"สิทธิผล" แตกไลน์เล็งบุกตลาดชิ้นส่วน ไล่ช็อปผู้ผลิตเทียร์ 2-3 ชี้ชิ้นส่วนโตแน่หลังเปิดประชาคมอาเซียน ระบุไทยจะกลายเป็นอู่ของโลกหลังประสบความสำเร็จส่งปิกอัพ-อีโคคาร์อาละวาดทั่วโลก ส่วนปีนี้เร่งขยายธุรกิจประเดิมขายมาสด้าเพิ่มอีกแบรนด์ ตั้งเป้า 1,800 คัน
ดร.วัชระ พรรณเชษฐ์ ในฐานะประธานกลุ่มบริษัท สิทธิผลเซลส์ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิรายใหญ่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้บริษัทมีแผนแตกไลน์ธุรกิจจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไปสู่การเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยขณะนี้ได้เริ่มเจรจากับบริษัท ผู้ผลิตชิ้นส่วนทั้งในและต่างประเทศหลายราย
ซึ่งความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจมีทั้งในลักษณะของการร่วมทุน หรือจะเป็นการเข้าไปซื้อกิจการเพื่อบริหารงานต่อ ซึ่งหากบริษัทจะเข้าไปลงทุนตรงนี้ก็จะเป็นกลุ่มชิ้นส่วนประเภทเทียร์ 2, เทียร์ 3
"ตอนนี้กำลังมองไปที่ผู้ผลิตชิ้นส่วน มีหลายรายที่ให้ความสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มเทียร์ 2 หรือเทียร์ 3 ที่ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อ-แม่ แต่พอเข้าสู่รุ่นลูกแล้วไม่ต้องการดำเนินการอยากจะเปลี่ยนไปธุรกิจอื่น"
ดร.วัชระกล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุที่ให้ความสนใจกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาค และได้มีการผลักดันรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ให้เป็นโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวที่ 1 แล้ว และโครงการอีโคคาร์ที่เป็นโปรดักต์ แชมเปี้ยนตัวที่ 2 ซึ่งตอนนี้กลายเป็น จุดแข็งที่สำคัญของประเทศไทยไปแล้ว
ดังนั้น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์จะมีบทบาทมาก เมื่อประชาคมอาเซียน (AEC) พร้อมประเทศไทยจะกลายเป็นเซ็นเตอร์เพื่อป้อนไปยังตลาดภูมิภาคและตลาดโลก ทั้งโออีเอ็มและตลาดทดแทน เรียกว่าเป็นอู่ของโลกเลยทีเดียว
นอกจากนี้บริษัทยังได้แตกไลน์การขายรถเพิ่มเติม จัดตั้งบริษัท เมโทร มอเตอร์เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาสด้าด้วยทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท และมีการลงทุนเพิ่มเติมอีก 60 ล้านบาท รวมเป็น 100 ล้านบาท
โดยได้เริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มียอดการจำหน่ายไปแล้วทั้งสิ้น 576 คัน จาก 2 โชว์รูม คือ สาขาลาดพร้าวและพระประแดง ส่วนปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมียอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าเพิ่มขึ้นเป็น 1,800 คัน หรือโตเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว
สาเหตุที่บริษัทลงทุนไม่มากนัก เนื่องจากนำโชว์รูมสิทธิผลเดิมซึ่งจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้ออื่นมาปรับปรุง และเป็นศูนย์จำหน่ายรถยนต์มาสด้า ทำให้ไม่ต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูง บวกกับประสบการณ์และความชำนาญของทีมงาน ทำให้เชื่อว่ายอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย
ปัจจุบันบริษัทมีโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์มิตซูบิชิ 3 แห่งคือ รามคำแหง พระราม 3 และลำลูกกา โดยมียอดขายทั้ง 3 สาขาปีละประมาณ 2,000 คัน ส่วนธุรกิจการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ภายใต้บริษัท เยอรมัน ออโต้ จำกัดนั้น ขณะนี้บริษัทได้ยุติการดำเนินธุรกิจแล้วปล่อยผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ดำเนินธุรกิจแทน
พร้อมกันนี้ บริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้เพื่อที่จะเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แบรนด์อื่น ๆ เพื่อเป็นการขยายธุรกิจในเชิงราบเพิ่มเติมด้วย
http://www.prachachat.net/news_detai...d=08&subcatid=
Bookmarks