แบตหมดคับ ไม่รู้ว่าต้องใช้แบตแบบแห้ง หรือแบบน้ำถึงจะดีคับ
แบตหมดคับ ไม่รู้ว่าต้องใช้แบตแบบแห้ง หรือแบบน้ำถึงจะดีคับ
เคยอ่านกระทู้หนึ่งอ่ะครับ ว่าเรื่องแบตนี่แหละ น้าๆ บอกว่าแบตติดรถมาอ่ะดีที่สุดครับ
บ้านเราเมืองร้อน..แบตน้ำดีกว่าครับ..
แบตน้ำถ้าหมั่้นตรวจระดับน้ำกลั่น อายุมันยาวววววววกว่าแบตแห้งครับ สุดท้ายแล้วแต่ผู้ใช้งานชอบแบบไหน
ผมใช้แบตน้ำครับ ใช้น้ำกรองเติมครับ ใช้ 2 ปีครึ่งสบายๆ
วันก่อนพึ่งพ่วงให้แบตแห้งบ้านตรงข้ามไป เค้าใช้มาสองปี...
แบตน้ำอีกเสียงครับ แต่ถ้าแบตหมดเริ่มสตาร์ตยาก มีวิธีแก้ไขครับอาจไม่ต้องซื้อแบตใหม่ใช้ได้อีกนาน ลองเช็คค่าความถ่วงจำเพาะของกรดทุกช่องดูก่อนครับ และสังเกตุว่าแผ่นธาตุยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ แผ่นธาตุต้องไม่แตกขาด(สังเกตุจากการเขย่า) วัดโวลล์ต้องมีไฟอยู่ไม่น้อยกว่า5V ลองศึกษาดูจากที่นี่ http://youtu.be/7nFk9amDKac
ผมขอแนะนำน้าให้ใช้แบบเติมน้ำ (กลั่น) ได้ครับ เพราะคิดว่า
เหมาะสมกับสภาพใช้งานในเมืองไทย ที่เป็นเมืองร้อน
โดยปกติแล้วแบตเตอรี่รถยนต์จะถูกออกแบบมาใช้งาน
ประมาณ 2 ปี ครับ แต่รับประกัน (Warranty) ประมาณ 1 ปี
หากแบ่งประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์ซึ่งเป็นชนิดที่ใช้
ตะกั่วกับน้ำกรด(กำมะถัน) แบ่งคร่าวๆได้ดังนี้
1. แบบทั่วไป หรือศัพท์เฉพาะเรียกว่า Low Maintenance (LM)
แบบนี้ที่ใช้ในบ้านเราเป็นส่วนมาก ที่เป็น spare part (ยกเว้นรถของค่ายอเมริกัน)
เมื่อใช้งานไประดับน้ำกรดจะลดลงเรื่อยๆ ครับ เพราะปฏิกิริยาทางเคมี ที่ทำ
ให้เกิดแก๊ส ระหว่างรับและคายประจุไฟ และแก๊สนี้จะนำพาน้ำ (H2O) ไปด้วย
เราจึงต้องเติมน้ำกลั่นเข้าไปทดแทนที่สูญเสียไป หมั่นดูและสภาพภายนอก
ด้วยนะครับ อย่าให้น้ำกรดหกรั่วไหล อย่าให้ขั้วเกิดขี้เกลือ อย่าให้สายไฟหรือ
อแดปเตอร์หลวมซึ่งอาจเกิดประกายไฟ ไปเจอกับแก๊สไฮโดรเจนเกิดขึ้น (เป็นปกติ)
อาจเกิดการระเบิดได้ และอีกอย่าง ตรงฝาหรือจุกที่ใส่น้ำกรด จะมีรูเล็กๆให้ระบายแก๊ส
อย่าให้ตันเป็นอันขาด นะครับ เพราะอาจทำให้เกิดแรงดันภายในสูง ระเบิดได้เช่นกั้น
ที่ใส่กล่องวางขายตามร้านจะเป็นแบบนี้ พอไปซื้อร้านก็จะเติมน้ำกรดแล้วชาร์จให้แล้ว
ค่อยใส่ในรถให้
2. แบบ Maintenance Free (MF) แบบนี้จะรูปลักษณ์จะคล้ายๆแบบแรกครับ
สามารถเติมน้ำกลั่นได้เช่นกัน แบบนี้ส่วนใหญ่แบตเตอรี่ที่ติดมากับรถจะเป็นแบบนี้
หรือง่ายๆ ก็คือ part OEM จะแตกต่างจากแบบแรกก็คือ แผ่นธาตุภายใน และ
สะพานไฟจะทำจากตะกั่วที่มีคุณสมบัติ ในการเสียน้ำของแบตเตอรี่น้อยลง ซึ่งอาจ
เกิดคุณสมบัติในการนำไฟดีจึงทำให้ความร้อนภายในน้อย จึงสูญเสียน้ำน้อยด้วย
ก็เป็นได้
หากมองหาซื้อแบตเตอรี่แบบนี้ตามท้องตลาด จะมีอักษร ที่ข้างตัวแบตเตอรี่ว่า
MF Battery, Calcium Battery หรือ Advance น่าจะประมาณนี้และสังเกตง่ายๆ
อีกอย่างคือ จะมีการเติมกรดชาร์จไฟจากโรงงานผู้ผลิตให้เรียบร้อย นะครับ
3. แบบนี้หลายๆท่านอาจเรียกว่าแบตฯแห้ง แต่ถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือ SMF หรือ
เต็มๆ ก็คือ Sealed Maintenance Free ภายในตัวแบตเตอรี่ไม่ต่างจากแบบที่ 2
เลยแม้แต่น้อย ต่างเพียงว่ามีการออกแบบให้ซีล (Sealed) ปกปิดไม่ให้น้ำกรด
ออกมาได้ หากมีปฏิกิริยาเคมีภายใน จนเกิดแก๊สขึ้น แก๊สนี้ก็จะไหลวนเวียนภายใน
จนเกิดการควบแน่นไหลกลับลงแบตเตอรี่เช่นเดิม แต่ก็ยังมีแก๊ส(ที่ปราศจากน้ำ)
ไหลผ่านฟิลเตอร์ออกไปได้ อันนี้ก็สำคัญฟิลเตอร์จะตันไม่ได้เช่นกัน ระเบิดได้เช่นกัน
ส่วนใหญ่รถยุโรปกับ พันธ์อเมริกัน จะนิยมเป็นอย่างมาก
สุดท้าย ของทุกอย่างต้องดูแลรักษาครับ ดูแลดีๆอาจใช้ได้จนถึง 4 ปีได้
gs ฝาสีน้ำเงินของเดิมติดรถ แบบน้ำ ตรวจสอบน้ำกลั่นบ่อยๆใช้ลืมครับ ผม4ปีพอดีพัง ทั้งนี้ทั้งหลังจากดับเครื่องต้องปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าให้หมด แอร์ ใช้ลืม ครับ
แบบน้ำอีกเสียงครับ หมั่นตรวจสอบน้ำกลั่นบ่อย ครับ
ขอบคุณท่านจอมยุทธทั้งหลายคับ ใส่เรียบร้อยคับแบบน้ำ นับถืออออๆ
พอดีผมใช้แบบกึ่งแห้งนะครับ แอมป์เยอะกว่าแบตน้ำที่ติดรถมาประมาณห้าแอมป์ ไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่แบตเดิมติดรถ ก็ประมาณสี่ปี แต่ต้องหมั่นตรวจน้ำกลั่นบ่อยๆ
ว่าจะจัดแบตน้ำซัก100aใส่แทนที่เก่าได้ไหม๊ครับ
สนับสนุนแบตน้ำ 1 เสียงครับ มั่นดูแลน้ำกลั่นใช้ยาวเลยครับ
ผมเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ตัวนี้สักพัก แบบกึ่งแห้ง 85 แอมป์
ผมพึ่งเปลี่ยนไปสดๆร้อนๆเลย gs 85a แบบเปียก ค่าเสียหาย2400 ถ้วนหักเทิร์นของเก่าแล้ว
แบตเก่าก็6ปีกับ2เดือนตามอายุรถเลย ว่าจะอัดไฟเปลี่ยนน้ำกรดใหม่ ลากไปอีกซักหน่อยก็น่าจะได้ แต่ก็ไม่อยากฝืนมันแล้ว เดี๋ยวไปเดี้ยงเอาตอนงาน7ปี อายเขาแย่เลย
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks