พอดีผมไปตรวจเช็คระยะ 40000 โลมาได้เปลี่ยนของเหลวรวมถึงน้ำหล่อเย็น พอมาถึงบ้านเช็คดูน้ำหล่อเย็นมันไม่เป็นเหมือนเดิม อยากทราบครับว่าระดับหลังจากเปลี่ยนถ่ายมาปกติหรือเปล่า หรือว่าต้องเต็มเหมือนก่อนการเปลี่ยนถ่าย
พอดีผมไปตรวจเช็คระยะ 40000 โลมาได้เปลี่ยนของเหลวรวมถึงน้ำหล่อเย็น พอมาถึงบ้านเช็คดูน้ำหล่อเย็นมันไม่เป็นเหมือนเดิม อยากทราบครับว่าระดับหลังจากเปลี่ยนถ่ายมาปกติหรือเปล่า หรือว่าต้องเต็มเหมือนก่อนการเปลี่ยนถ่าย
วิ่งไปซักระยะก็ขึ้นมาเต็มเหมือนเดิม
ดูที่หม้อพักน้ำครับว่ายุบผิดปกติหรือเปล่า
ขั้นตอนมาตรฐานเมื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำหล่อเย็น
......เติมจนเต็มความจุติดเครื่องเดินเบาให้ได้อุณหภูมิวาวล์น้ำทำงาน เพื่อไล่อากาศตกค้างในระบบ
......เติมน้ำหล่อเย็นจนแน่ใจว่า ฟองอากาศออกหมดแล้ว
เมื่อใช้งานสักระยะสังเกตุระดับน้ำในหม้อพัก คงที่ หรือ ลดลงเล็กน้อย สภาพเครื่องยนต์ปกติระบบน้ำหล่อเย็นปกติมีโอกาสเป็นได้ที่ ระดับน้ำในหม้อน้ำจะหายฟกรือลดระดับลงเล็กน้อยซึ่งหมายรวมถึงระดับในหม้อพักด้วยค่ะ
......ถ้าระบบหล่อเย็นปกติเครื่องยนต์ปกติแล้วน้ำหายหรือลดลงได้อย่างไร "มความเป็นไปได้ที่อาจมีฟองอากาศขนาดเล็กติดค้างตามจุดข้อต่อหรือข้องอต่างๆโดยเฉพาะมุมหรือตำแหน่งสูงสุดในระบบ เมื่อเดินเบาวาวล์เปิดแต่อุณหภมิยังไม่มากพอที่จะเกิดปฎิกริยาหรือมีแรงดันทค่มากพอในการนำพาหรือผลักดันครัวเองฉกจากจุดดังกล่าว อีกกรณีนึงที่พบบ่อยคือ น้ำทีใช้ผสมกับน้ำยาหล่อเย็นเป็นน้ำปกติธรรมดาไม่ใช่น้ำกลั่นซึ่งเมื่อได้อุณหภูมิพอเหมาะอากาศจะแตกตัวออกมาจนทดแทนปริมาตรน้ำในระบบ และดันส่วนเกินออกไปทาวหม้อพักเป็นต้น บางทีน้ำในหม้อพักอยู่ระดับปกติ(เดิม)แต่ระดับในหม้อน้ำหายหรือลดลงเล็กน้อย ก็อาจมาจากสาเหตุอากาศตกค้างในน้ำก็เป็นได้ค่ะ
.........รวมๆถ้าลดระดับลงเล็กน้อยก็ไม่น่ากลัวอะไร มักเป็นแค่ระยะแคกแล้วจะคงที่ อยู่อย่างนั้น แต่ถ้าลดลงต่อเนื่องต้องรีบหาสาเหตุค่ะ
.........หลังจากใช้งานสักระยะ สังเกครุสภาพน้ำหล่อเย็นหน่อยค่ะ ถ้าใสเขียวไม่มีตะกอนนอกนากความสมบูรณ์ของเครื่องแล้ว ยังแสดงได้ว่าน้ำยาหล่อเย็นที่เราเสียตังค์ใส่ไป อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือใช้น้ำกลั่นผสม แต่ถ้าขุ่นเขียวมีตะกอนก็ หาทางถ่ายทิ้งและเฝ้าดูตอนเปลี่ยนหน่อยก็ดีค่ะ. ................
อย่าไว้ใจช่างนะครับ ของผมก็เจอแบบนี้ น้ำในถังพักปกติ แต่ในตัวหม้อน้ำเกือบแห้ง กลับมาถึงบ้านต้องมาเติมเข้าไปอีกเกือบลิตร คุณช่างเค้าไม่ไล่อากาศในระบบให้เลย ดีนะที่ตรวจดูก่อน
คอยเติมซ้ำอีก1-2ครั้งต่อ1-2วันให้ระบบมันไล่ลมก็เข้าที่ครับ แล้วเช็คเติมที่หม้อสำรองให้ได้ขีดm.(ด้วยน้ำกลั่น อย่าใช้น้ำดื่ม)
ได้ความรู้อีกแล้ว สงสัยต้องเตรียมหม้อน้ำอลูมิเนียมไปด้วยแล้วตอน 40000 โล
ผมเช็คระยะ 40000 โลมาเมื่อวาน แล้วเมื่อเช้าเพิ่งได้มีเวลา้เปิดรถเช็คความเรียบร้อย พบว่าน้ำยาหล่อเย็นในถังพักสีขาวระดับมันเหลืออยู่ที่ขีด Low ครับ ก่อนหน้าเข้าศูนย์มันยังอยู่ที่ Full อยู่ แสดงว่าช่างเขาถ่ายน้ำยาหม้อน้ำแล้วเติมน้ำยาไม่เต็ม หรือว่าไล่อากาศไม่ดีอ่ะครับ แล้วงี้ผมต้องเข้าไปให้ศูนย์เติมน้ำยาเพิ่มหรือว่าสามารถเติมน้ำกลั่นเพิ่มได้่เองครับ
อีกอย่างน้ำหล่อเย็นของศูนย์นี่เป็นสีอะไรหรือครับ ของผมติดรถมาเห็นเป็นสีฟ้าๆ แต่พอถ่ายเปลี่ยนเมื่อวานกลายเป็นสีเขียวแทน และอีกอย่างถ้าผมมีน้ำยาหม้อน้ำของ Toyota อยู่สามารถเอามาผสมได้ไหมอ่ะครับ (แต่ของ Toyota เป็นสีชมพู)
คว่ำขวดน้ำ ไล่อากาศใหม่ครับ น้ำยาของมิตซูสีเขียวครับ ของโตโยต้าไม่แนะนำให้ใช้ครับ ความร้อนมันสูงกว่าครับ เคยมีคนที่ใช้แล้วบอกมาครับ
"น้าโย่งๆ น้ำ ยา หล่อเย็น ลดเหลือ ขีดLow แล้ว ดูหั้ยผมด้วยนะ"
น้าโย่ง เดินมา เิปิดดู ก้มๆเงยๆ แล้วบอกว่า "ยังวิ่งได้อีกเป็น แสนโลโน่น" O_o
เดี๋ยวเติมให้ก่อนละกัน เดินไปที่โต๊ะรับรองแขกVIP หยิบ น้ำยาหล่อเย็น ยี่ห้อ น้ำทิพย์1ขวดเล็ก
เปิดฝาแล้ว เทลงถังพัก เหลือครึ่งขวด น้าโย่งก็กิน 2อึก ผมอีก 2อึก หมดพอดี
"เสร็จแล้ว" น้ำยาอยู่ที่ขีด FULL และ ก็ อิ่มด้วย.....
แกบอก ครบ แสนโล ค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ 50000 ฝ่าๆแล้ว
ก็ยังวิ่งดี ไม่มีอะไรผิดปกติ....ขอบคุณน้าโย่ง ที่ "แบ่งน้ำให้ผมดื่ม" กำลังกระหายอยู่พอดี..555
ขอบคุณครับน้าๆ กะว่าจะลองทำตาม แต่วันนี้พอดีไปเข้าศูนย์ ACT เปลี่ยนถ่ายนมค. (บริษัทผมเค้า contract กับ ACT)ช่างเค้าเติมน้ำลงหม้อพักน้ำให้เลย 555 ไม่รู้น้ำกลั่นหรือน้ำประปา แต่คงใช้ได้ เพราะวิ่งมาระยองความร้อนก็ขึ้นตรงกลางปกติครับ
มีคนแนะนำผมมาครับว่าถ้า กรณีที่จะเติมน้ำในหม้อน้ำ โดยที่เราไม่มีน้ำหล่อเย็นถ้าเลือกระหว่างน้ำกลั่น กับน้ำธรรมดา ควรเลือกน้าธรรมดาดีกว่าครับ เพราะน้ำกลั่นมีกรดอ่อนๆ ไม่ควรเติมครับ แต่ใช่ว่าน้ำเปล่าจะดีนะครับ นานๆไป อาจทำให้หม้อน้ำเป็นสนิม ..
...ถ้าผมเอาข้อมูลผิดๆมาลง ...ขออภัยด้วยครับน้า
หม้อน้ำรุ่นเก่าอ่ะ สนิมแน่นอนครับ แต่รุ่นใหม่มันไม่ได้เป็นเหล็กแล้วนะครับ มันก็เป็นอลูมิเนียมแล้วครับ
ใช้น้ำกลั่นดีกว่าน้ำดื่มครับ ปัญหาพวกผุสนิมมันต้องใช้เวลาพิสูจน์กันเป็นปีแล้วจะซึ้งครับ(คาตาเมื่อไหร่เราก็ตาสว่างเอง)
น้ำดื่มยังมีธาตุเหล็กที่ร่างกายคนเราต้องการ ยังไม่ถูกกลั่นทิ้งให้บริสุทธิ
-ทดลองโดยหาแก้วมา2ใบ+ตะปูใหม่ๆ2ตัว(งดให้มือจับโลหะ)
เทแช่ในน้ำทั้ง2ชนิดทิ้งข้ามคืนเช้ามาดูกัน แก้วไหนสีสนิมจะแข้มกว่ากัน
อีก1ความรู้ ค้นหาได้จากตามเวปฯ
http://www.autokoolant.com/index.php?mo=3&art=41984777
แก้ไขครั้งล่าสุดโดย coppy42 : 25-03-2013 เมื่อ 10:36
สรุปว่าของผมกลับมาเป็นปกติแล้วครับ เรื่องน้ำหล่อเย็น ตอนแรกน่าจะยังไม่เข้าที่ครับ เลยยุบจนน่าตกใจ
ในขณะนี้มี 1 ท่านดูกระทู้อยู่. (0 สมาชิกและ 1 ผู้เยี่ยมชม)
Bookmarks