สัปดาห์ที่ผ่านมา พากันไปรับลมหนาวที่เชียงคานมาครับ
สัปดาห์ที่ผ่านมา พากันไปรับลมหนาวที่เชียงคานมาครับ
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ประวัติเชียงคาน เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เคยเป็นราชธานีหรือเมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือราชอาณาจักรลาวมาก่อน เมืองเชียงคานเก่า หรือเมืองสานะคาม (ชนะสงคราม) ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ทางยุทธศาสตร์สมัยราชอาณาจักรล้านช้าง ถูกก่อสร้างโดย ขุนคาม โอรสของขุนคัวแห่งอาณาจักรล้านช้าง เมื่อประมาณปีพ.ศ. 1400 ต่อมาประมาณปีพ.ศ. 2250 ทางเวียงจันทร์ได้ตั้งเมืองเชียงคานเดิม ซึ่งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงเป็นเมืองหน้าด่าน
พ.ศ. 2320 พระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกับพระสุรสีห์ ยกทัพไปตีกรุงเวียงจันทร์ ตีเวียงจันทร์ได้จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกต กลับมายังกรุงธนบุรี แล้วได้รวมอาณาจักรล้านช้างเข้าด้วยกันและให้เป็นประเทศราชของไทย แล้วได้กวาดต้อนผู้คนมาอยู่เมืองปากเหืองมากขึ้น แล้วโปรดเกล้าฯ ให้เมืองปากเหืองขึ้นกับเมืองพิชัย
ต่อมมาสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้กองทัพไทยยกทัพไปปราบเจ้าอนุวงศ์ที่นครราชสีมา เนื่องจากเจ้าอนุวงศ์ เจ้าเมืองเวียงจันทร์คิดกอบกู้เอกราชเพื่อแยกเป็นอิสระจากไทย หลังจากปราบได้สำเร็จแล้ว ก็ไปกวาดต้อนผู้คนจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงมาอยู่เมืองปากน้ำเหืองมากขึ้น แล้วโปรดเกล้าฯ ให้ไปขึ้นกับเมืองพิชัย
ครั้นถึงสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พวกจีนฮ่อได้ยกทัพมาตีเมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงพระบางและได้เข้าปล้นสดมภ์เมืองเชียงคานเดิมที่อยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ชาวเชียงคานเดิมจึงอพยพผู้คนไปอยู่เมืองเชียงคานใหม่ (เมืองปากเหือง) เป็นจำนวนมาก
ครั้นต่อมา เห็นว่าชัยภูมิเมืองเชียงคานใหม่ (เมืองปากเหือง) ไม่เหมาะสม ผู้คนส่วนใหญ่จึงอพยพไปอยู่ที่บ้านท่านาจันทร์ซึ่งใกล้กับที่ตั้งของอำเภอเชียงคานปัจจุบัน แล้วตั้งชื่อใหม่ว่า เมืองใหม่เชียงคาน ต่อมาไทยได้เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขงให้กับฝรั่งเศส ทำให้เมืองปากเหืองตกเป็นของฝรั่งเศส คนไทยที่อยู่เมืองปากเหืองจึงอพยพมาอยู่เมืองใหม่เชียงคาน หรืออำเภอเชียงคานปัจจุบันโดยสิ้นเชิง “แล้วได้เปลี่ยนชื่อเมืองเป็นเมืองเชียงคานใหม่” ได้ตั้งที่ทำการอยู่บริเวณวัดธาตุ เรียกว่าศาลาเมืองเชียงคาน ต่อมาได้ย้ายที่อยู่บริเวณวัดโพนชัย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2452 เมืองเชียงคานซึ่งมีพระยาศรีอรรคฮาด (ทองดี ศรีประเสริฐ) ได้รับตำแหน่งนายอำเภอเชียงคานคนแรก ต่อมาปี พ.ศ. 2484 ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอเชียงคานมาอยู่ ณ ที่อยู่ปัจจุบันตราบเท่าทุกวันนี้ ขอบคุณข้อมูล(บางส่วน)จาก : http://www.amphoe.com/
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
บ้านเก่าๆ สงบ เรียบง่าย น่าประทับใจ ทำให้ยิ่งน่ามาเยือน
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
เดินเล่นได้ทั้งวันทั้งคืน
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
มีที่ให้เลือกถ่ายรูปได้ไม่รู้เบื่อ
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
แหล่งท่องเที่ยว ที่หลายคนแสวงหา
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ไม่ต้องกังวล เรื่องที่พักผ่อนเลยครับ บ้านทุกบ้าน ร้านค้าทุกร้านค้า ได้แบ่งเป็นที่พักให้นักท่องเที่ยวได้อาศัย
สนนราคาก็พอรับได้
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
เมืองเชียงคาน ในปัจจุบันเป็นเมืองโบราณเก่าแก่ในสายตาของนักท่องเที่ยว เป็นชุมชนที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาได้ยาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งเพิ่งจะมีการจัดงานฉลอง "100 ปี เชียงคาน เมืองโบราณ ริมฝั่งโขง" ไปเมื่อวันที่ 4-6 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมานี้เอง เพื่อเป็นการอนุรักษ์ความเป็นเอกลักษณ์ให้คงอยู่สืบไป
เมืองเชียงคาน เมืองโบราณ.. บ้านไม้เก่าๆ ร้านกาแฟ มุมหนังสือเล็กๆ เท่านั้น แต่กลับมีนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว เดินเที่ยวกันให้เต็มไปหมด อาจจะด้วยเพราะเมืองเชียงคานนี้เงียบสงบ บรรยากาศดี ด้วยการที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์แต่ผสมผสานกับความเป็นสมัยใหม่ที่ไม่มากจนเกินไปได้อย่างลงตัวในแบบฉบับของเชียงคาน ผู้คนที่เชียงคานก็เป็นมิตร อัธยาศัยดี และการไปเที่ยวที่เชียงคานก็ไม่แพงจนเกินกำลัง ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเชียงคานแห่งนี้ ก็จะเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น หลายๆ สิ่งที่เชียงคานอาจเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม เชียงคานจะไม่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าเราทุกคนยังคงช่วยกันรักษาความเป็นเอกลักษณ์ ดำรงวิถีชีวิตในแบบของเชียงคานสืบไป ความเป็นเชียงคานที่คงความเป็นเอกลักษณ์ได้ยาวนานกว่าร้อยปี ก็จะเป็นเช่นเดิมตลอดไป
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ถ่ายมาสวยอีกแล้วน้ากาโม่ หุ หุ อิจฉาจริงๆ ผมยังไม่เคยไปเลยที่เชียงคาน อยากไปบ้างจัง อิ อิ
สุดยอดเลยสวยมากครับ น้า Kamo ขอบคุณสำหรับรูปถ่ายสวยๆ อยากไปบ้างจังคงจะมีสักวัน..ฮิฮิ
แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กม. ประกอบด้วย หินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมากจากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสัน ไปต่าง ๆ ตัวแก่ง กว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่านไปเพียงช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง ซึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ที่สุดคือ เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน บริเวณแก่ง มีร้านอาหารจำหน่าย มากมาย
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
เธอก็มาด้วยเหมือนเดิม
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ดูมาดคู่แข่งประจำบ้านซะก่อน
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำแก่งคุดคู้
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ภูทอก ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเชียงคาน เป็นเพียงภูเขาลูกเล็กๆ แต่ภูทอกแห่งนี้ก็มีเสน่ห์ที่เป็น
จุดชมวิว ชมความงามของแม่น้ำโขง เมืองสานะคาม และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน และเสน่ห์ยิ่งกว่านั้น
ของภูทอก ในฤดูฝนและฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยผ้าห่มหมอก หากได้มองจากยอดภูทอก
จะเห็นเป็นทะเลหมอกได้แบบรอบทิศเลยทีเดียว
ปล.วันที่ผมไปไม่มีหมอกเลยครับ
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
พระใหญ่ภูคกงิ้ว เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าพระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ ตั้งอยู่ที่ภูคกงิ้ว บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาบริเวณปากลำน้ำเหืองจรดกับแม่น้ำโขง เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หล่อด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่นสีทองทั้งองค์ สูง 19 เมตรตัวฐานกว้าง 7.2 เมตร สร้างขึ้นโดยกองทัพภาคที่ 2 และประชาชนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ เมื่อ พ.ศ. 2542 และในมหามงคลแห่งราชพิธิราชาภิเษก ครบ 50 ปี พ.ศ. 2543 สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2544 บริเวณโดยรอบสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของแม่น้ำโขง และประเทศลาวได้
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ตอนที่ขึ้นไปถึง ตรงนี้เป็นมุมย้อนแสงพอดีเลย
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
แม่น้ำโขง มองจากพระพุทธรูป
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ใส่บาตรข้าวเหนียวยามเช้า ที่เชียงคาน ถือเป็นเอกลักษณ์ เป็นวัฒนธรรม แสดงถึงวิถีชีวิตที่มีความผูกพันธ์กับพระพุทธศาสนา ที่ถือปฏิบัติสืบเนื่องมาเป็นเวลานับร้อยปี ซึ่งในช่วงเวลาประมาณ 6 โมง ถึง 6 โมงครึ่ง จะมีผู้คนมารอใส่บาตรข้าวเหนียวยามเช้าเป็นประจำทุกวัน
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
เข้าแถวรอกันเป็นระเบียบเรียบร้อย
ตนจะดีตนจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ ตนจะสูงตนจะต่ำอยู่ที่ทำตัว
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks