มันเกิดขึ้นกับรถรุ่น TRITON 4x4 2500 cc. ระยะ 5xxxx กม.
( สรุปว่าทางบริษัท มิตซู ณัฐดนัย จำกัด เคลมทั้งชุดให้ครับพี่อลงกรณ์ )
มันเกิดขึ้นกับรถรุ่น TRITON 4x4 2500 cc. ระยะ 5xxxx กม.
( สรุปว่าทางบริษัท มิตซู ณัฐดนัย จำกัด เคลมทั้งชุดให้ครับพี่อลงกรณ์ )
จากวันนั้นถึงวันนี้ทางณัฐดนัยแจ้งว่า อะไหล่ยังไม่มา เหอเหอเซงเป็ด
อ้อ!!!~ช่างแอบกระซิบว่ามันเป็นจุดอ่อนของรถรุ่นนี้ด้วยนะ ไง!!ท่านใดใช้อยู่ก็หมั่นตรวจจุดรั่วซึมดีๆนะครับ
อาการเป็นยังไงครับ รบกวนขอเป็นข้อมูลด้วยครับ
ครั้งแรกรู้สึกว่าพวงมาลัยหนักผิดปกติเลยไปตรวจสอบดูที่ระดับน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์พบว่าระดับน้ำมันพร่องลงไปครึ่งหนึ่งก็ตั้งข้อสงสัยทันทีว่า1.เป็นไปได้อย่างไรเพราะน้ำมันพวงมาลัยพร่องขนาดนี้มันต้องเป็นรถที่มีการใช้งานเป็นหลักกม.ที่เป็นแสนๆกิโลเมตร 2.ต้องมีการรั่วซึมที่ซีลในชุดพวงมาลัยเพาเวอร์แน่นอน ( ตรวจสอบดูพบว่ารั่วซึมจริง ) ก็เลยโทรไปถามที่ 0 ถึงสาเหตุที่เป็นมาและการแก้ไข คำตอบที่ได้จากช่างครั้งแรกว่าอาจเป็นไปได้ที่ชุดซีลมีอาการรั่วซึม อันนี้พอรับได้ก็เลยเบิกชุดใหม่มาเพราะไม่สามารถขับรถไปถึงที่ 0 บริการได้ (ต้องรอเพราะที่ 0 ไม่มีอะไหล่ในสต๊อก กำ?) จึงจำเป็นต้องเข้า 0 มาสด้าใกล้บ้านก่อนเพราะเกรงว่าหากดันทุรังขับไปอาจจะเกิดอุบัติเหตุหรือมีความเสียหายไปมากกว่านี้ เมื่ออะไหล่มาถึงจึงตรงไปที่ 0 มาสด้า ให้นายช่างทำการรื้อจึงพบปัญหาที่เกิดขึ้นแท้ที่จริงไม่ใช่เกิดจากชุดซีลตามที่ช่าง 0 มิสซูแจ้งมา จริงๆแล้วมันคือ ตัวแกนแร็คของพวงมาลัยเพาเวอร์พร้อมกับน้ำจำนวนหนึ่ง น้ำมาจากไหนไม่ทราบได้ทั้งๆที่รถไปเคยลุยน้ำที่ท่วมขัง ( รถคันนี้ใช้น้อยมากหากไม่ได้บรรทุกสิ่งของจริงๆแทบไม่ได้ใช้เลย ส่วนใหญ่ใช้รถตู้vwมากกว่า และเส้นทางที่ใช้ก็ไม่เคยพบว่ามีน้ำท่วมขัง แล้วมันมาจากไหน งง. )ลักษณะที่พบบนตัวแกนเกิดจากเนื้อผิวโลหะของแกนเกิดพองและผิวโลหะเป็นตามด ค่อนข้างมาก ผมจึงโทรกลับไปสอบถามที่ 0 บริการ แต่กลับได้รับคำตอบที่ว่าปัญหาดังกล่าวพบมาหลายคันแล้ว ผมจึงถามว่ามีวิธีแก้ไขอย่างไร ทาง 0 แจ้งว่า 1.ต้องเปลี่ยนน้ำมันเพาเวอร์ทุกสองหมื่นกิโลเมตร ( อันนี้ผมไม่ทราบเพราะ 0 ไม่แจ้งให้ทราบและรถนำเข้า 0 ทุกครั้งก็ไม่เห็นผ่ายบริการมาแจ้งให้ผมทราบ ) 2. ตัวอะไหล่ชิ้นนี้แท้จริงแล้วทาง 0 แจ้งจากเดิมเป็นอะไหล่นำเข้า แต่ภายหลังทางผู้ผลิตเห็นว่าราคาค่อนข้างสูงเกินไปจึงใช้อะไหล่ที่ผลิตในประเทศแทน ซึ่งค่าอะไหล่ถูกกว่ามาก (รวมถึงคุณภาพด้วยหรือปล่าวไม่ทราบได้ เมื่อได้ใช้แล้วจึงพบ) 3.หากเปลี่ยนแล้วใช้ไปอีกสองหมื่นกิโลเมตรแล้วเป็นอีกคุณต้องเสียเงินค่าซ่อมเอง ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6-7พันบาท ( เวรกรรมของผู้ใช้เพราะดันเลือกใช้รถ...เอง ) 4.ตั้งคำถามว่าเมื่อ 0 พบว่ามันเป็นมาหลายคันแล้วและแอบกระซิบถามเซลล์+ช่าง ได้คำตอบว่ามันแทบจะเรียกได้ว่ามันเป็นจุดอ่อนของรถยี่ห้อนี้ ไม่ใช่รุ่นนี้ ถามว่าทำไมบริษัทถึงไม่ส่งจดหมายแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบแล้วเรียกไปเคลม หรือว่าปล่อยมันไปตามยถากรรมของผู้ใช้ 5. ที่บ้านผมมีรถปิ๊กอัพแทบครบทุกยี่ห้อพี่น้องแต่ละคนมีรถปิ๊กอัพคนละยี่ห้อ คุณเชื่อมั้ยว่ามีอยู่ยี่ห้อหนึ่งแบรนด์เมกา บริษัทพบว่ารถของตัวเองมีปัญหา เขาไม่ได้ส่งแค่จดหมายเรียนให้ลูกค้าทราบเท่านั้น เขาส่งเจ้าที่แผนกเคลมมารับรถถึงที่บ้านเลย นี่คือสิ่งที่ผู้ผลิตที่ดียอมรับและแก้ไขในจุดบกพร่องของสินค้าตัวเอง
สรุปว่า : รถไม่ว่ายี่ห้ออะไรก็ตาม ถูกแพงแค่ไหน หากทางบริษัทผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย ดูแลและแก้ไขเอาใจใส่ต่อผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าคุณไปใช้อย่างรวดเร็ว บริษัทและตัวแทนจำหน่ายนั้นๆ ย่อมจะได้ผลตอบรับที่ดีๆจากผู้บริโภคมากเท่านั้น
หมายเหตุ : ผมเป็นผู้หนึ่งที่เป็นตัวแทนจำหน่ายรถเช่นกัน ( แต่เป็นตัวแทนรถจักรยานยนต์ )
ที่เจอะปํญหาในคลับมีแต่ปลี่ยนแกนพวงมาลัยนี่เป็นที่แร็กพวงมาลัยน่าจะเป็นกรณีแรกในคลับนี้นะครับส่วนใหญ่ที่อ่านเจอะมีแต่เรื่องแจ้งเปลี่ยนแกนพวงมาลัย...สังสัยเราตกข่าวจริงๆ555
อ่านกระทู้ที่ตอบมาโดยคุณ hidalgo แล้วคงจะต้องโบกมือลาเหมือนกันแล้วครับ ไม่ได้ถอดใจนะ เข้าใจอยู่ว่ารถทุกยี่ห้อมีปัญหามากน้อยแล้วแต่ที่เจอก็แก้กันไป ไม่รู้ไอ้มาตราฐานการผลิตที่คุยนักคุยหนาว่า ISO กี่พันแล้วก็ไม่รู้มันช่วยได้ตรงไหน ??? ถอยออกจากอู่เมื่อไหร่คงให้ไอ้จ๊อดมันเอาไปเป็นรถขนอุปกรณ์แล้วกัน เซงเป็ดจริงๆสิพับผ่าสิ
ขอเสริมนิดนึงนะครับ การที่ผู้บริโภครับรู้และเข้าใจแล้ว ไม่ทราบว่าทางผู้ผลิตเข้าใจด้วยหรือเปล่า เข้าใจแต่หลอกตัวเองว่าไม่เข้าใจ ไม่รับรู้ โยนความผิดให้ผู้บริโภคตลอด จะเอาเปรียบกันไปถึงไหน ถ้าท่านมีความสุขก็ทำมันไปเถอะครับ เงินที่เราจ่ายไปหามาจากหยาดเหงื่อแรงกาย แรงใจ เพื่อที่จะนำมาแลกกับก้อนเทคโนโลยีวิ่งได้ ซึ่งบางคนมันอาจหมายถึงครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต แต่ต้องมาเจออะไรที่มันเกินจะรับได้ ( ความอดทนคนเรามันมีขีดจำกัด ถ้าใครไม่โดนก็คงไม่รู้ เคยดูแต่ในทีวีไม่นึกเลยว่าจะเจอกับตัวเอง ) ถามว่าซวยมั้ย ดวงไม่ดีมั้ย ผมตอบเลยถ้าของมันมีคุณภาพอยู่แล้วซวย ดวงไม่ดีจะไม่มีคำนี้ แต่จะมีคำนี้ก็เพราะตัวเองที่มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ที่รถยนต์ในครอบครับคันแรกเป็นมิตซู ฯ L 200 มือ 2 ( เค้าเรียกกันรุ่นเฉินหลง) ที่ใช้ตั้งแต่ผมอยู่ ป.3 จนอายุ 30 ขวบ ก็ยังใช้งานอยู่ ซวย และ ดวงไม่มีที่ดันไปคิดแบบนั้น 555 ( หัวเราะให้กับชีวิต ซวยว่ะ 555 ขอโทษที่ไม่สุภาพนะครับ แต่ถ้าสุภาพมันจะไม่ได้อารมณ์ )รู้งี้เอาตังค์ซื้อ Harley ขี่ดีกว่า..... แค่นี้ก่อนครับเด๋วจะยาว.. ยาวววววววไปป 55555 หัวเราะให้ก่าชีวิตอีกที .....
ขับขี่ปลอดภัยทุกท่านครับ
เรามีแร็คพวงมาลัย ทุกรุ่น
www.jktautopart.com
เราพร้อมบริการท่าน
ผมเคยโพสไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่มีใครทราบข้อมูล ผมเปลร่ยนแร๊กมาแล้ว ผ่านมาเกือบเดือน ตอนมีปัญหาครั้งแรกประกันผมหมดพอดีศูนย์ไม่ช่วยอะไรเลยต้องจ่ายเต็ม เมื่อเปลี่ยนแล้วเขาไม่ได้สนใจเลยว่าจะเอาแร๊กเราไปตรวจสอบเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย
ลากันที มิตซู เบื่อจะตาย แล้วครับ -พวงมาลัยหนักแล้วมีพาวเวอร์ทำ.....ไร - ช่วงล่างดัง+แกนพวงมาลัยดังเปลี่ยนมาแล้วก็เป็นอีก - เกียร์2 กระตุกขับไม่สมูทไม่เนียน - มุมแคมเบอร์ไม่ได้ ด้านขวาลบ 1.33เข้า 0 ก็เอารถผมไปตั้ง 0 คิดราคา+vat ห้าร้อยกว่าบาทแพงกว่าข้างนอก..ออกมาก็เหมือนเดิมทั้งๆๆที่บอกแล้วว่าให้ตรวจสอบคอม้าหน่อย คิดว่าผมไม่มีความรู้ทางช่าง เป็นต้น ผมใช้มาแล้วหลายยี่ห้อ มิตซุใช้มา แอโร่บอดี้ สตราด้า แล้วก็ไทรทัน ทำรถนับวันจะถอยเข้าคลอง ว่าๆ โตโยต้าเบรคไม่ดี รถเค้ายังมีคุณภาพ Q.c ยังดี 0 ก็รับผิดชอบเปลี่ยนให้...วันที่ 10 นัดวิศวกรไว้ครั้งสุดท้ายจบก็จบ ไม่จบก็ทนใช้ต่อไปจะบอกคนอื่นต่อว่าอย่า......มิตซู ไม่รู้ว่าคนที่เค้าจะซื้อต่อผมจะอ่านกระทู้เจอป่าว 5555555555
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks