พี่เขยกับน้องเมีย .....เรื่องจริงจากชีวิตจริง อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์
ดิฉันแต่งงานเมื่อ พ.ศ. 2534
และได้อยู่กินกับสามีด้วยดีจนมีลูกสาวและลูกชายอย่างละคน
ชีวิตก็มีความสุขดี มีรถยนต์ มีบ้านในเนื้อที่ 24
ตารางวาบนถนนแจ้งวัฒนะ
ดิฉันมีน้องสาว 1 คนเค้าไปได้สามีที่มีเมียหลวงอยู่แล้ว
ตอนหลังเค้าเลิกกัน เขามาหาดิฉัน ดิฉันก็ให้น้องสาวมาอยู่ด้วยกัน แต่ว่ามาคนเดียวนะคะส่วนลูกๆอยู่กับสามีเขา
น้องสาวมาอยู่กับดิฉันได้หลายปีจนมาวันหนึ่ง ... หัวใจดิฉันเกือบสลาย คือสามีดิฉันจะเลิกงานเวลา 24.00 น.และในเวลา 00.45 น. ดิฉันได้ยินเสียงรถของสามีมาถึงบ้านแล้ว...
แต่ดิฉันหลับต่อ... แล้วก็ตกใจตื่นตอน
ตี 2 กว่านิด หน่อย ไม่เห็นสามีนอนอยู่ ลุกขึ้นไปดูที่ห้องลูกๆก็ไม่มี ในห้องน้ำก็ไม่มี ใจหายวาบ
รีบลงมาที่โซฟาข้างล่างก็ไม่มี รถยนต์ก็จอดอยู่แต่สามีดิฉันไปไหน ??
มองที่ประตูบ้านก็ใส่กลอนอยู่
ดิฉันหัวใจเต้นแรงมาก เหลืออยู่ห้องเดียวคือ...ห้องน้องสาว...ของดิฉัน
ดิฉันเดินไปเปิดไฟจนสว่างทั่วบ้าน หัวใจเต้นแรงผิดปกติอยากจะเป็นลม แล้วมองไปที่ห้องของน้องสาว แล้วพยายามตั้งสติคิดในใจว่า ถ้าเขาเดินออกมาจากห้องนั้นดิฉันจะทำอย่างไร
ดิฉันนั่งมองประตูห้องของน้องสาวน้ำตาก็ไหล
นึกในใจ ว่า จะทำอย่างไร ?
เราจะทำอย่างไรดี
ลูกก็ยังเล็กดิฉันตัดสินใจ ? เลิก?
ยังไงก็ต้องเลิก
แล้วให้เขาไปอยู่กับน้องสาวที่อื่นส่วนดิฉันจะอยู่กับลูกๆ
คือจะยกสามีให้น้องสาวไป ถ้าเขารักกัน
จนประมาณ ตี 3 กว่าๆ ดิฉันนึกในใจว่าถ้าดิฉันโทรฯเข้ามือถือเขาแล้วเสียงโทรศัพท์ก็ต้องดังออกมาจากห้องน้องสาวแน่ๆเลย
เป็นไงเป็นกันดิฉันตัดสินใจโทรฯแล้วก็ติดจริงๆค่ะ
ใจดิฉันเต้นแรงจนเกือบหลุดออกมาข้างนอก ดิฉันยืนอยู่หน้าห้องน้องสาว.... แต่เอ๊ะไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากในห้องของน้องสาวเลยแต่โทรฯติด แล้วเขาอยู่ไหน ??
ฮัลโหล ?
ฮัลโหล ?
เธออยู่ไหน ? ดิฉันตวาด
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
" ก็นอนอยู่ในรถสิ อีบ้า
รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้ กรู กลับดึกยัง***ล็อคประตูอีก ..... "
__________________
อย่าตัดสินคนอื่น ด้วยความรู้สึกของตัวเอง ^_^
Bookmarks