เหตุการณ์ เกิดเมื่อตอนตี 3 ของวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม 2552 (คืนของวันที่ 31 กรกฎาคม) ที่ผ่านมานี่เองครับ ผมเพิ่งแทงสนุ๊กกับเพื่อนที่ทำงานตรงแถวๆรัชดาจากนั้นก็ขับรถ ISUZU DMAX Cab4 กลับหอพักที่ลาดกระบัง ผมใส่ Safety Belt ตลอดเวลาอยู่แล้วขับมาตามเส้นพระราม 9 ข้างล่างเพื่อที่จะมุ่งหน้าเข้า Motor Way (ขาออกจากกรุงเทพฯ)พอถึงทางเข้า Motor Wayซึ่งเป็นสะพานขึ้นไป 2 เลน ผมอยู่ทางเลนขวา ซึ่งขณะนั้นฝนเพิ่งตกลงมาปลอยๆ พื้นถนนตรงนั้นเป็นยางมะตอยผมก็พึงระลึกเตือนตัวเองไว้อยู่แล้วว่ามันจะลื่นได้ง่ายนะ เพราะเคยเจอประสบการณ์กับตัวเองมาแล้วเรื่องท้ายปัดประมาณ 4 ครั้ง
ครั้งที่ 1เส้นลำลูกกามีรถน้ำกำลังรดน้ำต้นไม้บริเวณเกาะกลางพอผมขับไปถึงก็เหยียบเบรกท้ายรถก็ปัดแต่ไม่มากเท่าไหร่พอควบคุมได้ก็เลยรู้ว่าอาการท้ายปัดเป็นอย่างงี้นี่เองโชคดีไม่มีรถมาข้างๆ...ก็เลยไปหาข้อมูลใน Net พบว่ารถกระบะจะมีช่วงรถที่ยาว เวลาเหยียบเบรกหรือ เหยียบคลัชเพื่อเปลี่ยนเกียร์จะทำให้รอบเครื่องเบาลงและล้อหมุนฟรีจึงส่งผลให้รถกระบะซึ่งน้ำหนักของรถจะอยู่ที่ส่วนหน้ามากกว่าส่วนท้ายเกิดอาการล้อหลังปัดโดยจะเกิดเฉพาะเวลาขับบนถนนที่ลื่นมากๆเช่น พื้นยางมะตอยเวลาฝนตกใหม่ๆ
ครั้งที่ 2เส้นคลองหลวงตอนนั้นฝนกำลังตก เป็นพื้นยางมะตอย ผมขับมาช้าๆประมาณ 50 km/h กำลังเข้าโค้ง แตะเบรกนิดเดียว ท้ายปัดจนรถมาอยู่อีกเลนนึงเลยโชคดีไม่มีรถมาข้างๆ...
ครั้งที่ 3เส้นถนนพระราม9 มุ่งหน้าเข้าแยก อสมท. พื้นยางมะตอย ผมติดไฟแดงอยู่เลนขวาคันหน้าสุด พอไฟเขียว ผมขับออกมาปรากฎว่าข้างหน้าฝั่งตรงข้ามมีรถน้ำกำลังรดน้ำต้นไม้เกาะกลางอยู่ ทำให้พื้นถนนฝั่งผมมีน้ำกระเด็นมาเปียกด้วยผมขับออกจากไฟแดงมาช้าๆเริ่มเปลี่ยนเกียร์มาเรื่อยๆ ถึงตรงจุดนั้นอยู่ที่ประมาณเกียร์ 2 กำลังเปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 เหยียบคลัชต์ปุ๊บ ท้ายปัดปั๊บ จนมาอยู่อีกเลนนึงโชคดีไม่มีรถมาข้างๆ....
Bookmarks