รบกวนน่ะครับ
กล่องดันราง แบบไมโครฯและแบบที่เขาเรียกแบบอนาล๊อก
อายุการใช้งานมันต่างกันซักกี่ปีกับการใช้งานแบบบ้านในไทรทันเรา
และ เหตุที่ทำให้อายุของกล่องสั้นลงมีอะไรบ้าง อยากได้เป็นข้อมูลน่ะครับ
ขอบคุณมากครับ..
รบกวนน่ะครับ
กล่องดันราง แบบไมโครฯและแบบที่เขาเรียกแบบอนาล๊อก
อายุการใช้งานมันต่างกันซักกี่ปีกับการใช้งานแบบบ้านในไทรทันเรา
และ เหตุที่ทำให้อายุของกล่องสั้นลงมีอะไรบ้าง อยากได้เป็นข้อมูลน่ะครับ
ขอบคุณมากครับ..
เข้ามารอข้อมูลด้วยคนครับ น้านุ๊ก น้าบอม อยู่ไหนคร๊าบบบบบ....มาให้ข้อมูลกับพี่น้องเพื่อนสมาชิกด้วยคร๊าบบบบบบ
ด้วยความเคารพครับ....
เกรดอุปกรณ์ที่ใช้ (มีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน) , ความร้อนสะสม ถ้ามีให้ใส่ซิงค์ช่วยระบายความร้ัอน, ความชื้น มันไม่ชอบน้ำ , กระแสไฟ และ แรงดันที่เหมาะสม
ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเสียน่ะ ที่เสียส่วนใหญ่เพราะความซนของเรา น่ะ
เช่น ecu ที่มีใช้ในรถที่เก่าๆ แล้ว 10 ปีมันยังไม่พังเลย
อยู่ที่เกรดของที่เลือกใช้ เหมือนของน้าข้างบนครับ
หลักๆไม่ยาก ใครๆ ก็ทำได้ แต่ .... จะได้ของออกมาดีเหมือนกันหรือเปล่า
ส่วนตัวคิดว่า ของที่เขาทำมานั้น ไม่พังง่ายๆ หรอกครับ โอกาสพัง คือ ความผิดพลาดจากการประกอบมากกว่าครับ
หรือไม่ก็การติดตั้งครับ
หลักๆแล้ว มันมีสองด้านเสมอครับ
1.กล่องแบบไขน๊อต เขาให้เหตุผลการใช้งานแบบนี้ว่า ไม่ได้รบกวนระบบไฟในรถ เอาแค่สัญญาณ มาปรับค่าความ
ต้านทาน การใช้งานจึงทนทาน อายุการใช้งาน เห็นว่า รับประกันตลอด ถ้าของไม่ดี กล่องหลักพังแน่ๆจากสัญญาณรบกวน ในไม่ช้า
2.กล่องแบบใช้คอมจูน เหตุผล คือการจูนที่ละเอียดกว่า มีการดึงไฟจากกล่องหลัก ผ่านโปรแกรมที่ผ่านการคำนวณ
มาอย่างดี กล่องแบบนี้ รับประกันประมาณ 5 ปี ถ้าติดตั้งไม่ดี มี Noise ในระบบ ก็จบเห่ เหมือนกัน
สำคัญที่สุดที่ปลอดภัย การมใช้งานยาวนาน คือ การติดตั้งครับ
1.กล่องไขน๊อต ถ้าของภายในไม่ดี มีสัญญาณรบกวน ใน V R ก็พาแป้ก ง่ายๆเหมือนกัน
และสัญญาณรบกวน จะไปกระทบ กล่องหลักโดยตรง ส่วนมากกล่องไม่พัง กล่องหลักอ่ะดิ ที่จะพังก่อน
การหลอกสัญญาณ เป็นค่าทางไฟฟ้า ถ้ากล่องหลัก รับสัญญาณเข้ามากไป ก็พัง อยู่ดี
2.กล่องแบบจูนคอม พากล่องหลักเน่าได้เหมือนกัน ถ้ากล่องไม่มีการ กันสัญญาณรบกวนที่ดี การเลือกอุปกรณ์ที่
ราคาต่ำ การทำงานไม่เสถียร ก็เน่าไม่แพ้ กล่องไขน๊อตครับ
สรุป จรรยาบรรณ ของเจ้าของกล่อง กับการทำงานที่ดี ของช่างติดตั้ง รวมไปถึงช่างจูนอัพ ก็สำคัญครับ
1.เจ้าของกล่อง(แบรนด์) ต้องมีจรรยาบรรณในการพัฒนาผลิตภัณท์ และความรับผิดชอบต่างๆด้านการบริการ
2.ช่างติดตั้ง ต้องคิดว่านี่เป็นรถเราเอง ปราณีต พิถีพิถันในการติดตั้ง รับรองไร้ปัญหา
3.ช่างจูน ต้องดูความสามารถรถ ว่าไปได้แค่ไหน การจูนจนอะไรพัง ไม่ได้บ่งบอกว่า กล่องคุณดีนะครับ
ตอนนี้ กล่องมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ หลายราคา หลายเกรด หลายระบบ เลือกของที่เหมาะกับเราที่สุดครับ
รู้จักเขาดี ไว้ใจเขา ฝีมือเขา ความจริงใจของเขา
แล้วเราก็ ไปเลือกเขาครับ
ถ้าขาดข้อใดไป หายี่ห้ออื่นครับ
การหลอกเงินคนทำรถอ่ะ ไม่ใช่เรื่องยากครับ เพราะรถราคาเป็นล้าน ซื้อได้ แต่งรถ ไม่กี่แสน ทำไมจะทำไม่ได้
หลายคนคิดอย่างนั้น แต่เงิน (มีค่ากับทุกคน) ที่เสียไป "เรา" ต้องได้ สิ่งที่เรารัก และดีที่สุดสำหรับ "เรา" ครับ
ชัดเจนเลยน้า
น้านุ๊กแล้วระบบไฟ
เช่นการพ่วงแบตกับรถคันอื่นมีผลรึเปล่าครับ
มีแน่นอนครับ อย่างน้อยๆ ก็เรื่องไฟกระชากแหละแน่ๆ
วิธีแก้ คือ ปิดกล่องก่อนให้การช่วยเหลือ เพราะเราไม่สามารถมั่นใจได้ว่า
ของที่ทำมานั้น คุณภาพระดับไหน ยังไงก็อย่าเสี่ยง และแนะนำว่า
ก่อนคันที่ขอพ่วงสตาร์ท เราควรเร่งรอบรถเราให้อยู่ประมาณ 2000-3000 รอบ
อย่างน้อยไดชาร์จ ก็ทำงานได้เต็มที่ พอที่จะลดการกระชากไฟ ได้พอควร
ศึกษาไปเรื่อยๆ กับของที่เรามีอยู่ อย่าตามกระแส
เราอาจมี "เพชรในตม" อยู่ก็ได้ ใครจะรู้
เข้ามาหาข้อมูลครับ
น่าจะตามอายุของเกรดของอุปกรณ์อิเลคโทรนิคที่ใช้กับนิสัยการใช้รถของเราน๊ะครับว่าชอบตรวจสอบดูแลรึปล่าว ต้องศึกษาข้อมูลตรงนี้อีกทีนึง
ผมว่าน่าจะยากนะครับที่มันจะเสียถ้าเราใช้อุปกรณ์เกรดระดับที่ดีหน่อยสามารถทนความร้อนได้ในระดับที่ดี แล้วค่อยๆปราณีตวางอุปกรณ์ลงปริ๊น ต่อมาก้อจัดแจงเรียบเรียงโปรแกรมให้สวยงามแล้วจึงเบิร์นเข้ากล่องแค่นี้อายุการใช้งานก้อคงอยู่ไปอีกนานแสนนานครับ....... อ่ออย่าลืมในการติดตั้งด้วยนะครับต้องรอบครอบและระมัดระวังเป็นอย่างดี พยายามอย่าให้มีสัญญาณรบกวนนะครับ กล่องจะได้ทำงานอย่างเนียนๆ.....
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks