยมันควบคุมได้บ้าง.....ก็เลยเป็นที่มาของเหล็กกันโคลง(สเตบิไลซ์เซอร์ บาร์)ใส่ไว้เพื่อคอยรั้งและดึงให้เพลาอีกข้างขยับตามหรือสร้างแรงกดให้ปลายเพลาอีกฝั่งนึงในทิศทางตรงกันข้ามนั่นเอง สำหรับคนไทยเราก็ใบ่ย่อยด้วยความช่างสังเกตุ....เอแบบนี้ลอกเอาอุปกรณ์ของระบบคานแข็งกึ่งอิสระมาใช้ได้มั๊ย โดยยังคงการรับน้ำหนักด้วยแหนบแผ่นเหมือนเดิม นั่นคือจุดเริ่มต้นของ"ทวินอาร์ม) แต่เดิมระบบคานแข็งกึ่งอิสระจะประกอบไปด้วย"ทอร์คอาร์ม" "สเตบอไลซ์เซอร์บาร์(เหล็กกันโคลง)" "ปังอาร์ร๊อด" ซึ่งทั้งสามตัวมีการนำมาใช้ในระบบแหนบทั้งหมด.....ทอร์คอาร์มหลักการทำงานก็พยายามรักษาการเคลื่อนที่รอบจุดหมุนเอาไว้ซึ่งในระบบแหนบก็จะมีแหนบและหึแหนบด้านฟกน้าทำหน้าที่อยู่แล้ว ติดตั้งซ้ำซ้อนเข้าไปจะทำงานขัดกันซะปล่าวๆ อาจารย์ตู่เลยจับกลับหัวมาไว้ด้านหลังซะเลยดัดแปลงจุดยึดด้านหลังซะใฟกม่โดยกำหนดองศาตามโตงเตงจังกลายมาเป็นแทรคชั่นบาร์(อันนี้สามีเรียกนะคะ)สังเกตุได้รถจากสำนักนี้เค้นช่วงล่างเดิมๆไม่เกิน3นิ้วโดดปุ๊บไม่มีเป่..เพียงแต่วต้องแลกกับความกระด้างบ้างเนื่องจากแหนบให้ตัวไม่อิสระ ส่วน"ปังอาร์ร๊อด"ที่มีสภาพเหมือนไม้ค้ำยันระหว่างเพลาด้านนึงกับแคสซี พอจะนึกภาพออกมั๊ยเอ่ย ก็เลยเป็นที่มาของเหล็กแท่งๆที่มีสปริงและช๊อคคอยต้านเอาไว้เอามาริดทแยงมุมแบบเดียวกันนั่นแหละค่ะ.........รวมๆที่ฟุ้งมาซะไกลไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ สามี(คนต้นเรื่อง)พยายามจะจำลองการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกันให้เห็นด้วยตัวหนังสือ(พิมพ์จนมึน)เพื่อที่เวลาจะเสริมสมรรถนะอะไรเข้าไปจะได้ไม่หลงสมางลงทุ่งออกทะเล. ?..................ปัญหาของจขกท.ก็ไม่มีไรมากหรอกค่ะ ถ้าชอบหรือพอใจยางขนาดนี้(หรือชุดนี้)การแก้ปัญหาหรือทุเลาปัญหาก็มีไม่มากและไม่ยุ่งยากค่ะ
    1. ตรวจเช๊คลมยางและตำแหน่งของช่วงล่างด้วยการปรับตั้งศูนย์ล้อเมื่อพบว่านยับขี่ผิดปกติหรือได้ระยะเวลา
    2. หาช๊อคดีที่มีค่าคอมเพรสและรีบราวน์ที่มากกว่าเดิมเปลี่ยนแทนของเดิมติดรถ
    เพียงแค่นี้ก่อนแล้วลองดูความพึงพอใจระหว่างใช้งาน ซึ่งหนทางยังมีอีกยาวค่ะ ไม่ว่าจะยกขึ้นอีกหน่อย เปลี่ยนแมกซ์เปลี่ยนยาง ซึ่งปัจจัยแวดล้อมพวกนี้มีผลโดยตรงทั้งสิ้นกับการ"ทำรถ"............ขอให้มีความสุขกับการ"ทำ"และ"ใช้รถ"นะคะ ขอบคุณที่ทนอ่านมาตั้งนานค่ะ5555555
    สุดยอด

  13. #13
    TTC - 3598 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jan 2011
    User ID
    15150
    Status
    Offline
    โพส
    767

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    ยังไม่ได้อ่านครับ ขอก๊อบไปวางไว้ก่อน เด่วค่อยอ่าน

  14. #14
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jul 2012
    User ID
    35475
    Status
    Offline
    โพส
    153

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ rmd ดูโพส
    เอาหล่ะค่ะแบบนี้ก็ไม่ต้องพากันออกทะเลละ
    ร่อนหรือแถหรือรู้สึกว่าท้ายรถอยู่เหนือการควบคุมชั่วขณะเมื่อผ่านรอนเตี้ยๆต่อเนื่องบนผิวทาง...........ก่อนอื่นต้องขอโฟกัสไปที่ช๊อคอัพก่อนเลยค่ะซึ่งจำเลยร่วมกันมีทั้งหน้าและหลัง คืองี๊ค่ะเวลาที่เราผ่านรอนเตี้ยๆหรือหลุมตื้นๆด้วยความเร็วด้านหน้าซึ่งใช้สปริงเป็นตัวรับนน.จะคอยต้านแรงประทะที่ส่งขึ้นมาผ่านล้อหน้าและปีกนกเมื่อยุบก็ต้องมียืด ยุบเร็วยืดเร็วตัวรถก็รักษาระดับอยู่ได้แต่ถ้ายุบช้าก็กลายเป็นเด้งยืดช้าก๊กลายเป็นกระแทก ซึ่งกระบวนการพวกนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นมากและที่มากไปกว่านั้นการเต้นดังกล่าวเกิดขึ้นแบบไม่เท่ากันระหว่างซ้าย-ขวาตามสภาพถนนและความเร็วามี่เข้าประทะ อาการเต้นของช่วงล่างด้านหน้าจนส่งผลให้ควบคุมรถได้ยากจึงเกิดมาจากสมรรถนะยองช๊อคอัพไม่สามารถรองรับการดีดของสปริงได้ทัน ส่วนด้านหลังที่เป็นแบบคานแข็งรองรับน้ำหนักด้วยแหนบแผ่นซ้อน..........ลักษณะทางกายภาพของแหนบคือต้านการหดตัวด้วยคุณสมบัริความเป็นสปริง แหนบทีทำงานได้ดีต้องมีความโค้งพอที่จะรองรับนน.เมื่อเข้ามากดชั่วขณะและต้านด้วยการดีดกลับสู่ตำแหน่งเดิมได้ ดังนั้นความโค้งจึงสำคัญปัญหาที่พบเมื่อใช้ความเร็วผ่านรอนถนนเตี้ยๆหรือหลุมต่อเนื่องจนทำให้ท้ายเกิดอาการแถจนรู้สึกได้หรือร้ายหน่อยตรงสูญเสียการควบคุม นอกจากสมรรถนะของช๊อคอัพและระยะยุบยืดของแหนบ(รถที่ดัดแปลงช่วงล่างหรือรถที่ผ่านการใช้งานมามากจะชัดเจน) ก็จะมีอีกปัจจัยคือการเคลื่อนตัวของเพลาทั้งแนวดิ่งและแนวนอน กล่าวคือในระหว่างการเคลื่อนที่เพลาจะถูกแขวนอยึ่บนแหนบแผ่นซึ่งปลายด้านนึงของแหนบอยู่บนจุดหมุนที่ควบคุมตำแหน่งเอาไว้ แต่ปลายอีกด้านนึงเป็นแบบกึ่งอิสระ กล่าวคือเมื่อเพลาเคลื่อนที่ขึ้นลงเนื่องจากการประทะผิวถนนยองล้อแหนบจะยืดหดตัวโดยมีโตงเตงควบคุมความเป็นอิสระเอาไว้ เพลาเมื่อดูเผินๆจะคล้ายกับการเคลื่อนที่ของตุ้มนาฟิกาแต่ต่างกันตรงตุ้มนาฟิกาจะหมุนรอบแกนด้วยระยะเดียวแต่เพลาจะหมุนรอบแกน(หูแหนบหน้า)ในลักษตะยืดเข้าออกตลอดเวลา ทีนี้ลองมองภาพการเคลื่อนที่ของเพลาทั้งสองด้านแบบสามมิติดูค่ะ ยิ่งสภาพถนนต่างกันระหว่างซ้าย-ขวาลักษณะการเคลื่อนที่ดังกล่าว"จึงคล้ายกับการเต้นไปมาระหว่างปลายเพลาทั้งสองฝั่ง" ซึงหน้าสัมผัสของยางกับถนนมีผลโดยตรงกับการยึดเกาะถนนอย่างที่เรารู้ๆกันใช่มั๊ยคะ ลองนึกเล่นๆตามนะคะ หน้ายางทีแต่เดิมเคยเรียบสัมผัสถนนกลับถูกดึง(ยก)จนเหลือพื้นที่ไม่เท่าไหร่กับผิวถนนเนื่องจากการเคลื่อนที่ตามลักษณะเพลาแข็ง กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำๆอย่างรวดเร็วทั้งซ้ายและขวา การแถหรือร่อนจึงมาจากตรงนี้ ถ้าเราเนย้าไปควบคุมความ(กึ่ง)อิสระของเพลาเช่นบังคับให้มันขั้นลงเป็นแนวดิ่งอย่างเดียวโดยไม่ยอมให้ขยับเดินหน้าหรือถอยหลัง...ทำได้ไหม ทำได้ค่ะนั่นคือรูปแบบของระบบคานแข็งกึ่งอิสระรองรับน้ำหนักด้วยสปริงซึ่งประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันแม้หน้าตาจะเหมือนกันเช่นปาร์เจโรสปอร์ตกับฟอร์จูนเนอร์เป็นต้น ฟุ้งไปไกลเลย55555 วิศวกรของมาสดา(ฟอร์ด)ก็เลยคิดว่าทำไงให้แหนบที่เต้นอยึ่แลเพลาที่ขยับตำแหน่งไปมาเนี่ยมันควบคุมได้บ้าง.....ก็เลยเป็นที่มาของเหล็กกันโคลง(สเตบิไลซ์เซอร์ บาร์)ใส่ไว้เพื่อคอยรั้งและดึงให้เพลาอีกข้างขยับตามหรือสร้างแรงกดให้ปลายเพลาอีกฝั่งนึงในทิศทางตรงกันข้ามนั่นเอง สำหรับคนไทยเราก็ใบ่ย่อยด้วยความช่างสังเกตุ....เอแบบนี้ลอกเอาอุปกรณ์ของระบบคานแข็งกึ่งอิสระมาใช้ได้มั๊ย โดยยังคงการรับน้ำหนักด้วยแหนบแผ่นเหมือนเดิม นั่นคือจุดเริ่มต้นของ"ทวินอาร์ม) แต่เดิมระบบคานแข็งกึ่งอิสระจะประกอบไปด้วย"ทอร์คอาร์ม" "สเตบอไลซ์เซอร์บาร์(เหล็กกันโคลง)" "ปังอาร์ร๊อด" ซึ่งทั้งสามตัวมีการนำมาใช้ในระบบแหนบทั้งหมด.....ทอร์คอาร์มหลักการทำงานก็พยายามรักษาการเคลื่อนที่รอบจุดหมุนเอาไว้ซึ่งในระบบแหนบก็จะมีแหนบและหึแหนบด้านฟกน้าทำหน้าที่อยู่แล้ว ติดตั้งซ้ำซ้อนเข้าไปจะทำงานขัดกันซะปล่าวๆ อาจารย์ตู่เลยจับกลับหัวมาไว้ด้านหลังซะเลยดัดแปลงจุดยึดด้านหลังซะใฟกม่โดยกำหนดองศาตามโตงเตงจังกลายมาเป็นแทรคชั่นบาร์(อันนี้สามีเรียกนะคะ)สังเกตุได้รถจากสำนักนี้เค้นช่วงล่างเดิมๆไม่เกิน3นิ้วโดดปุ๊บไม่มีเป่..เพียงแต่วต้องแลกกับความกระด้างบ้างเนื่องจากแหนบให้ตัวไม่อิสระ ส่วน"ปังอาร์ร๊อด"ที่มีสภาพเหมือนไม้ค้ำยันระหว่างเพลาด้านนึงกับแคสซี พอจะนึกภาพออกมั๊ยเอ่ย ก็เลยเป็นที่มาของเหล็กแท่งๆที่มีสปริงและช๊อคคอยต้านเอาไว้เอามาริดทแยงมุมแบบเดียวกันนั่นแหละค่ะ.........รวมๆที่ฟุ้งมาซะไกลไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ สามี(คนต้นเรื่อง)พยายามจะจำลองการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกันให้เห็นด้วยตัวหนังสือ(พิมพ์จนมึน)เพื่อที่เวลาจะเสริมสมรรถนะอะไรเข้าไปจะได้ไม่หลงสมางลงทุ่งออกทะเล. ?..................ปัญหาของจขกท.ก็ไม่มีไรมากหรอกค่ะ ถ้าชอบหรือพอใจยางขนาดนี้(หรือชุดนี้)การแก้ปัญหาหรือทุเลาปัญหาก็มีไม่มากและไม่ยุ่งยากค่ะ
    1. ตรวจเช๊คลมยางและตำแหน่งของช่วงล่างด้วยการปรับตั้งศูนย์ล้อเมื่อพบว่านยับขี่ผิดปกติหรือได้ระยะเวลา
    2. หาช๊อคดีที่มีค่าคอมเพรสและรีบราวน์ที่มากกว่าเดิมเปลี่ยนแทนของเดิมติดรถ
    เพียงแค่นี้ก่อนแล้วลองดูความพึงพอใจระหว่างใช้งาน ซึ่งหนทางยังมีอีกยาวค่ะ ไม่ว่าจะยกขึ้นอีกหน่อย เปลี่ยนแมกซ์เปลี่ยนยาง ซึ่งปัจจัยแวดล้อมพวกนี้มีผลโดยตรงทั้งสิ้นกับการ"ทำรถ"............ขอให้มีความสุขกับการ"ทำ"และ"ใช้รถ"นะคะ ขอบคุณที่ทนอ่านมาตั้งนานค่ะ5555555
    ขอบคุณครับ จะค่อยๆทำดูครับ

  15. #15
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Aug 2011
    User ID
    21362
    Status
    Offline
    โพส
    1,023

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    กว่าจะอ่านจบแทบแย่

  16. #16
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jun 2011
    User ID
    19137
    Status
    Offline
    โพส
    1,443

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    กราบขออภัยเพื่อนสมช.ด้วยนะคะ พอดีสามีกำลังอยู่ในโหมดเมามันส์ค่ะ หนูพิมพ์อย่างเดียวยังมึน........สงสารคนอ่านจัง 55555555555

  17. #17
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Sep 2009
    User ID
    8913
    Status
    Offline
    โพส
    3,015

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ rmd ดูโพส
    เอาหล่ะค่ะแบบนี้ก็ไม่ต้องพากันออกทะเลละ
    ร่อนหรือแถหรือรู้สึกว่าท้ายรถอยู่เหนือการควบคุมชั่วขณะเมื่อผ่านรอนเตี้ยๆต่อเนื่องบนผิวทาง...........ก่อนอื่นต้องขอโฟกัสไปที่ช๊อคอัพก่อนเลยค่ะซึ่งจำเลยร่วมกันมีทั้งหน้าและหลัง คืองี๊ค่ะเวลาที่เราผ่านรอนเตี้ยๆหรือหลุมตื้นๆด้วยความเร็วด้านหน้าซึ่งใช้สปริงเป็นตัวรับนน.จะคอยต้านแรงประทะที่ส่งขึ้นมาผ่านล้อหน้าและปีกนกเมื่อยุบก็ต้องมียืด ยุบเร็วยืดเร็วตัวรถก็รักษาระดับอยู่ได้แต่ถ้ายุบช้าก็กลายเป็นเด้งยืดช้าก๊กลายเป็นกระแทก ซึ่งกระบวนการพวกนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นมากและที่มากไปกว่านั้นการเต้นดังกล่าวเกิดขึ้นแบบไม่เท่ากันระหว่างซ้าย-ขวาตามสภาพถนนและความเร็วามี่เข้าประทะ อาการเต้นของช่วงล่างด้านหน้าจนส่งผลให้ควบคุมรถได้ยากจึงเกิดมาจากสมรรถนะยองช๊อคอัพไม่สามารถรองรับการดีดของสปริงได้ทัน ส่วนด้านหลังที่เป็นแบบคานแข็งรองรับน้ำหนักด้วยแหนบแผ่นซ้อน..........ลักษณะทางกายภาพของแหนบคือต้านการหดตัวด้วยคุณสมบัริความเป็นสปริง แหนบทีทำงานได้ดีต้องมีความโค้งพอที่จะรองรับนน.เมื่อเข้ามากดชั่วขณะและต้านด้วยการดีดกลับสู่ตำแหน่งเดิมได้ ดังนั้นความโค้งจึงสำคัญปัญหาที่พบเมื่อใช้ความเร็วผ่านรอนถนนเตี้ยๆหรือหลุมต่อเนื่องจนทำให้ท้ายเกิดอาการแถจนรู้สึกได้หรือร้ายหน่อยตรงสูญเสียการควบคุม นอกจากสมรรถนะของช๊อคอัพและระยะยุบยืดของแหนบ(รถที่ดัดแปลงช่วงล่างหรือรถที่ผ่านการใช้งานมามากจะชัดเจน) ก็จะมีอีกปัจจัยคือการเคลื่อนตัวของเพลาทั้งแนวดิ่งและแนวนอน กล่าวคือในระหว่างการเคลื่อนที่เพลาจะถูกแขวนอยึ่บนแหนบแผ่นซึ่งปลายด้านนึงของแหนบอยู่บนจุดหมุนที่ควบคุมตำแหน่งเอาไว้ แต่ปลายอีกด้านนึงเป็นแบบกึ่งอิสระ กล่าวคือเมื่อเพลาเคลื่อนที่ขึ้นลงเนื่องจากการประทะผิวถนนยองล้อแหนบจะยืดหดตัวโดยมีโตงเตงควบคุมความเป็นอิสระเอาไว้ เพลาเมื่อดูเผินๆจะคล้ายกับการเคลื่อนที่ของตุ้มนาฟิกาแต่ต่างกันตรงตุ้มนาฟิกาจะหมุนรอบแกนด้วยระยะเดียวแต่เพลาจะหมุนรอบแกน(หูแหนบหน้า)ในลักษตะยืดเข้าออกตลอดเวลา ทีนี้ลองมองภาพการเคลื่อนที่ของเพลาทั้งสองด้านแบบสามมิติดูค่ะ ยิ่งสภาพถนนต่างกันระหว่างซ้าย-ขวาลักษณะการเคลื่อนที่ดังกล่าว"จึงคล้ายกับการเต้นไปมาระหว่างปลายเพลาทั้งสองฝั่ง" ซึงหน้าสัมผัสของยางกับถนนมีผลโดยตรงกับการยึดเกาะถนนอย่างที่เรารู้ๆกันใช่มั๊ยคะ ลองนึกเล่นๆตามนะคะ หน้ายางทีแต่เดิมเคยเรียบสัมผัสถนนกลับถูกดึง(ยก)จนเหลือพื้นที่ไม่เท่าไหร่กับผิวถนนเนื่องจากการเคลื่อนที่ตามลักษณะเพลาแข็ง กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำๆอย่างรวดเร็วทั้งซ้ายและขวา การแถหรือร่อนจึงมาจากตรงนี้ ถ้าเราเนย้าไปควบคุมความ(กึ่ง)อิสระของเพลาเช่นบังคับให้มันขั้นลงเป็นแนวดิ่งอย่างเดียวโดยไม่ยอมให้ขยับเดินหน้าหรือถอยหลัง...ทำได้ไหม ทำได้ค่ะนั่นคือรูปแบบของระบบคานแข็งกึ่งอิสระรองรับน้ำหนักด้วยสปริงซึ่งประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันแม้หน้าตาจะเหมือนกันเช่นปาร์เจโรสปอร์ตกับฟอร์จูนเนอร์เป็นต้น ฟุ้งไปไกลเลย55555 วิศวกรของมาสดา(ฟอร์ด)ก็เลยคิดว่าทำไงให้แหนบที่เต้นอยึ่แลเพลาที่ขยับตำแหน่งไปมาเนี่ยมันควบคุมได้บ้าง.....ก็เลยเป็นที่มาของเหล็กกันโคลง(สเตบิไลซ์เซอร์ บาร์)ใส่ไว้เพื่อคอยรั้งและดึงให้เพลาอีกข้างขยับตามหรือสร้างแรงกดให้ปลายเพลาอีกฝั่งนึงในทิศทางตรงกันข้ามนั่นเอง สำหรับคนไทยเราก็ใบ่ย่อยด้วยความช่างสังเกตุ....เอแบบนี้ลอกเอาอุปกรณ์ของระบบคานแข็งกึ่งอิสระมาใช้ได้มั๊ย โดยยังคงการรับน้ำหนักด้วยแหนบแผ่นเหมือนเดิม นั่นคือจุดเริ่มต้นของ"ทวินอาร์ม) แต่เดิมระบบคานแข็งกึ่งอิสระจะประกอบไปด้วย"ทอร์คอาร์ม" "สเตบอไลซ์เซอร์บาร์(เหล็กกันโคลง)" "ปังอาร์ร๊อด" ซึ่งทั้งสามตัวมีการนำมาใช้ในระบบแหนบทั้งหมด.....ทอร์คอาร์มหลักการทำงานก็พยายามรักษาการเคลื่อนที่รอบจุดหมุนเอาไว้ซึ่งในระบบแหนบก็จะมีแหนบและหึแหนบด้านฟกน้าทำหน้าที่อยู่แล้ว ติดตั้งซ้ำซ้อนเข้าไปจะทำงานขัดกันซะปล่าวๆ อาจารย์ตู่เลยจับกลับหัวมาไว้ด้านหลังซะเลยดัดแปลงจุดยึดด้านหลังซะใฟกม่โดยกำหนดองศาตามโตงเตงจังกลายมาเป็นแทรคชั่นบาร์(อันนี้สามีเรียกนะคะ)สังเกตุได้รถจากสำนักนี้เค้นช่วงล่างเดิมๆไม่เกิน3นิ้วโดดปุ๊บไม่มีเป่..เพียงแต่วต้องแลกกับความกระด้างบ้างเนื่องจากแหนบให้ตัวไม่อิสระ ส่วน"ปังอาร์ร๊อด"ที่มีสภาพเหมือนไม้ค้ำยันระหว่างเพลาด้านนึงกับแคสซี พอจะนึกภาพออกมั๊ยเอ่ย ก็เลยเป็นที่มาของเหล็กแท่งๆที่มีสปริงและช๊อคคอยต้านเอาไว้เอามาริดทแยงมุมแบบเดียวกันนั่นแหละค่ะ.........รวมๆที่ฟุ้งมาซะไกลไม่ใช่อะไรหรอกนะคะ สามี(คนต้นเรื่อง)พยายามจะจำลองการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกันให้เห็นด้วยตัวหนังสือ(พิมพ์จนมึน)เพื่อที่เวลาจะเสริมสมรรถนะอะไรเข้าไปจะได้ไม่หลงสมางลงทุ่งออกทะเล. ?..................ปัญหาของจขกท.ก็ไม่มีไรมากหรอกค่ะ ถ้าชอบหรือพอใจยางขนาดนี้(หรือชุดนี้)การแก้ปัญหาหรือทุเลาปัญหาก็มีไม่มากและไม่ยุ่งยากค่ะ
    1. ตรวจเช๊คลมยางและตำแหน่งของช่วงล่างด้วยการปรับตั้งศูนย์ล้อเมื่อพบว่านยับขี่ผิดปกติหรือได้ระยะเวลา
    2. หาช๊อคดีที่มีค่าคอมเพรสและรีบราวน์ที่มากกว่าเดิมเปลี่ยนแทนของเดิมติดรถ
    เพียงแค่นี้ก่อนแล้วลองดูความพึงพอใจระหว่างใช้งาน ซึ่งหนทางยังมีอีกยาวค่ะ ไม่ว่าจะยกขึ้นอีกหน่อย เปลี่ยนแมกซ์เปลี่ยนยาง ซึ่งปัจจัยแวดล้อมพวกนี้มีผลโดยตรงทั้งสิ้นกับการ"ทำรถ"............ขอให้มีความสุขกับการ"ทำ"และ"ใช้รถ"นะคะ ขอบคุณที่ทนอ่านมาตั้งนานค่ะ5555555
    เจ๊ เค้าจัดเต็มเลยครับ จัดหนัก คริๆๆ

  18. #18
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jul 2012
    User ID
    35438
    Status
    Offline
    โพส
    6

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    ขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้คับ อ่านยังไม่ทันจบตาลายก่อนซะงั้น คร้าบบบบ..

  19. #19
    สมาชิกถาวร: TTC-00434 TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Sep 2008
    User ID
    3623
    Status
    Offline
    โพส
    5,626

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ rmd ดูโพส
    กราบขออภัยเพื่อนสมช.ด้วยนะคะ พอดีสามีกำลังอยู่ในโหมดเมามันส์ค่ะ หนูพิมพ์อย่างเดียวยังมึน........สงสารคนอ่านจัง 55555555555
    เอิ๊กๆๆเจ้าของคอลั่มน์ลุงแฉ่งแห่งนิตยสารคมชัดๆจัดหนัก นั่งซดเฉาก้วยสั่งเลขากดแป้นทะลุเลยมั้งเนี่ย ฮ่าๆๆๆ

  20. #20
    สมาชิกถาวร TTC-Member
    สมัครเมื่อ
    Jun 2012
    User ID
    34613
    Status
    Offline
    โพส
    440

    มาตรฐาน ตอบ: เกี่ยวกับช่วงล่างไทรทัน พลัส

    อ้างอิง โพสต้นฉบับโดยคุณ rmd ดูโพส
    กราบขออภัยเพื่อนสมช.ด้วยนะคะ พอดีสามีกำลังอยู่ในโหมดเมามันส์ค่ะ หนูพิมพ์อย่างเดียวยังมึน........สงสารคนอ่านจัง 55555555555
    ต้องการการเคาะบรรทัดมาก ๆ เลยครับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 หน้า 1 2 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

ข้อมูลกระทู้

Users Browsing this Thread

ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)

Bookmarks

กฎการโพสข้อความ

  • ท่าน ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
  • ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขข้อความโพสได้
  •  
  • BB code สถานะ เปิด
  • Smilies สถานะ เปิด
  • [IMG] สถานะ เปิด
  • [VIDEO] code is เปิด
  • HTML สถานะ ปิด